เมื่อพวกทักษิณโวยว่าไม่ผิดแต่ถูกยุบพรรคฟรี แล้วความจริงคือ/สุรวิชช์ วีรวรรณ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย por, 9 Feb 2016

  1. por

    por อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,397
    559000001396901.JPE
    พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
    blank.gif
    กรณีศาลฎีกาตัดสินคดีพรรคไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กให้ลงแข่งขันในการเลือกตั้งปี 2549 เพื่อหลีกเลี่ยงการลงสมัครพรรคเดียวที่ต้องได้รับการเลือกตั้งถึงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งการตัดสินฎีกาเมื่อไม่นานนี้นั้นทำให้เราเพิ่งทราบว่า อัยการไม่ฎีกากรณีของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จำเลยที่ 1 ในคดีนี้

    หลังคำพิพากษาศาลฎีกา พวกทักษิณเอาเรื่องนี้มาขยายความทันทีว่า ปี 2559 เป็นปีที่ไทยรักไทยโดนตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งยุบเกือบครบ 10 ปี และกรรมการพรรค 111 คน ถูกตัดสิทธิการเมืองทั้งหมด แต่ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีอาญาซึ่งใช้เป็นข้ออ้างยุบพรรคกลับไร้หลักฐานความผิด ข้อหาเรื่องไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กสมัคร ส.ส.ในเขตที่ประชาธิปัตย์บอยคอตเลือกตั้ง 2549 จึงไร้เหตุผลรองรับ สิบปีแห่งกาารยุบพรรคที่มีประชาชนนิยมสูงสุดพร้อมตัดสิทธิบุคลากรชั้น 5 ปี กลับจบด้วยคำตัดสินศาลฎีกาว่าคดีต้นเรื่องเป็นเรืองไม่มีมูลความจริง

    นี่ไงพรรคไทยรักไทยไม่ผิดจากเหตุนี้ แต่พรรคไทยรักไทยถูกสั่งยุบไปแล้ว พร้อมตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค5ปี เพื่อจะเอาไปขยายความโจมตีว่า กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม เพราะถูกยุบและถูกตัดสิทธิ์ไปฟรี ๆ โดยอ้างผลฎีกาว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ไม่มีความผิด

    เข้าทางพวกทักษิณที่โจมตีกระบวนการยุติธรรมอยู่ตลอดเวลา

    ทั้ง ๆ ที่ศาลฎีกาถูกอัยการตัดตอนไม่มีโอกาสชี้ถูกชี้ผิดในเรื่องนี้

    คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก พล.อ.ธรรมรักษ์ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 3 ปี 4 เดือน แต่ต่อมา ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง แต่อัยการกลับไม่ฎีกากรณีของ พล.อ.ธรรมรักษ์ คำถามก็คือ ทำไมอัยการไม่ฎีกา ไม่ทราบว่าใช้ดุลพินิจอะไร เพราะกรณีของ พล.อ.ธรรมรักษ์นั้นศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ตัดสินขัดแย้งกันจึงสมควรยื่นฎีกาต่อ

    ถ้าหากว่าศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายืนเหมือนกันว่ายกฟ้องจึงจะมีเหตุผลว่าไม่ควรฎีกา

    เพราะหลักในการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาของอัยการนอกจากดูเหตุผลที่ศาลให้ไว้ในการคำพิพากษา และอัตราโทษที่ศาลได้ลงไว้แก่จำเลยหนักเบาเกินไปหรือไม่แล้ว ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่สังคมได้รับ รวมทั้งความเสียหายที่เกิดแก่สังคมด้วย

    ตอนที่อัยการมีคำสั่งฟ้องจำเลยนั้น อัยการย่อมมีความเชื่อเป็นเบื้องต้นว่า จำเลยน่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิดจึงมีคำสั่งฟ้องไป เมื่อศาลชั้นต้นตัดสินว่ามีความผิดและสั่งให้จำคุก แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้องจำเลย ซึ่งเป็นการกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยสิ้นเชิงนั้น อัยการก็ควรจะต้องยื่นฎีกาเพื่อให้ศาลในลำดับชั้นที่สูงกว่าได้พิจารณาโทษจำเลยหรือชี้ว่าที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกแล้วศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนั้น อย่างไหนเป็นคำพิพากษาที่ถูกต้องกันแน่ จะได้สิ้นต่อความสงสัยของสังคม เพราะคดีนี้ส่งผลกระทบต่อสังคมและประเทศชาติ

    ในระเบียบของอัยการนั้นมีอยู่ว่าคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ต้องส่งให้อัยการศาลสูงพิจารณาว่าจะยื่นฎีกาหรือไม่ทั้งนี้ถ้าอัยการศาลสูงมีความเห็นไม่ฎีกาต้องเสนอสำนวนความเห็นพร้อมเหตุผลขึ้นไปตามลำดับชั้น ซึ่งแสดงว่ามีกฎระเบียบในการตรวจสอบกลั่นกรองการสั่งฟ้องไม่ฟ้องเป็นลายลักษณ์อักษร

    ดังนั้นจึงอยากจะให้อัยการศาลสูงออกมาเปิดเผยว่ามีเหตุผลอะไรที่สั่งไม่ฟ้องและไม่ยอมยื่นคดีกรณีของพล.อ.ธรรมรักษ์ขึ้นสู่ศาลฎีกา

    นอกจากคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ขัดกันแล้ว ในคดีเดียวกันนี้ตุลาการรัฐธรรมนูญได้หยิบมาเป็นเหตุในการยุบพรรคไทยรักไทยและตัดสิทธิ์การบริหารพรรคด้วย เพื่อความเป็นธรรมกับพรรคไทยรักไทย เพื่อพิสูจน์ความเป็นธรรมในการกระบวนการยุติธรรม ยิ่งจะต้องยื่นฎีกาในกรณีของพล.อ.ธรรมรักษ์ไม่ใช่หรือ

    อย่าลืมว่า ผู้พิพากษาศาลฎีกาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายและจำนวนผู้พิพากษาที่ประกอบเป็นองค์คณะในการพิจารณาคดีของศาลฎีกามีจำนวนมากกว่าองค์คณะในการพิจารณาคดีของศาลล่าง การส่งคดีที่มีความเห็นต่างกันระหว่างศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ขึ้นสู่ศาลฎีกายังทำให้ศาลได้มีโอกาสในการกลั่นกรองข้อเท็จจริงให้ได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ยังเป็นการผ่อนคลายการแสดงความเคลือบแคลงสงสัยของสังคมและเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

    ที่สำคัญคดีนี้เป็นคดีร้ายแรงเพราะการเลือกตั้งเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ถ้าการกระทำของจำเลยมีความผิดจริงตามฟ้องย่อมถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการเลือกตั้งซึ่งการคัดสรรบุคคลเข้ามาบริหารประเทศที่ต้องเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

    ดังนั้นข้อกล่าวหาในการกระทำผิดของพล.อ.ธรรมรักษ์เดิมพันกันด้วยการเข้าสู่อำนาจรัฐ ส่งผลกระทบต่อสังคมและประเทศชาติอย่างกว้างขวาง

    ถ้ากรณีส่งให้ศาลฎีกาชี้ขาด แล้วศาลฎีกาตัดสินว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ไม่ผิดจริงและยกฟ้องตามศาลอุทธรณ์ พรรคไทยรักไทยและกรรมการพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์จากเหตุนี้ พวกทักษิณจะได้เอาไปพูดได้เต็มปากว่า ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกยุบพรรคและตัดสิทธิ์เมื่อเกือบ10ปีที่แล้ว ก็ค่อยเยียวยาและหาทางคืนความเป็นธรรมให้เขา

    แต่เมื่อศาลฎีกาไม่ได้ตัดสินเพราะกระบวนการยุติธรรมถูกตัดตอนจากการไม่ยอมฎีกาของอัยการ พวกทักษิณจะมาอ้างว่าศาลฎีกาบอกพรรคไทยรักไทยไม่ผิดแต่ถูกยุบพรรคไปแล้วได้หรือ ในเมื่อศาลฎีกาไม่มีโอกาสที่จะชี้ถูกชี้ผิดเพราะอัยการไม่ยอมฎีกา

    ที่สำคัญอัยการต้องตอบคำถามสังคมว่า ทำไมไม่ฎีกาในกรณีของ พล.อ.ธรรมรักษ์
     
    JSN, มิติใหม่, conservative และอีก 4 คน ถูกใจ
  2. por

    por อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,397
    คนพวกนี้ปกติไม่ยอมรับอำนาจศาล แต่พอมีศาลใดตัดสินเป็นประโยชน์ต่อพวกตัวเอง กลับ รับไว้แล้วไปด่าศาลอื่น คนพวกนี้ควรเรียกว่าอย่างไรดีครับ?
     
