Thanong Fanclub / สหรัฐฯเรียกหาความพ่ายแพ้ใน WW3 ไม่มีใครรู้ว่าปูตินคิดอะไรอยู่ หรือจะทำอะไรต่อไป แต่รู้อยู่อย่างเดียวว่าปูตินตอนนี้ขายน้ำมันและก๊าซแลกทองคำอย่างเดียว แม้ว่ารัสเซียจะขายน้ำมันและก๊าซได้ดอลล่าร์มา แต่จะเอาดอลล่าร์แลกทองคำทันที แล้วโลกตะวันตกจะซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียได้นานแค่ใหนเพื่อแลกกับทองคำที่ต้องสูญเสียไป อะไรจะเกิดขึ้นกับเปโตรดอลล่าร์ ถ้าหากว่าประเทศตะวันตกไม่มีทองคำเหลือที่จะซื้อน้ำมันและก๊าซ หรือแร่ยูเรเนี่ยมจากรัสเซีย รวมทั้งสินค้าต่างๆจากจีน? ในเชิงหมากรุก เขาเรียกว่าCheck Mate เกมโอเวอร์ ในไตรมาสที่3 ของปีนี้ ธนาคารกลางของรัสเซียซื้อทองคำถึง55ตัน จากจำนวน93ตันที่ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อกัน นับได้ว่าธนาคารกลางของรัสเซียมีการเพิ่มทองคำสำรองในทรัพย์สินของตัวเองเป็นเวลา15ไตรมาสติดต่อกัน ปูตินต้องการปลดแอกดอลล่าร์จากการครอบงำระบบการเงินโลก ถ้าจะโค่นสหรัฐฯ ต้องเจาะยางดอลล่าร์เสียก่อน วิธีเจาะยางดอลล่าร์ดีที่สุดคือขายน้ำมันและก๊าซแลกทอง ความจริงยุโรปต้องการรัสเซียมากกว่ารัสเซียต้องการยุโรป นักวิทยาศาสตร์อังกฤษได้เผยแพร่งานวิจัยที่พบว่ายุโรปอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้พลังงานจากรัสเซีย หรือพูดง่ายๆโลกจะอยู่ไม่ได้ ถ้าพลังงานจากรัสเซียถูกเอาออกไปหมด การขายน้ำมันและก๊าซแลกทองจะทำให้รัสเซียมีทองเพิ่มขึ้น และประเทศตะวันตกสูญเสียทอง ต่อไปเงินกระดาษจะไม่มีค่าเมื่อรัสเซีย จีนละอินเดียตะลุยเก็บทองเข้าคลังจนได้ที่และประกาศระบบการเงินใหม่ที่อิงทอง เพื่อท้าแข่งระบบเงินกระดาษดอลล่าร์ที่ไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุน ประเทศตะวันตกครองอำนาจการเงินโลกได้ด้วยความเชื่อมั่นในเงินกระดาษ แต่ฟองสบู่การเงินที่ผ่านมาทำให้ระบบการเงินพัง จำต้องพิมพ์เงินออกมาอุ้ม การพิมพ์เงินเป็นการสร้างเงินเฟ้อทำลายค่าเงิน แต่ประเทศตะวันตกจำต้องร่วมมือกันปกป้องระบบเงินกระดาษ มิฉะนั้นแล้วอำนาจทางการเงินเหนือระบบโลกจะล่มสลายลง อันนำมาสู่การทุบราคาทองคำต่อเนื่อง ยิ่ง2-3ปีให้หลังนี้ยิ่งทุบหนัก แต่ก็เปิดโอกาสให้รัสเซียและจีนซื้อทองได้ในราคาถูก ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรก็ตาม รัสเซียสามารถสร้างกลไกดอลล่าร์แลกทองได้ พอได้ดอลล่าร์มาจากการขายน้ำมันและก๊าซ รัสเซียก็แปลงดอลล่าร์เป็นทองคำทันที การทำเช่นนี้ ถือว่ารัสเซียเริ่มจะเปิดหน้าต่างทองคำ ในปี1971 ประธานาธิบดีนิกสันปิดหน้าต่างทองคำ (gold window)ไม่ให้คนถือดอลล่าร์มาแลกทอง ถือว่าเบี้ยวข้อตกลงBretton Woodsที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี1944 แต่ในปี2014 ปูตินเป็นคนเปิดหน้าต่างทองคำนั้นออกมา ด้วยการขายน้ำมันและก๊าซแลกทอง เป็นการบังคับให้ประเทศตะวันตกปล่อยทองออกมาจากเซฟของตัวเองเข้าไปสู่เซฟของรัสเซียแทน โดยไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากวิชิงตันก่อน สหรัฐฯฉุนขาด เลยทุบรูเบิ้ลเป็นการล้างแค้น เอากันให้ตายไปเลย แม้ว่าต้องยอมกลืนเลือดด้วยการทุบราคาน้ำมันที่จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของตัวเองก็ตาม ใครจะกระอักเลือดก่อนงานนี้ ต้องดูกันอีกที thanong 21/12/2014 http://www.silverdoctors.com/checkmate-is-russia-selling-o
ตอนนี้เมกาอาจเป็นมารร้ายใส่หน้ากากคุณธรรมอยู่ การจะโค่นมารร้ายตัวนี้ก็คงต้องจับมือกันหลายๆประเทศ อย่างเช่น จีน รัสเซีย อินเดีย ซึ่งตอนนี้น่าจะกำลังเจาะประเทศลาตินอเมริกาก่อนโดยเริ่มที่บราซิล(หนึ่งกลุ่มบริค) สังเกตเมการีบวิ่งเข้าหาคิวบาทันที เกมนี้ เชื่อว่าเอเชียน่าจะมาวิน แต่กว่าจะวินได้ก็น่าจะได้เห็นอะไรสนุกๆอีกเยอะ โปรดติดตามตอนต่อไป
รอดูด้วยคนครับ แต่ผมรู้สึกว่ารัสเซียเสี่ยงมาก ถึงแม้จะดูเหมือนเตรียมตัวมาดี แต่การที่เป็นประเทศเปิดแล้วโดนคว่ำบาตร โอกาสเจ็บหนักมีสูง ได้ข่าวว่าประชาชนรีบออกมาซื้อสินค้านำเข้า พวกคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์ต่างๆ เพราะกลัวว่าค่าเงินตกแล้วสินค้าจะแพงขึ้น ในอนาคตไม่รู้จะโดนเรื่องอาหารอีกหรือเปล่า ถ้าถึงขั้นั้นล่ะน่ากลัวครับ เพราะหลายแคว้นที่เคยป้อนอาหารให้รัสเซียก็กลายเป็นประเทศอิสระแล้ว ผมอาจจะเห็นต่างจากหลายท่านที่ว่า ครั้งนี้รัสเซียควรโดนตอบโต้แบบเจ็บๆบ้าง เพราะเล่นเอากำลังเข้าไปยึดไครเมียมาดื้อๆเลย ผิดกฎหมายระหว่างประเทศเต็มๆ
