รถดับเพลิงกทม. ฉาวอีกรอบ เด็ก ปชป. แฉยับ คันละ 8 ล้าน ล็อคสเปค รถพวงมาลัยซ้าย แต่แรก ..แต่ถูก สตง.ทักท้วง ผิดพรบ.จราจร จึงชะลอโครงการ แล้วเปลี่ยนสเปคใหม่ เอารถ เอทีวี.มาใส่กระจกครอบ ตัวรถไฟเบอร์ ประตูพลาสติก ไม่มีแอร์ ราคา 2.5 ล้าน นอกนั้นเป็นค่าอุปกรณ์ สาวลึกสายสัมพันธุ์ เชื่อมโยง บริษัทแม่ และ บริษัทลูก แข่งประมูลกันเอง อุปกรณ์บางอย่าง ราคาสูงกว่าท้องตลาดลิบลิ่ว 3 เท่าตัว เอาไปใช้แล้วไฟฉุกเฉินเสีย ไฟเลี้ยวไม่ติด ต้องส่งซ่อมหลายคัน สเปคห่วย ๆ แบบนี้ กทม.ยังจะสั่งมาอีกในงบประมาณปี 60 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงปัญหาการทุจริตของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เกี่ยวกับโครงการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็กวงเงิน 160 ล้านบาท จำนวน 20 คัน ราคาคันละ 8ล้านบาท โดยเป็นตัวรถราคา 2.5 ล้านบาท นอกนั้นเป็นค่าอุปกรณ์ดับเพลิง จาการตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติ คือสเปกของรถและบริษัทที่ได้รับงาน โดยได้รับข้อมูลจากข้าราชการใน กทม.ว่า บริษัทที่ได้รับงานคือ บริษัท ทีเจ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ริเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง โดยทั้ง 2 บริษัทนี้ได้ยื่นประมูลงาน ซึ่งตนกำลังตรวจสอบอยู่ว่า 2 บริษัทนี้เชื่อมโยงกันจริงหรือไม่ แต่เบื้องต้นมีข้อสังเกตว่าในส่วนของบริษัท ทีเจฯ มีการเพิ่มวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนในวันที่ 22 มิ.ย. 2554 เป็น 45 ข้อ โดยในข้อ 26 ระบุว่าซื้อและขายเครื่องดับเพลิง ข้อ 34 ประมูลซื้อและขายรถดับเพลิง ส่วนบริษัท ริเวอร์ เอ็นจิเนียริ่ง เริ่มก่อตั้งปี 2533 มีวัตถุประสงค์เป็น 100 ข้อ คือทำหมดเลยเหลือแค่ซื้อเครื่องบินอย่างเดียว ที่น่าสนใจคือ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2556 มีการจดวัตถุประสงค์ข้อ 94 ขายอุปกรณ์ดับไฟ สอดรับกับการตั้งงบประมาณครั้งแรกเพื่อจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็กในปี 2556 เช่นกัน “สตง.ทักท้วงเรื่องนี้ว่าการซื้อรถพวงมาลัยซ้ายน่าจะผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก กทม.จึงไม่กล้าเซ็นสัญญา และชะลอไป 60 วัน ก่อนจะชี้แจงว่าแม้จะเป็นพวงมาลัยซ้าย ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตราย จึงมีการลงนามสัญญาในวันที่ 12 มี.ค.2558 และมีการแก้สัญญาให้เปลี่ยนสเปกรถ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2558 ทั้งที่ลงนามไปแล้ว ทำให้สงสัยว่าทำเพื่ออะไร ส่วนปัญหารถพวงมาลัยซ้าย โดยมีการนำรถเอทีวี มาต่อใส่กระจก ติดตั้งเครื่องดับเพลิง ถือเป็นรถค่อนข้างพิสดาร คือรถราคา 2.5 ล้านบาท แต่ไฟเลี้ยวติดอยู่ตรงหัวรถมีขนาดเล็กมาก และไม่มีแอร์ ส่วนไฟท้ายเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก และเวลาที่ขับก็ไม่สามารถมองกระจกหลังได้ นอกจากนี้ตัวถังเป็นไฟเบอร์ ไม่ใช่เหล็ก ประตูเป็นพลาสติก ขนาดของรถเท่ากับรถกะป๊อ ผมไปตรวจสอบมา 3 สถานีดับเพลิงแล้ว พบว่ามีบางหน่วยที่ได้รับรถใช้ ปรากฏว่าไฟฉุกเฉินเสีย ไฟเลี้ยวไม่ติด ส่วนบางหน่วยเมื่อเอาไปใช้แล้ว ถังดับเพลิงหาย แถมยังเสียต้องเอาไปซ่อม”นายวิลาศ กล่าว นายวิลาศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าชุดระบบดับเพลิงที่ติดตั้งในรถนั้นอุปกรณ์แต่ละอย่างมาจาก ประเทศที่ต่างกันประมาณ 10 ประเทศ โดยเมื่อตรวจสอบพบว่าอุปกรณ์แต่ละชนิดมีราคาที่สูงเกินจริง เช่น ถังดับเพลิงหิ้วชนิดน้ำ ราคาท้องตลาด 2,400 บาท แต่จัดซื้อในราคา 8,000 บาท ถือว่าแพงเป็นสามเท่า โดยในขณะนี้มีการส่งมอบรถไปให้กับสถานีดับเพลิง 20 แห่งจากทั้งหมด 35 แห่ง และทราบมาว่ามีการสั่งการที่จะจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 15 คันโดยใช้เงินจากงบประมาณปี 2560 จึงอยากให้ระงับเรื่องนี้ รวมถึงขอให้ม.