สมกับเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจริงๆคะ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1428750804 วันนี้ (11 เม.ย.58) ที่วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่ มีการจัดงาน "ดำหัวคนเฒ่า เยาวชนก็เช่นกัน" เพื่อรดน้ำดำหัวขอขมาเยาวชน โดยมี นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ได้กล่าวแถลงการณ์ถึงคนรุ่นใหม่ ระบุว่า ขอโทษเยาวชนที่ไม่สามารถรักษาประชาธิปไตยในรุ่นของตนไว้ได้ ทำให้ภาระตกถึงคนรุ่นหลัง จึงจัดพิธีรดน้ำดำหัวเยาวชนเพื่อขอขมา ด้านตัวเเทนเยาวชน ได้อ่านแถลงการณ์ มีใจความสำคัญว่า การยอมรับความผิดพลาดของผู้ใหญ่ต่อหน้าเด็ก หาได้ยากในสังคมไทย เเละทางเยาวชน ขอให้อภัยต่อความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้นในยุคท่านและผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเยาวชนของบ้านเมืองในขณะนี้ พร้อมที่จะเผชิญต่อปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยงว่าปัญหานั้นได้ก่อเกิดจากเราหรือไม่
เพื่อควายต้องเป็นรัดถะบาน ชิหมาวัดต้องเป็นนาโย๊ะเท่านั้น ถึงจะเป็นประชาทีปตายที่แท้จริง คนห้ามเป็น ม่ายงั้นกรุผาว
เหมือนสร้างภาพให้ตนดูดี ทำความผิดใหญ่โตขนาดนี้ ขอขมาอย่างเดียวได้หรือ ? ขนาด เฒ่าหื่นกาม ฆ่าข่มขืนเด็ก ถูกตำรวจจับได้ นำไปขอขมาศพ ยังต้องติดคุกต่อเลย แล้วนี่ทำความผิดต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย ขอขมาแล้วให้เลิกแล้วกันไปมันเหมือน ไม่มีจิตวิญญาณนักประชาธิปไตยอยู่เลย การขอขมาแบบไทย มันเกิดจาก สำนึกผิด ที่รู้สึกว่าได้ไปกระทำอันเป็นการล่วงเกินผู้อื่น ต่างกับการขอโทษประชาชนแบบฝรั่งที่ชอบนำมายกตัวอย่างกัน เพราะขอโทษแบบฝรั่งมันไม่ได้เกิดจาก สำนึกผิด แต่มันเกิดจาก สำนึกกลัวความผิด ก็เลยออกมาขอโทษกันอยู่เรื่อยทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำเพียงแต่มีส่วนดูแลอยู่เท่านั้น มันจึงง่ายที่จะเอ่ยคำขอโทษโดยไม่มีความจริงใจอะไร เพียงต้องการสร้างภาพให้ตนเองดูดีเท่านั้น แต่จะเป็นการขอขมาแบบไทย หรือ ขอโทษแบบฝรั่ง มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับอุดมการณ์ทั้งนั้น จึงมองไม่เห็นว่า ทำไปเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่การสร้างภาพ
ปกติผู้ใหญ่ก็ขอโทษเด็กอยู่แล้ว ด้วยความเมตตาและเกรงอกเกรงใจกันและกัน แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นขอขมาด้วยพิธีรีตองมากมายขนาดนั้น มันเยอะไป ก็แค่พูดคำขอโทษพร้อมเหตุผลนิดหน่อย ดูสเตตัสของคุณศิลป์ชัย เจ้าของเพจศาสนวิทยา แกว่า...
