บังเอิญไปเห็นงานตักบาตรพระ 1,111 รูปเมื่อวันก่อน จัดที่หน้าศาลากลางจังหวัด... มีทั้งเจ้าคณะจังหวัด ผู้ว่าฯ รองผู้ว่า ฯลฯ เข้าร่วมงานในสารพัดฐานะ... ดูผิวเผิน ก็เป็นเรื่องดีที่เอาข้าวของไปช่วยเหลือสงฆ์ จังหวัดชายแดนใต้... พออ่านไป อ่านมา ชักคุ้นๆขึ้นมาว่า มีโครงการที่อ้างเอา "พระชายแดนใต้"บังหน้า ของสำนักจานบินตามที่ต่างๆอยู่เป็นประจำ...และพอคลิกเข้าไปดูรูปภาพบรรยากาศในงาน ก็ถึงบางอ้อในทันที... ผมรู้สึกว่า สำนักนี้จะเริ่ม ตีเนียน มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่มีกระแสต่อต้านการเดิน "ทุดงทำใจ" เรียกเรตติ้ง หาเงินเข้าพวก และหลัง มีการจับได้ถึงการฉ้อโกงเงินจากสหกรณ์อะไรนั่นกันไปมากมาย... จึงอยากสอบถามเพื่อนๆ หรือผู้รู้ว่า... ถ้าเห็นโครงการอะไรที่นำ ผู้ชายโกนผม ห่มเหลือง เข้าร่วมเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนแล้ว ก็ให้เข้าใจได้ทันทีว่า สำนักจานบิน เป็นโต้โผ เพียงแต่ไม่ค่อยจะออกชื่อ ออกหน้า ให้ได้เห็นกันจะจะเหมือนก่อนๆ...
ตามข่าวนี้ใช่ไหมครับ อุตรดิตถ์ - “รองพ่อเมืองอุตรดิตถ์” งานเข้า ถูกปล่อยข่าวเป็นสาวก “วัดพระธรรมกาย” จัดงานใส่บาตรพระ 1,111 รูป แฉมีบังคับ อปท.จ่ายแห่งละ 2,000 บาท วันนี้ (27 พ.ค.) นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้ จ.อุตรดิตถ์เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก 2558 ระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-9 มิ.ย.นี้ โดยในวันที่ 29 พ.ค.จะมีการจัดกิจกรรมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 1,111 รูป บริเวณถนนประชานิมิตร ตั้งแต่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักถึงหน้าโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี แต่ขณะนี้ได้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวไปในทางเสียหายต่อตนว่า ข้าวสารอาหารแห้งที่จะใส่บาตรให้พระนั้นจะต้องมีมูลค่าเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท พร้อมทั้งมีการแจ้งข่าวว่าตนเป็นแม่งาน และเป็นผู้ดำเนินการจัดงานร่วมกับคณะศรัทธาของวัดพระธรรมกาย “ขอชี้แจงว่าผมไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการจัดงานครั้งนี้แต่อย่างใด และตัวผมเองก็ยังไม่เคยเดินทางไปวัดพระธรรมกายแม้แต่ครั้งเดียว และการขอรับบริจาคดังกล่าวนั้น เป็นการเชิญชวนเพื่ออำนวยความสะดวกของคณะผู้จัดงานเอง” นายสมชัยกล่าว ด้านนายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า งานครั้งนี้มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น เพราะการทำบุญจะต้องทำด้วยความศรัทธาเอง ไม่ควรระบุจำนวนเงิน 2,000 บาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็ถูกขอบริจาคแห่งละ 2,000 บาท ทั้งที่ประชาชนควรนำสิ่งของมาใส่ตามกำลังของตัวเอง และเตรียมกันมาเองไม่ใช่เตรียมไว้ให้ใส่แบบนี้ พระที่มาร่วมงานจะเอาพระมาจากไหน เพราะมีพระสงฆ์มากกว่า 1,000 รูป รายได้จากการจัดงานนำไปใช้อะไร ไม่เคยมีการชี้แจงถึงที่มาที่ไป “เรื่องนี้จึงควรมีการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะเรื่องศรัทธาควรทำตามความสมัครใจทำไม่ใช่มากำหนดให้ทำแบบนี้” นายสิทธิชัยกล่าว ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060150
อันนี้ เห็นเขาเอามาโพสต์ แป่ะไว้ให้ดู้หมือนกัน... ติดกันล่วงหน้าก่อนวันงาน นับเป็นเดือนๆ ทีเดียวเชียว...
