เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศในวันเสาร์ (31 ต.ค.) ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย คิดเป็นวงเงินเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดรวมของความช่วยเหลือที่รัฐบาลวอชิงตันจัดส่งให้กับฝ่ายต่อต้านระบอบอัสซาด นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ การให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่ของสหรัฐฯ แก่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียในครั้งนี้ได้รับการยืนยันโดยแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ผ่านเวทีการประชุมด้านความมั่นคงส่วนภูมิภาคภายใต้ชื่อ “มานามา ไดอะล็อก” ที่จัดขึ้น ณ ประเทศบาห์เรน อย่างไรก็ดี คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่าความช่วยเหลือของสหรัฐฯในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายพุ่งเป้าไปที่ “พลเรือนซีเรีย” เป็นหลัก ทั้งการช่วยเหลือให้โรงเรียนในซีเรียสามารถเปิดการเรียนการสอนสำหรับเด็กๆ ต่อไปได้ รวมถึงการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา ตลอดจน การสนับสนุนกิจการของสื่ออิสระและภาคประชาสังคม รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่เป็นพวก “สายกลาง” ให้มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดอนาคตของประเทศซีเรีย บนพื้นฐานของการเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฏหมาย ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่ในวันศุกร์ (30 ต.ค.) ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ อนุมัติคำสั่งประจำการกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯในซีเรียเป็นครั้งแรก ถือเป็นการผ่อนปรนจุดยืนที่โอบามาเคยปฏิเสธมานาน ต่อการส่งกองกำลังทางภาคพื้นดินเข้าไปยังซีเรีย ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยังคงเดินหน้าเปิดการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียกลุ่มอื่นๆ อย่างหนักหน่วง ไม่น้อยกว่า 1,600 เป้าหมาย นับตั้งแต่ที่รัฐบาลมอสโกภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ตัดสินใจกระโจนเข้าร่วมสงครามนี้เมื่อ 1 เดือนก่อน หรือตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามาซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯโดยตำแหน่ง ได้อนุมัติในเบื้องต้นให้ส่งกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ ที่มีจำนวนมากกว่า 50 นายเล็กน้อย เข้าประจำการในพื้นที่ทางภาคเหนือของซีเรีย และความเคลื่อนไหวนี้ถูกระบุว่าเป็นการเพิ่มความพยายามของวอชิงตันในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ที่คาดว่าจะดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการส่งกองกำลังภาคพื้นดิน ร่วมด้วยการเปิดการโจมตีของเครื่องบินรบแบบ A-10 และเครื่องบินขับไล่ F-15 ที่ใช้ฐานทัพอากาศทางภาคใต้ของตุรกีเป็นฐานปฏิบัติการ ปล เอาที่สบายใจเลยครับ มะกัน เอาเงินไปให้กบฏ แล้วท่อง อิสระ รัวๆ
