นักการเมืองสหรัฐฯ รับไม่ได้เบื้องหลังจัดอันดับค้ามนุษย์ ปลัดกระทรวงต่างประเทศเตรียมชี้แจงพฤหัสบดีนี้ นาย บ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ จากพรรคเดโมแครต แสดงความเห็นตำหนิการจัดอันดับการค้ามนุษย์ที่ ประกาศโดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า เป็นเรื่องน่าตกใจและไม่สามารถยอมรับได้หากเป็นจริงตามที่รอยเตอร์สอ้างจาก การสัมภาษณ์คนในรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลต่างชาติ ระบุพบว่า นักการทูตบางคนไม่ยอมรับผลการประเมินของกระทรวงต่างประเทศเรื่องความพยายาม ปราบปรามการค้ามนุษย์ของหลายประเทศ และกดดันให้เพิ่มอันดับการประเมินของ 14 ประเทศในรายงานประจำปีนี้ เช่น มาเลเซีย คิวบา จีน อินเดีย อุซเบกิสถาน เม็กซิโก โดย นายเมเนนเดซ ระบุว่า จะต้องค้นหาความจริงเรื่องนี้ โดย วันพฤหัสบดีนี้ นางซาราห์ ซีวอลล์ ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ดูแลสำนักงานปราบปรามการค้ามนุษย์จะเข้าชี้แจงรายงานดังกล่าวต่อคณะ กรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ในวุฒิสภา ด้าน มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกรัฐฟลอริดา จากพรรคริพับลิกัน และผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าวว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ทำเรื่องน่าละอายที่ปล่อยให้นักการเมืองกลุ่มหนึ่งแก้ไขรายงานการค้ามนุษย์ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ประเทศที่ยังมีการละเมิดด้านการค้ามนุษย์มายาวนาน พร้อมระบุว่าเป็นการสร้างมาตรฐานที่อันตราย ขณะที่ นายเจบ บุช อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคริพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกคน แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า โอบามา และกระทรวงต่างประเทศ ควรละอายใจที่อยู่เบื้องหลังการจัดการทางการเมืองในประเด็นการค้ามนุษย์ของ คิวบา แหล่งข่าวเผยกับรอยเตอร์สว่า นักวิเคราะห์ในสำนักงานปราบปรามการค้ามนุษย์ไม่เห็นด้วยกับนักการทูตเรื่อง อันดับการประเมิน 17 ประเทศในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม และแสดงการคัดค้านการตัดสิน แต่สามารถโต้แย้ง ชนะได้เพียง 3 ประเทศเท่านั้น ถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ตั้งสำนักงานมานาน 15 ปี ทั้งนี้ คิวบา มาเลเซีย และอุซเบกิซสถาน ถูกยกระดับท่ามกลางการคัดค้านจากเจ้าหน้าที่นักวิเคราะห์ของกลุ่มต่อต้านการ ค้ามนุษย์ หรือ J/TIP ที่มีรายงานสาธารณะระบุว่า เป็นผู้ละเมิดการค้ามนุษย์ที่ย่ำแย่ที่สุดในโลก แต่ก็ไม่เป็นผล http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=636654
เมกา มันตี 2 หน้า เก่งอยู่ครับ กับเรื่องแบบนี้ นายวอลเตอร์ ที่เคยทำงานแลด้านความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เสนอบทความพาดหัว “Saving America’s Ties with Thailand” ว่าวอชิงตันไม่ควรจะกดดันรัฐบาลไทยจนผลักไสไปอยู่กับจีน เขาเสนอว่าวิธีการคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้น รัฐบาลโอบามาควรจะต้องใช้นโยบาย “คู่ขนานสองด้าน” (dual-track approach) เขาบอกว่าการที่วอชิงตันระงับการแลกเปลี่ยนระดับสูงขณะนี้ มีแต่จะส่งผลทางลบเท่านั้น ไม่ได้ช่วยอะไรใครเลย
เมกามันเลวยังไง ผมก็ยังคิดว่ามันทำเพื่อชาติของมัน แต่คนไทยบางคนเลวด้วยการปล้นชาติไม่พอ ยังสารเลวไปจ้างคนมาทำลายชาติตัวเองอีก
เหมือนเขมรนั่นแหละครับ ตอนที่มีกรณีพิพาทกับไทยเรื่องเขาพระวิหาร ทั้งฮุนเซน ทั้งฝ่ายค้าน ด่าไทยโดยพร้อมเพรียงหมด ผลประโยชน์ชาติมาก่อน ......แต่ดันมีพวกคนไทยใจเดรัจฉานหลายตัว ช่วยเขมรผสมโรงด่าไทยแล้วโพสสะใจเวลาทหารไทยโดนยิง+โดนระเบิดขาขาดด้วยนี่ซิ อัปรีย์จริง ๆ
น้าเชครับ งั้นพ่อบ๊อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตต้องคุยกับไอ้ท่านปึ้งแล้วครับ ไอ้ท่านปึ้งบอกว่าอเมริกาเขาเป็นประเทศใหญ่ มีมาตรฐานชัดเจนแน่นอนเรื่องการจัดอันดับประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โอบามาน่าจะจ้างไอ้นี่เป็นโฆษก
