เสมา ขุนศึกรักสถาบัน ฟ้าผ่าซ้ำ! สั่งเพิกถอนใบอนุญาต-ปิด "พีซทีวี" แล้ว >>>> นี่แหละเป็นวิธีการที่ดี ในความคิดผมนะ บางคนบอกว่ากับพวกนี้ต้องจัดการทันที อันนั้นผมว่ามันจะไม่เหมาะ เพราะมันจะกลายเป็นขี้ปาก แล้วจะโดนโจมตีเยอะ มันต้องว่ากันไปแบบหลักการ ไม่ว่ากับพวก สส ก็เหมือนกัน ไม่อยากมีปัญหาให้ลำคาญใจ หรือรู้สึกว่ามันจุกจิกแบบนี้ ก็ปรับปรุงตัว เพราะการที่โดนแบบนี้ มันอึดอัดมากกว่าการฟันนะ พวกนั้นก็อยากให้ฟันฉับเลยด้วย เพราะจะเป็นแรงกระเพื่อมที่ดี แต่แบบนี้ มันบอกรำคาญชิบหาย พออารมณ์ชักเริ่มเยอะ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น คราวนี้ของจริงก็จะมา จนได้ การนับเลข เรายังต้องนับหนึ่งถึงสิบเลย ______________ จากกรณีที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ได้มีมติต่อกรณีออกอากาศรายการของช่องพีซทีวี ว่ามีเนื้อหาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีผลให้มีคำสั่งปิดสถานีเป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2558 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถรับชมได้ อีกครั้งในวันที่ 17 เมษายน 2558 โดยทางสถานีโทรทัศนืพีซทีวีได้กลับมาออกอากาศตามปกติแล้วนั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่มี พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์ เป็นประธาน ได้มีมติให้มีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ของสถานี พีซทีวี แล้ว http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430116493
ชอบรัฐบาลนี้มากกว่าของพี่มาร์กก็เพราะอย่างนี้แหละ ปล หัวหน้าต้องกล้ารับผิดชอบ ไม่ใช้ปล่อยให้ลุงสุเทพรับคนเดียว
ดีครับเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ชัดเจนดี ไม่ต้องเจ๊าะแจ๊ะ ซัดมันตรงๆไปเลย ถ้าไม่งั้นมันได้ใจ ไอ้พวกเลว มันต้องเจอแบบนี้ อยากให้เรียกตัวมันมาปรับทัศนคติสักคนละหนึ่งปีด้วยซ้ำ ไอ้พวกแกนนำสู้แล้วรวย ปล่อยลูกน้องติดคุก
รบ. มาร์ค ก้อทำได้เต็มประสิทธิภาพ ตามขั้นตอน มาร์คเองก้อรับผิด ต่างกับ รบ. ลุงตู่ ที่ไม่ทำสิ เสียของ ทำได้ขนาดนี้ ยังไม่เต็มเกจนะ มีดาบเลเซอร์ ไม่รู้จักใช้ ก้อพอๆกับดาบไฟกระพริบด้าม 10.- ถ้าจะเอาชื่อติดปกหนังสือ ลองลบชื่อบางชื่อออกจากทะเบียนราษฎร์ดูสิ พล อ. ป. อาจมีคนเข้าใจผิด เป็น จอมพล ป. ก้อได้
กสทช เตรียมเรียก ผู้บริหาร Blue sky เข้าพบด้วยนี่ อย่า 2 มาตราฐานนะครับ จะได้หนักแผ่นดินเหมือนกัน รายการถอนพิษ, รายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ และรายการข่าวฟ้ายามเย็น เนื้อหาเข้าข่ายผิดกฎชัดเจน