จริงครับ อย่างที่เคยบอก ที่ผ่านมาเมกาจะบุกใครส่วนมากชอบไปแบบ แพ็คคู่ครับ อย่างตอนนี้ นาโต้(ยูโรโซน แคนนาดา ออสเตเลีย)กดดันรัสเซียเต็มที่จนตอนนี้เจ็บไปตามๆกัน และถึงแม้ธนาคารรัสเซีย จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้ ค่าเงินหยุดอ่อนค่าลง แต่เมกาเล่นไม้เด็ด กับไครเมียร์ คือ แทบจะทำให้แคว้นนี้ถูกโดดเดี่ยวเลยครับ ผมก็ได้แต้หวังว่า มาตรการณ์ที่จีนช่วยอัดฉีดตอนนี้จะได้ผลครับ
สำหรับผมแล้ว คิดไปอีกแบบ เกมนี้รัสเซียไม่เสียเปรียบอะไรเลย มีแต่ได้เปรียบ เพราะได้ยึดหลักประกันทางเศรษฐกิจของจริงได้แล้ว นั่นคือทองคำ ในขณะที่อเมริกาและยุโรปได้ยึดหลักประกันทาง เศรษฐกิจที่เป็นของสมมุติไว้แล้ว(เงินที่เป็นกระดาษ ขอย้ำว่ากระดาษ) ซึ่งมีมูลค่าที่แท้จริงเท่าไหร่คงไม่ต้องบอกกัน กับเกมการตัดอาหารและ การขายยุทธปัจจัยให้รัสเซีย อย่าลืมว่า จีน อินเดียก็มีอาหารขายให้รัสเซีย โดยไม่ต้องพึ่งพาอเมริกาและยุโรป เผลอๆงานนี้คงได้เห็นยุโรปแตกแถว ขายยุทธปัจจัยให้รัสเซียกันจ้าละหวั่น ไม่เชื่อลองไปถามเยอรมัน อิตาลี หรือสเปนดูก็ได้ พวกนี้เป็นพวกปากว่า ตาขยิบระดับโลกเลยเชียวแหละ
เกมนี้ที่จริงมันมี 3 ฝ่าย เฉลยผลสุดท้ายรัสเซียอยู่รอด แต่อเมริกาก็ไม่ล่มจม แต่มีฝ่ายถือไพ่รอน๊อครอบวงอยู่ ส่วนเหตุผลว่าทำไม?? ให้ไปถามจากฝ่ายที่ถือไพ่ตายเอาแล้วกัน ลั่นลา
'ประสาร'ร่วมลงนามแลกเปลี่ยนเงินหยวนและบาท ผู้ว่าการฯธปท.ลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท แต่งตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในไทย นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ร่วมลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท และบันทึกความเข้าใจด้วยการแต่งตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย กับ Ms. Hu Xiaolian รองผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Bank of China – PBC) ในวันที่ 22 ธันวาคม 2557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สำหรับความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท (Bilateral Swap Agreement) ฉบับนี้ ซึ่งกำหนดวงเงินที่ 70 พันล้านหยวน หรือ 370 พันล้านบาท มีอายุความตกลง 3 ปี จัดทำขึ้นเพื่อทดแทนความตกลงฉบับเดิมที่ได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 โดยการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทระหว่าง ธปท. และ PBC นี้ จะทำให้ธนาคารกลางทั้งสองสามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องเงินสกุลท้องถิ่นของคู่สัญญาได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจและสถาบันการเงินในการใช้เงินสกุลหยวนและบาทในการค้าและการลงทุนระหว่างกัน การแต่งตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย จะทำให้ไทยสามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องเงินหยวนของจีนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถลดต้นทุนในการทำธุรกรรมเงินหยวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศไทยและจีนได้ด้วย โดยในขั้นตอนต่อไป PBC จะเป็นผู้พิจารณาและประกาศแต่งตั้งธนาคารพาณิชย์จีนในประเทศไทยในการทำหน้าที่ชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐศาสตร์ พอรู้บ้างเล็กๆน้อยๆ ผมคิดว่าเรื่องทองที่ต้องสำรองไว้มากๆ เพราะเงินรูเบิลไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเท่าดอลลาร์ครับ สหรัฐไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย หลายท่านอาจคิดว่าเงินดอลลาร์ลดความน่าเชื่อถือลงเรื่อยๆ แต่ความจริงแล้วเมื่อไหร่ล่ะครับที่คนจะเลิกเชื่อถือ? คงไม่ใช่ในสิบหรือยี่สิบปีนี้แน่ เพราะเศรษฐกิจของอเมริกากำลังเริ่มฟื้นตัว เมื่อเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยในตลาดที่ใหญ่ขนาดนี้ ทั่วโลกก็วิ่งหาสหรัฐที่มีกำลังซื้อสูง และเงินดอลลาร์ก็มีอิทธิพลอีกครั้ง ขณะที่รัสเซียทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องเอาเงินตัวเอง( ซึ่งก็เป็นกระดาษเหมือนกันแต่ความน่าเชื่อถือน้อยกว่า ) ไปแลกทองคำ ความจริงแล้วทั้งทองคำและเงินตรา ก็เป็นเพียงสิ่งสมมุติครับ ทองคำก็แค่ก้อนโลหะ เงินตราก็แค่กระดาษ เหรียญกษาปน์ ฯลฯ ที่คนเราใช้ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่เราตกลงกันแล้วว่ายอมรับได้ ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่แท้จริงนั้น ผมมองว่าเป็นการผลิตสินค้าและบริการที่เป็นที่ต้องการครับ( ถ้าเอาตามตำราก็ ที่ดิน แรงงาน ทุน และผู้ประกอบการ ) ต้องตามดูกันต่อไปล่ะครับ ว่าอเมริกาจะบีบรัสเซียได้แค่ไหนและนานเท่าไหร่? ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมันจะฟ้องออกมาเอง ผมนึกไม่ออกว่างานนี้อเมริกามีอะไรต้องเสีย สินค้ารัสเซียมีอะไรที่อเมริกาซื้อ อาจจะมีพวกตลาดอิเล็กทรอนิกส์ที่ขายของให้ แต่ก็น้อยพอจะเสียมันไปและทดแทนด้วยที่อื่นได้ เรื่องพลังงาน ตอนนี้คงทราบดีว่าสหรัฐกำลังจะกลายเป็นผู้ส่งออกเสียเอง ดูแล้วทาง EU มากกว่าที่จะเป็นตัวตัดสิน ว่าจะเอายังไงกับรัสเซีย แอบคิดเหมือนกันว่ารัสเซียตัดแก้สขึ้นมาจะทำไง ถ้า EU หันไปซื้อจากสหรัฐกับ OPEC แทน รัสเซียได้เงิบแน่