September 14, 2015 ถ้ากบฏภาคเหนือซีเรียน่าจะเป็นฝ่ายเคิร์ดมากกว่าเป็นกบฏซีเรียตอนกลาง เพราะกบฏสายกลางกับกลุ่มไอซิสมันก็เครือเดียวกันแค่แตกแขนงออกไป ถ้าเข้าใจไม่ผิดตอนนี้กลุ่มชาติวันตก+อเมริกาที่เคยสนับสนุนกบฏซีเรียที่อยู่ตอนกลาง ตอนนี้ย้ายน่าจะย้ายข้างไปสนับสนุนกลุ่มเคิร์ดที่อยู่ด้านเหนือของซีเรียและอิรักหมดแล้ว ความเข้าใจผมตอนนี้คือกบฏซีเรียที่อยู่ตอนกลางและฝั่งตะวันตกของประเทศกำลังถูก รัสเซียถล่มหนัก ส่วนไอซิสกำลังสู้กับฝ่ายเคิร์ดที่รุกลงมาจากภาคเหนือโดยได้รับการสนับสนุน จากฝั่งตะวันตกที่ฝ่ายตะวันตกย้ายข้างคงเพราะกบฏซีเรียพัวพันกับไอซิสแบบแนบแน่นฝ่ายตะวันตกคงกลัวเสียภาพพจน์เลยหันไปสนับสนุนเคิร์ดแทน เป็นไปได้ว่าอเมริกากับรัสเซียน่าจะตกลงกันได้ว่าแบ่งเขตกันเพื่อกันปัญหาในเขตทับซ้อน อ้างอิงเข้าใจว่าอัพเดทล่าสุด https://en.wikipedia.org/wiki/Syrian_Civil_War
คนตกงานเพียบ แต่รัฐบาลไอ้กันเอาเงินไปประเคนผู้ก่อการร้ายรัว ๆ อ้อ เดี๋ยวนี้ อัลกออิดะห์ กลุ่มเดียวกับที่ไอ้กันกล่าวหาว่าเป็นคนเอาเครื่องบินชนตึก กลายเป็นผู้ก่อการร้าย สายกลาง ในสายตาไอ้กันไปเรียบร้อยแล้วนะฮะ
ผมยังสงสัยไม่หายว่าพวกที่เอาเครื่องบินไปชนตึกในอเมริกาจนเป็นสาเหตุ ให้อัฟกานิสถานโดนอเมริกาถล่มมันคือกบฏสายกลางหรือกลุ่มไอซิสพวกนี้หรือเปล่า เพราะกลุ่มพวกนนี้มีทั้งอัลกอร์อิดะห์,นุสรา,ซุนนีห์,คริสเตียนดูมันมั่วไปหมด ตกลงอเมริกาเล่นอะไรอยู่ตีสองหน้างั้นหรือ หน้าบ้านเปิดมูลนิธิแจกของทำทานหลังบ้านซ่องโจรออกปล้นฆ่า
In order to deter the Syrian and Russian Air Forces inside the East Ghouta (collection of farms) region of rural Damascus, the U.S. backed moderate Wahhabi rebels from “Jaysh Al-Islam” (Army of Islam) and the Free Syrian Army (FSA) have placed kidnapped Alawite women in cages to protect themselves from airstrikes. The U.S. backed Syrian Opposition’s social media activists posted the photos of the six kidnapped Alawite women on Twitter, adding their extra commentary that included sectarian insults to degrade the helpless women and taunt the Syrian President Dr. Bashar Al-Assad. This is not the first time that the U.S. backed moderate rebels have used the Syrian people as human shields in order to deter airstrikes; however, this blatant disregard for human life has contradicted their alleged ethos to protect the Syrian people and put an end to the government of Dr. Bashar Al-Assad. The six women were not identified by the U.S. backed moderate rebels, but they were described by the aforementioned Islamists as Alawites, per their sectarian insults they directed towards the kidnapped civilians. เผยแพร่เมื่อ 2 พ.ย. 2015 ไม่อยากแปล สงครามต้องทำกันถึงขนาดนี้แล้วหรือ เพื่อที่จะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามมันใช่หรือถ้าใช่ถ้าจริง สำหรับผมเกินบรรยายนี่หรือมนุษย์ผู้เจริยแล้ว นักรบผู้กล้าที่มุดหลบอยู่ชายกระโปร่งผู้หญิง อะไรคือมนุษยธรรมใหนล่ะUNผู้คุ้มครองปกป้ปงชาวโลก ใหนล่ะUNHCR ที่ชอบปกป้องเหล่ามวลมนุษยชาติ ใหนล่ะพวกมนุษย์สิทธิที่ชอบอ้างเสรีภาพความเท่าเทียม เขาจะว่ากันอย่างไรกับฝ่ายประชาธิปไตยที่เขาสนับสนุนว่าดีนักดีหนา นี่หรือประชาธิปไตยที่ต้องอาศัยชายผ้าถุงผู้หญิง ข่าวเดียวกันจากรอยเตอร์ http://www.reuters.com/article/2015/11/01/us-mideast-crisis-syria-ghouta-idUSKCN0SQ2C620151101
