อือม 'อำมาตย์-ไพร่' มีที่มายังงี้นี่เอง จาก "แต่ละคน 'บนเส้นทาง' ที่ต้องเดิน"...

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย suraphan07, 26 Apr 2016

  1. suraphan07

    suraphan07 อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,284
    Location:
    BKK.
    ป๋าเปลว เขียนไว้ให้ได้อ่าน และพิจารณากันครับ...:cool:
    -------------------------------------
    "แต่ละคน 'บนเส้นทาง' ที่ต้องเดิน"...

    เอาล่ะ...จากวันนี้ (๒๖ เม.ย.๕๙) เป็นต้นไป "ปากผู้นำ" ด้วยการสื่อสาร และคำพูด-คำจา
    ถ้า "ตั้งสติ-ตั้งลำ" ได้.....!
    ที่เกลียดก็จะกลับมารัก ที่เป็นปฏิปักษ์จะกลับมาปกป้อง ที่ปองร้ายก็จะคลายเป็นหวังดี
    ที่ไม่เคยเข้าใจ ก็กลับกระจ่างอยู่กับทางบ้านเมือง!
    พวกองค์กรต่างด้าว-คนต่างแดน ที่หาเหตุจ้องทิ่ม-จ้องตำสยามประเทศมาตลอด ๒ ปี

    ต่อจากนี้ ถ้าจะมี ก็คงเป็นวาระส่งท้าย จากนั้น พวกเขาจะมีเป้าหมายใหม่ ที่จะหันไปจ้องจิกแทน!

    เมื่อวาน เห็นนายกฯ ประยุทธ์ กับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ภาคกลาง ๖ จังหวัด ร่วม ๔ พันคน
    ร่วมพูด-ร่วมคิด-ร่วมฟัง ด้วยกัน ในปัญหาบ้านเมืองที่ต้องร่วมทำ-ร่วมรับผิดชอบด้วยกัน ที่หอประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต บอกได้คำเดียว

    ดีใจเงียบๆ.......

    แสดงว่า นายกฯ "เห็นหัวชาวบ้าน" จากฐานรากขึ้นไปจริงๆ แล้ว!
    ยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี ที่นายกฯ ตั้ง และหวังนำไทยสู่อนาคตใหม่ที่ยั่งยืนนั้น จะเป็นดังหวังได้ยาก ถ้า...ท่านนายกฯ ไม่เริ่มจาก

    "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" ด้วย!

    ประชาชนกว่า ๖๕ ล้าน ต่อให้ใช้เวลา ๔๐ ปี ถ้ารัฐบาลใช้แต่ข้อมูลและรายงานจากข้าราชการ ตั้งแต่ระดับอำเภอ-จังหวัด ถึงระดับกระทรวง

    ทุกอย่าง...รากหญ้า จะได้แค่ ๑ ส่วน
    ระดับยอดหญ้า เอาไป ๒ ส่วน
    นอกนั้น ที่เหลืออีก ๗ ส่วน ระดับยอดยางและหอคอย สอยไปแดกเรียบ!

    กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านนั่นแหละ รู้ปัญหาพื้นที่ รู้ใจ-รู้ความต้องการคนในพื้นที่มากที่สุด

    ที่ว่ากำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน "ตัวกิน" นั่นน่ะ ..........
    ส่วนใหญ่ แรกๆ ก็ "กินด้วยจำใจ" เพราะระดับเหนือขึ้นไปคล้าย "บังคับให้กิน" เป็นการรวมพวกและปิดปาก
    นานๆ เข้า เออ..ก็ดีนี่หว่า ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งอิงอำนาจ-บารมี "กังฉิน" สบายกว่า

    "ตงฉิน" นอกจากไม่ได้กินแล้ว ซื่อตรง-ทำดี ก็ไม่เคยมีใครเห็น แถมกระเด็นจากตำแหน่ง-หน้าที่ได้ง่ายๆ
    เพราะการเป็น "คนดีหัวเน่า" เขาก็ไม่เอาเข้าพวก-เข้าฝูง นี่...สังคมบริหารปกครองท้องถิ่น ที่ผ่านๆมาจะลักษณะนี้

    "ระดับบน"..........