ผมเห็นด้วยนะ ถ้ายืนอยู่บนหลัก 2 ประการ ประการแรก มันไม่ควรเป็นประเด็นที่มีวาระซ่อนเร้นไปทางการเมือง ประการที่สอง มันควรเป็นเรื่องของเหล้าไอ้อีหัวหงอกที่คิดและทำขึ้น ไม่ใช่เรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ทั่วไปท่านอื่นๆ สิ่งที่คนเฒ่าหัวหงอกในกลุ่มนี้ หรืออีกหลายคนกระทำไป เป็นบาปต่ออนุชนรุ่นหลังไม่ใช่น้อย การยัดเยียดความคิด การชี้นำให้เห็นสิ่งถูกแต่เพียงด้านเดียว การสร้างความคิดยึดมั่น ถือมั่นในแนวทางที่ตนเองเชื่อ มันเป็นเพียงความเชื่อและอาจจะเป็นความจริงแต่เพียงด้านเดียว ทั้งที่พวกเขาก็รู้กันอยู่ ว่าความจริงตามเหตุผล ไม่จำเป็นต้องมีด้านเดียวเสมอไป แต่กลับเลือกที่จะสอนและยัเยียดให้เด็กและเยาวชน มองเพียงบางมุม นั่นคือสิ่งที่พวกเขา ทั้งหัวขาวหัวดำ พึงต้องกราบตีนขอขมาต่อเด็ก แต่สิ่งสำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ นั่นแสดงว่า พวกคุณรู้ ว่าสิ่งที่พวกคุณทำมันผิด มันบาป คุณจึงลงทุนขอขมา ดังนั้น แม้จะยังมีเวลาเพียงน้อยนิดในชีวิตที่เหลืออยู่ สิ่งที่ควรต้องทำ คือการเปลี่ยนแปลงความบิดเบี้ยวในเนื้อหาที่คุณสร้างไว้ ทำตัวเสียใหม่ แก้ไขในสิ่งที่ทำไปแล้ว ทำผิดให้เป็นถูก นั่นต่างหาก ที่คุณควรกระทำ ไม่ใช่แค่กราบตีนเด็กแล้วพรุ่งนี้ก็เปิดไมค์ พูดจาเฮี้ยๆ เรื่องเฮี้ยๆ ให้เด็กฟังต่อ และลืมไปแล้วว่า ได้สำนึกและขอขมาเด็กมันไปแล้ว แต่ถ้าคุณไม่สำนึกจริง การขอขมาเด็ก มันก็เป็นเพียงการใช้เวทีเพื่อกระทบกระแทกแดกดันคนอื่น พยายามบ่งชี้ว่า คนอื่นๆ ต่างหากที่ผิด และพวกฉันทำถูก นั่น ก็อย่าไปขมาเด็กมันเลยครับ หัวหงอกกันขนาดนั้น น่าจะคิดอะไรกันได้ อย่ามาเล่นปาหี่หลอกเด็กมันเลย ตายห่าตายโหงไป วันนึง เด็กมันจะมาเยี่ยวรดหลุมศพเอาเสียปล่าวๆ ค่าที่สอนอะไรผิดๆ ไป ทำให้เด็กบางคน ไม่มีแม้แต่แผ่นดินจะอยู่ ทำอะไรโง่ๆ ผิดกฏหมาย พูดอะไรพล่อยๆ จนสังคมไม่ยอมรับ เพียงเพราะพวกมัน เชื่อในคำพูดที่ออกมาจากปากพวกหัวหงอกอย่างพวกคุณ กี่คนแล้ว ที่ถูกลงโทษ เร่ร่อน หรือชีวิตลำบาก เพราะการเชื่อพวกคุณ ไปกราบตีนขอโทษพวกเขา แล้วทำตัวให้เป็นหัวหงอกที่น่าเคารพเถอะ...ไอ้แก่
