ผมขอคัดลอกมาวางแค่บางส่วนนะครับ พอดีใช้คอมฯของหลาน เลยทำไม่ค่อยถูก ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในฐานะ นักศึกษาวิทยาลัยปัองกันราชอาณาจักร-วปอ.รุ่น9เลขที่ 580 ได้ ขึ้นเวที กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน 60ปี วันสถาปนา วปอ. "พล.อ.เปรม" บอกจะไม่ทนแล้ว เด็ดขาด เสนอตั้ง "ศาลฉ้อราษฎร์บังหลวง" แยกคดีโกง ออกมาทำให้เร็วขึ้น ลดขั้นตอน แนะต้องใข้แบบทหารม้า "รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด" จัดการพวกศัตรูของแผ่นดิน หมายตา หมายหัว ทำลายให้หายไปจากแผ่นดินของเรา ยันพวกสันดานขี้โกง ต้องนำมาลงโทษให้ได้ แนะต้องช่วยกันสร้างคนดีเยอะๆ เพื่อเบียดคนไม่ดี ให้ตกเวทีไปเลย บอกเหม็นกลิ่นคนโกง ต้องอยู่ไกลๆ เดี๋ยวเขื้อโรคชี้โกงติด/ เผยเคยถามคนเกี่ยวข้อง ทำไมบางคดีโกงทำช้ามาก อ้างติดขั้นตอน เผยคนโกง ทำขาติไทยขายหน้า ติดอันดับโกง" ผมทนไม่ได้ และจะไม่ทน" ยุ เปิดโปงคนโกง ชี้หน้า คนรวยแต่โกง อย่าไหว้ ต่อให้มีบารมีมากแค่ไหน ใหญ่แค่ไหน ต้องลงโทษ
http://www.komchadluek.net/detail/20150202/200633.html การเมือง : ข่าวทั่วไป วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 'ป๋าเปรม'เสนอตั้งศาลจัดการคนโกง 'ป๋าเปรม' เสนอตั้งศาลฉ้อราษฎร์บังหลวง ลดขั้นตอนจัดการคนโกง ยึดมอตโต้ทหารม้า 'รวดเร็ว-รุนแรง-เด็ดขาด' ชี้โกงเป็นสันดาน เชื้อโรคพาชาติขายหน้า ลั่นไม่ยอมทนอีกแล้ว 2 ก.พ. 58 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นองค์ปาฐกในการปาฐกถาพิเศษ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ครบรอบ 60 ปี โดยมี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พล.อ.บุญสร้าง เนียบประดิษฐ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ทั้งนี้ พล.อ.เปรม ได้กล่าวปาฐกถา ในตอนหนึ่งว่า ที่จริงตนอายุมากแล้ว และเป็นคนโบราณด้วยซ้ำไป แต่คงไม่แก่จนกระทั่งเรียกว่าคนแก่รกแผ่นดิน ในวันนี้ไม่ได้มีการกำหนดหัวข้อในการพูด แต่ได้มีการปรึกษาว่าจะขอพูดถึงเรื่องที่ตนชอบเรียกเสมอเรื่องการโกงชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเกียจที่สุด และคิดว่าพวกเราคงเกียจที่สุดเหมือนกัน และขอตั้งหัวข้อในการพูดว่า เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยตนเคยใช้เป็นหัวข้อในการพูดครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2549 ที่ จ.ขอนแก่น ก็มีคนไปฟังพอสมควร แต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน พล.อ.เปรม กล่าวว่า บางคนบอกตนเอาเรื่องอะไรก็ไม่รู้มาพูด ไม่น่าสนใจ แต่ตนมั่นใจว่าหัวข้อที่ตนจะพูดเรื่องเกิดมาต้องตอบแทนพระคุณแผ่นดินคงไม่มีหลักสูตรใน วปอ. เพราะ วปอ.เน้นการวิเคราะห์เรื่องใหญ่ๆ ยากๆ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นต้น ตนจึงขออนุญาตเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ถึงแม้จะไม่ใช่ยุทธศาสตร์ชาติ แต่เป็นเรื่องของชาติเหมือนกัน จะมีในหลักสูตร วปอ.