ทหารปฏิรูปประเทศไทย ชุดประจำตำแหน่งของสมุนแก็งค์อั้งยี่เผาไทย คือ ชุดนี้ทุกราย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว โกโบรินทร์ อดีต รมต.ศึกษาฯ แก็งค์อั้งยี่เผาไทย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เขาแต่งกายในชุดนักโทษ ไม่สวมรองเท้า เนื่องจากถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ในคดีฉ้อโกงประชาชน ทำจตุคามรามเทพขาย มาครั้งนี้ในฐานะจำเลยอีกคดี เพื่อหลอกเอาเงินบริษัทเขมรด้วยการปลอมข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์..เออ..ไม่ต้องออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันกันแล้ว ชะตาสุดท้ายของพวกนี้ทุกรายไม่ตายก็ติดคุก เงินของคนแดนไกลมันเหมือนไฟบรรลัยกัลป์ ใครรับไปชีวิตตนเอง ลูกเต้า ครอบครัววินาศทั้งสิ้น หลวงตามหาบัวเตือนไว้แล้ว พวกที่เหลือไม่ต้องกลัว เพราะกรรมไม่เคยปรองดองกับใคร @ เสธ น้ำเงิน2 //// ไม่เห็นนานแล้ว ตั้งแต่ชุด ราชการเต็มยศ นึกว่าอยู่เฝ้าบ้านเลี้ยงหลาน สบายดีแล้ว??
คงมีทยอยๆ เข้าไปเป็นเพื่อนกันอีกเยอะ... เก่งๆ กร่างๆกันทั้งน๊านนนน... คงจะสำนึกกันบ้างแหล่ะว่า... อำนาจ วาสนา บารมี เป็นของไม่เที่ยง ไม่ได้จีรังยั่งยืน และ…เวรกรรมไม่เคยปรองดองกับใคร...
ไงก็ไม่เหงาหรอก เพื่อนเยอะ เวลาแยะ ไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน หวังว่าคงได้อยู่กันคนละที่นะ จะได้เจอะเจอเพื่อนใหม่ ๆ บ้าง
เพื่อนผมที่มันเป็นเสื้อแดงมันบอกว่า ตอนนี้ฟ้าเป็นสีเขียว ถ้าฟ้าเป็นสีแดงเมื่อไรนี่ถึงจุดเยือกแข็งกันเลยทีเดียว
ฝากบอกเพื่อนคนกลางด้วย ฟ้าสีอะไรไม่สำคัญหรอกครับ หากทำอัปรีย์จัญไรไว้กับแผ่นดินยังไงก็ต้องรับกรรมครับ
เสื้อแดงแถวตลาดบ้านผมโดนจัดระเบียบที่ทางทำกินแรกๆก็โวยวาย ตอนนี้รู้สึกดีเป็นระเบียบเรียบร้อยยังหากินได้เหมือนเดิม ไม่คลั่งการเมืองไม่พูดถึงทักสินเหมือนก่อน เริ่มรู้สึกตัวเห็นแก่ตัวน้อยลงละแถมชมลุงตู่บ่อยๆ นับว่ายังมีความเป็นคนอยู่
ก็ประมาณว่าฟ้าเขียวคือทหารกำลังมีอำนาจมั้ง เมื่อไหร่ฟ้าเปลี่ยนมาเป็นแดง"แม้ว"คุมอำนาจเมื่อไหร่ บ้านเมืองล่มจมเมื่อนั้น
เหอๆๆ… ถ้าเป็นฟ้าเหลือง ละก็... อาจต้องไปถามกับคุณปูเน่าว่า เคยเห็นหรือเคยเป็น มั๊ย... เวลาที่ใช้เงินหลวง หิ้วคนรู้ใจไปเที่ยว ว.5 ต่างแดนแทบจะทั่วโลก...
ต่อให้ประเทศไทย ไปบุกยึด ตีชิง มา แต่สมัยก่อน แต่นี่ คือ ประเทศไทย นี่ครับ หรือ คุณไม่ใช่ ดินแดน มันจะนับยังไง เรียก ยังไง ถ้าเขมร มาสร้างสิ่งก่อสร้าง กลางกรุงเทพหละ จะไม่เรียกเหมา เอาหมดหรือ งั้นผม ไปปลูกดอกไม้บ้านคุณ ที่ปลูกดอกไม้ คือที่ของผมนะ ฟ้าสีแดง = เขมรแดง ???
คนอย่างจ่าประสิทธิได้เป็น ส.ส. กับไอ้ห่านี่เคยเป็นรัฐมนตรีศึกษา...........ประเทศไทย........จบสิ้นแล้ว และทำให้ผมเริ่มเชื่อแล้วว่า......ประชาธิปไตย ไม่เหมาะกับคนโง่
แล้วที่เป็น รมต.ต่างประเทศ จบด็อกเตอร์จากเมืองนอก แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ (เพราะไม่ได้มีแม่เป็นฝรั่ง)อีกละ... อนาคตถ้ายังไม่มีการปฏิรูประบบแล้วละก็... ไอ้โอ๊ค เตรียมแต่งตัวรอเป็นนายกไว้ได้เบยยย...
