ว่าด้วยการโอนให้เอกชนบริหารจัดการสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย ปู่ยง, 1 Dec 2016

  1. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

    Mongkol Na Songkhla
    26 พฤศจิกายน
    อยากสะกิดรัฐบาลพลเอกประยุทธที่กำลังจะตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่ไม่เพียงพอ
    เรื่องการส่งมอบเงินค่ารักษาพยาบาลข้าราชการและครอบครัว 67,000 ล้านต่อปี
    ไปให้บริษัทเอกชนบริหาร บนความเชื่อที่ว่าข้าราชการและครอบครัวจะไม่เสียสิทธิใดๆ
    เงินงบประมาณจะไม่สูงขึ้นจนคุมไม่ได้อย่างที่เป็นอยู่
    ผมอยากเรียนโดยสรุปว่า เหตุที่งบประมาณรักษาพยาบาล
    ข้าราชการและครอบครัวสูงขึ้นๆ เป็นเพราะความผิดพลาดทางการบริหาร
    ของกรมบัญชีกลางเอง หากบริษัทเอกชนบริหารสิทธิการรักษาพยาบาล
    ข้าราชการและครอบครัวจะถูกลดลงในวงเงินที่รัฐจ่ายเท่าเดิม
    เพราะจะถูกหักเป็นค่าบริหารและกำไรของบริษัทเอกชน
    ตัวอย่างที่ประจักษ์คือสิทธิผู้ควรได้รับการรักษาตามพ.ร.บ ผู้ประสบภัยจากรถ 2535
    ข้าราชการ เกษียรจะรับเคราะห์กรรมหนักเพราะต้องการบริการมากขึ้นตามวัย
    โรงพยาบาลระดับต่างๆจะล้มละลายเพราะถูกปฏิเสธการจ่ายค่ารักษาด้วยเล่ห์กลต่างๆ
    วิกฤติการสาธารณสุขและความไม่สงบจะเกิดขึ้นไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
    ฉะนั้น รัฐบาลเองควรกลับมาทบทวนใหม่ ข้าราชการและครอบครัว
    โดยเฉพาะสมาคมข้าราชการพลเรือนต้องออกมาปกป้องสิทธิที่จะเสียไป
    โรงพยาบาลรัฐทุกระดับจะคอยให้ล้มละลายก่อนแล้วค่อยออกมาโวย
    คงไม่มีประโยชน์ต่อผู้รับบริการทั่วไปรวมทั้งประชาชนผู้ใช้บัตรทอง

    อยากเสนอให้ท่านนายกประยุทธ มอบงบประมาณการรักษา
    ตามสิทธิข้าราชการ67,000ล้านบาทไปให้ สปสช.เอาไปบริหาร
    ความสำเร็จประจักษ์แล้วจากการบริหารงบประมาณ
    ตามสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชข้าราชการ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
    การแสดงความเห็นครั้งนี้เพราะผมวิตกกังวล ห่วงใย
    ท่านนายกพลเอกประยุทธคงให้ความสำคัญบ้างนะครับ..


    https://www.hfocus.org/content/2016/11/13037

    มีความคิดเห็นเป็นเช่นใดกันบ้างครับ
     
  2. ควันหลง

    ควันหลง อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    1,786
    ถ้าเอางบประมาณก้อนเดียวแล้วให้เอกชนบริหาร เพียงรายเดียว ย้ายไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ รับรองข้าราชการตายกันเกลื่อนแน่

    กรณีศึกษามีมาแล้วครับ ไม่ต้องถามว่าที่ไหน เรื่องนี้เกิดขึ้นใน อเมริกาดินแดนแเห่งเสรีภาพเชียวหนา กรณีคล้ายๆกัน คือบริษัทประกัน มองกำไรเป็นสำคัญ จึงใช้วิธีพยายามบิดเบือนการรักษา โดยรู้เห็นกับหมอเจ้าข้องไข้ ให้บริษัทประกันต้องจ่ายน้อย หรือไม่ต้องจ่ายเลย เช่น หากมีตรวจสุขภาพ ก็พยายามตรวจลวกๆ จะได้ไม่ต้องตรวจพบโรคใดๆ แล้วก็ตอบแทนหมอด้วย แพ็กเก็จท่องเที่ยวสุดคูลกันไป

    ไม่รู้ว่าคนคิดเอาอะไรคิด หวังดี หรือต้องการแบ่งเค้ก พวกคุณเป็ฯข้าราชการชั้นผู้ใหญ่พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง คงไม่ถึงกับเดือดร้อนอะไร แต่พวกข้าราชการชั้นผู้น้อย คิดว่าเขาจะมีเงินเก็บไหม ถ้าเขาเจ็บป่วย เกิดประกันสุขภาพ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย ปฎิเสธการรักษา ต้องสำรองจ่ายกันไปก่อน จะมีที่ไหน จะร้องเรียนก็นานเป็นศตวรรษกว่าจะได้เรื่อง แล้วมันต้องไปกู้หนียืมสินกันมาใช่ไหม จ่ายดอกให้เขาไหมหล่ะ

    ของดีแต่ถูกหน่ะ ไม่มีหรอก อย่ามาหลอกกันเสียให้ยากเลยครับ
     
    kokkai, ปู่ยง และ conservative ถูกใจ
  3. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
  4. hey guys

    hey guys อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,066
    ง่ายๆ เลยครับ
    ที่ราขการทุกท่านยอมรับเงินเดือนน้อยกว่าภาคเอกชน ก็เพราะสวัสดืการและค่ารักษาพยาบาลนี่แหละครับ

    ฐานเงินเดือนต่างกันสวัสดิการก็จะต่างกัน ใครๆก็คิดได้ นี่แกล้งๆไม่คิดซะงั้น
    งั้นก็
    ลองสิ ก็งา่ยๆอีกเหมืิอนกัน เดี๋ยวก็ขอขี้นเงืนเดือน หรือไม่ก็ลาออก ไปเป็นขี้ข้าเอกชน
     
    อู๋ คาลบี้ และ ปู่ยง ถูกใจ.

Share This Page