ฝ่ายที่สามก็อยู่ในเกมนี้ด้วยครับ แต่พยายามไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ ระหว่างนี้ตัวเองก็เก็บผลประโยชน์ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่ตัวเองพร้อมก็จะออกมาล้ม 2 ฝ่ายนี้
อเมริกาอาจไม่ค่อยเป็นอะไร แต่ยุโรปนะคางเหลืองแล้ว ส่วนรัสเซียก็ได้แผลมาเหมือนกัน แต่ก็ยังมีคนสบายดีรอจับตาดูอยู่นะ http://www.now26.tv/view/30548/ผู้แพ้ในวิกฤติรัสเซีย.html
อเมริกลวงโบ๋ค่ะ หลายๆชาติหรือส่วนใหญ่แทบจะทุกชาติมองออกแล้วค่ะ ตอนนี้เมกากำลังโดนทะลวง ตอนนี้ก็อยู่ได้ด้วยความเชื่อถือแบบคุณGob ล้วนๆ และเมกาก็ต้องพยุงความเชื่อถือนี้ไว้อย่างสุดความสามารถ แต่ความเชื่อถือ โดยไม่มีความจริงรองรับ วันนึงจะล้มค่ะ ยิ่งเชื่อถือมากยิ่งล้มดัง และพาคนที่เชื่อถือให้พังไปด้วย ตอนนี้ผู้ที่เชื่อถือ ก็เลยต้องต้องช่วยเมกาพยุงความเชื่อของตัวเองไว้ แต่ก็เริ่มจะมองเห็นเค้าลางแล้วค่ะ เช่นการยอมรับค่าเงินหยวนของอังกฤษ การรวมตัวของจีน รัสเซีย อินเดีย ที่พยายามจะปลดแอกดอลล่า ก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ รักษาประเทศไทยให้รอดเหยี่ยวกาเป็นอันใช้ได้ เฮียปูสีหน้าชิวๆมากเลยค่ะ ในขณะที่คนอื่นนั่งหน้าตาเคร่งเครียด ม๋าม่า ถึงกับคิดหนักเลยทีเดียว
ผมลองมองย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์วิกฤติการเมืองในยูเครน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บุกยึดไครเมียและสงครามกลางเมือง( กบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครนตะวันออก ) แล้วพบว่า คู่กรณีกลับไม่ใช่อเมริกา แต่เป็น EU และ รัสเซีย โดยมียูเครนเป็นสถานที่ประมือ การประท้วงเกิดจากการที่รัฐบาลในตอนนั้นกำลังจะหยุดกระบวนการเข้าร่วม EU แล้วลุกลามบานปลายจนกระทั่งรัสเซียเข้าแทรกแซง นำมาสู่การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ คิดแล้วน่าเป็นห่วง EU ซะแล้ว เพราะตัวเองก็ยังมีปัญหาเศรษฐกิจ จากในคลิป ประเทศที่เจ็บหนักคือเยอรมนีที่เป็นหัวเรือใหญ่ของยูโรโซนซะด้วย แบบนี้ผมว่าไม่ต้องมองที่อเมริกาว่าจะไปก่อนหรือหลัง ต้องดูระหว่าง EU กับ รัสเซียแล้วครับ
เอาตรงๆ นะ ปูตินก็ไม่ชิวเท่าไหร่หรอก รายนั้นต่อไปซักพักก็คางเหลืองเหมือนกัน อเมริกาตอนนี้ยังไม่เป็นไร กะไว้ว่าอีก 5 ปีก็เข้าขั้นตรีทูตแล้ว ส่วนคนที่รออยู่ตอนนี้ เก็บทั้งตังค์และผลประโยชน์จากทั้ง 2 ฝ่ายอยู่
ผมเดาถูกมั้ย ว่าคุณ Ricebeanoil จีนที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ ถ้าใช่ พอจะอธิบายได้มั้ยครับว่าทำไม ผมมองว่าถ้าทะเลาะกัน กดดันแรงๆจริงๆ จีนก็ไม่ใช่ว่าจะสบายนะครับ เท่าที่เห็น จีนยังพึ่งการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศอยู่ไม่น้อย เท่าที่เห็น สิ่งที่จีนได้ตอนนี้คือได้นำเข้าพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย ซึ่งก็เซ็นสัญญามาได้สักพักแล้ว แต่อย่างอื่นผมเองก็ไม่ทราบว่าจีนจะได้อะไร?
พอจะอธิบายได้มั้ยครับ ว่าอะไรคือตัวชี้วัดว่าอเมริกากลวงโบ๋ ผมก็เห็นประเทศนี้มีกำลังซื้อสูง บริษัทดังๆ อันดับท็อปของโลกในแทบทุกสาขาอย่าง Apple, Google, Microsoft, Boeing, Lockheed Martin, ExonMobile, Chevron ฯลฯ ก็เป็นของอเมริกา ธุรกิจต่างๆมีพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่สูงมาก กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆของประเทศ ยิ่งตอนนี้พัฒนาเทคโนโลยีการขุดเจาะน้ำมันและแก้สธรรมชาติจาก shale formation ได้แล้ว ทำท่าจะเป็นผู้ส่งออกได้เสียด้วย แบบนี้ไม่น่าจะเรียกว่ากลวงโบ๋นะครับ หรือว่าประเทศนี้มีปัญหาด้านอื่นๆมากจนทำให้ขาดความน่าเชื่อถือครับ
วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม 2557 วิกฤติรูเบิล...เมื่อปูตินกลายเป็นเสือลำบาก Posted by สุทธิชัย หยุ่น , ผู้อ่าน : 0 , 13:12:24 น. หมวด : เศรษฐกิจ เมื่อเงินสกุลรูเบิลของรัสเซียดำดิ่งอย่างน่าหวาดเสียว ฐานรากแห่งระบบเศรษฐกิจที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินก่อร่างสร้างขึ้นมาตลอด 15 ปีก็กำลังทำท่าจะพังสลายได้อย่างน่ากลัว เพียงแค่สองวัน รูเบิลอ่อนค่าลง 18% เมื่อเทียบกับดอลล่าร์ และเมื่อวานนี้ก็ยังดิ่งลงต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงอย่างที่เรียกว่า free fall ที่น่าแปลกคือคะแนนนิยมของปูตินในสายตาประชาชนคนรัสเซียพุ่งสูงขึ้นอย่างยิ่งเพราะจุดยืนแข็งกร้าวของเขาในกรณียูเครน แต่ “วิกฤติรูเบิล” ครั้งนี้อาจสึกกร่อนฐานอำนาจทางการเมืองอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญมาเพราะหากเศรษฐกิจเสื่อมทรุดต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ปากท้องประชาชนถูกกระทบอย่างแรง ความนิยมชมชอบทางการเมืองก็ไม่อาจจะช่วยให้ป้องกันการล่มสลายของอำนาจที่ศูนย์กลางได้ ที่สร้างความประหลาดใจท่ามกลางวิกฤติเงินสกุลรูเบิล ธนาคารกลางรัสเซียก็ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 17% ซึ่งสูงที่สุดใน 16 ปี หากเป้าหมายคือการยับยั้งการทรุดตัวของเงินรูเบิล ความพยายามนั้นก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ยิ่งมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของปูตินซ้ำสอง ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างฮวบฮาบย่อมมีผลต่อเศรษฐกิจของรัสเซียเพราะมอสโควอาศัยรายได้จากน้ำมันเป็นหนึ่งในเสาหลัก เมื่อราคาน้ำมันดิบโลกหล่นลงไปที่ต่ำกว่า 60 เหรียญต่อบาเรลและไม่มีใครทำนายได้ว่าจะไปนิ่งที่ระดับราคาไหน, เงินรูเบิลของรัสเซียก็โหม่งโลกจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 34 รูเบิลเป็น 70 รูเบิลต่อดอลล่าร์ ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ปูตินอาศัยรายได้จากน้ำมันเป็นปัจจัยหลักในการสร้างระบบเศรษฐกิจรัสเซีย แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเช่นนี้ ก็ย่อมมีผลทางลบต่อชาวบ้านทันทีเพราะจะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยที่ทั้งครัวเรือนและธุรกิจ จึงไม่ต้องสงสัยว่าหากรัสเซียต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตีบตันฝืดเคืองในเร็ววัน ธนาคารกลางของรัสเซียคาดว่าหากราคาน้ำมันลดลงไปที่ 60 เหรียญต่อบาเรล, จีดีพีหรือผลผลิตมวลรวมของรัสเซียจะหดตัวลง 4.7% คนจะตกงาน, ธุรกิจน้อยใหญ่จะเจ๊งและการเมืองรัสเซียจะผันผวน นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศบางคนมีทฤษฎี “สมรู้ร่วมคิด” ระหว่างสหรัฐฯกับซาอุดีอาระเบียในการกดราคาน้ำมันลงต่ำถึงระดับที่จะมีผลต่อรัสเซียเพื่อกดดันปูตินให้ยอมถอยในกรณียูเครน ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม, ผมเห็นว่าปูตินจะไม่อยู่เฉย ๆ และจะต้องดิ้นออกจากมุมอับนี้อย่างสุดฤทธิ์ เพราะหากเศรษฐกิจพัง, เขาก็อยู่ไม่ได้ และหากเขาอยู่ไม่ได้, ปูตินก็จะต้องลากเอาสหรัฐฯลงไปด้วย เพราะปูตินเห็นว่าการที่สหรัฐฯกับยุโรปตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเขาเป็นการเล่นนอกเกม และจงใจที่จะบีบให้เขาตกจากอำนาจ ปูตินรู้ว่าประชาชนยังชื่นชมเขา แต่ขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าความนิยมทางการเมืองไม่อาจอยู่ยั่งยืนได้หากปากท้องของชาวบ้านเริ่มมีปัญหา หากรัสเซียมีอันต้องเข้าสู่ภาวะโคม่าทางเศรษฐกิจ ผลที่ตามมาจะไม่จำกัดแต่เพียงในประเทศ หากแต่จะส่งผลกว้างไกลไปทั่วโลก เพราะรัสเซียค้าขายและลงทุนในต่างประเทศไม่น้อย และจีนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดก็คงจะไม่อยู่เฉย ๆ ต้องหาทางเข้ามาโอบอุ้มเพื่อคานอำนาจสหรัฐฯในย่านนี้ด้วยอย่างแน่นอน ปูตินกำลังเป็นเสือลำบากที่ไม่ยอมล้มหมอนนอนเสื่อง่าย ๆ แน่นอน
ถูกต้องครับที่จีนจะได้ประโยชน์ และจะได้ยิ่งกว่านี้อีกเรื่อยๆ มาวิเคราะห์ในสภาพปัจจุบันกันก่อน อเมริกาเป็นเบอร์ 1 ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ รัสเซียเป็นเบอร์ 2 ด้านการทหารและเบอร์ที่เท่าไหร่ไม่รู้ในด้านเศรษฐกิจ จีนเป็นเบอร์ 2 ด้านเศรษฐกิจและเป็นเบอร์ 3 ด้านการทหาร เป้าหมายของแต่ละฝ่าย อเมริกาพยายามคงอำนาจเบอร์ 1 ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจไว้ต่อไปโดยไม่คู่แข่งมาเทียบเคียง รัสเซียพยายามกลับไปแข็งแกร่งอย่างน้อยก็ให้ได้เทียบเคียงกับอดีตที่เป็นผู้เท่าเทียมกับอเมริกา จีนพยายามก้าวเข้าเป็นเบอร์ 1 ทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจในอนาคต เห็นความขัดแย้งในเป้าหมายแต่ละฝ่ายไหมละครับ มันจะส่งต่อการกระทำของแต่ละฝ่ายต่อไปในอนาคต
