ทุจริตจำนำข้าวภายใต้การบริหารงานรัฐบาลคุณยิ่ลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ของประเทศที่เฝ้ารอดูว่ารัฐบาลประยุทธ์ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไร ซึ่งแน่นอนปีนี้คงจะได้เห็นผลทางกฎหมายกันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากตัวคุณยิ่งลักษณ์ แล้วยังมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการทุจริตจำนำข้าว โดยเฉพาะการขายข้าวแบบ จีทูจี ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์สินของรัฐมนตรี 5 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าวใกล้สรุปแล้ว คุณณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. บอกว่า ที่ผ่านมาได้เรียกพยานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำนิติกรรมของรัฐมนตรีทั้ง 5 รายมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ม.ค.59 จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และภายในต้นเดือน ก.พ.นี้คาดว่าจะสามารถสรุปคดีดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ สำหรับการตรวจสอบทรัพย์สินมีความผิดปกติหรือไม่นั้น คุณณรงค์ ไม่ขอตอบ บอกแค่เพียงว่าทุกอย่างต้องมีคำตอบ หากเขาทำไม่ถูกเราก็มีคำตอบ หากเขาทำถูกต้องเราก็มีคำตอบ กรณีขายข้าวแบบ จีทูจี (รัฐต่อรัฐ) ซึ่งมีคุณบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์และคุณปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ถูกกล่าวหา ขายข้าวให้กับบริษัทจากประเทศจีน 4 แห่ง โดยมิชอบนั้น ก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการระบายข้าวแบบจีทูจีรอบสอง พบข้อมูลว่า ไม่ได้มีการขายข้าวส่งออกต่างประเทศจริง แต่กลับมีการซื้อขายข้าวภายในประเทศไทย โดยเป็นแคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบ วงเงินกว่า 96,390 ล้านบาท รายงานข่าวจากคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ตรวจสอบแคชเชียร์เช็คทั้งหมดแล้วขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบแคชเชียร์เช็คทีละรายการ เพื่อดูที่มาที่ไปให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้เกิดความรอบคอบที่สุด ซึ่งตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าแคชเชียร์เช็คทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีรอบแรกหรือไม่ ซึ่งหากพบความเกี่ยวโยงกันก็จะสั่งอายัดแคชเชียร์เช็คทันที http://www.now26.tv/view/65498
มิได้บังอาจวินิจฉัยแทนศาลสถิตย์ยุติธรรม แต่ข่าวสาร ข้อมูลและถ้อยคำการตอบคำถามนักข่าวของผู้รับผิดชอบโครงการจำนำข้าวในรัฐบาลที่แล้วมันชี้ชัดไปทิศทางเดียว คือโกงมหากาฬ ฉะนั้นที่รออยู่คือคำสั่งจำคุกและยึดทรัพย์กลุ่มคนเหล่านั้นครับ