คัดเอามาบางตอนของเนื้อหากระทู้นี้นะครับ ------------------------------------------------------------------------- เสริมสร้างศักยภาพของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่เป็นพวก “สายกลาง” ให้มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดอนาคตของประเทศซีเรีย บนพื้นฐานของการเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฏหมาย ------------------------------------------------------------------------- สรุปว่าการก่อกบฏต่อรัฐบาลประชาธิปไตย เป็นการเคารพกฎหมาย งั้น......แล้วมันมาสอดแส่เรื่องของประเทศไทยทำไม
กลุ่ม Judicial Watch ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรได้มาเกิดจากการยื่นฟ้องรัฐบาลกลางและศาลสั่งให้เปิดเผยเอกสาร โดยเป้าหมายของกลุ่มคือการสอบสวนการคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจไปในทางที่ผิด(corruption and abuse) ของรัฐบาลสหรัฐ การประเมินความสูญเสียทางการเงินยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ระหว่างปี 2003-2010 นั้นสหรัฐใช้เงินไประหว่าง 4-6 ล้านล้านดอลลาร์เงินเหล่านี้มาจากภาษีอาการของประชาชนส่วนหนึ่งต้องกู้ยืมสถาบันการเงินในประเทศมาทำสงคราม http://thaitribune.org/contents/detail/302?content_id=14662
อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับของอเมริกา (ซีไอเอ) คนหนึ่งกล่าวว่า : สภาคองเกรสได้มอบอาวุธให้แก่กลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วได้ติดอาวุธให้แก่กลุ่มดาอิช (ISIS) นั่นเอง อัลอาลัมรายงานว่า จอห์น คิเรียคู “John Kiriakou” อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ แผนกต่อสู้กับการก่อการร้ายและผู้ตรวจสอบอาวุโสของคณะกรรมการวุฒิสภาฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้ชี้ถึงประเด็นนี้โดยกล่าวว่า : กลุ่มกบฏซีเรีย FSA นั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย และการสนับสนุนกลุ่มนี้ยิ่งจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น อาวุธส่วนใหญ่ของอเมริกาที่ถูกส่งไปให้สมาชิกของกลุ่มนี้ ท้ายที่สุดก็ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มดาอิช (ISIS) ในความเป็นจริงแล้วสภาคองเกรสได้จัดสรรงบประมาณนี้ให้กับกลุ่มดาอิช (ISIS) เขากล่าวว่า : สมาชิกของกลุ่มดาอิช (ISIS) ในซีเรียสามารถเข้าถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารต่างๆ ที่ทันสมัยของอเมริกาที่ถูกมอบให้แก่กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และในอิรักก็ใช้อาวุธเหล่านี้เช่นเดียวกัน กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) จะได้รับยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาจำนวนมากที่ส่งให้กับกองกำลังติดอาวุธชาวอิรักที่ถูกฝึกโดยอเมริกา อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอผู้นี้กล่าวว่า : ความคิดของอเมริกาที่วางอยู่บนหลักการที่ว่าจะสร้าง “กลุ่มต่อต้าน (รัฐบาล) ที่สนับสนุนสันติภาพ” เพื่อให้ปกครองซีเรียแทน “ประธานาธิบดีบัชชาร์ อัลอะซัด” นั้นเป็นความคิดที่เหลวไหลและไร้แก่นสาร เขากล่าวว่า : อเมริกาไม่สมควรที่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของซีเรีย ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ในปี 2014 สภาคองเกรสของอเมริกาได้จัดสรรเงินจำนวนถึง 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อฝึกอบรมและการจัดหาอาวุธให้แก่สมาชิกของกลุ่มที่เรียกตนเองว่า “กองทัพปลดปล่อยซีเรีย” (FSA) จนถึงปี 2015 มีมากกว่าห้าพันคน http://sahibzaman.com/former-cia-officer-congress-helped-isis/
