สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทัศนศึกษา ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยขบวนรถไฟพระที่นั่งจากสถานีรถไฟจิตรลดาถึงสถานีสะพานแควใหญ่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ทรงทอดพระเนตรทัศนียภาพบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว และสุสานทหารสหประชาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันนี้ (16 ต.ค.58) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระที่นั่งขบวนพิเศษที่ 945 จากสถานีรถไฟจิตรลดา ถึงสถานีสะพานแควใหญ่ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อทรงนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปทัศนศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร ศูนย์สงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเก่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2558 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 คณะผู้บริหารการรถไฟสถานีสะพานแควใหญ่และข้าราชการเฝ้าฯ รับเสด็จ จากนั้นทอดพระเนตรทัศนียภาพบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่ง "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง สะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้ใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้นๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ได้ถูกทิ้งระเบิดหลายครั้งจนสะพานหักท่อนกลาง ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบันมีการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ จากนั้นในเวลา 16.10 น.ประทับรถยนต์บัสพระที่นั่งถึงพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการถวายความปลอดภัยประจำพื้นที่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และกรรมการผู้จัดการพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า เฝ้า รับเสด็จฯ จากนั้นเสด็จฯ เข้าภายในพิพิธภัณฑ์ ทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ อาทิ สภาพการสร้างทางรถไฟสายมรณะ โบกี้รถไฟ เชลยศึก ขนาดเท่าของจริง,ขบวนการวางแผนการทำงานของเชลยศึก, ภาพจำลองเชลยศึก โมเดลจำลองเส้นทางรถไฟและสภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึก อังกฤษ ออสเตรเลียและดัชท์ ทอดพระเนตรวีดีทัศน์ เรื่องการสร้างทางรถไฟสายมรณะของเชลยศึก ทอดพระเนตรห้องพยาบาล เสด็จฯ ขึ้นชั้น 2 ทอดพระเนตรอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ของเชลยศึก โมเดลการตัดเขาช่องเขาขาด ทอดพระเนตรวีดีทัศน์การระเบิดสะพาน เสด็จลงชั้น 1 ต่อจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปสุสานทหารสัมพันธมิตร ทรงราชพระดำเนินถึงสุสานทหารสัมพันธมิตร ทรงวางพวงมาลาบริเวณอนุสาวรีย์สุสานทหารสัมพันธมิตร ทอดพระเนตรบริเวณสุสานทหารสัมพันธ์มิตร สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือ "สุสานทหารสหประชาชาติ" หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า "ป่าช้าอังกฤษ" เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม ซึ่งรัฐบาลไทยและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2497 เพื่อสร้างสุสานแห่งนี้ขึ้น บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่างๆ จากนั้นประทับรถยนต์บัสพระที่นั่งเสด็จฯ กลับที่ประทับ http://www.dailynews.co.th/article/354808 http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000116204
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปทัศนศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี โอกาสนี้เสด็จลงจากขบวนรถไฟพระที่นั่ง เพื่อทอดพระเนตรวิถีชีวิตชุมชนบริเวณสถานีรถไฟ และสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ วันนี้ (16 ต.ค.58) ที่สถานีรถไฟจังหวัดนครปฐม นายชิชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ ประชาชน นักเรียน กลุ่มสตรี และอาสาสมัคร ในจังหวัดนครปฐม ได้มาเตรียมการเพื่อรอรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จพระราชดำเนินนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปทัศนศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร ศูนย์สงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเก่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2558 โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ประทับรถไฟพระที่นั่ง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดถวายเสด็จฯไปยังจังหวัดกาญจนบุรี โดยขบวนรถไฟพระที่นั่งถึงสถานีนครปฐม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยตามกำหนดการ เวลา 12.40 น.