ชำนิ ปชป กับ จตุพร คุยกันออกรสออกชาติ ต่างรำลึกถึง มวลมหาประชาชนในอดีต ที่เรียกร้องนายกต้องมาจากการเลือกของประชาชน ไม่เอาพวกทหาร แต่มหามหากปปส ประชาชนรับจ้าง อมหิตอำมาต ต้องการนายกที่ไม่มาจากประชาชน ต้องการนายกจากคนนอก นายกจากทหาร นี่คือความแตกต่างระหว่าง ประชาชนไทยที่แท้จริง กับพวก มหาเก๊ หรือพวกนกหวีดจันไร
กปปส อยากได้นายกคนนอก แต่เป็นคนดี แต่ ควายแดง อยากได้นายกจากพวกควายแดง ที่เป็นทรราชย์หนีคุก อย่าลืมรำลึกเมษาเลือดด้วยล่ะ ที่เผาบ้านเผาเมือง เพื่อจะเอาทรราชย์หนีคุกกลับบ้าน
จะบอกว่าพวกนี้สันดานเดียวกันหมด หรือจะบอกว่าเป็นคนคนเดียวกันดี 1. สมัครสมาชิกใหม่ โพสกระทู้ประเภทน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง 2. ถูกจับได้ว่าโกหกหรือโดนตอกกลับด้วยหลักฐาน ก็เริ่มจะโพสแล้วหนีอย่างเดียว 3. โดนว่ามากเข้าว่าไม่ยอมตอบคำถาม ก็จะอ้างว่างานยุ่งไม่ว่าง แต่ยังโพสกระทู้ใหม่เรื่อยๆ 4. นานๆไป ก็อ้างงานท่วมหัว ติดหนี้ ชีวิตบัดซบ แล้วหายตัวไป 5. วนลูปกลับไป 1 ใหม่ วงจรอุบาท
อย่าเอาพวกตัวเองเป็นมาตรฐานสิครับ ใครรับจ้างเหรอครับ ประชาชนไทยที่แท้จริงนี่อย่าเข้าใจผิดนะครับ เพราะมหาเก๊เนี่ยคือม็อบแถวถนนอักษะมากกว่า บอกว่ามาเป็นแสน แต่แสนเก๊ สองหมื่นจะถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ สงสัยรู้ว่าโดนแกนนำอมตังค์เลยไม่มากระมัง ถ้าไม่อยากได้รัฐบาลทหาร ง่ายมากครับ อย่าทุจริต คอรัปชั่น ยอมรับคำตัดสินศาลเมื่อทำผิด ควรรู้ตัวเองตลอดเวลาว่ามีศักยภาพบริหารประเทศหรือไม่
"แค่พ่อไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ลูกจะไม่ให้พ่อเป็นประชาธิปไตยเลยหรือ" ปรีดีไม่ได้กล่าวไว้ ผมแค่เอารูปปกหนังสือแปะเฉย ๆ
คนในพรรคเพื่อไทย ไม่กล้าตัดสินปัญหาโดยลำพัง เอะอะอะไรก็ต้องให้นายใหญ่ตัดสินใจคนเดียว ศักดิ์ศรีหายไปใหนหมดครับ ไม่ละอายกันบ้างหรือครับ
ผมนี่แหละเป็นมวลชนที่ไล่ทหารยามพฤษภาทมิฬ และเป็น กปปส ยามไล่รัฐบาลปู จุดยืนผมไม่เคยเปลี่ยน คือไล่คนที่จะมาทำลายความสงบสุขของมวลประชาชน ทำลายระบบเศรษฐกิจของชาติ กล่าวร้ายจาบจ้วงในหลวง เหตุผลที่ กปปส มากกว่ามากเพราะรัฐบาลปู ทำร้ายความรู้สึกคนไทยได้มากกว่าเมื่อตอนพฤษภาทมิฬ จำไว้ หากรัฐบาลใดทำได้ครบเงื่อนไขนี้เมื่อไร มวลมหาประชาชนจะกลับมาไล่ทุกครั้ง
นี่คือภาพจากงานศพ ของญาติผู้ใหญ่แกนนำสักคนนี่แหละ (ขออภัยจำชื่อไม่ได้) จะสังเกตุว่าในภาพเกือบทั้งหมดใส่ขาว-ดำ ก่อนหน้านี้ก็มี พวกสาวกน้ำเหลวไอ้สัดแป๊ะแชร์ในเฟสมาทีนึงแล้ว พยายามยั้งใจไม่ด่า นี่มาเจอเรื้อนจัญไรเอามาบิดเบือนเสริมแต่งให้เป็นการเมือง ขนาดไอ้คางคกตู่ยังรู้จักแต่งกายให้ถูกกาลเทศะ แต่ไอ้เรื้อนจัญไร นี่อัปรีย์จริง ๆ
