http://www.komchadluek.net/news/politic/234865 ริบที่ดินโรงเรียนเอี่ยวก่อการร้าย ศาลแพ่งพิพากษาสั่งริบที่ดินอีก 2 แปลงกว่า 17 ไร่ ที่ตั้งโรงเรียนอิสลามบูรพา นราธิวาส พบหลักฐานเอี่ยวใช้ฝึกยุทธวิธีทหาร-ปลุกระดมสนับสนุนก่อการร้าย 23 ก.ค. -- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ได้อ่านคำพิพากษาริบทรัพย์ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เมื่อวันที่ 21 พ.ค.59 ที่พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน 3 แปลง โฉนดเลขที่ 27227 ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา , โฉนดเลขที่ 27228 ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา และโฉนดเลขที่ 27207 ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เนื้อที่ 1 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนอิสลามบูรพา รวมมูลค่าประมาณ 3,026,750 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดินเนื่องจากเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้สนับสนุนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย อันเป็นความผิดมูลฐานตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (8) กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2550 ตำรวจ สภ.ตันหยง จ.นราธิวาสจับกุม กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ชื่อนายมะนาเซ ยา กับพวกรวม 7 คนพร้อมของกลางอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน เครื่องประกอบระเบิดรวม 108 รายการ กลุ่มนายมะนาเซ กับพวกถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำ มี ใช้วัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร,ร่วมกันมีและใช้วิทยุโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันก่อการร้าย ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตและจำคุกกลุ่มผู้ก่อการร้ายดังกล่าว ซึ่งตำรวจได้ดำเนินคดีอาญากับนายอุเซ็ง ปุโรง ผู้บริหารโรงเรียนอิสลามบูรพา และเป็นประธานมูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลา มียะห์ กับพวกในข้อหาเป็นผู้รับใบอนุญาตผู้จัดการ ครูใหญ่หรือครู ใช้หรือยอมให้ใช้สถานที่หรือบริเวณโรงเรียนทำการอบรมเพื่อสนับสนุนลัทธิที่เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยของประเทศ ซึ่งเลขาธิการ ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ที่ดิน 3 รายการที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอิสลามบูรพา ตกเป็นของแผ่นดิน ระหว่างพิจารณาคดี มูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลา มียะห์ ยื่นคำคัดค้านเป็นผู้คัดค้านที่ 1 โดยมี นายมูหัมมัดฮูเซ็น มะซอ เป็นผู้คัดค้านที่ 2 อ้างว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 27227 และ 27228 เป็นของมูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลา มียะห์ ผู้คัดค้านที่ 1 และในคดีอาญา ศาลจังหวัดนราธิวาสมีคำพิพากษายกฟ้อง นายอุเซ็ง ปุโรงโดยคดีถึงที่สุดแล้ว และที่ดินโฉนดเลขที่ 27207 เป็นของนายมูหัมมัดฮูเซ็น มะซอ ผู้คัดค้านที่ 2 ไม่ได้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอิสลามบูรพา ศาลแพ่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้ สืบเนื่องจากมีการจับกุมนายมะนาเซ ยา กับพวกรวม 7 คน ได้ภายในโรงเรียนอิสลามบูรพา พร้อมของกลางอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบระเบิดรวม 108 รายการ ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต และจำคุกกลุ่มของ นายมะนาเซ ยา กับพวก ซึ่งได้ความจากตำรวจที่ซักถามนายมะนาเซ ยา กับพวกเบิกความว่า นายมะนาเซ ยา ยอมรับว่าเข้าไปในโรงเรียนอิสลามบูรพาเพื่อพบปะแนวร่วม โดยโรงเรียนอิสลามบูรพาเป็นสถานที่ปลูกฝังแนวคิดให้มีการแบ่งแยกดินแดน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรัฐอิสระ มีการสาบานตน ฝึกร่างกายยุทธวิธีทหาร หรือ RKK สลับการบรรยายปลุกระดม โดยใช้หอพักนักเรียนและใช้บ้านพักครูเป็นสถานที่ฝึก วางแผน หลบซ่อนตัว นัดหมาย รับส่งวัตถุระเบิด และมีการตรวจยึดของกลางประเภทอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบระเบิดภายในโรงเรียนได้ถึง 108 รายการ จึงเชื่อว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 27227 และ 27228 เนื้อที่รวม 17 ไร่เศษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนอิสลามบูรพาของมูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลา มียะห์ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดโดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย ใช้เป็นสถานที่ในการสนับสนุนกระทำความผิดฐานก่อการร้าย จึงมีคำสั่งให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 27227 และ 27228 ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เนื้อที่จำนวน 17 ไร่ 4 งาน 114 ตารางวา ของมูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลา มียะห์ ผู้คัดค้านที่ 1 