ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ออกมายอมรับวานนี้ (7 ก.ค.) ว่า แผนจัดตั้งกองกำลังกบฏซีเรียขึ้นมาต่อกรกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ โดยขณะนี้มีนักรบฝ่ายกบฏที่เข้ารับการฝึกฝนจากสหรัฐฯ เพียง “60 คน” สหรัฐฯ ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกยุทธวิธีให้แก่กลุ่มต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียให้ได้ราวๆ 5,400 คนต่อปี ซึ่งนับเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับนโยบายของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ต้องการดึงพันธมิตรท้องถิ่นมาช่วยต่อต้านพวกหัวรุนแรง และสงวนชีวิตทหารอเมริกันจากการออกรบแนวหน้า โครงการนี้เริ่มประสบปัญหาตั้งแต่แรก โดยมีนักรบกบฏจำนวนมากที่ไม่ผ่านเกณฑ์หรือไม่ก็ขอลาออกไป สาเหตุสำคัญก็คือ โอบามา ตั้งข้อบังคับให้คนเหล่านี้ต้องออกไปช่วยกวาดล้างกลุ่มไอเอส ในขณะที่พวกกบฏต้องการจะสู้กับกองทัพรัฐบาลซีเรียมากกว่า แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับต่อคณะกรรมการด้านกิจการกองทัพแห่งวุฒิสภาว่า จำนวนนักรบกบฏซีเรียที่เข้ารับการฝึกฝนยังน้อยกว่าที่เราคาดหวังไว้มาก “เราจะพยายามให้มากกว่าเดิม เพราะตัวเลข 60 คนยังไม่น่าพอใจเอาเสียเลย เราจะทยอยหาคนเข้ามาเพิ่มอีก” คาร์เตอร์ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ อยู่ระหว่างคัดกรองนักรบกบฏราว 7,000 คนเพื่อหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการฝึก ทำเนียบขาวยอมรับว่า กองกำลังเพียง 60 คนนั้น “ไม่พอ” แต่เชื่อว่ากองทัพทำถูกต้องแล้วที่คัดเลือกบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนส่งไปเข้าค่ายฝึกในจอร์แดนและตุรกี นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่า ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ของ โอบามา ในการปราบปรามพวกไอเอสในอิรักและซีเรีย ขณะที่กองทัพอเมริกันก็กล่าวโทษกรุงแบกแดดว่าไม่จัดส่งบุคลากรเข้ามารับการฝึกมากพอ จอห์น แม็กเคน ส.ว.รีพับลิกันซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการว่าด้วยกิจการกองทัพแห่งวุฒิสภา ถือโอกาสถากถางรัฐบาล โดยชี้ว่า “ไม่มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือว่า สิ่งที่เราทำอยู่ขณะนี้จะนำไปสู่การบั่นทอนหรือทำลายกลุ่มไอเอสได้จริง อย่างที่ประธานาธิบดีได้คุยเอาไว้นานแล้ว” แม็กเคนยังกล่าวหา โอบามา ว่าเป็นพวก “หลอกตัวเองขั้นรุนแรง” ผู้นำกบฏซีเรียบางคนเคยแสดงความเป็นห่วงว่า นักรบที่เข้ารับการฝึกจากอเมริกาอาจก่อความแตกแยกให้แก่ฝ่ายกบฏ และสหรัฐฯ ไม่มีวันทำสำเร็จ หากไม่ได้มุ่งต่อกรกับกองทัพรัฐบาลซีเรียโดยตรง ด้าน ส.ว.แจ็ก รีด ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตชี้ว่า กลุ่มไอเอสยังมีกองกำลังมากที่สุดในภาคตะวันตกของซีเรีย และว่า “หากปราศจากความร่วมมือจากกบฏซีเรียสายกลางที่ยินดีจะช่วยยึดพื้นที่คืนจากไอเอส สถานการณ์ที่เป็นอยู่ก็คงยากที่จะเปลี่ยนแปลง” โอบามาได้รับฟังการสรุปรายงานจากผู้บัญชาการทหารที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันจันทร์ (6) จากนั้นก็เปิดแถลงข่าวว่า “เราจะพยายามให้มากขึ้น เพื่อฝึกฝนและติดอาวุธแก่กบฏสายกลางในซีเรีย” แต่ไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม จนถึงขณะนี้ผู้นำสหรัฐฯ ก็ยังไม่ประกาศชัดเจนว่าวอชิงตันมีแผนเพิ่มเติมอะไรหรือไม่นอกจากการส่งเสบียง อุดหนุนเงินทุน และส่งเครื่องบินขับไล่ไปช่วยปกป้องกองกำลังตัวแทนเหล่านี้ ในกรณีที่เกิดปะทะกับทหารซีเรีย คาร์เตอร์ยอมรับว่า นักรบกบฏที่ถูกเกณฑ์มาควรได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ บ้างตามสมควร แต่วอชิงตันยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอนว่าจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรบ้าง ขณะที่ แมคเคน ก็ถือโอกาสตำหนิรัฐบาลว่า “การส่งคนเข้าไปรบโดยไม่สัญญาว่าจะช่วยปกป้องพวกเขาจากระเบิดถังน้ำมันหรือไม่ เป็นเรื่องน่าอายแท้ๆ” ปล เขาเล่นอะไรกัน?
น่าแปลกใจที่กลุ่มไอเอสสามารถขยายตัว แนวร่วมไปได้ทั่วโลก โดยที่ปราศจากการยับยั้งหรือยับยั้งไม่ได้ ล่าสุดมีข่าวจะบุกอัฟกานิสถาน ทำให้จีน-รัสเซียต้องหารือกัน น่าสงสัยว่า สหรัฐฯ น่าจะหนุนไอเอสด้วย ?
ผมว่ามันหนุนทุกฝ่ายที่ซื้ออาวุธ ยิ่งรบกันมากก็ยิ่งต้องซื้ออาวุธมาก ส่วนจะขายแบบเปิดเผย หรือลับๆค่อยว่ากัน ขนาดสร้างเรื่องโกหกคนทั้งโลก เพื่อเข้าทำลายประเทศอื่น มันยังทำได้ แถมเป็นการใช้ชีวิตเพื่อนมนุษย์ เพื่อโชว์อานุภาพของอาวุธให้เห็นกันจะๆ ว่าร้ายแรง เก่งกาจขนาดไหน
ในยุคล่า อาณนิคม ใช้การ กล่าวอ้าง ใช้กำลัง ซึ่งหน้าเลย จะยึด ก็ยึด ไม่ยอม โดนยิง น่าจะประมาณนี้ " เอาเงิน และของมีค่ามา เห็นมั้ยปืน " มายุคนี้ หลอก A ให้ฆ่า B หรือส่ง C ไปช่วย A ธรรมดา รบ กัน ไม่มีใครสมบูรณ์ เมื่อปรากฎผล สุดท้าย ฝ่ายที่ได้ประโยชน์ คือ USA ส่วน A B C ไม่ได้อะไรเลย มีแต่ความเสียหาย โคบาเน ซีเรีย