'แม่น้ำ 5 สาย-นปช.' ร่วมรำลึก 23 ปีพฤษภาทมิฬ คึกคัก | เดลินิวส์ „'แม่น้ำ 5 สาย-นปช.' ร่วมรำลึก 23 ปีพฤษภาทมิฬ คึกคัก งานรำลึก 23 ปี "พฤษภาทมิฬ" คึกคัก แม่น้ำ 5 สาย - เสื้อแดง -ปชป. เข้าร่วม "รสนา" ชี้อุดมการณ์คนเดือนพฤษภาฯ ต้องได้ ปชต.ที่ประชาชนมีส่วนร่วม หวังรัฐประหารครั้งนี้ สามารถคลอดประชาธิปไตยให้ประเทศไทยได้สำเร็จ วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:44 น. เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ได้จัดพิธีรำลึกและสืบสาน 23 ปี พฤษภาประชาธรรม โดยมีการวางพวงมาลา ทำพิธีบรรจุอัฐิวีรชน ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม และพิธีทอดผ้าบังสุกุลแก่พระสงฆ์ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่วิญญาณของผู้ล่วงลับ และร่วมเสริมสร้างความเป็นมงคลให้สังคมไทย สามารถข้ามพ้นความขัดแย้งที่รุนแรงในอดีต รวมทั้งพิธีทางศาสนาคริสต์ และอิสลาม นอกจากนั้นภายในงานยังมีการรับบริจาคเลือดให้กับสภากาชาดไทยด้วย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเสียเลือดเพื่อให้ชีวิต แทนการเสียเลือดเสียชีวิต โดยมีตัวแทนจากฝ่ายต่าง ๆ เข้าร่วมงานจำนวนมาก อาทิ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐบาล นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 1 ตัวแทน สนช. พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ในฐานะตัวแทนประธาน สปช., น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิก สปช. นายจุตพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พระอุทัย อุทาโย หรือนายอุทัย ยอดมณี อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรธปประเทศไทย(คปท.) รวมทั้งนางคริสทีน ซาลาเนอร์ เบอร์เดอร์เนอร์ เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย น.ส.รสนา ในฐานะประธานจัดงาน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของวีรชนในเหตุการณ์เดือนพฤษภา เพราะต้องการปฏิรูประบบการเมืองไม่ให้เกิดการครอบงำ โดยหวังว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ไม่ให้กลับสู่การรัฐประหาร แต่ในความเป็นจริงเป็นสิ่งที่สวนทางกัน เพราะในเวลาต่อมาเกิดการรัฐประหารอีก 2 ครั้ง ซึ่งเกิดจากความเห็นต่างของประชาชน 2 ขั้ว จนนำไปสู่การรัฐประหารเพื่อไม่ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง จึงได้แต่หวังว่าการรัฐประหารครั้งนี้ จะสามารถคลอดประชาธิปไตยได้ อย่างไรก็ตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยของคนเดือนพฤษภา ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบตัวแทน แต่ประชาชนต้องมีส่วนร่วมโดยตรง ตรวจสอบการใช้อำนาจ และมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายที่สำคัญของชาติ นอกจากนั้นคนเดือนพฤษภาเห็นว่า อำนาจประชาชนจะต้องได้มาด้วยสันติวิธีเท่านั้น ขณะที่ ม.