รว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเพื่อทบทวน ทั้งนี้ตนจะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อยื่นต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สต ง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ภายในสัปดาห์หน้า Cr ข่าว : http://www.dailynews.co.th *********************** http://www.1morenews.com/6160.html เราขอโอกาส ให้คนของพรรคประชาวิบัติ เป็นผู้ว่า กทม. อีกสมัย เพื่อเข้าไปสานงานต่อ เพื่อไปดำเนินนโยบายไม่ได้โกง ค่าส่วนต่างมากไปเท่านั้น ..... ถ้าไม่เลือกเรา แม้วมันมาแน่
น่าชื่นชมที่พรรคเดียวกันออกมาตรวจสอบกันเองเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ต่างกับอีกพรรคหนึ่งที่พอเจ้าของพรรคเอาเงินฟาดหัว ลูกจ้างก็วิ่งลนลานทำตามคำสั่ง ถึงขนาดลักหลับลงมติอัปยศตอนตีสี่ก็เคยทำมาแล้ว
อันนี้ในมุมของ ปชป. ข่าว 7 สี - พรรคประชาธิปัตย์ เปิดข้อมูลใหม่ ส่อทุจริตทุจริตโครงการจัดซื้อรถดับเพลิงชุดใหม่ของกรุงเทพมหานคร เตรียมยื่น สตง. กับ ป.ป.ช. ตรวจสอบด่วน นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำสื่อมวลชนลงตรวจสอบรถกู้ภัยขนาดเล็ก ที่กรุงเทพมหานครจัดซื้อและส่งให้สถานีดับเพลิงต่างๆ รวม 20 คัน วงเงิน 160 ล้านบาท โดยบอกพบความผิดปกติ ทั้งรถที่ใช้รถพวงมาลัยซ้าย อุปกรณ์ต่างๆ มีปัญหาทัศนวิสัยในการขับขี่ มีการเปลี่ยนแปลงขนาดตัวรถ มีโครงสร้างไฟเบอร์แทนเหล็ก และคล้ายนำรถเอทีวีมาต่อเติมและติดตั้งเครื่องดับเพลิง ซึ่งคำนวณแล้วไม่ควรมีราคาเฉพาะตัวรถคันละ 2.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตการจัดซื้อระบบดับเพลิงที่สูงเกินจริง ทำให้ราคารวมเกือบ 8 ล้านบาทต่อคัน และมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ทำให้หลายสถานีไม่กล้านำไปใช้ รวมถึงประเด็นของบริษัทที่จัดซื้อ ก็เพิ่งเพิ่มวัตถุประสงค์ขายเครื่องดับเพลิงก่อนที่กรุงเทพมหานครตั้งงบประมาณดังกล่าวด้วย จึงเตรียมยื่น สตง. และ ป.ป.ช. ตรวจสอบด้วย ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร บอกว่าวันพรุ่งนี้ผู้เกี่ยวข้อง และสำนักป้องกันภัยของ กทม.จะชี้แจงกรณีนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เบื้องต้นระบุการกำหนดสเปครถกู้ภัยดังกล่าว มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสภาพชุมชนในกรุงเทพมหานคร ที่มีตรอกซอกซอยจำนวนมาก หากเกิดเพลิงไหม้ ก็สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที อีกทั้งที่จัดส่งให้สถานีดับเพลิงต่างๆ ก็ยังใช้งานอยู่เป็นประจำ ไม่ได้จอดนิ่งไว้เพราะเกรงปัญหาความปลอดภัยต่ออย่างใด ********************************************** ในมุมของ กทม. กทม.เปิดแถลงชี้แจงโครงการรถกู้ภัยขนาดเล็ก กอง บก.ข่าวสังคม 2016/07/11 2:22 PM กทม.11 ก.ค.-ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.