การใช้มาตรการ QE ซ้ำแล้วซ้ำอีก แถมด้วยหนี้สาธารณะที่สูงมากๆ จนน่ากลัว อเมริกามีสมองและอาวุธที่เป็นกำลังสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนส่วนมากถึงจะไม่เชื่อมั่นในเงินกระดาษก็จำต้องเชื่อมั่นมั้งคะ หรือบริษัทดังๆที่ว่านั่น พร้อมจะโอบอุ้มรัฐบาลกลางเมื่อถึงคราว ก็ฝากความหวังของเมกาไว้ที่ shale formation แล้วกันค่ะ
ต้องขอโทษคุณ Gop ในเม้นท์นี้ด้วยนะคะ quote ความเห็นนี้พิมพ์แล้วและลบไปแล้วโดยไม่ได้ส่งเพราะอ่านทวนแล้วมันดูเป็นการกล่าวกระทบ แต่ระบบใหม่ของเสรีไทยไม่ให้ลบง่ายๆเลย พอคลิกตอบ quoat ล่าง ปรากฏว่ามันมาทั้งชุด
หมี CNN Thanong Fanclub / Alasdair Macloed ผู้เชี่ยวชาญด้านทองแห่ง GoldMoneyบอกว่า ถ้ารัสเซียประกาศว่าจะใช้ระบบมาตรฐานทองคำ ระบบการโลกตะวันตกจะล่มสลาย เขาบอกว่านี้คืออาวุธนิวเคลียร์ทางการเงินที่รัสเซียมีอยู่ ถ้าหากว่ารัสเซียประกาศว่าจะอิงค่าเงินรูเบิ้ลกับทองคำภายใต้ระบบมาตรฐานทองคำ จะทำให้เกิดความอลม่านในตลาดการเงิน คือคนจะแห่กันซื้อทอง ทิ้งดอลล่าร์ หรือทรัพย์สินกระดาษ Macloedบอกว่าเขาอยากเห็นรัสเซียประกาศใช้มาตรฐานทองคำ เพราะว่าจะได้ช่วยหยุดยั้งการพิมพ์เงินของธนาคารกลางทั้งหลายที่กำลังพิมพ์เงินอย่างเมามัน การพิมพ์เงินท้ายที่สุดจะทำให้เกิดเงินเฟ้อและค่าเงินเสื่อม คนธรรมดาจะไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อขนมปังกิน เขากล่าวเพิ่มเติมว่ามันจะเป็นการดีที่โลกตะวันตกจะเสียหายจากการใช้มาตรฐานทองคำของรัสเซียตอนนี้ ดีกว่าจะปล่อยให้ธนาคารกลางพิมพ์เงินจนในที่สุดค่าเงินไร้ค่า ปูตินประกาศแล้วว่าจะทิ้งดอลล่าร์ เพราะว่าไม่ต้องการให้เปโตรดอลล่าร์มีอิทธิพลเหนือตลาดน้ำมันโลกอีกต่อไป ทำให้รัสเซียโดนแซงชั่นกลับและค่าเงินรูเบิ้ลโดนถล่มยับ แต่ปูตินสามารถย้อนศรโลกตะวันตกได้ด้วยการประกาศใช้มาตรฐานทองคำ เลิกอิงรูเบิ้ลกับดอลล่าร์กระดาษ แต่หันมาอิงรูเบิ้ลกับทองคำแทน อีกประการหนึ่งรัสเซียสามารถเททิ้งดอลล่าร์ทั้งหมดที่มีอยู่ด้วยการเข้าไปซื้อทองในตลาดทองคำกระดาษและเรียกร้องให้ส่งมอบเป็นทองคำแท่ง (physical gold) วิธีการนี้จะทำให้พวกที่ขายทองกระดาษผิดนัดชำระทอง เพราะว่าไม่มีทองส่งมอบให้ ถ้ารัสเซียนำหน้าด้วยมาตรฐานทองคำ ประเทศอื่นๆจะแห่ทำตาม ราคาทองจะสูงขึ้นเทียบดอลล่าร์ สหรัฐฯจะมีปัญหาในการปั่นตลาดอนุพันธ์เพื่อให้ดอลล่าร์แข็ง เพราะว่าโลกตะวันตกมีทองเหลือน้อยลงไปมาก เมื่อดอลล่าร์อ่อน ดอกเบี้ยจะขึ้น และจะทำให้ตลาดการเงินแพนิคตามมา นี้คืออาวุธนิวเคลียร์ทางการเงินที่ปูตินสามารถจะใช้ได้ รออะไรอยู่? thanong 23/12/2014 http://www.silverdoctors.com/end-game-putin-may-end-ruble-…/ http://www.cnbc.com/id/102290857 ถ้าปูตินทำ... เค้าลางสงครามโลกเกิดขึ้นเห็นๆ...
กว่าจะรอถึงตอนนั้นรัสเซียก็สะบักสะบอมแล้ว คือวิธีการคิดของรัสเซียนะเจ๋งอยู่ แต่วิธีการทำนะโฉ่งฉ่างไปหน่อย รัสเซียจะถูกสหรัฐบีบไปเรื่อยๆ บริษัทในประเทศก็เริ่มร่อแร่แล้ว แล้วก็พยายามตัดขาดรัสเซียจากระบบการเงินโลก แล้วก้าวต่อมา จีนก็ออกมาจากช่วยรัสเซีย ให้กู้เงินอย่างนู้นให้ยืมเงินอย่างนี้ แต่เงินมันก็เหมือนน้ำ น้ำในรัสเซียที่เอ่อท่วมจากการขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะพยายามหาทางออก เหมือนอเมริกาตัดรัสเซียจากระบบการเงินโลก จีนจึงเป็นทางระบายของน้ำทางเดียวของรัสเซีย จะมีบริษัทนายหน้าเยอะแยะในจีน ที่ซื้อของแล้วส่งกลับไปรัสเซีย ดังนั้นอนาคตรัสเซียจะขึ้นกับจีน เมื่อ Big player ตกลงกันย่อมต้องมีการต่อรองผลประโยชน์กันแน่นอน จีนมีจุดอ่อนเรื่องเทคโนโลยีบางอย่างที่จำเป็นสำหรับมหาอำนาจเช่น เครื่องยนต์ของเครื่องบินรบ, เรือดำน้ำนิวเคลียร์ ที่จีนยังสร้างเองไม่ได้ ประเด็นนี้จะถูกหยิบยกมาต่อรองกับรัสเซียอีกครั้ง ดังนั้นเรื่องคราวนี้ รัสเซียกับอเมริการบกันให้ตาย สุดท้ายจีนได้ประโยชน์คนเดียว ดูความร่อแร่ของรัสเซียกันบ้าง http://www.now26.tv/view/30705/มูดีส์ขู่หั่นเรตติ้งเครดิต16-แบงก์รัสเซีย.html http://www.now26.tv/view/30657/รัสเซียเข้าอุ้มทรัสต์แบงก์.html http://www.now26.tv/view/30590/รัสเซียทุ่มพันล้านพยุงสายการบิน.html