    ใช้ทั้งอำนาจและค่าทางสังคมกดสถานะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านไว้ ตีราคาปรามาสว่า ต่ำต้อย-ด้อยความรู้-ด้อยปัญญา
    เป็นตำแหน่ง "คร่ำครึ-น่าขัน" ไม่มีค่า ประมาณนั้น!
    ด้วยทัศนคติ "ดูถูก-กดทับ" ตำแหน่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านมาเรื่อยๆ ในระบบบริหารราชการงานเมือง จึงไม่เคยฟัง ไม่เคยเคารพความคิดเขา

    เอาแต่ชี้นิ้วสั่งและใช้เขาเหมือนข้าทาสบริวารในระบบ!

    คำว่า "อำมาตย์-ไพร่" ที่ นปช.ทักษิณเลือกมาใช้ทางแบ่งชนชั้นในการปลุกระดม
    เนี่ย....มันก็มาจากทัศนคติพวกเขาที่มีและใช้กับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านมาด้วยตัวเองนั่นแหละ

    เมื่อต้องการปลุกระดมเรื่องชนชั้นให้เกลียดชังกัน ก็เลยสะท้อนสันดานตัวเองออกมาเป็น "ไพร่-อำมาตย์"
    ดูตอนพวกเขาเป็นอำมาตย์ซี ข้าราชการต้องคลานเข่าไปหาบ้าง
    ยื่นตีนให้ข้าราชการถอดรองเท้าให้บ้าง
    กับข้าราชการกระทรวง นักเลือกตั้งระบอบทักษิณยังทำขนาดนี้ ก็ไม่ต้องคิดแล้วว่า กับระดับ "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" พวกเขาจะตีราคาให้อยู่ระดับไหน?

    ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง.........

    ดังนั้น คนระบบราชการ-ระบบการเมืองที่สมประโยชน์ จึงใช้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเป็นลูกมือ "ทำผิด-ทำชั่ว" ให้มาตลอด
    จนกลายเป็นค่าสังคมที่รู้กัน "กำนัน-ผู้ใหญ่" นั้น ของนักการเมือง โดยนักการเมือง และ เพื่อนักการเมือง!
    เมื่อกำนัน-ผู้ใหญ่ เป็นเครื่องมือนักการเมือง ไปควบคุมชาวบ้านให้เป็น "บริวารนักการเมือง"
    การบริหาร-การปกครองไทยจึงเป็นอย่างที่ปรากฏ จังหวัดนี้ พวกนี้ เลือกเรา ก็เอางบ "บังหน้า" ไป แต่เจตนาบังหลังคือ

    "ข้า....ข้างบน" คำใหญ่
    "เอ็ง...ข้างล่าง" คำเล็ก!

    ก็ตามค่านิยมประชาธิปไตยกินเมืองระบอบทักษิณ "โกงไม่เป็นไร ได้แล้วแบ่งกัน" เป๊ะเลย
    จะเจาะจงว่าเฉพาะระบอบทักษิณ ก็ดูอคติไป เพราะความจริง มันเป็นแบบนี้ทุกระบอบรัฐบาลเลือกตั้งแหละ!

    ในเมื่อนายกฯ ประยุทธ์ขออีก ๕ ปี เพื่อให้ยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี หยั่งราก ก็หมั่นอยู่กับดิน คลุกอยู่กับดิน ศึกษา-เข้าใจดินคือ "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" อันเป็นฐานราก

    นี่แค่ภาคกลาง ๓,๘๗๘ คน......
    ยังภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้อีก กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งหมดคงหลายหมื่น

    ถ้าหวังให้ไทยเดินหน้าชนิดฐานรากยั่งยืน ได้ใจนักธุรกิจ-พ่อค้า นั่นแค่ "ไม้ค้ำ"
    ถ้ารัฐบาล คสช.โดยนายกฯ ประยุทธ์ ได้ใจกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านได้ใจนายกฯ
    นั่นคือ "รากแก้ว"!

    ผลงานกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในยุคนักเลือกตั้งครองเมือง วัดที่ทำให้ฐานเสียงนักเลือกตั้งมั่นคง
    แต่ขณะนี้ เมื่อ คสช.ครองเมือง ก็หวังว่า นายกฯ ประยุทธ์ จะวัดความดี-ความชอบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จากผลงานที่ทำให้ฐานประเทศมั่นคง
    นักต่อสู้ที่คนชื่นชม จะเป็นลักษณะ "พูดน้อย-ต่อยหนัก"

    ประเภท "พูดมาก-ต่อยวืด" คนจะหยัน
    ที่ "พูดมากด้วย-ต่อยหนักด้วย" คนยอมรับและชื่นชมมีคนเดียว คือ "เคสเซียส เคลย์" หรือ มูฮัมหมัด อาลี
    ที่พูด ๔ คำ....."กลับบ้านเถอะลูก" แล้วอยู่จนเบื่อ ๘ ปี จนต้องออกปากว่า "ผมพอแล้ว" ก็มีอยู่คนเดียว

    คือ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์"!