พรรคนี้มันฉลาดครับ ส่งคนเข้าไปเรียนรู้การควบคุมของสภาปฎิรูป(พัสดี) ถึงเวลาบริหารจริงจะได้รู้จุดอ่อนจุดแข็งของการถูกควบคุม ลงทุนขนาดนี้ เลือกตั้งเมื่อไรก็ชนะครัช
http://www.thairath.co.th/content/520502 ‘เชาวรินธร์’ อ่วม! โดนฟ้องอีก ฉ้อโกง บ.เขมร-ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 ส.ค. 2558 19:35 ‘ร.ต.ท.เชาวรินธร์’ อดีต รมช.ศึกษาฯ ที่ถูกจำคุกคดีฉ้อโกงทำจตุคาม ถูกเบิกตัวขึ้นศาลในชุด นช. ฐานะจำเลยคดีหลอกเอาเงินบริษัทเขมรด้วยการปลอมข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นแถลงศาล โอดแม้แต่คอมพ์ฯ ยังใช้ไม่เป็น แล้วจะใส่ข้อมูลเท็จได้อย่างไร... เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 58 ที่ศาลอาญาศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ อายุ 69 ปี อดีตรมช.ศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.เพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,90 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 3, 14 (1), 17 (1) ทั้งนี้ โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 27 กุมพาพันธ์ 2558 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 เวลากลางวัน บริษัท บี.พี.ซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) ได้สั่งซื้อสินค้าจำพวกปูนซีเมนต์จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน พลับบลิค จำกัด (ประเทศไทย) โดยทำใบสั่งซื้อส่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ในลักษณะจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 บริษัททีพีไอฯ ได้ออกหลักฐานใบสำคัญเก็บเงินค่าสินค้าเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แจ้งให้บริษัท บี.พี.ซี.ฯ โอนเงินค่าสินค้าจำนวน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 11,428,308 บาท ผ่านบัญชีเงินฝากของบริษัท ทีพีไอฯ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ต่อมาระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคม 2557 ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อความจริง โดยเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลในหลักฐานใบสำคัญเก็บเงินค่าสินค้าเสียใหม่เป็นว่าให้บริษัท บี.พี.ซี.ฯ โอนเงินทั้งหมดผ่านเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขารัฐสภา ชื่อบัญชี Thai and Chinese Bhuddist Culturs Association อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ทำให้บริษัท บี.พี.ซี.ฯ หลงเชื่อ จึงโอนเงินค่าชำระสินค้าจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากของจำเลย กับพวก จากนั้นได้ร่วมกันเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าวไปเป็นของตัวเองโดยทุจริต เหตุเกิดที่แขวงและเขตดุสิต และที่ประเทศกัมพูชา ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน ต่อมาวันที่ 12 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลย กระทั่งวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว ร.ต.ท.เชาวรินธร์ มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจากเคยถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ในคดีฉ้อโกงประชาชน ทำจตุคามรามเทพขาย มาที่ศาลอาญาเพื่อตรวจพยานหลักฐาน โดยพนักงานอัยการโจทก์แถลงต่อศาลขอยื่นบัญชีพยาน ที่จะนำสืบจำนวน 12 ปาก ใช้เวลา 4 นัด ส่วนทนายจำเลยแถลงขอยื่นบัญชีที่จะนำสืบหักล้าง จำนวน 4 ปาก ใช้เวลา 1 นัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ซึ่งแต่งกายในชุดนักโทษ ไม่สวมรองเท้า ได้แถลงศาลว่า ขอให้โอกาสจำเลยได้พูด เนื่องจากเรื่องนี้จำเลยยอมรับว่าเป็นนายกสมาคมวัฒนธรรมจีนพุทธ เป็นผู้จัดให้มีการสร้างรูปบูชาจริง โดยมีพระผู้ใหญ่ทาบทามให้มาช่วย ตอนเป็น ส.ส.อยู่ไม่อาจรับทำให้ได้เพราะรับเงินเกินสามพันบาทก็ผิดแล้ว เมื่อพ้นตำแหน่ง ส.ส. จึงมาทำงานนี้เต็มที่ แต่แม้ว่าตนเคยเป็นอดีตรัฐมนตรี อดีตสมาชิกวุฒิสภา แต่ตนก็ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น แล้วตนจะไปทำข้อมูลเท็จแฮกลงไปในระบบคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร เรื่องนี้ถ้ามีการกระทำผิด ก็ต้องไปดำเนินคดีกันที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จำเลยยอมรับข้อเท็จจริงบางข้อ เช่นรายการแปลเอกสาร ศาลจึงได้กำชับให้จำเลยนำประเด็นที่แถลงไปนำสืบให้เห็นในชั้นสืบพยานจำเลย นอกเหนือจากที่ยื่นคำให้การไว้แล้ว ร.ต.ท.เชาวรินธร์ จึงยกมือไหว้ศาล แล้วกลับลงนั่งด้วยความสงบ ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 4 มีนาคม 2559 เวลา 09.00 น.
ถ้าไอ้สากกะเบือมันจะแก้ตัวว่ามันใช้คอมฯไม่เป็น แบบนี้ไอ้แม้วมันก็ไม่เดินไปหยิบเงินออกมาจากตู้เซฟของธนาคารกรุงไทยนิ...