ผมมองว่ารัสเซียหาเรื่องใส่ตัวเองนะ คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าการยึดไครเมียจะทำให้เกิดปัญหาตามมาขนาดนี้ เท่าที่ลองอ่านความเห็นตามเว็บภาษาอังกฤษ หลายคนชี้ไปทางเดียวกันคือรัสเซียละเมิดกฏหมายสากลถึงได้โดนแบบนี้( กรณีนี้ผมว่าแย่กว่าอเมริกาบุกอิรักเสียอีก เพราะเล่นเอาดินแดนประเทศอื่นมาเป็นของตัวเอง ) อีกปัจจัยหนึ่งคือ เศรษฐกิจรัสเซียดันไปผูกอยู่กับน้ำมันมากเกินไป ทำให้โดนโจมตีได้ง่าย ทั้งราคาน้ำมันที่ตกลงและการ sanction ทำให้สถานการณ์แย่เร็วขึ้นมาก ตอนยึดใครเมียใหม่ๆ เห็นโอบามาออกมาขู่ ผมนึกว่าเป็นแค่เสือกระดาษ กลายเป็นว่าเอาจริง แล้วยังไม่จบซะด้วย ไม่รู้ว่ารัสเซียจะอยู่ในสภาพไหนเมื่อเหตุการณ์นี้จบลง
เรื่องนี้เอาตรงๆ แล้ว EU กับอเมริกานั้นละผิดเต็มๆ ตอนโซเวียตล่มสลาย มีสัญญาใจระหว่างรัสเซียกับอเมริกาตอนนั้น คือจะไม่ดึงประเทศกลุ่มวอซอร์แพคเข้ากลุ่ม NATO แต่ก็ผิดสัญญามาเรื่อยๆ จนมาถึงคราวยูเครนนี่ละ ที่ทำให้รัสเซียทนไม่ได้ รู้ไหมละว่า เพราะอะไร
ถ้าให้เดา ก็คงเป็นเรื่องฐานทัพและระบบขีปนาวุธที่จะเข้ามาใกล้รัสเซียมากขึ้น( เข้าขั้นจ่อคอหอยเลยทีเดียว) ของพวกนี้มันเป็นเกมอยู่แล้วครับ รัสเซียต้องปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าทำอะไรก็ได้ เล่นเอาทหารไปยึดเมืองเค้าแบบนี้ก็แย่สิครับ ปล่อยให้เกิดครั้งนึงแล้วไม่ทำอะไร อดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆก็ได้ผวากันหมด การแซงชั่นจากประชาคมโลกจึงเกิดขึ้นได้โดยชอบธรรม ส่วนเรื่องสัญญา เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยนไป ผมคิดว่าทุกประเทศต้องมองผลประโยชน์กับตนเสมอ จะอยู่กับอดีตสหภาพโซเวียตที่ล่มสลายไปแล้วทำไม ในเมื่อสหภาพยุโรปให้สิ่งที่ดีกว่า คิดไปคิดมา ผมชักรู้สึกว่าปูตินเสียท่าแล้วครับ เค้าคงคิดว่าต้องคงอิทธิพลของรัสเซียเอาไว้ให้ได้ เลยพลั้งมือลงไป คิดว่าไพ่ในมือคือพลังงานจะมีอำนาจต่อรองมากพอกลับกลายเป็นดาบมาทิ่มตัวเอง เรื่องยังไม่จบ ผมจะรอดูต่อไปว่ารัสเซียจะมีแผนการเจ๋งๆออกมาหรือไม่ เคยทำให้อัสซาด เอาตัวรอดมาได้ทีนึงแล้ว คราวนี้ถึงเวลาทำให้ตัวเองรอดบ้างแล้ว
ผิดครับ ความสำคัญของยูเครนไม่ใช่แค่ฐานทัพ แต่เป็นเทคโนโลยี สมัยโซเวียต เนื่องจากยูเครนอยู่ทางใต้ของโซเวียต อากาศอุ่น จึงเป็นศูนย์วิจัยและผลิตอาวุธที่สำคัญที่สุดของโซเวียต รถถัง T-80 คือรถถังที่ดีที่สุดของโซเวียต ผลิตที่นี่ และโซเวียตเก็บไว้ใช้ประเทศเดียวเท่านั้น รถถัง OPLOT ที่ไทยซื้อจากยูเครน คือรุ่นที่พัฒนาต่อมาจากรุ่นนี้ ตอนโซเวียตแตก รัสเซียขนนักวิจัยกลับหมด แต่เอาศูนย์วิจัยและโรงงานกลับไปด้วยไม่ได้ ปัจจุบันว่ากันว่าประมาณ 30% ของอาวุธรัสเซียต้องใช้ชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตยูเครนเท่านั้น ถ้ายูเครนถูกยึดไปได้ รัสเซียก็แพ้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะรัสเซียจะผลิตอาวุธออกไม่ได้ไปพักใหญ่ๆ เลย แล้วโรงงานส่วนใหญ่ก็อยู่ฝั่งตะวันออกของยูเครน บริเวณที่เค้าตีกันอยู่นี่ละ
ผมว่าทฤษฎีนี้มันแปลกๆอยู่นะครับ รัสเซียเค้าคิดแบบนี้เลยหรือ? 1 รัสเซียเชื่อสัญญาใจ ว่าประเทศต่างๆในยุโรปตะวันออกและอดีตสหภาพโซเวียต จะไม่ไปอยู่กับ EU และ NATO. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม 2 รัสเซียยังปล่อยให้ตนเองพึ่งพาการผลิตอาวุธจากโรงงานที่อยู่นอกประเทศตัวเองมาตลอดยี่สิบกว่าปีโดยไม่มีแผนอะไรรองรับเลย 3 เมื่อรัสเซียเห็นว่ายูเครนทำท่าจะไปอยู่กับ EU รัสเซียเลือกที่จะละเมิดกฎหมายสากลโดยบุกยึดดินแดนประเทศอื่นด้วยกำลังทหารและผนวกเข้ากับดินแดนตนเอง( ขอย้ำว่าแรงกว่าอเมริกาทำกับอิรัก ) ตรงนี้มันแปลกที่ ส่วนภาคตะวันออกกลับกลายเป็นเกิดสงครามแบ่งแยกดินแดนที่ไม่แน่ว่าจะจบลงอย่างไร ถ้าฝ่ายกบฎแพ้ แบบนี้หลุดมือทุกอย่างเลยนะครับ ผมว่ารัสเซียไม่น่าเดินเกมแบบไม่รู้หมู่รู้จ่าแบบนี้ ถ้ากังวลเรื่องฐานการผลิตก็น่าจะยึดภาคตะวันออกไปเสียเลยแต่แรก ปล. ผมลองค้นคร่าวๆดูแล้ว รถถังรัสเซียที่ทันสมัยที่สุดคือ T90 รัสเซียก็ผลิตเองนะครับ
ก็ไม่รู้ละเมิดข้อไหน ไครเมียก็เป็น autonomous republic ที่เป็นเขตปกครองตนเองที่ผนวกเข้ากับยูเครนอยู่แล้ว ที่บอกว่ารัสเซียละเมิดกฎหมายสากล ก็ด้วยการที่พยายามไม่ยอมรับผลการประชามติของชาวไครเมียที่ให้แยกตัวออกจากยูเครนไปเข้ากับสหพันธรัฐเซีย แล้วก็อ้างเอาว่ารัสเซียบุกยึดไครเมียที่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนโดยไม่สนใจผลประชามติแทนเสียมากกว่า