หรือไม่มีก็แล้วแต่ แต่ตนคิดว่าหลักการของชาติเป็นเรื่องสำคัญ และถือเป็นความมั่นคงของชาติ วปอ.ของเราสร้างคนให้รู้จักเรื่องของความมั่นคงแห่งชาติที่ตนจะพูดให้เพื่อนๆ ทั้งหลายได้รับฟัง ตนจะพูดเท่าที่ตนรู้ เท่าที่ตนคิด และเท่าที่ตนเกลียดชังการโกงชาติให้ท่านฟัง ส่วนพวกเราจะคิดอย่างไรตนไม่สามารถเดาได้ แต่ตนคิดว่าชาติบ้านเมืองของเรามีปัญหา 2 อย่าง คือ 1. เรื่องความยากจน ถือเป็นภาระของรัฐบาล รัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาล ที่ทำหน้าที่อยู่ที่ต้องช่วยกันคือ ช่วยกันแก้ 2. เรื่องการโกงชาติ ซึ่งถือเป็นภาระของเรา คนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันใส่ใจช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไรกับปัญหาโกงชาติ ที่จริงแล้วการโกงชาติเป็นหน้าที่ของเราทุกคนต้องดูแล ให้คนไทยโกงชาติให้น้อยลง ทำอย่างไรเราถึงจะไปบอกให้คนโกงชาติให้ทำน้อยลง ตนคิดว่าเป็นหน้าที่ของเราทุกคนในการดูแลเรื่องนี้ ตนคิดว่าต้องสอนให้คนรู้จักตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน และไม่ใช่เพียงรู้จักอย่างเดียวต้องทำด้วย และหากทำได้ ตนก็ชื่นใจว่าคนโกงชาติจะน้อยลง พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า การตอบแทนบุญคุณแผ่นดินทำไม่ยาก ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องลงทุน ไม่มีกำไร หรือขาดทุน คือการทำตัวให้เป็นคนดี หากคนในชาติเป็นคนดีก็ไม่มีการโกงชาติ การเป็นคนดีทำอย่างไรถึงจะเป็นคนดีง่ายนิดเดียว คือ ไม่ทำความชั่ว พระพุทธเจ้าสอนเรื่องโอวาทปาติโมกข์ 3 ข้อ คือ ไม่ทำชั่ว ทำความดี ทำใจให้บริสุทธิ์ ดังนั้นถ้าเราเป็นคนดีไม่ต้องเก่งมาก แค่เก่งพอสมควรแล้วเป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น หรือหน่วยงานของตนเอง กับประเทศตนเอง หรือชาติอื่น ตนคิดว่าการทำความดีไม่ยากเลย ใครๆ ก็ทำได้ แต่การรักษาความดีให้คงอยู่เป็นเรื่องยากกว่า เพราะบางคนทำดีมาตลอด แต่พอใกล้จะตายความดีก็หายไป ถือเป็นเรื่องสำคัญ หากทำความดีแล้ว ต้องทำไปตลอดจนตาย แต่ปัจจุบันหลายคนไม่เป็นอย่างนั้น พอทำความดีไปได้สักระยะหนึ่ง ความดีกับหายไปกับสายลม ก็ไม่รู้จะทำดีไปเพื่ออะไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า สิ่งที่เรามักจะเรียกคนโกงว่า การฉ้อราษฎร์บังหลวงก็เรียกได้ เพราะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกไม่มีประเทศใดที่ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง เพียงแต่เขามีน้อย แต่เรามีมาก การฉ้อราษฎร์บังหลวง คือ เป็นคนที่ดำเนินการ อย่าไปโทษเทคโนโลยี ความรู้ หรือ ตำรา หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะว่าคนเป็นคนทำ คนไทยเป็นคนที่โกงชาติ ต่อให้มีตำรามีเทคโนโลยีดีตำราเทคโนโลยีเรานั้นก็ไม่มีหัวใจและไม่รู้เรื่องการตอบแทนบุญคุณชาติ อยากให้พวกเราช่วยกันทำอย่างไรที่จะให้มีคนดีเยอะๆ การทำความดีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คิดว่าไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเราที่รู้จักตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ถ้าเราจะสังเกตและรับรู้กันมาว่าเราต้องตำหนิพวกเรากันเอง คือ คนไทยกันเองเพราะไม่ค่อยสนใจการปราบปรามการโกง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าดูจากตัวเลขจะบ่งบอกว่าคนไทยเฉยเมยต่อการปราบปรามคนโกงชาติ บางคนเขาบอกว่าไม่ใช่เรื่องหรือหน้าที่ของเขา เพราะเขาเสียภาษีให้กับประเทศ เขาได้ทำหน้าที่ของเขาแล้ว ส่วนเรื่องการปราบปรามคนโกงชาติ ไม่ใช่เรื่องหรือธุระของเขา จะไปเพิ่มศัตรูทำไม เสียเวลาทำมาหากิน เพราะเขาไม่ได้มาโกงของตน แต่ไปโกงของคนอื่น ก็ไม่ใช่หน้าที่ของตน ถ้าเข้าไปยุ่งความยุ่งยากก็จะมาถึงตัว ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องค่อนข้างที่น่าเสียดาย ว่าเขาคิดแบบนั้นได้อย่างไร แต่เป็นเรื่องของความคิดแต่ละคนเราไปห้ามเขาไมได้ เพราะไม่มีกฎหมายหรือบทลงโทษต่อการเฉยเมยในเรื่องนี้ เพียงแต่ผิดในเรื่องของหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลชาติบ้านเมือง ผิดตรงที่ยิ่งทำเฉยก็ยิ่งทำผิดมาก ยิ่งเป็นผู้ที่ไหนก็ตาม ทั้งในและนอกข้าราชการตลอดจนภาคเอกชน ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าขายหน้า และไม่ควรจะคิดอย่างนั้น คล้ายๆ กับว่า การดูแลชาติเป็นหน้าที่ของทหาร ตำรวจ และกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งในส่วนของตนได้เสียภาษีไปแล้วจะไปยุ่งอีกทำไม ทั้งนี้เราจะต้องมาช่วยกันแก้ไขในเรื่องของความคิดของคนจะดีหรือไม่ จะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อเพิ่มคนดีและชาติบ้านเมืองให้มาก เบียดคนไม่ดีตกขอบเวที คนไทยที่เป็นคนดีทั้งหมดในที่นี้ หากประพฤติเป็นตัวอย่างและประกาศออกไปเลยว่าผมไม่ใช่คนโกง ขอให้พูดว่าผมหรือดิฉันไม่โกงชาติบ้านเมือง ถ้าทุกคนพูดแล้วทำก็เป็นประโยชน์ได้ผลรับที่เราต้องการ "จะบอกว่าผมหรือ ดิฉันไม่โกงก็มีชีวิตได้ไม่เดือดร้อน ไม่โกง สามารถมีฐานะดีได้ ถ้าเป็นคนเก่งขยันอย่าง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อไปสิ่งที่ต้องการก็คือการรับมาใส่เกล้าใส่กระหม่อมในเรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าคุณไม่กลัวลูกปืนก็ไปบอกเขาเลยว่า คุณโกงและโกงอย่างไร ถ้าใครหลายคนโกงไม่ว่าจะเป็นใครใหญ่โตแค่ไหน คุณไม่ต้องไปไหว ไม่ต้องไปแสดงความเคารพนับถือต่อให้มีบารมีมากแค่ไหนขอให้แสดงความขยะแขยงรังเกลียดเมื่อรู้ว่าโกงชาติบ้านเมือง และพยายามอยู่ให้ไกลๆ รักษาระยะห่างจากคนโกง เพราะเชื้อโรคการโกงจะมาติดคุณ คนโกงกลิ่นไม่ดี ทำอย่างไรก็ได้ให้เขารู้ ชี้หน้าเขาว่า ผมรู้ว่าคุณรวย แต่รวยเพราะโกงเขามา