เป็นกสทช.เหรอครับ ถึงตัดสินแทนเขา รู้ได้ไงว่าชัดเจน สองมาตรฐานหรือไม่ขึ้นอยู่กับการชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้าชั่ว เอ็งก็ชั่ว
ควายแดงจะให้ปิดบลูสกายเหมือนกับนังปูผิดจำนำข้าวก็จะให้มาร์คผิดประกันรายได้ด้วย เอาผิดมาร์คไม่ได้ก็หาว่าสองมาตรฐาน แถมมั่วอ้างว่าปปช.ทำหลักฐานน้ำท่วม ทั้งๆที่ปปช.ไม่เคยทำและน้ำท่วมก็ฝีมือพวกตัวเองแท้ๆ
ที่พวกมึงทำคือการกดขี่เสรีภาพ ปิดทีวี=ปิดปากประชาชน มึงไม่เคยสนใจว่าประชาชนเค้าจะทำมาหากินอย่างไร ไม่ยอมให้เลือกตั้งไวๆ รอ3ปี โดยไมได้รับรู้ประชาธิปไตย มันเจตนาจะทำให้ความคิดเป็น นปช สาปสูญไปพร้อมกับการตอนของประชาธิปไตยรึไง พอประชาชนลืมเรียกร้องประชาธิปไตย ขบวนการของ นปช ก็จะอยู่โดยปราศจากปัจจัยในการดำรงชีพ มัน2มาตรฐานไม่ยุติธรรม!!
เสียงแตก! "สุภิญญา"ค้านปิด"พีซทีวี" แฉ อ้างเหตุฉุกเฉิน ลัดคิวผ่านฉลุย http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430131325 วันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ได้โพสต์ทวิตเตอร์ @supinya กล่าวถึงกรณีมติ กสท. สั่งเพิกถอนใบอนุญาตช่อง Peace TV โดยระบุว่า วันนี้เสียงกสท.เพิกถอน Peace TV ด้วย 4 : 1 ดิฉันเป็นเสียงเดียวที่ลงมติไม่เห็นชอบ พร้อมเปิดเผยความเห็นในรายละเอียดต่อไป ดิฉันเห็นว่า กสทช. ควรให้กระบวนการกฏหมายปรกติของ กสทช.คือมาตรา 37 ในการพิจารณาโทษก่อน ที่จะไปใช้ประกาศ คสช.และ MOU ตั้งแต่แรก อำนาจ กสทช. มีอยู่แล้วตามมาตรา 37 คือ เตือน ปรับขั้นต้น ปรับขั้นสูง พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต แต่ กสท.ข้ามไปใช้ประกาศ คสช.และข้อตกลงแทนแต่แรกแม้ในทางกฏหมาย กสท.จะมีสิทธิ์อ้างอำนาจประกาศ คสช.และข้อตกลงได้ แต่เนื้อหาของช่องดังกล่าวเป็นการพูดข้อมูลด้านเดียว ยังไม่ถึงขั้นปลุกปั่นยุยง ดังนั้น เท่าที่ดูเนื้อหาที่ฝ่ายมั่นคงร้องเรียนมา ถ้าจะมีความสุ่มเสี่ยงก็คือการให้ข้อมูลด้านเดียว ถ้ามีความผิดควรใช้การปรับตามมาตรา 37 ก่อน หลักการคือถ้ามีบางรายการเข้าข่ายสุ่มเสี่ยง แต่การเพิกถอนใบอนุญาต ให้ยุติทั้งสถานี ในมุมมองของดิฉันถือว่าอาจเป็นการลงโทษที่เกินสัดส่วน นางสาวสุภิญญาเห็นด้วยในหลักการว่า กสทช. ควรกำกับดูแลช่องทีวีให้เข้มขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการผลิตซ้ำความเกลียดชังและการปลุกปั่น แต่ต้องไม่เกินกว่าเหตุ การใช้อำนาจต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ไต่ระดับ ไม่ใช่จากที่ไม่ค่อยจะใช้อำนาจ กระโดดไปใช้อำนาจแบบสูงสุด ที่สำคัญต้องไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าเราดูในบริบทภาพรวมที่ กสทช.