เคยมีเพื่อนสมาชิกเคยพูดไว้ว่าศาสนาอิสลามมีเกลือเป็นหนอน โดนบ่อนทำลายจากคนอิสลามด้วยกัน ทางผู้รู้ทางศาสนาอิลามเขาวิเคราะห์แต่ออกเป็นหลายประเด็น ................... โดยสังเขปเกี่ยวกับอาชญากรรมต่างๆ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาของกลุ่มดาอิช (ไอซิส) ในซีเรียและอิรัก จะประจักษ์ได้อย่างชัดเจนว่า กลุ่มก่อการร้ายนี้กำลังปฏิบัติตามแผนของลัทธิไซออนิสต์อย่างละเอียด ซึ่งจะจบลงด้วยกับชัยชนะของชาวไซออนิสต์และการถูกทำลายของประเทศอิสลาม ส่วนหนึ่งจากการดำเนินการที่สำคัญที่สุดของลัทธิไซออนิสต์ ที่กระทำการโดยใช้มือของกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ไอซิส) ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นได้ดังต่อไปนี้ : - การทำให้โลกอาหรับและชาวมุสลิมหมกมุ่นอยู่ในวิกฤตความขัดแย้งทางด้านมัซฮับ (นิกาย) อย่างไม่มีที่สิ้นสุด - การทำให้ปาเลสไตน์หลุดออกจากวงจรความสนใจของกลุ่มประเทศอาหรับและโลกอิสลาม - การสร้างศัตรูเทียมสำหรับมุสลิม โดยมีเป้าหมายที่จะปกปิดอำพรางปัญหาอิสราเอล - การทำลายพลังอำนาจของประเทศอาหรับและอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพของประเทศเหล่านี้ - การทำลายโครงสร้างทางสังคมของบรรดาประเทศอาหรับและอิสลาม โดยมีเป้าหมายในการสร้างความแตกแยกและการล่มสลายของสังคมทั้งหลาย - การทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอิสลาม - การกระทำสิ่งต่างๆ ที่ป่าเถื่อนและโยนความผิดเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของอิสลาม - การทำให้ชาวอาหรับและชาวมุสลิมอพยพพลัดถิ่นไปยังดินแดนต่างๆ - การทำลายมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศต่างๆ - การกัดเซาะและบ่อนทำลายความมั่งคั่งของมุสลิมในสงครามต่างๆ ที่ไร้สาระ - การสร้างความสิ้นหวังต่ออนาคตและความรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ให้เกิดขึ้นในหมู่มุสลิม นี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยจากอาชญากรรมต่างๆ ที่กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ไอซิส) ได้กระทำ เพื่อสนองตอบผลประโยชน์ต่างๆ ของชาวไซออนิสต์ http://sahibzaman.com/isis-zionist-who-enemyislam/ คงเหมือนพุทธ พุทธเราก็มีพวกบ่อนทำลายหาผลประโยชน์จากความเชื่อเหมือนกัน ถ้าผู้นำศาสนาไม่เข็มแข็งก็นับวันเสื่อม
จาก คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ เขียนโดย ชาญชัย คุ้มปัญญา อยากเอาบางส่วนมาแชร์ให้อ่านเป็นบางตอน .............. การเลือกตั้งเท่ากับเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของอำนาจนิยม แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ส่งเสริมผู้นำอำนาจท้องถิ่นนอกกฎหมาย กองกำลังติดอาวุธต่างๆ รวมทั้งผู้ก่อการร้าย สาเหตุสำคัญอีกข้อคือ ต่างฝ่ายต่างไม่มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาผ่านระบบรัฐสภา ชาวเคิร์ดต้องการปกครองตนเอง พวกชีอะห์ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยหลายกลุ่มต่างแก่งแย่งชิงอำนาจ ส่วนพวกซุนนีเห็นว่าพวกรัฐบาลที่นำโดยนายกฯ ชีอะห์พยายามยึดอำนาจบริหารประเทศไว้กับตนเอง ต้นปี 2014 นาย James Clapper ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ(National Intelligence) ของสหรัฐรายงานว่าฝ่ายต่อต้านมีกำลังทั้งหมด75,000 ถึง 110,000 นาย ในจำนวนนี้ 26,000 นายเป็นพวกสุดโต่ง (extremists) 7,000 นายเป็นชาวต่างประเทศกว่า 