1. ตอนนั้นเยลซินเริ่มเป็นประธานาธิบดี วอซอร์แพคยังไม่ล่ม อเมริกากับ EU ให้สัญญาแบบนี้ เยลซินจึงเลิกวอซอร์แพค 2. โซเวียตมีศูนย์ผลิตอาวุธหลายแห่ง เช่นเรือดำน้ำที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เครื่องบินและอากาศยานที่เทือกเขาอูราล ในยูเครนเป็นรถเกราะและเรือผิวน้ำ ตอนโซเวียตแตก รัสเซียก็พยายามสร้างศูนย์ต่างๆ ทดแทน แต่ในช่วงหลังโซเวียตแตกใหม่ๆ เศรษฐกิจรัสเซียล่มจมอยู่ การทดแทนจึงทำไม่ได้ทั้งหมด รัสเซียเพิ่งมาฟื้นเมื่อไม่ถึง 10 ปีมานี้ จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจึงมีเงินมากขึ้น แต่อาวุธส่วนใหญ่ก็ยังเป็นอาวุธที่ตกค้างมาจากโซเวียต ถ้าไปตามอ่านข่าวการทหารซักนิด จะรู้ว่ารัสเซียยังต้องสั่งซื้อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์จากฝรั่งเศสอยู่เลย เนื่องจากเทคโนโลยีการต่อเรือผิวน้ำไปอยู่ที่ยูเครน ตอนนี้รัสเซียพยายามฟื้นฟูเทคโนโลยีด้านที่ขาดอยู่ เรือผิวน้ำส่วนใหญ่ก็เป็นของเหลือจากยุคโซเวียต แม้จะมีโครงการสร้างเรือใหม่ แต่ยังไม่เสร็จซักลำ ทุกวันนี้แค่เอาเรือเก่ามาปรับปรุงก็ยังทำไม่แล้วเสร็จทั้งหมด ก่อนหน้านี้มีข่าวที่เรือดำน้ำรัสเซียจมในทะเลเหนือจนลูกเรือตายทั้งลำ ก็เนื่องจากการขาดงบประมาณในการซ่อมบำรุง 3. ภาคตะวันออกของยูเครนไม่เหมือนไครเมียร์ ไครเมียร์มีประชากรที่มีเชื้อสายรัสเซียอยู่มากที่สุดและมีการทำประชามติแล้วว่าจะไปอยู่กับรัสเซีย ดังนั้นการยึดไครเมียร์จึงง่ายกว่าภาคตะวันออกมาก ปล. เรื่อง T-90 มันเริ่มมาจากช่วงปลายๆ ของโซเวียตมีปัญหาด้านงบประมาณ ทำให้โซเวียตรู้ว่าการคงกำลังรถถังเพื่อยันกับฝั่ง NATO นั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบาก จึงเกิดแนวคิดแบ่งรถถังเป็น 2 เกรด เกรดดีคือ T-80 ผลิตในยูเครน เกรดแย่คือ T-72 ผลิตในรัสเซีย แล้วเอาทั้ง 2 ชนิดมาจัดเป็นหมู่เพื่อให้คงกำลังอยู่ได้ ดังนั้นเมื่อโซเวียตแตก ยูเครนจึงได้ T-80 ไป รัสเซียได้ T-72 แล้วรถถังใหม่ของรัสเซีย T-90 ก็คือรถถังรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาจาก T-72 เป็นพื้นฐาน ส่วนรถถังที่ไทยสั่งซื้อจากยูเครนคือ OPLOT หรือ T-84 ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก T-80
๑ ข้อเท็จจริงคือรัสเซียใช้กำลังทหารบุกยึดดินแดนไครเมีย ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูเครนก่อนการทำประชามติอีกครับ ๒ การลงประชามติแบบนี้ คิดอยากจะทำก็ทำได้หรือครับ? ลองคิดดูว่าถ้าประเทศไทยโดนแบบนี้ วันหนึ่งทางภาคใต้ บอกอยากรวมกับมาเลย์ขึ้นมา ทหารมาเลย์เข้ามายึดพื้นที่เอาไว้ แล้วก็ทำประชามติกัน ให้ทำกันแบบนั้นยอมรับได้มั้ยครับ?
มีความรู้สึกว่า เรื่องยึดประเทศอื่นนี่ อเมริกาทำจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่เป็นการยึดที่ดูเหมือนไม่ยึด แล้วมีข้ออ้างสวยหรูมากมาย เหมือนประชาธิปไตยในบ้านเราเลยค่ะ ที่จริงชอบคนอเมริกันนะคะ เพราะแนวคิดที่ให้ก่อนแบบไม่หวง(ไว้หวงทีหลัง)อย่างยูทูป เฟซบุค หรือกระทั่งกูเกิ้ล โดยเฉพาะกูเกิ้ลแมพนี่ เรียกว่าแทบไม่ต้องไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองเลย ส่วนหนึ่งก็อันตรายมากถ้ามีใครไปใช้ในทางที่ผิด แต่ก็เป็นประโยชน์มากสำหรับการเดินทาง
สำหรับเรื่องนี้แล้ว เห็นด้วยอย่างยิ่งกับสหายแนวร่วม และขอบอกไว้เลยว่า ในอนาคตอีก10-20ปีข้างหน้า ดุลอำนาจของโลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอเมริกันและยุโรปจะต้องมาของานและขอความช่วยเหลือจากเอเชียแน่นอน
ถ้าผมรวมตัวกันได้มากถึง 5 คน แล้วประกาศจะทำประชามติแยกตัวออกจากประเทศไทย ผลปรากฎว่า คะแนนเสียงออกมาเป็น 100% เต็มนี่ ผมจะแยกประเทศได้มั้ยครับ
1. ส่งทหารเข้าไป กับบุกยึด มันไม่เหมือนกันนะครับ ไม่งั้นอเมริกาก็บุกยึดไปหลายประเทศแล้ว 2. ไครเมีย เป็นสาธารณรัฐปกครองตัวเองนานแล้วครับ สภาก็มีเป็นของตัวเอง ไม่ได้มีสถานะเป็นจังหวัดหรือเขตปกครองของยูเครน เหมือนสก็อตแลนด์ก็ยังลงมติเพื่อออกจากสหราชอาณาจักรได้เลยครับ
สนุกดีครับ ขอแจมนิดนึงครับ เอาเฉพาะที่ตัวเองสนใจครับ ข้อความของคุณ Gop ผมเห็นต่างครับ ทองคำต่างจากกระดาษซึ่งผลิตจากต้นไม้ กระดาษเป็นสิ่งสมมุติยุคหลังที่ถูกนำมาใช้ หลังจากการพกพาทองคำจริงๆ เริ่มอันตรายและอัตราการแลกเปลี่ยนสินค้าที่ยุ่งยากขึ้น ตามกลไกทางการตลาดที่ซับซ้อนขึ้น ทองคำเป็นแร่ที่มีไม่มาก เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น ไม่ทำปฏิกริยากับอากาศ ไม่เกิดสนิมซึ่งทำให้สูญเสียน้ำหนักตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป ต่างจากแร่โลหะชนิดอื่น มีความสวยงามส่องสว่าง ทำให้กลับเป็นประกายง่าย และเมื่อถูกไฟไหม้แล้วเย็นตัวลงก็ยังเป็นทองคำอยู่ครับ นี่คือสาเหตุที่เป็นธรรมชาติว่า ทำไมทองคำจึงเป็นแร่ตัวแทนในการกำหนดคุณค่าการแลกเปลี่ยน แต่อเมริกาใช้อำนาจของตัวเองหลังสงครามโลกเอาเปรียบชาติอื่นด้วยการพิมพ์กระดาษมาทดแทนครับ แต่แรกก็อ้างว่ามีทองตัวเองค้ำ แต่เชื่อกันว่ามันไม่มีเหลือนานแล้ว เป็นการเอาเปรียบชาติอื่นมามากกว่า 50 ปี และผมเชื่อว่ามันจะมีวันจบครับ ขอบคุณครับ