ล. ปนัดดา กล่าวว่า แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยรัฐประหาร แต่นายกฯ และคนไทยเข้าใจร่วมกันดี ว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ ความรัก ความสมัครสมานของคนในชาติ และหากย้อนไปใน ปี 35 วีรชนพยายามหาทิศทางนำประเทศไปสู่ความเจริญ โดยหลักการปกครองที่กล่าวถึง คือธรรมาภิบาล ซึ่งจะเร่งบรรลุผลโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นความสงบคงเกิดได้ยาก ฉะนั้นจึงหวังว่าประเทศไทยจะไม่มีการแบ่งแยก ไม่แตกแยกอีก ทางด้านนายสุรชัย ในฐานะตัวแทน สนช. กล่าวว่า เวลานี้แม่น้ำ 5 สาย กำลังหาทางออกให้ประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ว่าอะไรคือปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาประเทศไทย แต่ภารกิจที่จะบรรลุได้ด้วยแม่น้ำ 5 สาย ถือเป็นภารกิจของประชาชนทุกคน เช่นเดียวกับวีรชนที่คาดหวังจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดการปกครองโดยประชาชน เพื่อประชาชน ไม่ใช่การนำโดยพรรคการเมืองเดียวเท่านั้น ฉะนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการรำลึก แต่จะเป็นการสานต่ออุดมการณ์วีรชนอีกด้วย พล.อ.เอกชัย ในฐานะตัวแทนประธาน สปช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐตลอด และทุก ๆ 20 ปี จะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เราจะปล่อยเวลาให้ผ่านไป และเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก 20 ปีข้างหน้าไม่ได้ เราต้องหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่ง สปช.กำลังทำเรื่องปรองดอง เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมา และวางแนวทางป้องกันปัญหาในอนาคต ขอย้ำว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งต้องใช้สันติวิธีเท่านั้น เพราะจะเป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืนได้..“ อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/321753
http://www.prachatai.com/journal/2011/08/36284 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1307284876
แค่บทความที่ยืนยันอะไรไม่ได้ บทความแบบนี้ผมแทบไม่ต้องหาอะไรมาอ้างอิงด้วยซ้ำ เพราะบทความพวกนี้จะเขียนอะไรก็ได้ ไม่ใช่แม้กระทั่งข่าวด้วยซ้ำ หลักฐานที่ผมเห็นชัดๆเลยก็คือ อภิสิทธิ์ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีในสภา จากการถ่ายทอดสด
มติชนที่พาดหัวบิดเบือน และต้องขอโทษหลายๆครั้งนะเหรอ บอกแล้วให้อ่านให้หมด "อ่านจบแล้วรู้สึกงงๆ สงสัยว่า”ประชาธิปัตย์”แยกแยะไม่ออกหรือว่าข้อเขียนของคอลัมนิสต์คนหนึ่งคือทัศนะส่วนบุคคล เป็นความเห็นของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับ”องค์กร”" ดักไว้ก่อนเดี๋ยวมโนว่าผมอ่านไม่หมด นี่เป็นบทความตอบโต้ปชป.และเล่าย้อนถึงบทความเจ้าปัญหา
บอร์ดเก่า ไอ้ดอนยอเอาบทความนี้มาแปะแล้ว เงิบแล้ว จะดูอาการตะแบงของมัน อยากเห็นรูปถ่าย แบบนี้ขึ้นศาลถึงแพ้คดีบ่อยไง เพราะในบทความบอกแค่เค้าไปในค่าย แต่เนื้อหาการประชุม ไม่มีอะไรยืนยันว่าคุยเรื่องอะไร แถมเข้าไปจริงหรือเปล่าด้วย ชุมพลก็พูดได้เพราะพรรคตัวเองโดนยุบ อ้างนู่นอ้างนี่ แต่จะตอบโต้เขาดันบอกว่า เป็นทัศนะส่วนบุคคล แบบนี้เขาเรียกใส่ร้าย
