http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431016008 ทหารพล.ม.2 ถือม44 บุกรวบ 9 อิสราเอล คาห้องประชุมสันติบาลขณะสาธิตอุปกรณ์ดักฟังบิ๊กตร.ปิดปากเงียบ เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 7 พฤษภาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล(บช.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนจากประเทศอิสราเอลได้มาสาธิตการใช้เครื่องดักฟังและการเช็คพิกัด โดยมาสาธิตที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจสันติบาลอยู่นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์กว่า 10 นาย นั่งรถฮัมวี่ 3 คัน พร้อมอาวุธครบมือได้บุกเข้ารวบตัวเจ้าหน้าที่ชาวอิสราเอลดังกล่าวจำนวน 9 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ ของประเทศอิสราเอล ทำให้ตำรวจสันติบาลที่อยู่ในห้องประชุมต่างตกใจและกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้มีการชี้แจงว่าเป็นการควบคุมตัวตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี พ.ศ.2557 และได้นำเจ้าหน้าที่อิสราเอลทั้งหมดไปควบคุมไว้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ มีรายงานว่าทหารชุดดังกล่าวได้มาเฝ้ารอตั้งแต่เวลา 08.00 น.ก่อนที่จะบุกเข้าจับกุมขณะที่มีการสาธิตในห้องประชุม โดยการบุกเข้าจับกุมไม่ได้มีการประสานกับกองบังคับการสันติบาล 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายแต่ก็ได้รับการปฎิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว
อยากรู้เหมือนกัน ว่าการสาธิตดักฟังเนี่ย คือ ได้ขออนุญาตในการนำเข้าและใช้งาน อุปกรณ์ต้องห้าม ที่ต้องมีการประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงต่าง ๆ ไม่ว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรอง กระทรวงกลาโหมและกองบัญชาการทหารสูงสุด ก่อนหรือไม่ และระหว่างการสาธิตนี่ มีการไปดักฟังคลื่นของฝ่ายความมั่นคง โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อนหรือไม่ ถ้าคำถามที่ตั้งข้อสังเกตุเป็นจริง สันติบาลคงต้องมีคำอธิบายดี ๆ แล้วล่ะว่าทำไม???
เคยทราบว่าหน่วยMOSSADของอิสราเอลเข้ามาตั้งบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในประเทศไทยหลายบริษัท ซึ่งบุคคลากรจากอิสราเอลล้วนเคยมีส่วนกับงานจารกรรม มีบริษัทหนึ่งจัดให้บริการสอบสวนบุคคลด้วยเครื่องจับเท็จ ตั้งอยู่ถนนวิทยุในซอยหลังสถานทูตอเมริกา ค่าบริการราคาถูกจนน่าสงสัยว่าตั้งบริษัทเพื่อจุดหมายอื่นมากกว่า
ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผบ.ตร. ได้กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องความเข้าใจผิดกัน http://www.thairath.co.th/content/497445
ตำรวจทำตัวให้ไม่น่าไว้ใจอีกแล้ว เฮ้อ.... มันยากนักหรือที่จะทำตัวให้สามารถตรวจสอบได้ ในเมื่อการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมายกลับทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ
ผบ.ตร. แจงทหารบุกรวบ9อิสราเอลคาสันติบาล ชี้เข้าใจผิดนำเข้าดักฟัง ยันประสานก่อนแล้ว วันที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:47:29 น. "ผบ.ตร."แจง ทหารควบคุมตัว 9 เจ้าหน้าที่บริษัทอิสราเอล ขณะสาธิต อุปกรณ์ดักฟังให้ตำรวจสันติบาล เหตุจากการเข้าใจผิดเรื่องนำเข้า ยันมีการประสานผู้บังคับบัญชาระดับสูงก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 8พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึง กรณีที่ทหารจาก พล.ม.2 บุกรวบตัวเจ้าหน้าที่ชาวอิสราเอล 9 คน ขณะสาธิตเครื่องดักฟังให้ตำรวจสันติบาล ในห้องประชุมนั้นเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดการเข้าใจผิดกัน ซึ่งตามข้อเท็จจริงนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลให้จัดหาเครื่องมือคัดกรองโทรศัพท์ จากนั้นบริษัทอิสราเอล ได้เข้ามาเสนอขายเครื่องมือและนัดสาธิต แต่ทางทหารได้มาตรวจพบเรื่องดังกล่าวจึงมาขอความร่วมมือให้บริษัทอิสราเอล ไปชี้แจงว่าเครื่องมือที่นำมาแสดงมีการนำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่ และทหารก็ชี้แจงว่าได้เชิญให้ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทอิสราเอลไปกับทหารเพื่อแสดงหลักฐานการนำเครื่องมือที่ได้นำเข้ามาสาธิตอย่างถูกต้อง ซึ่งทางบริษัทฯ ยืนยันว่าเครื่องมือดังกล่าวได้นำเข้ามาอย่างถูกต้อง ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะให้บริษัทฯนั้นกลับมาสาธิตการใช้เครื่องมือดังกล่าวอีกครั้ง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่าทาง พ.