ไหนว่าป่วย หรือบรรลุถึงขั้นแบ่งภาคได้ ภาคไปให้ปากคำDSI.....ป่วยจะเป็นจะตาย ไปไหนไม่ได้ ภาคเรี่ยไรบุญ......สบายดี ไปได้ทุกจังหวัด
เวลานิมนต์พระไปงานไหนสักงานเนี่ย ถึงพระจะไม่ได้เรียกร้อง ก็ต้องมีถวายปัจจัยกันนิดๆ หน่อยๆ แล้วพระตั้งเป็นพันๆ รูป ตีซะว่ารูปละร้อย ก็ต้องจ่ายทีเป็นแสน จะมีใครที่สามารถจ่ายได้ขนาดนั้นอีกล่ะคะ
อาหะ แล้วกุ้ยอันตพาลเดินปิดถนนครึ่งวัน เพื่อเดินขอทาน ทำไมมีปัญญาจ่ายกันครับ ถามจริง บริจาคเงินข้างถนน ให้กุ้ยอันตพาล ยึดบ้านยึดเมือง กับบริจาคให้พระ ใครได้กุศลกว่ากันครับ
อันนั้นใครจ่ายใครกันแน่คะ คือถ้ายังเชื่อว่าเขาจ้างคนมาแจกเงินเนี่ย สติสัมปชัญญะของคุณคงไม่อยู่ในระดับเท่ามนุษย์ปกติแล้วล่ะค่ะ น่าจะพอๆ กับฟองน้ำทะเล
ไม่รู้ใครไปเป่าหูชาวบ้าน พระธรรมกายที่ระนองมีกี่รูปเชียว เขา่ก็แค่ขอให้พระท้องถิ่นมาร่วมกันทำบุญตักบาตร ก็แค่นั้น ไม่นึกระนอง จะมีพวกให้เขาจูงจมูก
ปกติ การนิมนต์พระจำนวนมากมารับบาตร มักจะเป็นช่วง เทศกาลปีใหม่ ไม่ใช่จัดเป็นอีเว้นท์ตามจังหวัดต่างๆแบบนี้ จัดเพื่ออะไร
ก็ตามที่ จขกท บอกนั่นแหละ มีใคร มีหน่วยงานไหน ที่จัดงานตักบาตรพระเป็นพันเป็นหมื่นรูปได้ นอกจากเจ้านี้เจ้าเดียว ผมชอบตักบาตรหน้าบ้านมากกว่า เรียกนิมนต์ตอนเช้า เงียบๆ ไม่ต้องอะไรมาก
คนที่เป็นนักการตลาด ย่อมเชื่อว่าปริมาณย่อมดีกว่าคุณภาพ เพราะปริมาณย่อมหมายถึงรายได้ที่มากกว่า สุภาษิตโบราณที่ว่า คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด และอาจจะเพิ่มเติมว่า และเป็นเหยื่ออันโอชะ ของพวกต้มตุ๋น ได้ด้วย คำกล่าวดังว่า ยังใช้ได้ดี จนถึงปัจจุบัน และเป็นจริงเสมอ
งานเกี่ยวกับศาสนา บางที ถ้าจะให้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่หน้างานที่สร้างขึ้นมา แต่เป็นแรงศรัทธาที่มาด้วยใจ ดูอย่างงานศพหลวงพ่อคูณก็ได้ จัดแบบเรียบง่าย แต่สาธุชนมาเป็นแสน ผมว่ามุมมองที่ชาวพุทธไทยมีต่อพระสงฆ์ ต้องการอะไรที่เรียบง่าย(แต่ไม่มักง่าย)มากกว่า