แถลงโต้ วิลาศ จันทร์พิทักษ์ ทุกข้อกล่าวหา เกี่ยวกับโครงการจัดหารถกู้ภัยขนาดเล็กและเครื่องสูบน้ำ ส่อทุจริต พร้อมให้ สตง.ตรวจสอบ นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.) พร้อมด้วยนางเบญทราย กียปัจจ์ รองโฆษกผู้ว่าฯ กทม. แถลงกรณีนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตถึงโครงการจัดหารถกู้ภัยขนาดเล็กของ กทม.ส่อทุจริต โดยนายวสันต์ ชี้แจงทุกประเด็นตั้งแต่ตัวรถที่มีพวงมาลัยซ้าย ยืนยันว่าไม่ผิด พ.ร.บ.การจราจรทางบก สามารถจดทะเบียบได้และขณะนี้รถกู้ภัยขนาดเล็กมีป้ายทะเบียนทุกคัน เหตุที่ต้องใช้พวงมาลัยขับซ้ายเพราะทั่วโลกผลิตรถขับซ้าย ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ไม่ใช่รถเอทีวีแต่ยอมรับคล้ายรถสองแถวเล็ก (กะป๊อ) เพราะ กทม.มีตรอกซอกซอยมากกว่า 5,000ซอยและมีซอยขนาดเล็กมากถึง 100ซอย ซึ่งในแต่ละซอยมีความยาวประมาณ 50-100เมตรจึงต้องการได้รถดับเพลิงขนาดเล็ก ที่มีความคล่องตัวในการระงับเหตุเพลิงไหม้ สำหรับราคาที่สูงเกินไปนั้นต้องเปรียบเทียบกับมาตรฐานเดียวกัน เพราะรถกู้ภัยขนาดเล็กที่สั่งซื้อมา 20 คัน วงเงินเกือบ 160ล้านบาท เป็นยี่ห้อพัวราริส จากประเทศเยอรมัน มาตรฐานอันดับ 2 ของโลก กทม. ยินดีให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ตรวจสอบรายละเอียดของทีโออาร์ ส่วนกรณีเครื่องสูบน้ำของ กทม.ที่มีประเด็นในโลกโซเชียลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายวสันต์ กล่าวยืนยันว่า เครื่องสูบน้ำดังกล่าวสามารถใช้คน2-3 คนลากได้ เพราะมีน้ำหนัก 1.9 ตัน ซึ่งเป็นเครื่องสูบน้ำที่มีลักษณะคล้ายแบบเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือฝาครอบ เพราะต้องเก็บเสียงและป้องกันควันไม่ให้รบกวนพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นสเปคจากประเทศสเปน แต่ฐานการผลิตอยู่ที่จีน ราคาก็ไม่ได้แปลกแตกต่างจากของเดิม พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการให้ข่าวของนายวิลาศ กับนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯ สตง.มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียให้กับ กทม.หรือไม่ .-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/511068
ดีครับ ประชาชน ได้ประโยชน์ในการพิจารณาเลือกตัวแทน ใครทำผิดก็เอามาประจานกันอย่าเห็นแก่พรรคพวก เพื่อไทยก็น่าทำมั่งนะคดีข้าวเน่า ชาติเจ๊งไปเยอะเงินภาษีพวกเราทั้งนั้น
ในมุมมองของ สตง. สตง. ตรวจสอบเชิงลึกความคุ้มค่าจัดซื้อรถกู้ภัย กทม. 20 คัน นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก จำนวน 20 คัน มูลค่า 158 ล้านบาท ของกรุงเทพมหานครว่า โครงการนี้ สตง. เคยทำหนังสือทักท้วงไปเมื่อเดือนเมษายน 2558 หลังพบว่า ในสัญญาระบุเป็นการจัดซื้อรถพวงมาลัยซ้าย ไม่เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ และเมื่อให้กทม นำรถกู้ภัยไปปฏิบัติงานจริงในเขตชุมชนแออัดย่านบางพลัด ก็พบว่า มีขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าตรอกซอกซอยได้ จึงทักท้วงไป แต่ปรากฎว่า มีการแก้ไขสัญญาเพื่อให้เอกชนคู่สัญญามีคุณสมบัติตรงตามสัญญาจ้าง ซึ่งหลังจากนี้ สตง. ขยายผลตรวจสอบในเชิงลึกเกี่ยวกับความคุ้มค่าในการใช้จ่ายครั้งนี้ ซึ่งข้อทักท้วงของ สตง. ทำให้กทม ยอมระงับการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก ในสัญญาที่ 2 