    เนี่ย...มันก็มี "สินค้าตัวอย่าง" ให้เลือกเป็นต้นแบบอยู่หลากลักษณะ แต่ถ้าใครไม่อยากเลียนแบบใคร ต้องการเป็นสินค้านวัตกรรม
    นั่นก็ต้องดูว่า นวัตกรรมนั้น......
    ทำแล้วพาเด่น หรือพาดับ!?
    แต่ที่เห็นทีถึงคราวดับจริงๆ น่าจะเป็นอลัชชีโล้น "ธัมมชโย" แห่งลัทธิธรรมกาย

    ไปนรก ไปสวรรค์ ไปเยี่ยมสตีฟ จอบส์ไปได้........
    แค่ดีเอสไอเขามีหมายเรียกไปรับทราบข้อหาฐานร่วมกันฟอกเงินและรับของโจรเมื่อวาน (๒๕ เม.ย.) กลับอ้างป่วยด้วยสารพัดโรค ไม่ยอมไปตามนัด


    นี่...เขาขอหมายศาลจะมาจับตัวแล้วรู้มั้ย?

    อะไรกัน มีวิชาวิเศษ ท่องนรก-ท่องสวรรค์-จัดสรรวิมานขาย-ปัดระเบิดได้เป็นพวงๆ
    ไหง...ถูกข้อหาหน่อยเดียว ป่วยกระเสาะ-กระแสะซะแล้ว ดูตามรายการอ้างป่วย ถ้าจริงตามนั้นทั้งหมด น่าจะไม่รอด!

    ก็ดูแต่ละโรคที่อ้างเป็นเหตุไม่สามารถมาพบดีเอสไอได้ซี

    -เวียนศีรษะ
    -บ้านหมุน
    -ทรงตัวไม่อยู่
    -ปวดหลัง
    -ปวดขาซ้าย
    -กล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง
    -เบาหวาน
    -ภูมิแพ้
    -เส้นเลือดอุดตันโคนขาซ้าย
    -แผลติดเชื้อที่เท้า

    โห...หมอคนไหนเซ็นใบรับรองแพทย์ให้นะ แพทยสภาน่าจะเชิญไปเชิดชูเกียรติซะหน่อย
    เมื่อกระบวนการกฎหมายเดินหน้า อาชญากรโล้นที่มากเงิน-มากพวก-มากอิทธิพล-มากเล่ห์ จะเดินแต้มไหนต่อไป สนใจจัง

    ธัมมชโยกับผมนี่ สงสัยราศีเดียวกัน ธัมมชโยถูกหมายเรียก ผมก็ถูกตำรวจโรงพักทองหล่อเรียกไปเป็นผู้ต้องหาเหมือนกัน
    ต่างกันเพียงข้อหา ของธัมมชโย-บุญหนัก เลยถูกข้อหาฟอกเงิน รับของโจร
    ส่วนผม-บุญน้อย ถูกแค่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ให้ลูกน้องไปแจ้งความว่าหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์หมิ่นประมาทเขา

    อ้างเป็นพระ แต่เบี้ยว ไม่ดีหรอก ผมเป็นโจรแท้ๆ ยังไม่เบี้ยวเลย ต่างคน-ต่างไป, ต่างคน-ต่างติด "เอาฤกษ์-เอาชัย"

    ดีมั้ย...ไชยบูลย์เอ้ย!
    http://www.thaipost.net/?q=แต่ละคน-บนเส้นทาง-ที่ต้องเดิน
    ------------------------------------

    เหอๆๆ…
    ป๋าเปลวแก ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่พอเหลาลงไป
    กลายเป็น คดีธัมมี่ ไปเสียฉิป...:giggle::hi::clap:
     
    อู๋ คาลบี้, por, กีรเต้ และอีก 4 คน ถูกใจ
  2. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่

Share This Page