พิชัยไหน ใช่ไอ้แก่อยากดังที่จับมือเข้าคณะกรรมการปรองดองก่อนจะเผ่นแทบไม่ทันหลัง พรบ. ปรองดอง ออกตอนตีสี่นั่นป่าวฮะ ถ้าใช่นี่ผมว่าให้ราคาไอ้แก่นี่มากไปหน่อยนะ
ย้อนอดีตกลับไปวันที่ 6 ธันวาคม 2551 พรรคประชาธิปัตย์นัดแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 18.00 น. ก่อนจะเลื่อนมาเป็น 18.45 น. เพราะการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่สิ้นสุด เจรจาอะไรแค่ 45 นาที รู้ขนาดนี้วันรุ่งขึ้นมีข่าวหรือเปล่า นายเทพไท เสนพงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุไอเอ็นเอ็น ตอนประมาณ 16.00 น.ว่ากำลังประชุมร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ แต่บอกสถานที่ไม่ได้ เหตุที่บอก”สถานที่”ไม่ได้ เพราะสถานที่นั้นคือบ้านหลังหนึ่งในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ รู้ดีจัง รู้ได้ยังไง ถ้าแอบสืบได้ขนาดนั้นก็น่าจะมีรูปถ่ายมาซักรูปนะ จะมัดให้แน่นดิ้นไม่หลุด จะได้ไม่ต้องใช้ทัศนะส่วนบุคคลมโนขึ้นมา ตามข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุว่าเวลา 16.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เข้าไปประชุมร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น คนที่ร่วมประชุมประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ นายเทพไท เสนพงศ์ นายเนวิน ชิดชอบ นายสุชาติ ตันเจริญ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล มีรายงานข่าวว่านักการเมืองหลายคนไป”ห้องประชุม”ไม่ถูก ทุกคนจึงต้องจอดรถส่วนตัวที่ปั๊มปตท. หน้าค่ายทหาร แล้วขึ้นรถตู้ของทหารเข้าไปด้วยกัน ตามข้างบนเลย ว่าแต่ทำไมต้องเปลี่ยนรถ แค่เลี้ยวเข้าค่ายเดี๋ยวก็ไปถูกแล้ว อย่าแปลกใจที่”ชุมพล ศิลปอาชา”หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาปราศรัยที่สุพรรณบุรีเมื่อวันก่อนว่า”พรรคชาติไทยถูกกลั่นแกล้งให้ถูกยุบพรรค เพราะมีความต้องการให้ไปร่วมรัฐบาลกับอีกพรรคหนึ่ง แบบนี้ไม่มีความชอบธรรม” เหรอครับ พรรคชาติไทยถูกยุบเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งต่างหาก ถ้าอ่านคำพิพากษาแล้วจะรู้ คำว่ามี”ความต้องการให้ไปร่วมรัฐบาลกับอีกพรรคหนึ่ง”อธิบายเบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ได้เป็นอย่างดี อธิบายตามทัศนะของผู้เขียนเหรอครับ มโนไปเองมากกว่า ตราบใดที่ไม่ใช้หลักฐานแต่ทัศนะของผู้เขียน หรือล่าสุดที่”ราเชล ฮาร์วีย์” ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำประเทศไทยเพิ่งเขียนรายงานเรื่อง "Thai military′s political past looms over elections" (บทบาททางการเมืองในอดีตของกองทัพไทย ปรากฏอยู่อย่างลางๆ เหนือการเลือกตั้ง) เขาระบุชัดเจนเลยว่า”2 