ก็อนุญาตให้ช่องอื่นๆวิจารณ์การเมือง ให้ข้อมูลด้านเดียวได้ การเพิกถอนบางสถานีอาจเข้าข่ายเลือกปฏิบัติได้ ในส่วนของกระบวนการ ปรกติเวลามีเรื่องร้องเรียนเข้ามา จะส่งให้อนุกรรมการเนื้อหากลั่นกรอง และเชิญผู้รับใบอนุญาตมาชี้แจงก่อน แต่คราวนี้ไม่มี การลงมติ 4:1 เพิกถอนใบอนุญาตช่อง PeaceTV รอบนี้ เข้ามาครั้งแรก ไม่ผ่านอนุฯ ก็ลงมติเลย อ้างเหตุฉุกเฉินในการไม่ให้ผู้รับใบอนุญาตได้ชี้แจงก่อน บอร์ด กสท.ให้เหตุผลว่าการต้องรีบตัดสินเพิกถอนใบอนุญาตช่อง PeaceTV เพราะจะมีผลกระทบร้ายแรงต่อสาธารณะ ทั้งที่ สนง.ยังไม่ได้ถอดเทปครบเลย เท่าที่ดูเนื้อหาเบื้องต้น หลักๆ คือการวิจารณ์การร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งดิฉันคิดว่าอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ แม้จะใช้ลีลาเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ข้ออ่อนคือผู้ดำเนินรายการช่อง PeaceTV ใช้วิธีพูดคนเดียว พูดข้างเดียว เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา แต่ถ้าเนื้อหายังไม่ล้ำเส้น ควรเตือนก่อนหรือถ้าบางประเด็นละเอียดอ่อนเช่นกรณีระเบิดที่สมุยที่วิจารณ์ ใส่ความรัฐบาลข้างเดียว ถ้าผิดจริงก็ควรใช้การปรับก่อนเหมือนช่องทีนิวส์ก่อนนี้ จากที่ฟัง ช่องPeaceTVไม่ได้ใช้ภาษาหยาบเหมือนอีกช่องของกลุ่มการเมืองเดียวกัน เพียงแต่เนื้อหาอาจเข้าข่ายเป็นการวิจารณ์อำนาจรัฐแบบไม่ไว้วางใจ วันนี้มีเรื่องร้องเรียนช่องTV24ด้วย ซึ่งมีการเสนอให้ปรับตามมาตรา37 และให้ กสทช.ฟ้องหมิ่นประมาทเขา แต่ดิฉันไม่เห็นด้วยข้อหลัง เลยยังไม่สรุปช่อง TV24 จริงๆก็เป็นการวิจารณ์ กสทช. และรัฐบาลในการทำงาน แต่มีประเด็นผู้ดำเนินรายการบางท่าน ใช้ภาษาที่อาจจะหยาบคาย แม้พูดในลำคอ ดังนั้น กรณีช่องTV24 ดิฉันไม่เห็นด้วยที่จะไปฟ้องหมิ่นประมาทเขา ที่เขามาวิจารณ์ กสทช. แต่ถ้าจะปรับฐานใช้ภาษาหยาบคาย ตามมาตรา37 ดิฉันเห็นด้วยจากที่ดูเนื้อหาด้วยใจเป็นธรรม ช่องการเมืองเลือกข้างทั้งสอง ยังไม่ถึงขั้นปลุกปั่น แบ่งสี หลักๆ คือวิจารณ์ผู้มีอำนาจรัฐ คนร่าง รธน. และ กสทช. อาจมีบางสิ่งที่ดูขัดรสนิยมหรือมาตรฐานจรรยาบรรณไป ถ้าผิด ก็ควรลงโทษแบบไต่ระดับ เบาไปหนักตั้งแต่แรก ที่สำคัญควรเปิดให้เขาชี้แจงก่อน เพราะความคิดเห็นทางการเมืองมันขึ้นอยู่กับดุลยพินิจมาก ไม่เหมือนเรื่องโฆษณาผิดกฏหมาย อย.ที่มีหลักเกณฑ์ความผิดชัดเจน ดังนั้นควรให้เขาชี้แจง