พร้อมดอกผลให้ตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 51 วรรคหนึ่ง สำหรับที่ดินโฉนดเลขที่ 27207 เนื้อที่ 1 ไร่ ของนายมูหัมมัดฮูเซ็น มะซอ ผู้คัดค้านที่ 2 แม้ที่ดินตั้งอยู่ภายในรั้วของโรงเรียนอิสลามบูรพา แต่ไม่ใช้ที่ดินที่ใช้จัดตั้งโรงเรียนอิสลามบูรพาและไม่ใช้ที่ดินที่ใช้เป็นทางเข้าออกโรงเรียนอิสลามบูรพา เมื่อปรากฏว่าไม่ได้มีการจับกุมคนร้ายหรือยึดอาวุธของกลางได้ภายในบริเวณที่ดินดังกล่าว จึงไม่ใช่สถานที่หรือทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานสนับสนุนก่อการร้าย จึงมีคำสั่งให้คืนที่ดินโฉนดเลขที่ 27207 ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เนื้อที่จำนวน 1 ไร่ คืนให้ นายมูหัมมัดฮูเซ็น มะซอ ผู้คัดค้านที่ 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวคู่ความยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตามกฎหมาย ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง ขณะที่ลักษณะของการริบทรัพย์ที่ดินที่ตั้งโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.58 ศาลแพ่ง ก็ได้พิพากษาสั่งให้ ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ( น.ส.3 ) เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 591,090 บาท ของนายดูนเลาะ แวมะนอ อดีตครูใหญ่โรงเรียนญีฮาดวิทยา หรือปอเนาะวิทยา กับพวก ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญีฮาดวิทยา ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนเกี่ยวกับการกระทำก่อการร้าย โดยผู้ก่อความไม่สงบ 2 คน ให้การยอมรับว่า เป็นสมาชิกหน่วยคอมมานโดกลุ่มโจร BRN ถูกส่งตัวฝึกหลักสูตรคอมมานโดและชุดรบ ขนาดเล็ก ที่โรงเรียนญีฮาดวิทยา ------------------------------------------------------------------------------------------ สาเหตุของความรุนแรงที่ยังไม่จบสิ้น มาจากแหล่งบ่มเพาะลักษณะนี้ ?
ผลของการตรวจค้นจับกุม ทำให้มีการให้ข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบางรายว่า โรงเรียนอิสลามบูรพาเป็นศูนย์กลางผลิตระเบิดแสวงเครื่องเพื่อส่งกระจายไปก่อเหตุในเกือบทุกพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเสนอเรื่องให้นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งถอนใบอนุญาตมูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลามียะห์ และปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนอิสลามบูรพาตั้งแต่บัดนั้น ต่อมาในยุคที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ได้ดำเนินการให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้อีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.2554 http://www.isranews.org/south-news/documentary/item/48626-sapom.html
ทั้งนี้ ก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษา ปรากฏว่า นายสุรพร พร้อมมูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน เพราะกระทรวงมหาดไทยเห็นว่าหากมีการอ่านคำพิพากษาอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ จ.นราธิวาส และใกล้เคียง ทางกระทรวงมหาดไทยขอเวลาแก้ปัญหาก่อน โดยมีการตั้งคณะทำงาน 2 ชุดเพื่อสร้างความเข้าใจ ป้องกันการนำคำพิพากษาไปบิดเบือนจนเกิดความรุนแรงตามมา แต่ศาลเห็นว่า หากกระทรวงมหาดไทยต้องการแก้ไขปัญหา ก็สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เริ่มเป็นคดีความเมื่อปี 2550 กระทั่งมีการยื่นขอให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินในปี 2555 ระหว่างนั้นก็สามารถใช้เวลาทำความเข้าใจได้ ประกอบกับศาลได้ซักถามทนายและผู้คัดค้านทั้งสอง (ฝ่ายเจ้าของโรงเรียน) ทราบว่าหากผลคำพิพากษาออกมาประการใด แล้วผู้คัดค้านไม่พอใจ ก็จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ ฎีกาตามกฎหมาย โดยจะไม่นำผลคำพิพากษาไปขยายในทางที่ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริง ฉะนั้นเมื่อศาลมีคำพิพากษาคดีโรงเรียนอิสลามบูรพา พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช รองแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ได้เฝ้าระวังและทำความเข้าใจทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดกระแสเหมือนกรณีโรงเรียนญิฮาดวิทยา มั่นใจว่าจะไม่มีสถานการณ์ใดๆ เกิดขึ้นหลังจากนี้ เพราะกรณีปอเนาะญิฮาด รัฐก็ไม่ได้นำที่ดินไปใช้ทำอย่างอื่น แต่จัดให้เป็นสถานศึกษาของอิสลามตามเจตนารมณ์ของเจ้าของที่เดิม และทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินวากัฟ (ที่ดินบริจาคเพื่อสาธารณกุศล) อย่างแท้จริง http://www.isranews.org/south-news/documentary/item/48626-sapom.html .....................................................................
อ่านแล้วอยากเตะปากไอ้รองผู้ว่าหรือพวกที่อยากให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปจริงๆ ที่มันแย่อยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะโลกสวยแบบโง่ๆนี่แหละ เอาอกเอาใจกันเหลือเกินพวกมุสลิมเนี่ย พวกปอเนาะแบบนี้มีอีกตั้งเยอะ ควรจะจัดการให้หมดด้วยซ้ำ