ไปเจอเอาบทคำกล่าว ที่ป๋าเปลวว่าไว้นี้ ในบทความ "สีทนได้...ฝ่ายสงฆ์จะทนแค่ไหน?" ว่า… ๐๐๐ http://www.thaipost.net/?q=สีทนได้ฝ่ายสงฆ์จะทนแค่ไหน ๐๐๐ ผมว่า ทางเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการด้านกฏหมายกับ "สมีโย"... ควรท่องจำ หรือไม่ก็ จดเก็บใส่ไว้ในกระเป๋า... พอเจอตัวเป็นๆ จะได้หมดข้ออ้างว่า "ไม่รู้หรือจำ บทกล่าวลาสิกขาไม่ได้"... ขอเวลาท่องจำ อีกเดือน สองเดือน ค่อยสึก อะไรเงี๊ยะ... หรือเพื่อนๆ ว่าไง?... บทความเต็ม มีว่า... QQQ โยมบอกแล้ว......! สิ่งทำ คือสิ่งบอกความเป็น "ตัวตนแท้จริง" ในคราบซ่อน แล้ววันนี้ ก็จริงอย่างนั้น ที่ศิษย์เหลือง-ศิษย์ขาว กระเหี้ยนกระหือรือจำลองสถานการณ์ปี ๕๓ แปลงวัดเป็นสมรภูมิ เตรียมรบ ทั้งที่ไม่มีเหตุให้เป็นไปถึงขนาดนั้น และนั่น จากสิ่งที่ตัวทำเอง.... ก็ถลกหนังตัวเอง จนเห็นเนื้อใน "ปิศาจคราบนักบุญ" ล่อนจ้อน? พวกนี้ ดูจากพฤติกรรม มิจฉาสตางค์คงสมบูรณ์ แต่สัมมาสติน่าจะพร่องเอามากๆ ไม่อย่างนั้น "แดงจำแลงเหลือง" คงไม่ผลีผลามหางโผล่ให้สังคมจับได้ทันตา "คาขาว-คาเหลือง-คาแดง" ด้วยหลักฐานประจักษ์ ดังภาพว่อนสังคมออนไลน์ขณะนี้! คงชินกับการเป็นแนวร่วมระบอบทักษิณ "ทำอะไรก็ไม่ผิด" เพราะพวกเดียวกันจนเคยตัว ทั้งที่ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรัฐบาล คสช.แล้ว ก็ยังไม่ยอมม้วนหาง เลยหางโผล่ให้จับได้เร็วไปหน่อย DSI ยุคนี้ ไม่ใช่ยุคธาริต รัฐบาลยิ่งลักษณ์นะจ๊ะ เป็นยุค พ.ต.อ.ไพสิฐ ที่มี พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นรัฐมนตรียุติธรรม เมื่อเขาเดินตามบรรทัดกฎหมาย แค่เตรียมจับ "สมีโย" ที่หลบเลี่ยงหมายศาลเท่านั้นแหละ ด้วยเหิมว่า "สำนักจานบิน" ใครก็ไม่กล้าแตะมาก่อน ครั้นอำนาจรัฐบาล คสช.แตะ......... อาณาจักรจานบินจึงอหังการ ระดมสาวก ศิษย์ขาว...ดรามาพร้อมฆ่าตัวเพื่อหลวงพ่อ ศิษย์เหลือง...เดินจงกรมพลาง ขึงลวดหนาม-ติดกล้องวงจรปิดพลาง แปลงวัดเป็นค่ายรบ และในฉับพลัน.......... หน่วยรบ "แดงจำแลงขาว" ดีกรีสมรภูมิเผาบ้าน-เผาเมือง ปี ๕๒-๕๓ ตบเท้าเข้าประจำการสถานีรบค่ายธรรมกาย คราวนี้ ไม่มาในชุดแดง-ชุดดำ แต่มาในคราบ "นักรบเสื้อคลุมขาว" ที่ทำกันทั้งหมดนั่น รู้ไว้ด้วย เท่ากับกระด้างกระเดื่อง ประกาศถึงความเป็น "รัฐอิสระ" ไม่ยอมรับอำนาจกฎหมายบ้านเมือง เมื่อสิ่งทำ เปลือยเจตนาและตัวตนแท้จริง ถูกสังคมจับ-ประจาน ก็ลนลาน ยึดคำพูดนายกฯประยุทธ์ที่ว่า "ให้ทำแบบละมุน-ละม่อม" เป็นข้ออ้างว่า...สบายใจ DSI ไม่บุก แล้วรีบปรับเปลี่ยนค่ายรบ "คืนคราบวัด" นั้น ............ จะบอกให้ เหมือนที่สมีโย ร่วมฟอกทรัพย์-รับของโจรกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร นั่นแหละ การร่วมฟอกทรัพย์ เป็นกรรมสมบูรณ์แล้ว จะหยิบด้านที่ว่า "ลงขันคืนแล้ว-เจ้าทรัพย์พอใจ" ถือว่าไม่ผิด ในทางบ้านเมือง จบได้ในคดีแพ่ง แต่การร่วมฟอกทรัพย์-รับของโจร เป็นอาญาแผ่นดิน โทษคุกสูง จะจบด้วยการยอมความกันไม่ได้ และที่คืนเงิน....... ตรงนี้ ในทางพระ "สำคัญมาก" มัดทั้งคอ-ทั้งตัว สมีโย ไม่ต้องดิ้น ไม่ต้องแถกไถอีกแล้ว เพราะนั่นเท่ากับยอมรับสารภาพว่า ที่กลืนลงคอแล้วขย้อนคืน "อาตแมวร่วมฟอกทรัพย์-รับของโจร เอาของเขามาจริง"! เป็นพระ ก็ถือว่าต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระ ในทันทีที่ "มีจิตคิดเอา" นั่นแล้ว เห็นตั้งโต๊ะ เอาทนาย เอาไอ้คร่อก มาแถว่า "ลงขันคืนเงินแล้ว" พระเดชพระคุณหลวงพ่อบริสุทธิ์ ไม่ผิดนั่นน่ะ รู้ไว้ซะเลย นั่นเท่ากับช่วยตอกย้ำ-ยืนยัน พระเดชพระคุณหลวงพ่อของพวกคุณปาราชิกแล้ว พ้นจากความเป็นพระแล้ว เป็นการแถลง เร่งแก้สบง แก้จีวร แก้เสื้อแขนกระบอกเหลือง แก้ถุงตีนเหลือง ออกจากตัวสมีโย ให้เหลือแต่ตีนโตเร็วๆ ด้วยเป็นปาราชิก ผิดในข้อ "ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน" เป็นพัน-เป็นหมื่นล้าน ไม่เหลือความเป็นพระ (ตั้งนานแล้ว) พูดกันตรงๆ อาบัติปาราชิก ๔ ข้อ คือ เสพเมถุน, ลักทรัพย์, ฆ่ามนุษย์, อวดอุตริมนุสธรรม ไล่เลียงตามเรื่องราวแล้ว จะเหลือซักข้อมั้ยเนี่ย ที่สมีโยไม่ละเมิด? รวมถึงการแปลงพระธรรมวินัย ที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ให้ผิดเพี้ยนไปทางอื่น โอ..... นี่ถ้าพระอุปัชฌาย์ พระผู้ปกครองสงฆ์ และมหาเถรสมาคม ผู้คุมกฎ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เอื้อเฟื้อต่องานพระพุทธศาสนา หยิบพฤติกรรมสมีโยขึ้นมาไล่เลียงด้วยจิตสมณะแล้ว คงต้องปลงธรรมสังเวช...... และเรียกสมีโยมาตรงหน้า ให้กล่าวคำว่า..."สิกขํ ปัจจักขามิ คิหีติมัง ธาเรถะ ข้าพเจ้าขอลาสิกขา ขอให้ท่านทั้งหลาย จงจำข้าพเจ้าไว้ว่า เป็นคฤหัสถ์แล้ว" กระตุกผ้าเหลือง เฉดหัวออกไปจากวัด ห้ามบวชอีกตลอดชีวิต! ควรรู้ไว้นิดก็ดี .......... การสึกพระนี้ จะให้สึกกับพระหรือกับชาวบ้านก็ได้ เพียงให้กล่าวคำ "สละสมณเพศ" เท่านั้น บอกให้รู้ เผื่อจับสมีโยได้วันไหน DSI จะได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา ๓๐ ได้ถูก ที่ว่า....... ฉะนั้น...DSI ไม่ต้องรีบเข้าไปค้น-เข้าไปจับ อะไรที่ฝ่ายสมีโยจะยึดเป็นข้ออ้าง-เงื่อนไขภายหลัง ก็ทำซะให้ครบ ให้ถูกต้องตามขั้นตอน สมีทนนอนขาเน่าตายอยู่ได้ หรือสาวกที่มากางมุ้งนอนง้องแง้ง ทิ้งลูก-ทิ้งผัว-ทิ้งเมีย-ทิ้งงาน-ทิ้งบ้าน มาเป็นกองกำลังกันอยู่ได้ ก็ให้อยู่กันไป จะได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น! เห็นแพทยสภาเขาว่า จะจัดทีมหมอเข้าไปตรวจอาการสมีโยที่วัด ตามที่ทีมงานลูกศิษย์ไปยื่นขอไว้ราวๆ สัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า เขายื้อเวลา DSI ก็ยืดตามที่เขายื้อก็ดีเหมือนกัน คอยดูอีกซักหน่อยว่า แพทยสภาเข้าตรวจแล้ว อาการจริงๆ ของสมี มันขนาดไหนกันแน่? DSI ไปแจ้งเรื่องคดีอาญาต่อศาลสงฆ์ชั้นต้น คือระดับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่วัดเขียนเขตแล้ว หลวงปู่ ไปกล่าวโทษด้านต้องอาบัติปาราชิกต่อสงฆ์ปกครองระดับเจ้าคณะภาค ๑ ที่วัดชนะสงครามแล้ว และเมื่อวาน (๑ มิ.