สงสัย สี่หมาจัญไร จะแยกแยะระหว่าง รายการตอแหล กับ รายการตีแผ่ ไม่ออก ก็คงต้องปล่อยให้จัญไรต่อไปจนกว่าจะเข้าคุกเข้าตะรางก็แล้วกัน
เรื้อนพาเพลินมากกว่ามั้ง ยกหางตัวเองยังไง ก็ไม่เห็นบอกว่าผิดยังไง เอาแต่พูดว่า กูผิดมึงก็ต้องผิด แถมอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องอีก
บ๊ะ ที่แท้ก็ สี่เรื้อนจัญไร ขาประจำเจ้าเก่านี่เอง เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนไอดี ไม่ได้ทำให้รอดคุกไปได้น้าาาาา
ปิดได้งัย ผิดนิดหน่อยเอง.... โดยพันเอก ดร. นที โพสต์รายละเอียดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Natee Sukonrat’ กรณีการเพิกถอนใบอนุญาต PEACE TV (27 เม.ย. 58) รายละเอียดดังนี้ 1. วันนี้ กสท. ได้พิจารณาข้อร้องเรียนช่องรายการพีซ ทีวี ซึ่งเป็นการพิจารณาตามบันทึกข้อตกลงที่ทาง บ. พีซ เทเลวิชั่น จำกัด กับทาง กสทช. 2. หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อ 22 พ.ค.57 ได้มีช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมจำนวนหนึ่งถูกยุติการออกอากาศตามคำสั่ง คสช. 3. เหตุของการถูกสั่งยุติการออกอากาศเนื่องมาจากช่องรายการเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศมาโดยต่อเนื่อง 4. ต่อมาช่องรายการเหล่านี้ได้รับการอนุญาตให้ออกอากาศอีกครั้งโดยจะต้องมีการยอมรับข้อตกลงกับทาง กสทช. ในการระมัดระวังการออกอากาศ 5. โดยช่องรายการตกลงที่จะไม่ออกอากาศเนื้อหาที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่น ให้เกิดความขัดแย้ง และสร้างให้เกิดความแตกแยก 6. กรณีของช่องรายการพีซ ทีวี ก็เป็นช่องรายการหนึ่งที่ได้ทำข้อตกลงดังกล่าว และได้มีข้อร้องเรียนการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อตกลงมาตามลำดับ 7. ได้มีการตักเตือน ทำความเข้าใจ ในระดับของอนุกรรมการด้านเนื้อหารายการ ของ กสทช. หลายครั้ง/หลายวาระด้วยกัน ตั้งแต่ ต.ค.57 8. แต่ พีซ ทีวี ก็ยังคงนำเสนอเนื้อหาในลักษณะเช่นเดิมจนอนุกรรมการฯ ได้เสนอ กสท. เพื่อพิจารณาข้อร้องเรียนของ พีซ ทีวี เมื่อ 23 มี.ค.58 9. โดย กสท. ได้มีมติในการประชุมเมื่อ 23 มี.ค.58 ให้ตักเตือน พีซ ทีวี เป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และที่กำหนดในข้อตกลง 10. ต่อมา พีซ ทีวี ยังคงออกอากาศรายการที่ยังขัดต่อข้อตกลงดังกล่าวอีก จนกระทั่ง กสท. ได้มีมติในการประชุมเมื่อ 30 มี.