ร่าง พรบ.ยุทธศาสตร์แห่งชาติ จะกลายแเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศที่ทุกรัฐบาลจากนี้ไปจะต้องเดินตาม จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความต่อเนื่องของนโยบายพัฒนาประเทศอย่างมีทิศทางที่แน่นอน เป็นการพิจารณารายงาน ของคณะกรรมาธิการด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ ตามที่ คสช. วางกรอบ เพื่อให้เป็นกฎหมายสำคัญ ในการวางทิศทางในอนาคตเพื่อให้ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งประกอบด้วย61 มาตรา มีผลบังคับใช้ 20 ปี เพื่อกำหนดนโยบายให้รัฐบาลในอนาคต บริหารงานมีต่อเนื่องมากขึ้น โดยสามารถปรับแก้และทบทวนยุทธศาสตร์ได้ทุก 5 ปี หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง และกระทบวัตถุประสงค์หลักของยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะมีการตั้งองค์กรระดับชาติที่เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง2 ชุด คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 25 คน ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิอีก 22 คน และคณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ชาติ จำนวน 29 คน มาจากหัวหน้าส่วนราชการ 17 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 12 คน มาจากการสรรหา เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่างๆ ตรวจสอบการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติของรัฐสภา คณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานรัฐต่อไป ในร่างกฎหมายยังระบุกรณีไม่ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และฝ่ายการเมืองทำให้เกิดเสียหายร้ายแรง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ จะยื่นเรื่องต่อวุฒิสภาเพื่อดำเนินการตามรัฐธรรมนูญต่อไปพร้อมบทลงโทษทั้งทางวินัย และความผิดทางอาญา กรุงเทพฯ 16 ก.พ.-การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศวันนี้พิจารณาการขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นหัวใจการปฏิรูปประเทศ วางแนวทางให้การทำงานของรัฐบาลแต่ละชุดมีความต่อเนื่องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นที่จับตามองจากหลายฝ่ายสำหรับร่างกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว 20 ปี เพราะมีข้อห่วงใยว่าจะเป็นการควบคุมรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ ซึ่งกรรมาธิการด้านการบริหารราชการแผ่นดินของ สปท. ยืนยันแล้วว่าเป็นกรอบในการพัฒนาประเทศ ไม่ได้แทรกแซงการทำงานของรัฐบาล สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติกำหนดกลไกไว้ 3 ส่วน คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 25 คน มีหน้าที่ดำเนินการเชิงนโยบาย และกำหนดแนวทางการบริหาร, คณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ชาติ ไม่เกิน 29 คน มีหน้าที่ผลักดันให้ยุทธศาสตร์ชาติเกิดผลสัมฤทธิ์ และมีสำนักงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อขับเคลื่อนประเทศแบบมีทิศทางในระยะยาวถึง 20 ปี ซึ่งประชาชนและภาคเอกชนจะมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตประเทศมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะเหมือน คปป. หรือไม่ แต่ สปท. ก็ยืนยันว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่อำนาจที่ 4 แต่เป็นองค์กรที่จะกำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ในอนาคต โดยคำนึงถึงความอยู่รอดของชาติ นับตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนกรกฎาคม 2560 เป็นช่วงระยะที่ 1 ของการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติในร่างรัฐธรรมนูญและพิจารณากฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติให้มีผลบังคับใช้ ก่อนจะเริ่มต้นระยะที่ 2 ใช้เวลา 20 ปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 ถึงปี 2580 เพื่อเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติให้มีผลสัมฤทธิ์ต่อไป โดยมีเป้าหมายให้แต่ละกระทรวงบูรณาการแผนพัฒนา และรัฐบาลแต่ละชุดทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ระยะยาวของประเทศ.-สำนักข่าวไทย
19 ก.พ.| ข่าว 14.00 น. คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เห็นควรปรับปรุงเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติในหลายประเด็น
เป็นคำขอตรงๆ ให้กับแผนเดินหน้าการปฏิรูป และวางยุทธศาสตร์ชาติที่ช่วงต้นจำเป็นต้องมีกลไกพิเศษผ่านรัฐธรรมนูญและกฎหมายสำคัญเพื่อให้การประคับประคองบ้านเมืองในระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด ด้านหนึ่งเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อวางกรอบกำหนดทิศทางบริหารประเทศ 20 ปี 4 รัฐบาลต่อเนื่อง โดยมีคณะกรรมการ 2 ชุดกำกับดูแลและควบคุมพร้อมบทลงโทษหนักๆสำหรับรัฐบาลรัฐสภาและหน่วยงานรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ซึ่งแน่นอนว่าผู้รักษาการณ์ตามกฎหมายไม่พ้นคนในแม่น้ำ 4 สาย อีกด้าน บรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ผ่านการเรียงร้อยถักทอเป็นโครงสร้างทางการเมืองแบบใหม่ผ่านระบบการเลือกตั้งสส.ที่มาสว. นายกรัฐมนตรีคนนอก การเพิ่มอำนาจองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการคงอำนาจการใช้มาตรา 44 อย่างต่อเนื่องไว้ในบทเฉพาะกาล ล่าสุดกับข้อเสนอของคณะรัฐมนตรี ที่ส่งตรงถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้จัดหากลไกและอำนาจพิเศษรองรับการบริหารงานในระยะเปลี่ยนผ่านโดยกำหนดช่วงเวลาเฉพาะกิจเพื่อจัดการเลือกตั้ง สส. และช่วงเวลาเฉพาะกาลเพื่อการบังคับใช้รัฐธรรมนูญจนกว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่ง 2 ปรมาจารย์ด้านร่างรัฐธรรมนูญ อย่าง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายวิษณุเครืองาม คงไม่มีปัญหาในการหาช่องบัญญัติที่มาของกลไกพิเศษไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่ว่ากันว่าช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านกินเวลาอย่างน้อย 3-5 ปี ทั้งหมด ทำให้มีคำถามดังๆ กับคำว่า "ระยะเปลี่ยนผ่าน" เพราะถูกมองว่าคล้ายไปทับซ้อนกับคำว่า "ต่อท่ออำนาจ" และ "ประชาธิปไตยครึ่งใบ" จนหลายฝ่ายเริ่มเป็นกังวลใจว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางของปัญหาในอนาคตหรือไม่ นั่นจำเป็นที่รัฐบาลและ คสช.ต้องให้คำตอบ 21 ก.พ.59 12.00 กรธ.เตรียมหาข้อสรุป ข้อเสนอ ครม.เรื่องการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2 ช่วงเวลา ในสัปดาห์หน้า 21 ก.พ. – ขณะนี้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนและปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ แล้ว และข้อเสนอที่ถูกเพ่งเล็งอย่างมากก็คือข้อเสนอข้อที่ 16 จากคณะรัฐมนตรีที่ให้แบ่งช่วงบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง. –สำนักข่าวไทย