เคยได้ยินคำเย้ยหยัน ประชดโปรดฟังให้ดีเขาเขียนว่าประเทศไทยมีดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวคือมีคนไทยเป็นคำประชดที่น่าอายมาก ถ้าคุณเป็นโกง มีคนมาบอกว่ามีคนไทยขี้โกงถ้าไม่ละอาย หรือรู้สึก แต่ผมและพวกเรารู้สึกว่ามันหน้าขายหน้า น่าละอาย แต่พวกคุณที่โกงทำให้ชาติไทยของคุณของผมต้องขายหน้าไปด้วย ผมทนไม่ได้ และผมจะไม่ทน ถ้าคุณขายหน้าดนเดียวไม่เป็นไร แต่สิ่งที่คุณทำทำให้ชาติขายหน้าไปด้วย ซึ่งไม่ควรจะทน จะต้องหาทาง และแสวงหาวิธีเพื่อชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศขี้โกง" พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า มีคนจัดอันดับของคนไทยไว้เยอะมาก ปัจจุบันอยู่ลำดับที่ 85 ทั้งนี้จะต้องใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตนเคยถามเรื่องคดีว่าทำไมคดีโกงเรื่องนี้ไม่เสร็จเสียทีนานแล้ว เขาก็จะตอบว่าขั้นตอนเยอะ แต่ผมก็บอกว่าขั้นตอนสามารถแก้ได้ ประเทศไทยมีศาลมากมาย ทั้งศาลยุติธรรม ศาลภาษี ซึ่งถ้าเราจะตั้งศาลฉ้อราษฎร์บังหลวงดีหรือไม่ เอาคดีนี้ไปดำเนินการให้เร็ว เพื่อลดขั้นตอนให้เร็ว ช่วยกันตั้งดีหรือเปล่า การใช้กฎหมายกับคนโกงชาติ โกงแผ่นดิน ต้องใช้ในลักษณะหลักนิยมของทหารม้า ที่บอกว่ารวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด ตนคิดว่าการเล่นงานคนโกงต้องใช้หลักการเหล่านี้ต้องเร็ว ลงโทษรุนแรง มีความเด็ดขาดในการปราบปราม เพื่อให้มีคนดีมากกว่าคนโกง คนไม่โกงในชาติบ้านเมืองมีเยอะ แต่ไม่ค่อยได้คิดหรือได้ทำ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ตนคิดว่ามีคนไทยอยู่จำนวนไม่น้อยที่สำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน แต่พวกเราชอบพูด ไม่ชอบทำ พูดกันเสมอว่าไม่ชอบคนขี้โกงได้แต่พูดและหยุดอยู่แค่นั้น ฉะนั้นสิ่งที่จะต้องทำต่อจากนี้คือต้องพูดและทำ คนที่โกงและร่ำรวยตนคิดว่าเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียเกียรติภูมิ ขายหน้า ต้องถูกดูหมิ่นดูแคลน และถือเป็นศัตรูแผ่นดินให้หมายตาหมายหัวและช่วยกันทำลายให้หายไปจากแผ่นดินนี้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า ต่อว่า ตนได้พูดมาตลอดเรื่องคนโกงว่าจะมีวิธีไหนบ้างหรือไม่ที่จะทำให้คนโกงได้สำนึก บางคนโกง เราไปบอกเขาก็หยุดโกง แต่บางคนบอกแล้วก็ยังโกง นั่นคือสันดานการโกง บางคนตนมั่นใจว่า คิดไม่ถึงว่าการโกงของตัวเองจะทำให้ชาติเสียหาย ซึ่งทนไม่ได้ที่ชาติของเราเป็นชาติชี้โกง ดังนั้นเราจะต้องช่วยกันสร้างคนดี และดูแลคนรอบข้างไม่ให้โกง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี ตนหวังว่าคนไทยจะหายจากโรคขี้โกง จะได้ไม่ต้องอับอายขายหน้าชาติอื่นอีกต่อไป ตนดีที่มาพูดวันนี้ขอให้ท่านขยายผลเพื่อช่วยกันสร้างคนดีให้กับประเทศของเรา เพราะถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ให้กับชาติบ้านเมือง