ย.๕๙) เห็น นายไพบูลย์ นิติตะวัน กับ ดร.มโน เลาหวณิช ก็ไปยื่นหนังสือกล่าวโทษสมีโยต้องอาบัติปาราชิก กับเจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชัยญาติฯ ถือว่าครบทุกช่อง ช่องคุกทางโลก+ทางปกครองสงฆ์ DSI ทำแล้ว ช่องสึกด้วยปาราชิก หลวงปู่พุทธอิสระ และนายไพบูลย์-ดร.มโน ก็ทำแล้ว ขั้นตอนต่อจากนี้......... ก็ "รอ" แย้โผล่จากรูให้เอาบ่วงคล้องคอ อึดอยู่ในรูได้ขนาดไหน DSI ก็ควรอึดอยู่นอกรูได้ขนาดนั้น! พวกนี้มีจริตอยู่อย่าง พอมีทุกข์ ไม่ได้วิ่งหาธรรม แต่วิ่งหาพระทำ ทำคุณไสย สาดเลือด ฝังรูป-ฝังรอย เชิดหุ่น กระทั่งเดินเกมตามดาว ตอนนี้ฮือฮา ดาวอังคารชนเสาร์ "จะเฮี้ยน" ถึงประหัต-ประหารแตกหัก พวก "แดงจำแลงขาว" หวังอาศัยสถานการณ์นี้ ล่อให้เกิดจุดปะทะ แล้วบานปลาย กะว่าบิ๊กตู่เละแน่! แต่เผอิญดาวยังยอหน้า-ยอหลัง แผนแตกด้วยถูกรู้ทัน แทนที่บิ๊กตู่ คสช.จะเละ สมีโยท่าขาจะเฟะซะก่อน ฝ่ายอาณาจักร "ออกฉาก" พอสมควรแล้ว ตอนนี้ รอดูฝ่ายศาสนจักรบ้างว่า เรื่องราวที่ยื่นเข้าไปตามขั้นตอน พระเดชพระคุณเจ้า ในฐานะ "เจ้าพนักงาน" ตามกฎหมาย จะเอื้อเฟื้อพระธรรมวินัย หรือจะอุ้มสมีโย ญาติโยมจะได้โมทนาถูก!. QQQ
บทความเก่า ขอนำเอามาเล่าใหม่... เผื่อใครๆ หลายๆท่าน อาจยังไม่ทราบ หรือยังไม่ได้อ่าน... ----------------- แฉ ฉะ ชัด ตรง...โดย..วาซาบิ ** ความสัมพันธ์ของวัดพระธรรมกาย กับ การเมือง http://hiso-zupzip.exteen.com/20120409/entry-2 ----------------- มิน่าละ ถึงได้กร่าง ได้ยื้อกัน ซ๊ะขนาด... - คดีทางธรรม ต้องรอผลจากคดีทางโลก. - มหาเถรฯ เป็นใคร ? ไม่เคยอยู่ในสายตา "ธรรมะกลาย". - ผู้รู้ในวงการสงฆ์ได้ลงความเห็นว่านี่ “เป็นการเข้ารุกคืบเข้ายึดเมืองหลวงของวัดพระธรรมกาย” เพราะนี่เป็นการสร้างแบรนด์ (Branding) โดยจัดสร้างงานบุญในนามรัฐ เอาชื่อรัฐบังหน้า ซึ่งหากใครปฏิเสธงานบุญ ก็มีแต่เสียกับเสียเท่านั้น แต่วัดพระธรรมกายก็ประสบความสำเร็จในเชิงสัญลักษณ์ ฯลฯ
ดูข่าวนิวทีวีเมื่อช่วงหัวค่ำ มีสาวกไปแจ้งความเอาผิดป๋าเปลวและคนอื่นๆ ด้วยกฎหมายคอมพิวเตอร์ โทษฐานให้ข้อมูลโกหก โดยเฉพาะข้อมูลที่ให้โทษกับธรรมกาย อันไหนจริงหรือไม่จริง วานบอกสิ ? หรือฟ้องเพื่อแก้ตัว ?
ผมว่า "พวกเขา" กำลังเบี่ยงเป้า เพื่อให้สังคม หันไปให้ความสนใจกับ เรื่องอื่นๆ มากขึ้น …..เห็นม๊ะ แค่สอง สามวัน ฟ้องไปกี่เรื่องแล้ว...