1. การใช้กำลังทหารของรัสเซียมันชัดอยู่แล้วครับ ไม่ต้องตีความ เพราะรัสเซียพูดชัดเจนว่า จะผนวกดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์รัสเซีย 2. ไม่ว่าจะไครเมียจะมีความพิเศษในการปกครองอย่างไร แต่ไครเมีย ก็ยังอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของยูเครนอยู่ดีครับ ถึงจะมีรัฐธรรมนูญของตนเอง แต่ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภายูเครน แปลว่าไครเมียไม่ได้มีเอกราชอย่างสมบูรณ์ เพราะไม่มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ที่สามารถบัญญัติกฎหมายได้เอง ไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากใคร รัสเซียก็เคยลงนามยอมรับอำนาจอธิปไตยของยูเครนเหนือคาบสมุทรไครเมียไว้ปี ค.ศ. 1997 ด้วยครับ 3. ส่วนสก็อตแลนด์เค้าตกลงกันไว้ก่อนนานแล้วครับ เป็นที่ยอมรับกันทั้งสองฝ่ายครับ
1. ถ้าคุณมองว่าประชามติไม่มีผลอะไร รัสเซียก็บุกยึดไครเมียจากยูเครน แต่ถ้ามองว่าประชามติมีผลสำเร็จแล้ว รัสเซียก็แค่ส่งทหารเข้าไปเฉย ๆ แค่นั้นส่วนเข้าไปก่อนประชามติหรือไม่ ก็ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดนะครับ 2. ดินแดนของสก็อตแลนด์ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และไม่ได้มีเอกราชสมบูรณ์เหมือนกันครับไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องมีประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชหรอก ส่วนที่ตกลงกันไว้ก็ต้องถามว่าสองประเทศมาตกลงอยู่ร่วมกัน เวลาจะแยกกัน ต้องยินยอมทั้งสองฝ่ายหรือไม่ ประเทศหนึ่งจะล็อคคออีกฝ่ายบอกยังไงฉันก็ไม่ให้เธอแยกไปได้หรือไม่ ที่มาของประชามติในสก็อตแลนด์กับไครเมียอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ที่จะบอกคือเขาก็มีสิทธิในตัวเองเหมือนกันครับไม่ว่าประเทศแม่จะว่าอย่างไรก็เถอะ
ขอแทรกนิดนึงนะคะ อ่านตรงนี้แล้วแปลกใจนิดหน่อยค่ะ http://www.now26.tv/view/30548/ผู้แพ้ในวิกฤติรัสเซีย.html "เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้บริโภคสินค้าเกษตรจากยุโรปรายใหญ่เป็นอันดับ 2 มีมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ และเพียงแค่รัสเซียงดนำเข้าสินค้าเกษตรจากยุโรป ก็ทำให้เกษตรกรจำนวนมากเดือดร้อน จนสหภาพยุโรป หรืออียู ต้องจ่ายเงินชดเชย เพื่อช่วยเหลือถึง 156,000 ล้านดอลลาร์" ทำไมการจ่ายเงินชดเชยมันมากเป็น 10 เท่าของมูลค่าความเสียหายคะ หรือข่าวลงตัวเลขผิด
ยางพารา ข้าวสาร น้ำมันปาล์ม น่าจะเอาไปขายให้รัสเซียหน่อยนะ หรือติดต่อจีนให้เขาส่งให้หน่อย สงสารเขาน่ะกลัวเขาอด
มันไม่ได้แค่ตัวสินค้าอย่างเดียวนะครับ มีระบบซัพพลายเชนและการลงทุนก่อนหน้าที่จะผลิตเพื่อป้อนตลาดรัสเซียด้วยครับ ยังไม่นับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก
1. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ทหารรัสเซียเข้ายึดอาคารสำคัญ และท่าอากาศยาน ไปย้อนข่าวเก่าๆได้ครับ ถึงจะบอกเป็นกำลังไม่ทราบฝ่าย แต่มันคิดเป็นอื่นไม่ได้ เพราะยุทธโทปกรณ์ที่ทหารเหล่านี้ใช้ เป็นตามแบบของรัสเซียเปี้ยบ กองกำลังดังกล่าวและมีระบบระเบียบที่ดี ตามอย่างกองทัพทั่วไป ซึ่งเกินกว่าจะเป็นพลเรือนติดอาวุธ ต่อมาในวันที่ 16 มีนาคม ถึงมีการลงประชามติในไครเมีย ระหว่างนั้นรัสเซีย ก็แสดงท่าทีคุกคามยูเครนด้วยการซ้อมรบตามแนวชายแดนตลอด ซึ่งปกติจะไม่มีใครซ้อมรบกันตามแนวชายแดนหรอกครับ มันจะทำเพื่อนบ้านหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ด้วยเหตุเพราะในการซ้อมแต่ละครั้ง คือโยกย้ายกำลังจำนวนทหารมาก เข้าสู่บริเวณหนึ่งๆ โดยมีลักษณะเตรียมพร้อมในการใช้กำลัง 2. เรื่องสก็อตแลนด์ เป็นการสมัครใจให้ลงประชามติของทั้งสองฝ่ายครับ ฝ่ายรัฐบาลสหรราชอาณาจักร ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ถ้าผลอออกมาบอกว่าต้องแยก ก็จะยอมทำตามนั้น แล้วที่ลงประชามติในไครเมียกันนี่ เป็นการสมัครใจจริงๆของประชาชนชาวไครเมียจริงๆหรือเปล่า เพราะบางแห่งมีผู้ใช้สิทธิเกิน 100% นีมันทำได้ยังไงครับ
จะว่าไป เรื่องยิงเครื่องมาเลย์ตกนี่ น่าจะพอกันนะคะ เครื่องพลเรือนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลย รวมทั้งเครื่องที่โดนอุ้มด้วย