แต่ผมว่ายังช้าอยู่นะครับ ยกตัวอย่างคดีจำนำข้าว ถ้ามีระบบที่รวดเร็วพอ เราก็ไม่ต้องเสียหายมากขนาดนี้ นี่ต้องมองดูมันโกง ต่อหน้าต่อตา โดยทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่มีคสช. ฉิกหายหนักกว่านี้เยอะ และมันก็กลับมามีอำนาจต่อ
ใครพอมีข้อมูลเรื่องบ้านพักป๋า ช่วยตอกหน้ามันสักทีเหอะ พูดก็พูดเถอะ คุณเปรมได้เงินเดือน 2 แสนกว่ามาหลายปี (ประธานองคมนตรี 1 แสนเศษ, รัฐบุรุษ 1 แสนเศษ) มีความจำเป็นอะไรต้องอาศัยอยู่บ้านหลวง (บ้านสี่เสา เป็นของกองทัพ)? นิสัย(สันดาน)ขี้โกงจริงๆ ........... สำหรับใครที่จะมาอ้างว่า เป็นบ้านประจำตำแหน่งนะ สัญญา สมัยเป็นประธานองคมนตรีก็ไม่ต้องมีบ้านหลวงอยู่ นายก รมต.ไม่ว่าคนไหนก็ไม่เคยต้องมีบ้านประจำตำแหน่งให้ ปล. คุณเปรมบอกว่าเกลียดคนโกง ผมว่าคนที่น่าเกลียดสุดๆจริงๆคือ คนที่ตัวเองโกงจนเป็นนิสัย แต่ยังหน้าด้านทำเป็นด่าคนโน้นคนนี้โกงอย่างคุณเปรมนั่นแหละ - สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล - 2 กุมภาพันธ์ 2558
ผมว่ามันไม่ใช่อยู่ที่ศาลแล้วล่ะครับ เพราะศาลฎีกาแผนกนักการเมืองมีศาลเดียว ความล่าช้าไปอยู่ที่อัยการมากกว่า
เป็นศาลที่ตัดสินทั้งคดีอาญาและทั้งคดีแพ่งประเภทยึดทรัพย์เสร็จสรรพเลยหรือเปล่าครับ และมีอำนาจตัดสินกับข้าราชการหรือนักการเมืองทุกระดับถ้าแบบนี้ก็ดี อ้อแล้วก็ให้ศาลสืบพยานหลักฐานเองด้วยนะครับเพื่อไม่ให้ล่าช้า
ผมหมายถึงว่า เมื่อมีการตั้งศาลเฉพาะขึ้นมาใหม่ ควรจะมีระบบใหม่ควบคู่ไปด้วย อย่างเช่นที่องค์กรอิสระ(ปปช.) สตง. เห็นความผิดปกติ ควรมีระบบที่สามารถส่งฟ้องศาล เพื่อยับยั้งความเสียหาย(ที่เกิดจากการโกง) เอาใว้ก่อน ไม่ใช่ทำได้แค่ส่งหนังสือเตือน แล้วก็ได้แต่นั่งมองดูมันโกง และกว่าจะฟ้องได้ ความเสียหายมันก็รุนแรงมากแล้ว แล้วยังต้องตั้งคณะกรรมการ ฯลฯ อีกหลายขั้นตอนกว่าจะฟ้องได้ คนเลวมันเลยไม่กลัว
อิ...อิ...ผมไม่รู้หรอกครับ ว่าควรออกมาในรูปแบบไหน รู้แต่ว่า ทำไมกว่าจะตัดสินคดีโกงได้ แต่ละคดี มันโคตรนาน จนบางคดีหมดอายุความ บางคดีจำเลยตายไปเสียก่อนแล้ว บางคดีคนลืมไปแล้วว่า ยังมีคดีนี้อยู่
ไอ้หงอกเจียม นี่ยิ่งแก่ยิ่งเลอะ ไปอ้างสัญญาทำไม ในเมื่อสัญญา สมัยเป็นประธานองคมนตรี ท่านไม่ได้อยู่บ้านหลวง ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่มีสิทธิ์ซะที่ไหน กองทัพอนุญาตให้ป๋าเปรมอยู่ มันก็เป็นสิทธิ์ของกองทัพ และการพูดของป๋าเปรม ก็ไม่ใช่สิ่งไม่ดี ส่วนไอ้หงอกเจียม สนับสนุนคนโกงอย่างไอ้แม้ว ปกป้องคนโกง มันคงไปพูดกับนักศึกษาของมันว่า โกงไปเถอะ ถ้ามีโอกาสโกงชาติ อย่างนั้นหรือ อ้างนายก รมต ไม่มีคนไหนมีบ้านประจำตำแหน่ง แต่มีรถประจำตำแหน่งนะ ยิ่งอีปู นี่ยิ่งชัดเจนเลย พ้นตำแหน่งนายกไปแล้ว ยังมีตะกวดคอยตามอารักขาอยู่เลย
เห็นด้วยเต็มที่ แต่ขั้นตอนต้องชัดเจน และหาทางป้องกันปากไอ้พวกที่จ้องทำลายว่า ศาลนี้มาจากมือที่มองไม่เห็น ที่พวกมันชอบใช้กันนัก.........