    JSN, Alamos, อู๋ คาลบี้ และอีก 2 คน ถูกใจ
  3. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    คู่แฝดกับ ไอ้หงอกจุลสิงห์
     
  4. sugit

    sugit อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 Mar 2015
    คะแนนถูกใจ:
    1,111
    กรณีคล้าย ๆ แบบนี้

    ทำให้คิดถึง infernal affairs

    หน้าเหลี่ยม คงไม่ต่างอะไร กับ หานเซิน

    ที่วางคนของตัวเอง ไว้ในกระบวนการต่าง ๆ

    เพื่อให้ การทำงาน(ชั่ว ๆ ) ของตัวเองราบรื่น


    ผมไม่ค่อยแปลกใจนะ ที่พวกศาลอุทธรณ์นี่

    จะตัดสิน ต่างจากที่เรา ๆ ท่าน ๆ คิด


    ให้ไปคิดกันแล้วกัน กรณีแบบนี้

    แล้วคงไม่ต้องไปแปลกใจ กับอัยการหรอก

    เค้ารอเวลาแบบนี้ มานานแล้ว

    ถ้าส่งศาลฎีกา สิแปลก


    ก็เอาเป็นว่า ตามกฏหมาย ก็รอดตัว

    แถมเอามา ย้อนรอย หาว่าพวกเราผิดได้อีกด้วย

    แต่กล้า ๆ หน่อย ฟ้องสุเทพสิ ถ้าคิดว่า ไม่ผิดจริง ๆ

    แล้วผมจะรอดู เผื่อเสื้อแดง บางคนที่รอดูด้วย

    ว่าเอาเข้าจริง จะกล้าฟ้องไหม
     
    kokkai, IndyDekdee และ bookmarks ถูกใจ
  5. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    ดัดจริต ยึดมั่นในยุติธรรมแบบกระแดะ
     
    kokkai likes this.
  6. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    อดีตอสส. แจงเหตุ ไม่ยื่นฎีกา พล.อ.ธรรมรักษ์ คดีจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง


    วันที่: 8 ก.พ. 59 เวลา: 17:37 น. by ปริศนา


    เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด(อสส.) กล่าวถึงกรณีอัยการไม่ยื่นฎีกา ในส่วนของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และ อดีตรมว.กลาโหม ในคดีว่าจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งภายหลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ในส่วนของพล.อ.ธรรมรักษ์ ว่า เนื่องจากคดีนี้ มีจำเลยที่ 3 และ4 มาเบิกความต่อศาลว่า ที่จำเลยเบิกความในชั้น ป.ป.ช.ว่า ได้รับการว่าจ้างจากพล.อ.ธรรมรักษ์ นั้น เป็นเพราะถูกข่มขู่ และเป็นคำให้การเท็จ แต่กลับไปเบิกความในชั้นศาลตรงข้ามกับการให้การในชั้น ป.ป.ช. ว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้เงินว่าจ้างให้ลงสมัครเลือกตั้งแต่อย่างใด:swear: ภายหลังศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง พล.อ.ธรรมรักษ์ อัยการเจ้าของสำนวน จึงมีความเห็นว่า ไม่สมควรยื่นฎีกาพล.อ.ธรรมรักษ์ในคดีนี้ >:)แล้วเสนอความเห็นนี้ ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนมาถึงตน เป็น อสส. (ขณะนั้น) จึงมีความเห็นว่า ไม่มีเหตุต้องฎีกาในส่วนของพล.อ.ธรรมรักษ์ จำเลยที่ 1 ที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับให้ยกฟ้อง ทั้งนี้การทำความเห็นของพนักงานอัยการเป็นความเห็นถูกต้องตามลำดับชั้นตั้งแต่อัยการเจ้าของสำนวนจนมาถึงตน

    “ผมให้ความเห็นว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่า จำเลยที่ 1 สนับสนุนให้จำเลยที่ 2 กระทำผิด คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 3 และ 4 ในชั้น ป.ป.ช.:mad: ต่อมาในชั้นศาล จำเลยที่3และ4ไม่ได้ให้การว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดในชั้นศาล :swear:เลยมีความเห็นว่าการที่ศาลอุทธรณ์มีความเห็นยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1 ชอบแล้ว ไม่มีเหตุต้องฎีกา” อดีต อสส.กล่าว