ขบวนรถไฟพระที่นั่งหยุดขบวนชั่วคราวประมาณ 20 นาที เสด็จลงจากขบวนรถไฟพระที่นั่งเพื่อทอดพระเนตรวิถีชีวิตชุมชนบริเวณสถานี ทอดพระเนตรนิทรรศการและทรงสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ และทรงประทับ ณ สถานีรถไฟ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 7 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และข้าราชการเฝ้ารับเสด็จ จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประทับรถไฟพระที่นั่งเสด็จฯ ไปสถานีชุมทางหนองปลาดุกต่อไป ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางในจังหวัดนครปฐม ทั้งพื้นที่อำเภอพุทธมณฑล อำเภอนครชัยศรี และอำเภอเมืองนครปฐม ทุกสถานนี้ได้มีการจัดสถานให้ประชาชนมารอรับเสด็จฯ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความปิติและต้องการเห็นพระพักตร์ของพระองค์ที่ทรงเสด็จผ่านในสถานีต่างๆ ที่ขบวนได้เคลื่อนผ่าน กระทั่งเวลา 13.23 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระที่นั่งขบวนพิเศษที่ 945 สถานีรถไฟจิตรลดา ถึงสถานีรถไฟสะพานแควใหญ่ เพื่อนำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปทัศนศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร ศูนย์สงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมา รี ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเก่า อุทยานแห่งชาติไทรโยค ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2558 โอกาสนี้ เสด็จลงจากขบวนรถไฟพระที่นั่ง ณ สถานีรถไฟนครปฐม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 7 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และข้าราชการเฝ้ารับเสด็จฯ ในการนี้ทอดพระเนตรนิทรรศการประวัติศาสตร์ทวารวดีศรีนครปฐม จากนั้นทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ และทอดพระเนตรวิถีชีวิตชุมชนบริเวณสถานีรถไฟนครปฐม หลังจากนั้นประทับรถไฟพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนิน ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี
ประมวลภาพการเสด็จฯโดยรถไฟพระที่นั่งครับ ขอบคุณรูปภาพจาก http://instagram.com/lovekingbhumibol/ http://instagram.com/thairoyalfamilynews/ https://www.facebook.com/MahaChakriSirindhorn?fref=ts http://www.dailynews.co.th/article/354808
รถไฟพระที่นั่งคันปัจจุบัน ทางรัฐบาลมอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดหาในปี พ.ศ. 2506 จัดสร้างโดยบริษัท Cravens England รถทั้ง 2 คันสร้างด้วยเหล็กชนิดเบา ใช้แคร่รับน้ำหนักที่ทันสมัย สามารถใช้ความเร็วได้ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดนจัดหารถพระที่นั่งใหม่จำนวน 3 คัน เพื่อทดแทนรถพระที่นั่ง 2 คันแรกที่ปลดระวางไป โดยทั้ง 3 คัน ประกอบด้วย 1. รถพระที่นั่งประทับกลางวัน (พนก.) : His Majesty's Day Saloon 2. รถพระที่นั่งกลางวันและบรรทม (พกท.) : Royal Day and Night Saloon 3. รถพระที่นั่งบรรทม (พนท.) : His Majesty's Royal Night Saloon) ภายในตกแต่งด้วยเครื่องเรือน และเครื่องประดับที่วิจิตรงดงาม เช่นเดียวกับรถพระที่นั่ง 2 คันแรก โดยรถพระที่นั่งกลางวัน และรถพระที่นั่งบรรทม มีรูปแบบการตกแต่งคล้ายคลึงกับคันเดิม รวมค่าก่อสร้าง 695,030 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14 ล้านบาท ในขณะนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจแห่งพระประมุขของประเทศ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงดูแลทุกข์สุขของเหล่าอาณาประชาราษฎร์ตามภูมิภาคต่างๆ จึงได้ถวายรถพระที่นั่งชุดใหม่ทั้ง 3 คัน เป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2510 เวลา 12.00น. จากสถานีชุมทางทุ่งสง ถึง สถานีหัวหิน ในคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดภาคใต้
http://picpost.rbvariety.com/content-activities/58-07.html พสกนิกรชาวราชบุรี ปลื้มปิติเฝ้าฯรับเสด็จ“สมเด็จพระเทพฯ” เมื่อเวลา 13.15 น. โดยประมาณ ของ วันที่ 16 ตุลาคม 2558 พสกนิกรชาวราชบุรี ได้เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ โดยรถไฟพระที่นั่ง พร้อมโบกพระหัตถ์ นำคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทัศนศึกษา จ.กาญจนบุรี โดยได้หยุดแวะที่สถานีชุมทางหนองปลาดุก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทั้งนี้ มีประชาชน เฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก
ที่ประทับภายในรถไฟพระที่นั่ง ในการเสด็จทางรถไฟไปจังหวัดกาญจนบุรี บรรยากาศสองข้างทางรถไฟ มีประชาชนมารอรับเสด็จขบวนรถไฟพระที่นั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กันอย่างเนืองแน่น ภาพจาก FB โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ https://www.facebook.com/pages/โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ/222323771159492?fref=nf
"แกงเขียวหวานไก่ แกงพะแนงหมู" 2 ใน 4 เมนูข้าวแกงกระทงสถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก ที่ได้รับการเลือกทำถวายเป็นเครื่องเสวยของสมเด็จพระเทพราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และคณะผู้ที่ติดตามเสด็จฯ ในการเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟไปจังหวัดกาญจนบุรี ผลไม้และสิ่งของต่างๆที่ประชาชนนำมาถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภาพจาก FB โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ https://www.facebook.com/pages/โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ/222323771159492?fref=nf
Democrat Party, Thailand ชาวบ้านปลาบปลื้ม “พระเทพ“ พระราชทานอาหารกล่อง ส่งคืนของลืมติดทูลเกล้าฯ ถวาย . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นางพงษ์ลดา เครือวัลย์ ชาวบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทูลเกล้าฯ ถวายกล้วยน้ำว้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะขบวนรถไฟพระที่นั่งพิเศษไปทัศนศึกษาที่จังหวัดกาญจนบุรีผ่านสถานีชุมทางหนองปลาดุก ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี . แต่ได้ลืมกุญแจรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ไว้ในตระกร้ากล้วยน้ำว้าด้วย ภายหลัง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงให้เจ้าหน้าที่นำสิ่งของที่ลืมไว้ ส่งกลับคืน พร้อมพระราชทานอาหารกล่องและผลไม้ให้แก่ นางพงษ์ลดา ด้วย . นางพงษ์ลดา กล่าวว่า ในวันเสด็จฯ ทางรถไฟพระที่นั่งกลุ่มสตรีตำบลหนองปลาดุก ขอความร่วมมือให้ร่วมกันแต่งกายชุดผ้าไทยไปขายของที่สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุกแบบวิถีชิวิตชุมชนดั้งเดิม . ระหว่างเดินมาถึงตู้ขบวนพระที่นั่งได้เห็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีประทับอยู่ ขณะเตรียมเดินต่อ เจ้าหน้าที่ติดตามพระองค์ได้เรียกให้หยุด . สักพักมีการเปิดหน้าต่าง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยื่นพระหัตถ์มารับกระจาดไข่ ตนหันไปมองหาน้องสาวที่กำลังตามมาถือกระจาดกล้วยน้ำว้า จึงนำกระจาดกล้วยน้ำว้าทูลเกล้าฯ ถวายพระองค์ท่าน ปรากฏว่ามีกุญแจรถยนต์ ลิปสติก และโทรศัพท์มือถืออยู่ในกระจาดกล้วยน้ำว้าติดไปด้วย . นางพงษ์ลดา กล่าวว่า หลังถวายตะกร้ากล้วยน้ำว้า ซึ่งมีกุญแจรถยนต์ ลิปสติกและโทรศัพท์อยู่ในตะกร้าที่ถวายไปด้วย ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่การรถไฟที่สถานีชุมทางหนองปลาดุก ไม่มีคนรับสาย แต่ตนคิดว่าคงไม่เป็นไร . ต่อมาเวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาบอกน้องสาวว่า ให้มารับของที่สถานีชุมทางหนองปลาดุก พอมาถึงพบเจ้าหน้าที่ผู้ติดตาม 5 คน กำลังรออยู่ที่ขบวนรถไฟแจ้งว่า มีสิ่งของพระราชทานมาพร้อมกับของที่ได้ลืมไว้ สิ่งของพระราชทานมาให้ประกอบด้วยซาลาเปาใส่กล่อง 2 ลูก พร้อมกระดาษทิชชูมีตราเครื่องหมายสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ข้าวเหนียวไก่ย่างใส่กล่อง น้ำส้มกล่อง ใส่กล่องใหญ่มาให้ . "พอทราบว่าพระองค์ได้พระราชทานให้ รู้สึกปลาบปลื้มและดีใจมาก พร้อมนำสิ่งของพระราชทานยกขึ้นเหนือศีรษะ และกล่าวว่าทรงพระเจริญ และได้เรียกครอบครัว พี่น้องมาช่วยกันรับประทานคนละนิดคนละหน่อย เพื่อความเป็นสิริมงคล กระดาษทิชชูที่มีตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ท่าน จะเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต และครอบครัวที่ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่านและยังทรงมีพระเมตตาพระราชทานส่งสิ่งของที่ลืมไว้กลับคืนนับเป็นมงคลแก่ครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้" ขอบคุณข้อมูลจาก http://bit.ly/1ZN88D1