ควรปรับด้วยครับ เพราะเกือบทุกคดีของประเทศเรา ช้าแบบโคตะระช้า แต่คดีโกงกินผมว่าควรแยกออกมาจริงๆ เพื่อให้รวดเร็วกว่าปกติ และปรับระบบให้ยับยั้งก่อนได้ เฉพาะเงินที่เสียไปกับการโกงแผ่นดินในแต่ละปี ผมว่าเหมือนจะมีงบสร้างศาลได้ทั่วประเทศ
ตอนนี้บอกตรงๆว่า ประเทศเรา การโกงเนี๊ยะ จะเข้าขั้นซึมลึกไปเกือบทุกองค์กรแล้ว ทั้งเอกชนและราชการ เห็นการโกงชักจะเป็นเรื่องปกติ คนซื่อกลายเป็นตัวประหลาด ถ้ายังไม่รีบแก้ไข อนาคตประเทศเราวิกฤติแน่
ศาลธรรมดา พอเซ่นอัยการหน่อยสำนวนก้ออ่อน พยานไม่สบาย หลักฐานไม่พอ พวก อบต เทศบาลมันก้อยิ้ม ถ้าเอาพวกนี้รวมเข้าศาลพิเศษหรือโอนเข้า ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง คงวิ่งเต้น ล้มคดียาก ที่สำคัญ ..............อย่าลืมเชือดลิง ให้ไก่ดู
คนไม่มีบ้านเป็นทรัพย์สินของตัวเอง ซื้อขายไม่ได้ ไอ้เจียมมันแปลเอาเองว่าโกง เงินเดือนสองแสน จะมากกว่าบิณฑบาตรซักเท่าไรกัน หลวงลุงผมก็อยู่วัดนะ แหม่ บางวันยังไม่มีเน็ตเล่นอะ
เรื่องตั้งศาลนี่ ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดี นิติธรรมไปตามหลัก สำหรับผมว่า ถ้าถูกฟ้องร้อง ให้ออกไว้ก่อน ถอดถอน เพิกถอน อายัดทรัพย์ไว้ก่อนเท่ากับความเสียหาย ระงับธุรกรรมการเงิน ห้ามออกนอกประเทศ ไม่หมดอายุความ ไม่กลัวช้า อยากช้าไปตลอดชีวิตเรื่องของมัน
ผสมสัตว์เขาไม่รู้จักบ้านพิษณุโลกรึนี่ถึงได้บอกว่านายก รมต.ไม่ว่าคนไหนก็ไม่เคยต้องมีบ้านประจำตำแหน่งให้
การตั้งศาลพิเศษ ผมเห็นด้วย แต่เหตุผลย่อหน้าสุดท้ายที่ บวรศักดิ์ พูดผมว่ามันแปลก ๆ ไม่รู้ว่ามันประชดหรือต้องการให้ความชอบธรรมในการตั้งศาลพิเศษหมดไปหรือเปล่า บอกตรง ๆ ผมไม่ไว้ใจ บวรศักดิ์ กับ วิษณุ สักเท่าไหร่นะ
เห็นด้วยครับ ... แต่ต้องมีทางออกสำหรับผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งให้พ้นจากตำแหน่งไว้ด้วยนะครับ รวดเร็วเกินไปก็อาจผิดพลาดกันได้... กว่าจะต่อสู้ให้พ้นมลทินจากข้อครหาที่โดนใส่ร้ายก็ใช้เวลาหลายปี กลับมาตำแหน่งก็ไม่ว่างแล้ว จะชดเชยกันอย่างไร... สมมติถ้าเป็นผมโดยใส่ร้าย ก็คงไม่คิดจะไปฟ้องร้องอะไรมาก ผมเชื่อในโชคชะตาและกฏแห่งกรรม มากกว่า ความยุติธรรมทางกฏหมาย
เขาหมายถึงเป็นคดีแพ่งครับ http://www.jarataccountingandlaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=526558&Ntype=4
ตกลงไอ้ตัวนี้มันต้องการอะไรกันแน่ ***ไม่ต้องหาวิธีใหม่เพื่อปราบโกง เพราะกลัวเสียหน้า และมันนึกว่าประเทศอื่นจะโง่หมดทั้งโลก ไม่รู้ว่ามีการโกงกันมาก ***อยากปราบโกงแต่ก็ไม่มีวิธีใดที่จะแนะนำ ปล่อยตามบุญตามกรรมไปเรื่อยๆ ***อะไรก็ได้ ขอกูออกความเห็นที่ไม่เหมือนใคร เขาจะได้นึกว่ากูเก่ง
อ่านตอนแรกผมก็คิดเหมือนคุณ คือมันรู้สึกทะแม่งๆชอบกล เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องความแตกต่างระหว่างกฎหมายแพ่ง และอาญา