ประเทศไทยนี่ ระบบการเก็บเอกสารของราชการมีปัญหาจริงๆ ตลกร้ายระบบราชการไทย เอกสารการรับจำนำข้าวสูญหาย 3 ปีการผลิต ประธาน อคส.หาทางปิดบัญชี พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยความคืบหน้าในการรวบรวมข้อมูลและเอกสารโครงการรับจำนำข้าว เพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานว่า ขณะนี้คณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะ กำลังเร่งรวบรวมเอกสารซึ่งบางส่วนหายไป และบางส่วนกระจัดกระจายอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้แน่นอน พล.ต.ต.ไกรบุญ ชี้แจงว่า เอกสารที่หายไปเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวปี 2551/2552 เอกสารโครงการรับจำนำข้าวปี 2554/2555 และเอกสารโครงการรับจำนำข้าวปี 2555/2556 ซึ่งจะต้องแจ้งความดำเนินคดีให้มีความครบถ้วนทางกฎหมาย เพื่อให้สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำงวดบัญชี 30 ก.ย. 2558 ได้ โดยจะดำเนินการพร้อมกันทั้งหมดในเดือน มี.ค. “ปกติการรวบรวมข้อมูลเอกสารจะต้องใช้เวลา 3-4 ปี แต่ขณะนี้ อคส.กำลังเร่งทำงานเพื่อให้สามารถปิดบัญชีโครงการให้เร็วที่สุด และการรวบรวมเอกสารโครงการรับจำนำข้าวที่หายไปจะต้องสอดคล้องกับผลตรวจสอบข้าวหาย ชุดที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว สรุปผลและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว ส่วนการปิดบัญชีโครงการรับจำนำให้เสร็จ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่จะเข้ามาตรวจสอบด้วย” ประธานบอร์ด อคส.ชี้แจง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ อคส.จะแถลงผลการระบายข้าวสู่ภาคอุตสาหกรรม หลังจาก บริษัท ว.ธนทรัพย์ ผู้ชนะประมูลข้าวเสื่อมคุณภาพ ได้ลงนามสัญญาซื้อข้าวกับ อคส.ไปเมื่อวันที่ 29 ม.ค. โดยในวันที่ 9 ก.พ. รถขนข้าวของบริษัทจะมารอเพื่อเริ่มขนจากโกดัง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ทั้ง 1.7 หมื่นตัน http://www.posttoday.com/biz/gov/414904
¿พาดหัว? http://www.matichon.co.th/news/32068 จำนำข้าวสรุปแล้ว! ตัวโครงการไม่ก่อความเสียหาย แต่’ยิ่งลักษณ์’ผิดพฤติการณ์ ประธานสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจำนำข้าว ชี้ “ยิ่งลักษณ์” ผิดพฤติการณ์ ปัดบอกตัวเลขฟ้องแพ่ง โยนถามรมว.คลัง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยถึงกรณีส่งข้อสรุปความเห็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ว่า การดำเนินการของคณะกรรมการที่ทำงานมาตั้งแต่เมษายน 2558 ซึ่งได้เชิญ 3 กลุ่มมาให้ถ้อยคำ ได้แก่ กลุ่มข้าราชการจำนวน 15 หน่วยงาน กลุ่มผู้กล่าวหา 8 ราย อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลุ่มผู้ถูกกล่าวหา 15 ราย อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพยานที่กล่าวอ้าง และส่งมาเพิ่มอีก 20 ราย เมื่อเดือน ธ.ค.58 ซึ่งกรรมการได้ขอให้ส่งถ้อยคำเพิ่มเติมเป็นรายลักษณ์อักษรมาภายในวันที่ 20 มกราคม 2559 แต่ไม่มีใครส่งข้อมูลมาแต่อย่างใด นายจิรชัยกล่าวว่า กรรมการได้พิจารณา 2 ลักษณะ คือ พฤติการณ์ดำเนินการในการกำกับดูแลติดตาม ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ว่ามีการติดตามรัดกุม กำกับชัดเจนหรือไม่ และเรื่องความเสียหาย ซึ่งถือวันปิดบัญชี 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อนำตัวเลขปิดบัญชีมาพิจารณาวิเคราะห์ โดยให้ความเป็นธรรม อาทิ ตัวเลขที่ประชาชนจะได้รับในส่วนต่าง เช่น ราคาท้องตลาดเกวียนละ 9,000 บาท แต่รับจำนำ 15,000 บาท ส่วนต่างตรงนี้ถือเป็นประโยชน์ประชาชน กรรมการก็ไม่ได้คิดเป็นความเสียหาย การดำเนินการของส่วนราชการถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายเป็นข้าราชการดำเนินการก็ไม่ถือว่าเป็นความเสียหาย ในส่วนเรื่องดอกเบี้ย ที่ทางคณะกรรมการปิดบัญชีคิดดอกเบี้ยด้วยนั้น แต่กรรมการเราคิดว่าไม่ใช่การค้า แต่เป็นการดำเนินงานราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขประชาชนก็ไม่คิดเป็นความเสียหาย เมื่อถามถึงจำนวนตัวเลขที่ประเมินเพื่อฟ้องเรียกความเสียหาย นายจิรชัยกล่าวว่า เรื่องตัวเลขตนขอยังไม่เปิดเผย เนื่องจากเรื่องยังไม่จบยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของ รมว.คลังและนายกรัฐมนตรี และยังต้องให้คณะกรรมการพิจารณาเรียกร้องทางแพ่ง กรมบัญชีกลางดำเนินการพิจารณาต่อ จึงยังไม่นิ่ง แต่ยืนยันว่าในนามกรรมการชุดของตนนั้นไม่มีการถูกกดดันใดๆ ทั้งสิ้น ทำงานด้วยความอิสระ ให้ความเป็นธรรม ให้โอกาสมากที่สุด ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ได้มอบไว้ เมื่อถามว่า ผลจากการพิจารณาของกรรมการถือว่าพฤติการณ์สอดคล้องกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดมาหรือไม่ นายจิรชัยกล่าวว่า ก็สอดคล้องกัน ตามพฤติการณ์ก็มีความผิด แต่เรื่องความเสียหายนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่า ตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดขึ้นนั้นสูงถึงหลักแสนล้านบาท ตามที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลหรือไม่ นายจิรชัยกล่าวว่า ต้องขอสงวนไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขความเสียหายนั้นทางอนุกรรมการปิดบัญชีนั้นได้สรุปไว้แล้ว และนำตัวเลขนั้นมาวิเคราะห์ โดยไม่ได้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเขาคิดละเอียดแบบนักบัญชี แต่เราเป็นนักบริหารต้องดูความเหมาะสม ดูความเป็นธรรม ดูประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