50 สัญชาติ รวมทั้งจากยุโรป กลุ่มต่อต้านสายกลางคือกลุ่มที่รัฐบาลโอบามาเปิดเผยว่าให้อาวุธ ฝึกการรบ ล่าสุดที่เป็นข่าวคือโครงการฝึกอบรมฝ่ายต่อต้านสายกลางด้วยงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ และเพิ่งยกเลิกเพราะล้มเหลว ควรบันทึกด้วยว่าโครงการดังกล่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติสนับสนุนท่วมท้น ประธานาธิบดีโอบามาถึงกับกล่าวว่าสหรัฐ “เป็นประเทศที่เข้มแข็งที่สุดเมื่อประธานาธิบดีกับวุฒิสภาทำงานร่วมกัน” สาธารณชน รวมทั้งพลเมืองอเมริกันยังไม่รู้ว่ากลุ่มที่รัฐบาลของตนสนับสนุนคือกลุ่มใดกันแน่ เมื่อสงครามกลางเมืองซีเรียดำเนินไปเรื่อยๆ รัฐบาลโอบามากับพันธมิตรชูบทบาทของฝ่ายต่อต้านสายกลาง (moderate) ในเวลาต่อมาเริ่มมีเสียงวิพากษ์ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายต่อต้านสายกลาง พวกเขามีตัวตนหรือไม่ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด (Bashar al-Assad) กล่าวตั้งแต่ต้นปี 2014 ว่าตอนนี้ฝ่ายต่อต้านไม่ได้แบ่งแยกเป็น 2 พวก คือ ไม่มีพวกสายกลาง (moderates) หรือ Free Syrian Army กับพวกสุดโต่งอีกแล้ว เนื่องจากเมื่อสองสามเดือนกองกำลังสุดโต่งได้ทำลายฐานที่มั่นสุดท้ายของพวกสายกลาง ปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียในช่วงนี้ถูกรัฐบาลโอบามากับพันธมิตรวิพากษ์ว่าไม่ได้โจมตีเฉพาะผู้ก่อการร้าย IS/ISIL/ISIS แต่โจมตีพวกฝ่ายต่อต้านสายกลางด้วย ประเด็น “ใครคือฝ่ายต่อต้านสายกลางในซีเรีย” ตัดมาจาก http://www.chanchaivision.com/
สาธารณชน รวมทั้งพลเมืองอเมริกันยังไม่รู้ว่ากลุ่มที่รัฐบาลของตนสนับสนุนคือกลุ่มใดกันแน่ เมื่อสงครามกลางเมืองซีเรียดำเนินไปเรื่อยๆ รัฐบาลโอบามากับพันธมิตรชูบทบาทของฝ่ายต่อต้านสายกลาง (moderate) ในเวลาต่อมาเริ่มมีเสียงวิพากษ์ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายต่อต้านสายกลาง พวกเขามีตัวตนหรือไม่ ผมตอบแทนพลเมืองอเมริกาก็ได้ครับ ฝ่ายต่อต้ายสายกลางคือ อัล กออิดะห์ เจ้าของผลงานถล่มตึกเวิร์ดเทรด , อัล นุสรา ที่กำลังรบกับรัฐบาลอิรักที่อเมริกาหนุนหลังอยู่ และจุดไคลแม๊กซ์คือ บางส่วนของไอ้สองกลุ่มนั้น ยอมแพ้ ISIS และเอาอาวุธที่ไอ้กันส่งให้ไปประเคนให้ถึงที่ด้วย
Conspiracy theory มีเยอะอยู่นะครับ ไซออนิสต์ทำลายอิสลาม อิสลามกำลังจะยึดครองยุโรปด้วยการขยายประชากรมุสลิมในยุโรป มุสลิมจะยึดครองประเทศไทยและทำลายล้างศาสนาพุทธ ฯลฯ มองด้วยมุมมองแบบพุทธคือต่างเกิดมาในวัฏฏสงสารแล้ว จุดสุดท้ายแห่งชีวิตต่างหนีไม่พ้นความตายกันทั้งนั้น คริสต์ อิสลาม ฮินดู พุทธ ฯลฯ ต่างก็เหมือนไก่อยู่ในสุ่มที่เขากำลังจะเอาไปฆ่า ไก่บางตัวประกาศศักดาจิกตีกันหวังจะได้พื้นที่กว้างกว่า ไม่รู้เลยว่าที่แท้ทั้งหมดก็ต้องถูกเชือดทั้งนั้น ดูๆแล้วเราก็ไม่ได้ฉลาดกว่าไก่เท่าไหร่เลย
ทฤษฎีพวกนี้ มันเกิดจากการไม่ยอมรับความจริงว่า กลุ่มชนชาวมุสลิมนั่นอ่อนแอ มีจุดอ่อน และล้าหลัง ถึงพยายามโยนความผิดให้สหรัฐฯบ้าง อิสราเอลบ้าง ไปสร้างความเกลียดชังกับเขา โดยไม่หันกลับมามองตนเองว่า ตนมีจุดอ่อนอย่างไร ถ้ามุสลิมยังเป็นอยู่อย่างนี้ ก็ไม่มีวันจะผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแบบที่พวกเขาใฝ่ฝันได้หรอกครับ
ใจเย็นท่าน ถึงส่วนตัวผมจะไม่ชอบอิลามบางอย่าง แต่ในความเป็นจริง การที่เขาจะโทษอเมริกัน ก็มีส่วนถูกคือ อเมริกาทำสงครามเสร็จก็ทิ้งปัญหาไว้ขนแต่ทองคำกับน้ำมันกลับประเทศ จริงไหมครับ?