ทีมคอลัมน์หมายเลข 7 ************************************************ การแถลงของ กทม. ข่าว 7 สี - ทีมข่าว 7 สี ลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้งานรถกู้ภัยขนาดเล็กของ กทม. มาดูกันว่าผ่านหรือไม่ผ่าน หลังถูกโจมตีจัดซื้อราคาแพง ติดตามจากคุณวรัญญู นวกาลัญญู เจ้าหน้าที่ของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยดุสิต ไขกุญแจเดินเครื่องรถกู้ภัยขนาดเล็ก ที่ถูกโจมตีว่าจัดซื้อแพงคันละ 8 ล้านบาท แต่ใช้ได้ไม่คุ้มค่า การจัดซื้อรถพวงมาลัยซ้าย ประกอบโฉมภายนอกที่ดูเหมือนรถ ATV เที่ยวชมป่า เจ้าหน้าที่ ด้ทดสอบอุปกรณ์ส่องสว่าง เปิดไฟเลี้ยว ไฟท้ายใช้งานได้ปกติ รถกู้ภัยขนาดเล็ก กะทัดรัด ตะลุย ทะลุตรอกซอกซอยเล็กมาแล้ว เป็น 1 ใน 20 คัน ที่ กทม.จัดซื้อมาในระยะที่ 1 ด้วยงบประมาณ 160 ล้านบาท การจัดซื้อเป็นไปตามขั้นตอน และคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก รถเล็กเข้าระงับเหตุเพลิงใหม้ในตรอกซอยเล็กๆ ที่มีอยู่กว่า 5,000 แห่ง ในกรุงเทพฯ การทดสอบสมรรถนะ รถดับเพลิงขนาดเล็ก ยี่ห้อ Polalis ถือว่าผ่าน และได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตของประเทศเยอรมนี ไม่ได้นำรถเอทีวีมาดัดแปลง แม้ขนาดจะเล็กเท่ากับรถกะป๊อ แต่ศักยภาพการใช้งานมากกว่า และอุปกรณ์ดับเพลิงที่ติดตั้งใช้ได้จริง สิ่งที่ต้องพิสูจน์จากนี้ คือการจัดซื้อจัดจ้าง สเปค และราคาแพงเกินไป ว่าคุ้มค่าคุ้มทุนหรือไม่ เมื่อชั่งน้ำหนักกับประโยชน์การใช้งานจริง ข่าว 7 สี - กทม.ปฏิเสธข้อกล่าวหาทุจริตจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก และตั้งคำถามกลับ สตง. ตรวจสอบถี่ผิดปกติ นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร ชี้แจงโครงการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก 160 ล้านบาท เป็นรถพวงมาลัยซ้าย ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและการขับขี่รถพวงมาลัยซ้าย ไม่ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก ส่วนขนาดของรถที่ต้องเล็กเท่ารถ ATV เที่ยวชมป่า เพราะกทม.มีตรอกซอกซอยขนาดเล็กกว่า 5,000 ซอยรถดับเพลิงขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง นอกจากนี้ โชว์ภาพถ่ายท้ายรถกู้ภัยขนาดเล็กนี้ มีไฟท้ายไฟเลี้ยวใช้การได้จริงยืนยันกระบวนการตรวจรับโปร่งใสและการจัดซื้อก็เป็นไปตาม ด้าน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เคยทำหนังสือทักท้วงไปเมื่อเดือนเมษายน 2558 หลังพบว่า ในสัญญาระบุเป็นการจัดซื้อรถพวงมาลัยซ้าย ไม่เหมาะกับการใช้งาน และเมื่อ ให้ กทม. นำรถกู้ภัยไปปฏิบัติงานจริงในเขตชุมชนแออัดย่านบางพลัดก็เข้าตรอกซอกซอยไม่ได้ แต่ปรากฎว่า กทม.ไปแก้ไขสัญญา ให้เอกชนคู่สัญญามีคุณสมบัติตรงตามสัญญาจ้าง ภายหลัง ขยายผลตรวจสอบเชิงลึกเรื่องความคุ้มค่าเงิน กทม.จึงระงับการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก ในสัญญาที่ 2
รายงานพิเศษการตรวจสอบการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็กของกรุงเทพมหานคร จากข้อสังเกตว่าใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไม่
http://www.now26.tv/view/82580/สุขุมพันธุ์-ปัดแจงปม-สตง-ชี้โกงไฟ-39-ล้าน.html "สุขุมพันธุ์" ปัดแจงปม สตง. ชี้โกงไฟ 39 ล้าน วันที่ 12 กรกฎาคม 2559 ลองเป็นอีกพรรคนึงดิ เห็นดีเห็นงามกันเป็นแถบ เสียงประชาชนสำคัญกว่า