ค.58 ให้พักใช้ใบอนุญาต 11. โดยการพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการดังกล่าวส่งผลให้ พีซ ทีวี ต้องยุติการออกอากาศเนื้อหารายการตั้งแต่ 10 เม.ย.58 จนถึง 17 เม.ย.58 12. เมื่อ พีซ ทีวี ออกอากาศอีกครั้งใน 18 เม.ย.58 ก็ได้มีการออกอากาศเนื้อหาใน 18 เม.ย.58 มีเนื้อหาละเมิดต่อข้อตกลงฯ ในลักษณะเช่นเดิม 13. ดังนั้นสำนักงานได้นำเสนอวาระต่อที่ประชุม กสท. เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว ที่ประชุมจึงได้มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการฯ 14. ซึ่งมติดังกล่าว กสท. เป็นการพิจารณาตามกระบวนการมาเป็นลำดับ ด้วยการทำความเข้าใจ แจ้งเตือน พักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการฯ 15. เมื่อ กสท. ได้พิจารณาถึงการกระทำโดยถี่ถ้วนว่าเป็นลักษณะเข้าข่ายการกระทำที่เป็นความผิดซ้ำซาก ที่ประชุมจึงได้มีมติดังกล่าว http://www.prachatai.com/journal/2015/04/58997
ปรับขั้นต้น ปรับขั้นสูง พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต .....................................ตามขั้นตอนจากพักใช้แล้วต่อไปคืออะไรค้าาาา คือต้องย้อนกลับปขั้นต้นหรือค้าาาายกมันว่า แต่เนื้อหาของช่องดังกล่าวเป็นการพูดข้อมูลด้านเดียว ยังไม่ถึงขั้นปลุกปั่นยุยง..................................ถ้ามั่ง ถ้าพูดข้อมูลด้านเดียวแต่พูดทุกวันเรียกมันยังไงล่ะค ้า เตือนแล้วไม่เลิกไม่เรียกว่าปลุกปั่นยุยงหรือ ค ้า แล้วเป็นเฉพาะรายการหรือทุกรายการค ้า ที่สำคัญต้องไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าเราดูในบริบทภาพรวมที่ กสทช.ก็อนุญาตให้ช่องอื่นๆวิจารณ์การเมือง ให้ข้อมูลด้านเดียวได้ การเพิกถอนบางสถานีอาจเข้าข่ายเลือกปฏิบัติได้......................................เอาค่า เล่นมันทุกช่องค่าที่ปลุกปั่นยุยงค่า เอ๋แต่ว่าห้ามใครมั่งหรือเปล่าจ๊ะเรื่องวิจารณ์การเมืองอะค่า พีซทีวีโดนข้อหาอะไรค ้า โอ๊ย......ไปอ่านเอาเองเฮอะ อ่านใหม่อีกรอบซิ ทุกใจความแหละ เอาเรื่องนอกประเด็นมาอ้างทั้งนั้นเลย มติชนก็เนาะ คนที่เอามาแปะก็เนาะ อ่านหรือเปล่า อ่านแล้วคิดหรือเปล่า อุ๋ย ขอโทษ มติชนเค้าลงให้เสื้อแดง แปลว่าไม่ต้องคิด เล่นง่ายนะเล่นกะเสื้อแดงเนียะ
มาตราฐานอยู่ตรงไหน เหมือนตัดสินเรื่องหมิ่น ฝ่ายนึงหมิ่นบอกบริสุทธใจ ฝ่ายนึงหมิ่นสั่งคุก ไม่ต่างจากกรรมการฟุตบอลพรีเมียร์ลีค
ก็เห็นอยู่นิ ในพันทิปราชดำเนินเป็นไง ยึดล็อคอินกันทุกวันๆๆๆๆๆๆ ถิ่นตัวเองแท้ๆ กติกาเพื่อพ้องตัวเองแท้ๆ ยังไม่เคารพกัน แล้วยังเถึยงอีกด้วยนะ เฮ่ยยยยยยยย เริ่มฝึกหัดที่ตัวเองถิ่นตัวเองก่อนเป็นไง