    อดีตอสส. กล่าวถึงกรณีที่ตุลาการรัฐธรรมนูญในขณะนั้น มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย(ทรท.) มีมูลเหตุมาจากคดีจ้างพรรคเล็กว่า ศาลแต่ละศาลจะมีอำนาจเฉพาะของแต่ละศาล อยู่เเล้ว การที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคไทยรักไทยนั้น ตนเป็นผู้ว่าความฟ้องคดีนี้เอง ตอนที่เราฟ้องเราได้อ้างเหตุหลายเรื่องนอกจากในส่วนของคดีอาญา พยานหลักฐานที่ปรากฏในตอนนั้นย่อมแตกต่างกัน ตอนที่ฟ้องยุบพรรคมีข้อเท็จจริงหลายสาเหตุ และข้อเท็จจริงในตอนนั้นกับภายหลังไม่เหมือนกัน:devil: ทั้งศาลยุติธรรม และศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีคำพิพากษาในข้อเท็จจริงและกฎหมายตามแต่ละภาวะ
    http://www.matichon.co.th/news/30008



    พรรคการเมืองนี้มัน "ชั่ว" จริงๆ คนสนับสนุนก็คง "สารเลว" พอกัน
    ว่าไหม
     
  7. HiddenMan

    HiddenMan อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,779
    :D อัยการที่ทำหน้าที่ฟ้อง แทนที่จะหาหลักฐานมาเพิ่ม ดันเกียร์ว่างกลางคัน...

    สำหรับ พล.อ.ธรรมรักษ์ จำเลยที่ 1 เห็นว่า แม้โจทก์จะมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ได้จากศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ที่พวกจำเลยเดินอยู่บนระเบียง โดยภาพช่วงที่เข้าไปยังกระทรวงกลาโหม และออกจากกระทรวงกลาโหม แตกต่างกันตรงที่ปรากฏซองสีขาวในมือของบุคคลที่ปรากฏในภาพวงจรปิด แต่โจทก์ก็ไม่มีประจักษ์พยานเบิกความ ยืนยันว่าพวกจำเลยได้เข้าไปพบจำเลยที่ 1 ภายในห้องรับรอง และจำเลยที่ 1 จะเป็นผู้มอบซองที่อาจจะมีการบรรจุเงินในซองดังกล่าว ให้กับจำเลยที่ 3 เพื่อไปมอบต่อให้กับจำเลยที่ 4 และ 5 นำไปให้จำเลยที่ 2 จริงหรือไม่

    จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด คงมีเพียงคำให้การของจำเลยที่ 3 และ 4 ในชั้นสอบสวนเท่านั้นว่าไปพบจำเลยที่ 1 ซึ่งคำให้การดังกล่าวเสมือนเป็นคำซัดทอดของผู้ต้องหาด้วยกัน จึงต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีมีอัตราโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี ซึ่งในชั้นสืบพยานจำเลยที่ 3 และ 4 ก็ไม่ได้เบิกความยืนยันตามคำให้การชั้นสอบสวน พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมา ยังมีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3-5 สนับสนุนจำเลยที่ 2 กระทำผิด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 1

    http://www.thairath.co.th/content/394320
     
  8. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    :D อัยการที่ทำหน้าที่ฟ้อง แทนที่จะหาหลักฐานมาเพิ่ม ดันเกียร์ว่างกลางคัน...

    เรื่องภาพที่กลาโหม พยานเท็จก็เล่าที่มาที่ไปแล้ว
    ไม่เอาไปใช้เป็นหลักฐานเพิ่มล่ะครับ:giggle:


    พยานเปิดโปง "เทพเทือก" จ้างเป็นพยานเท็จ ยุบไทยรักไทย
     
  9. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  10. Novice

    Novice อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    6 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,238
    ก็อย่างที่เคยบอก ถ้าไอ้ธรรมรักษ์ไม่ได้โกงเลือกตั้ง งั้นก็แสดงว่าไอ้เสมียน กกต. สองคนนั้นเป็นเจ้าของพรรคไทยรักไทย เพราะช่วยโกงเลือกตั้งจนตัวเองติดคุก
     
  11. Mobonji

    Mobonji อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    9 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    325
    เขียนแก้ใหม่ให้ อสส ต้องฏีกาทุกเรื่องไปเลยจะดีที่สุด
    เพราะสามารถใช้ความเห็นและเหตุผลไร้น้ำหนักมาตัดตอนคดีได้
    ทำตัวเหนือศาลแบบนี้บ้านเมืองลำบากแน่ๆ
     
  12. HOT BOY

    HOT BOY สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    31 Jan 2015
    คะแนนถูกใจ:
    53
    ความเห็นเล่นเอามึนเลย.... :shake::shake:
    .... แสดงว่าเพิ่งออกจากกะลา ไม่ได้อ่านอะไรมา ถึงไม่รู้ว่า ทำไม เสมียน กกต. ติดคุก ....:shake::shake:
     

Share This Page