ปีภายหลังการรัฐประหาร กองทัพได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง โดยมีหลักฐานระบุว่ากองทัพเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการประสานงานจัดตั้งรัฐบาลชุดที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี” หลักฐานอะไร ทำไมไม่เอามาแสดงครับ เห็นหลายคนบอกมีหลักฐานแต่ไม่เอามาแสดงซักที หรือการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิตของ”ไพโรจน์ สุวรรณฉวี”ก็พุดถึงการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ใครๆก็พูดได้ครับ อ้างคนนู้นคนนี้มาบอกว่าพูดเรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร น่าแปลกนะครับ ในค่ายทหารจะตั้งรัฐบาลได้ยังไง อำนาจมันอยู่ในค่ายทหารเหรอครับ หลักฐานที่เป็นรูปธรรมก็ไม่มีมีแต่คำพูดที่หาข้ออ้างอิงไม่ได้ การยอมให้”กองทัพ”เข้ามามีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย”ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้”ของพรรคประชาธิปัตย์ คือ “รอยตำหนิ”ในระบอบประชาธิปไตย รอยตำหนิคือการที่เสนอนโยบายสุดโต่งที่เป็นได้แค่ในฝัน ทำไม่ได้ เพราะทำแล้วไม่สำเร็จแถมเป็นผลกระทบระยะยาว เพียงเพื่อคะแนนเสียง พอถึงเวลาก็ไม่โผล่หัวไปแบบน้ำท่วมปี 54 พอชาวบ้านทวงถามนโยบายก็ตอบว่า เป็นแค่เทคนิคหาเสียงเท่านั้น แบบนี้ต่างหากที่ด่างพร้อย นักการเมืองคนไหนที่ยอมรับการรัฐประหาร ไม่ใช่”นักประชาธิปไตย” ยอมรับรัฐประหารหรือไม่ไม่ได้แสดงถึงความเป็นประชาธิปไตยนะ เพราะถ้าท่านยอมรับการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 นั่นหมายความว่าอะไร อภิสิทธิ์แสดงความเห็นค้านตั้งหลายครั้ง เพียงแต่ไม่ใช่ออกมาด่าแบบไร้เหตุผล หรือบุกบ้านป๋าเปรม นักการเมืองคนไหนที่ยอมรับให้”กองทัพ”มามีบทบาทจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่ใช่”นักประชาธิปไตย”เช่นกัน ผู้เขียนก็ไม่ได้แสดงหลักฐานให้เห็นเหมือนกัน ว่าตั้งที่ค่ายดังกล่าวจริงหรือไม่ นักประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องฟังเสียงรอบด้าน ไม่ใช่เลือกตั้งมาแล้วไม่ฟังใครอีกเลย แม้กระทั่งคนที่เลือกตัวเองมา แต่พอจะถูกยึดคืนอำนาจก็อ้างประชาชนที่เลือกมา ถ้าอ้างแบบนี้หมดจะทำยังไง เพราะฝ่ายค้านประชาชนก็เลือกมาเสียงที่ไม่เคยใส่ใจแต่กลับไปอ้างเนี่ย ถือว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ................................
เผด็จการ กับประชาธิปไตย ในทางปฏิบัติ ประชาธิปไตยคือระบอบเผด็จการประเภทหนึ่งที่เลือกผู้นำเผด็จการได้ แค่นั้น จริงมั้ย ฮิตเลอร์ จะอ้างนู่นอ้างนี่ อะไรก็ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฮิตเลอร์ มาจากการเลือกตั้ง
ชอบความเห็นท่อนนี้ เอาคนที่เลือกพรรคฝ่ายค้านไปไว้ที่ไหน อีกอย่าง เราไม่ได้เลือกนายกฯ โดยตรงซักหน่อย เคยมีข้อเสนอเลือกนายกฯ โดยตรงไป แล้วก็เงียบไปแล้ว