ไอ้ปึ้งสนใจแค่ประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้นแหละครับ รัฐบาลสหรัฐตอบโต้ข้อสงสัยรายงานค้ามนุษย์ มาร์ก ซี โทนเนอร์ รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวาน เกี่ยวกับรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์สที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวว่า หน่วยงานที่กระทรวงต่างประเทศตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลจัดอันดับความพยายามปราบปรามการค้ามนุษย์ของทั่วโลกอย่างอิสระ ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของนักการทูตอาวุโส ซึ่งกดดันให้มีการประเมินและให้คะแนนสูงเกินจริงถึง 14 ประเทศในปีนี้ โดยมาเลเซีย คิวบา จีน อินเดีย อุซเบกิสถาน และเม็กซิโกอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับการเลื่อนอันดับดีขึ้น รองโฆษกกระทรวง ชี้แจงยืนยันว่า รายงานมีความเป็นกลางและน่าเชื่อถือ และบอกด้วยว่าความน่าเชื่อถือของรายงานขึ้นอยู่กับการรับรู้ของประชาชนต่อกระบวนการพิจารณาจัดทำรายงานว่าจะไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของปัจจัยทางการเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ในกระทรวงรวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศต่างย้ำให้ความมั่นใจเรื่องนี้ ขณะที่คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภาจะเปิดการซักถามในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศเข้าชี้แจงว่ามีการใช้เหตุผลทางการเมืองปรับอันดับรายงานการค้ามนุษย์หรือไม่ โดยนางซาราห์ ซีวอลล์ ปลัดกระทรวงต่างประเทศฝ่ายความมั่นคงพลเรือน ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน ที่กำกับดูแลแผนกปราบปรามค้ามนุษย์จะต้องตอบข้อซักถาม วุฒิสมาชิกบ็อบ เมเนนเดซ จากพรรคเดโมแครต ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ บอกว่า หากรายงานของรอยเตอร์สเป็นเรื่องจริงถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจและไม่อาจยอมรับได้ และจะต้องขุดคุ้ยเรื่องนี้อย่างละเอียดระหว่างการซักถาม นอกจากนี้ วุฒิสมาชิก มาร์โก้ รูบิโอ้ ที่เป็นคณะกรรมาธิการฯและผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน บอกด้วยว่า เป็นเรื่องน่าละอายที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาปล่อยให้มีการล็อบบี้ทางการเมืองเพื่อแก้ไขรายงานค้ามนุษย์ เอื้อประโยชน์ให้ประเทศที่มีปัญหามายาวนาน อย่าง อย่างคิวบาและมาเลเซีย มาเลเซียและคิวบาถูกเลื่อนอันดับจากกลุ่มเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 ในช่วงที่สหรัฐกำลังเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP ที่มีมาเลเซียเป็นสมาชิกด้วย และสหรัฐและคิวบาเพิ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติ วันที่โพสข่าว : 5 สค. 2558 เวลา 14:25 น. ที่มา http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=765252
ยอมรับเลยครับเรื่องนี้เป็นจุดที่ผมเห็นต่างกับเพื่อไทยจริง ๆ ดึงบางเรื่องเข้ามาเรื่องการเมืองเกินไปมันทำให้ประเทศเสียหาย ยังไงควรมีการตรวจสอบครับว่าการให้ tier.3 ครั้งนี้ ส่วนเรื่องล็อบบี้ยิสต์นี่ผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่อยากให้ UN เข้ามาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนกว่านี้ครับ
เขาคงไม่จ้างแน่นอนครับ ***ประเทศแผ่นดินเกิด มันยังเนรคุณได้ ใครจะกล้าจ้าง ***ต้องเสียค่าจ้างล่าม มาแปลคำพูดมันอีกที หรือต้องหาคนเมกา มาเป็นพ่อมันอีกคน.....ยุ่งตายห่....
UN มันอยู่ใต้ไข่ไอ้กัน ไม่รู้อะดิ ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เห็นต่างกับเพื่อไทย ก็ไม่ต้องเป็นคนกลางแล้ว โง่ เกิ๊น เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเดียวที่มันทำ
แสดงว่าเรื่องอื่น ทั้งกู้ด่วน-อมด่วน พรบ.ลักหลับ จำนำข้าว รังแกทูต ขู่ศาล ฯลฯ ท่านเห็นด้วยกับเพื่อไทยทุกเรื่อง
UN ในทางปฏิบัติมันคือลูกไล่ไอ้กันครับ มันไม่ตรวจสอบหรอก หรือแค่ตรวจพอเป็นพิธี UN เนี่ยมันก็คือ one world order ของไอ้กันครับ