อ.บุรินทร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดทหาร นั้นได้โทรเข้ามาแจ้งตน ว่ามีการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสงสัยลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย จึงอนุญาตให้เข้ามาพบ และตนเองก็ยังได้ โทรศัพท์ คุยกับแม่ทัพภาค1 และ ผบ.พล. ม 2 พร้อมทั้งได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯทั้ง 9 คนให้ทราบและได้ขอความร่วมมือ ซึ่งทางเจ้าที่บริษัทฯทั้งหมดก็ยินดีที่จะให้ทหารชุดดังกล่าวตรวจสอบและทางเจ้าหน้าที่บริษัทเองก็ได้ยืนยันว่าได้ขออนุญาตนำเครื่องมือดังกล่าวเข้ามาอย่างถูกต้อง ซึ่งข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ก็มีเพียงแค่นี้ และขอยืนยันว่าได้มีการประสานกันระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสูงก่อนแล้ว
แต่ก็แปลกใจว่าตำรวจจะเอาเครื่องดักฟังไปใช้ทำอะไร เพราะแม้แต่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐที่ทำการดักฟังโทรศัพท์แล้ว ศาลก็มีคำตัดสินแล้วว่าการกระทำนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมายเหมือนกัน ************************************************** ศาลสหรัฐ ในนครนิวยอร์ก มีคำตัดสินให้โครงการเก็บรวบรวมบันทึกการโทรศัพท์ขนาดใหญ่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือเอ็นเอสเอ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างคำตัดสินของศาลอุทธรณ์สหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โครงการเก็บรวบรวมบันทึกการโทรศัพท์ขนาดใหญ่ของเอ็นเอสเอ ซึ่งดูแลด้านการข่าวกรองต่างประเทศของสหรัฐ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นการกลับคำตัดสินเมื่อปี 2556 แต่ศาลไม่ได้มีคำสั่งให้เอ็นเอสเอยุติโครงการดังกล่าว เพียงแต่เรียกร้องให้สภาคองเกรสเป็นฝ่ายจัดการแทน เมื่อปี 2556 ข้อมูลเรื่องโครงการสอดแนมขนาดใหญ่ของ เอ็นเอสเอ ถูกเปิดเผยโดย นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่สัญญาจ้าง ซึ่งแอบนำข้อมูลลับไปมอบให้แก่สื่อต่างๆ ก่อนจะลี้ภัยไปอยู่รัสเซียจนถึงปัจจุบัน ซึ่งข้อมูลที่รั่วไหลออกมาทำให้โลกรู้ว่า เอ็นเอสเอ แอบเก็บรวบรวมข้อมูลการโทรศัพท์ทั้งหมายเลขและเวลาที่โทรเอาไว้จำนวนมาก แต่ไม่มีการบันทึกรายละเอียดของการสนทนา โดยผู้ที่ถูกเก็บข้อมูลรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีด้วย คำตัดสินครั้งล่าสุดของ ผู้พิพากษาศาลแขวงนิวยอร์ก วิลเลียม พอลลีย์ ระบุว่า บทบัญญัติของรัฐบัญญัติความรักปิตุภูมิ (Patriot Act) อนุญาตให้สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) รวบรวมบันทึกทางธุรกิจ เพื่อประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับการสืบสวนต่อต้านการก่อการร้าย แต่การที่เอ็นเอสเอ อนุญาตให้เก็บรวบรวมบันทึกการโทรศัพท์ภายในประเทศจำนวนมากอย่างเป็นระบบ ไม่อาจตีความได้ว่าเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย http://www.now26.tv/view/43577/ศาลสหรัฐตัดสินโครงการสอดแนมเอ็นเอสเอผิดกฎหมาย.html
นายกฯ แถลงเรื่องนี้แล้ว ************************************************** ทำเนียบฯ 8 พ.ค.-นายกรัฐมนตรีประชุมเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมย้ำจะแก้ไขปัญหาโรฮิงญาอย่างจริงจัง เตรียมที่จะเปิดเวทีพูดคุยกับทั้งพม่าและมาเลเซียในสิ้นเดือนนี้ ส่วนเรื่องทหารบุกจับนักธุรกิจอิสราเอลกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นเรื่องเข้าใจผิด และทำความเข้าใจกันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาโรฮิงญา ว่าจะมีการหารือกับมาเลเซียและเมียนมาร์ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงาน ซึ่งไทยจะหารือให้มีการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ส่วนคำสั่งให้แก้ปัญหานี้ให้เสร็จภายใน 10 วันนั้น เป็นเพียงการคลี่คลายปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น เพราะปัญหานี้จะต้องอาศัยการบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพราะปัญหาดังกล่าวมีมายาวนาน ขณะที่ข้อบกพร่องด้านกระบวนการยุติธรรม จากนี้จะต้องดำเนินการอย่างจริงจังตามกฎหมายกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนแนวทางการเปิดศูนย์พักพิงให้กับชาวโรฮิงญานั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ในประเทศไทยมีศูนย์พักพิงอยู่แล้ว ซึ่งผู้พักพิง 100,000 เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบตามแนวชายแดน ไม่ใช่ชาวโรฮิงญาทั้งหมด ซึ่งจากรายงานทราบว่าขณะนี้มีชาวโรฮิงญาที่สามารถจับกุมได้กว่า 1,000 คน ส่วนกรณีที่ทหารใช้อำนาจตาม ม.44 จับกุมนักธุรกิจชาวอิสราเอลที่มาสาธิตเครื่องดักฟังที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล นายกรัฐมนตรียอมรับเป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย เพราะนักธุรกิจคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาผ่านช่องทางการทูต แต่เรื่องนี้ได้ทำความเข้าใจและขอโทษกันแล้ว ซึ่งตนก็ต้องขอโทษด้วย.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/180121
"ประยุทธ์" เคลียร์ตร.ขอโทษจับพ่อค้าอิสราเอล ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ กว่า 10 นาย บุกเข้าควบคุมตัวเจ้าเจ้าหน้าที่บริษัทอิสราเอล ขณะสาธิตอุปกรณ์ดักฟังให้ตำรวจสันติบาล ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนนำไปควบคุมตัวที่ พล.ม.2 รอ. อ้างใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ว่า “ได้รับรายงานแล้ว มันป็นความเข้าใจผิดกันนิดหน่อยความจริงแล้วเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอกชนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาทางช่องทางทางการทูต ซึ่งบางทีมันไม่ใช่แล้วทางบริษัทก็ไปโฆษณามากมาย ” ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ใช่การหวาดระแวงระหว่างกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องการหวาดระแวง ทุกฝ่ายเขาคุยกันและเข้าใจกันหมดแล้ว และได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.แล้ว เข้าใจกันแล้ว ต่อไปก็คุยกันสักหน่อย นี่มันก็ไม่ได้คุยกัน ทุกคนมันก็ทำหน้าที่ แต่ไม่ได้มีการไปละเมิดเกียรติกัน ซึ่งก็ได้ขอโทษกันไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขอโทษด้วย และอยากให้สื่อจบเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้พูดกันเรียบร้อยจบกันไปแล้ว ผบ.ตร.ชี้ทหารจับพ่อค้าอิสราเอลไม่เสียศักดิ์ศรี ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อวานนี้ นายทหารพระธรรมนูญ ที่เคยทำงานร่วมกันมา ได้โทรศัพท์มาประสาน เพราะได้รับข้อมูลว่าบริษัทจากอิสราเอลนำเข้าเครื่องมืออย่างไม่ถูกต้อง จากนั้นจึงลงไปรับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เพื่อให้เชิญตัวชาวอิสราเอลทั้งหมดไปสอบถาม ผบ.ตร.ย้ำว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ ไม่ใช่เรื่องการเสียศักดิ์ศรี เมื่อทหารนำตัวไป สอบถามข้อมูลเสร็จ ก็ปล่อยตัวแทนของบริษัทชาวอิสราเอลไปหมดแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โครงการจัดซื้ออุปกรณ์ดักฟังนี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบให้ตำรวจสันติบาล ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ 3 ที่เข้ามานำเสนอสินค้า แต่ทางทหารตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว ไปโฆษณาผ่านเว็บไซต์ว่าจะนำสินค้าไปแสดงต่อตำรวจสันติบาลไทย วันที่ 7 พ.ค.นี้ ใครจะมาดูเชิญมาดูได้ จึงได้มีการประสานเพื่อเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว ผบ.ตร.ระบุว่า ปกติบริษัทที่จะเข้ามาเสนอขายสินค้า ต้องแจ้งทางศุลกากร ว่าจะอยู่กี่วัน กลับเมื่อไหร่ ส่วนคนที่นำสินค้า จะเป็นอดีตทหารหรือตำรวจหรือไม่นั้นไม่ทราบ ทราบเพียงว่ามาในฐานะพ่อค้าเท่านั้น http://www.now26.tv/view/43619/ประยุทธ์-เคลียร์ตร-ขอโทษจับพ่อค้าอิสราเอล.html