มันเป็นเรื่องการเมืองเห็น ๆ แต่ ศิลป์ชัย ยังอุตส่าห์บอกว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองไม่มีวาระซ่อนเร้น แต่เป็นการสร้างธรรมเนียมประเพณีผู้ใหญ่ขออภัยเด็ก เรื่องที่ยกตัวอย่างมาว่า ผู้ใหญ่ถูกเสมอ พ่อแม่ถูกเสมอ ครูบาอาจารย์ถูกเสมอ ฯ นั้นพูดเอาเองทั้งนั้น มีใครสักกี่คนที่คิดแบบศิลป์ชัย คนที่เขาไม่กล้าเถียงผู้ใหญ่ ไม่กล้าเถียงพ่อแม่ ไม่กล้าเถียงครูบาอาจารย์ มันไม่ได้หมายถึงว่าเขายอมรับว่า คนเหล่านั้นถูกเสมอ แต่เขาไม่เถียงเพราะเขาให้ความเคารพนับถือ การขอขมา หรือขอโทษก็ตาม มันไม่ใช่ธรรมเนียมประเพณี แต่มันเป็นเรื่องของ สำนึก เพราะผู้ใหญ่หรือเด็ก ที่ไปล่วงเกินฝ่ายหนึ่ีงฝ่ายใด แล้วสำนึกได้ว่าเราผิด ต้องไปขอขมา หรือ ขอโทษก็ตาม มันเกิดจากสำนึกของตนเองว่าต้องไปขอขมาหรือขอโทษอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่สนใจว่าฝ่ายที่ถูกล่วงเกินเขาจะให้อภัยหรือไม่ มันเป็นแค่การยอมรับว่าเราเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น เพราะฉะนั้น ถ้าจะสร้างก็ต้องสร้าง จิตสำนึก ไม่ใช่มาสร้างประเพณีใหม่ เพราะถ้าสร้างเป็นประเพณี มันก็เหมือนแค่การสร้างภาพเท่านั้น ภาพออกไปแล้ว แต่สำนึกมีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยิ่งมาขอขมาเรื่องรักษาประชาธิปไตยไม่ได้ ยิ่งเห็นชัดว่าสร้างภาพ เพราะไม่มีใครรู้ว่า ผู้เฒ่าเหล่านี้ ไปรับปากเด็กพวกนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อใดว่า ปู่จะรักษาประชาธิปไตยไว้ให้หลาน ๆ นะ แต่อะไรก็ไม่น่าเบื่อเท่า ประชาธิปไตยที่ ปู่ พยายามจะรักษาไว้นั้น มันเป็นประชาธิปไตยแบบ "โกงได้ ใครตรวจสอบ ตาย" จะรักษามันไว้ทำไมครับ ผมคนหนึ่งละ ไม่เอาด้วย ไม่ต้องมาขอขมาผมนะครับ
เฒ่านรก ส่งมาเกิดตนนี้ไม่ทราบว่าออกจากบ้านนี่ต้องกราบทรีนลูกมันก่อนหรือป่าว คนเท่ากัน เสมอภาคๆ ห่านจิก ไอ้จรเข้ขวางคลอง
ผมว่ามันต้องไปกราบตีนเมียเก่ามันซึ่งเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ที่ยอมหย่ากับมันให้มันไปอยู่กินกับลูกศิษย์มัน
น่าจะไปจัดที่ใกล้ๆรพ.ศรีธัญญานะ พวกหมอทั้งหลายจะได้เห็นพฤติกรรม จัดเสร็จจะได้เข้าไปขอรับยาจากคุณหมอได้ง่ายหน่อย
เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล หรือ เอาด้วยเวทย์มนต์ คาถา เหล่าพวก นิธิ เอียวศรีวงศ์ จะสร้างความวิปริต ฉิบหาย สร้างอาเพศ ให้แก่ บ้านเมืองและแผ่นดิน
แสดงว่าไม่ได้อัพเดทข่าวสารเล้ยยยยย เดี๋ยวนี้เค้าไม่ใช้คำว่า"คนเท่ากัน" แล้วนะครับ คำที่ถูกต้องคือ "พลเมืองเท่ากัน"
เพื่อน เป็น อาจารย์ ที่ มอ. เล่าให้ฟังว่า อ นิธิ เคยเป็น กรรมการของมหาวิทยาลัยอยู่หลายปี แต่ ตอนหลัง ไม่ได้ให้เป็นต่อ เพราะ ความคิด ข้อเสนอแนะ ที่ได้มา ไม่เคยทำได้จริง ๆ สรุป เป็น นักวิชาการ อยู่บนหอคอยงาช้าง