คดีคงเป็นไปตามขั้นตอนปกติอะครับ คงไม่มีใครไปปิดล้อมศาลเพื่อก่อความวุ่นวายต้องการอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นเช่นคนเสื้อแดง
คลิป รุมทุบรถเสื้อแดงจาก สื่ออังกฤษ นี่คลิปที่ลุมทำร้ายเสื้อแดง คลิปน้องผู้หญิงก็โดน อีกคลิปที่ดัก รุมทำร้ายเสื้อแดง คลิป รุมทำร้ายเสื้อแดงที่หน้าประตูราม (สื่อไม่นำเสนอ) คลิป รุมทุบรถเสื้อแดงจาก สื่ออังกฤษ https://www.facebook.com/photo.php?v=10151747714525723&set=vb.344197095722&type=2&theater นี่คลิปที่ลุมทำร้ายเสื้อแดง http://www.facebook.com/photo.php?v=10151744318095723&set=vb.344197095722&type=2&theater คลิปน้องผู้หญิงก็โดน http://www.facebook.com/photo.php?v=778917902134328&set=vb.100000483756558&type=2&theater อีกคลิปที่ดัก รุมทำร้ายเสื้อแดง https://www.youtube.com/watch?v=4wJi0FYuQX4#t=103 คลิป รุมทำร้ายเสื้อแดงที่หน้าประตูราม (สื่อไม่นำเสนอ) http://www.facebook.com/photo.php?v=374111959398951&set=vb.276808355795979&type=2&theater http://pantip.com/topic/31321614 ดิบ ถ่อย เถื่อน สถุล
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธ.ค. 2556 10:00 21,359 ครั้ง เสียงปืน เสียงระเบิด ดังอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างกลัว แตกตื่น ไม่รู้จะวิ่งหลบไปทางไหน อยากออกให้พ้นจากมหาวิทยาลัย แต่แกนนำบนเวทีประกาศให้อยู่ข้างใน รอสถานการณ์สงบ รอคอยความช่วยเหลือที่ไม่รู้อีกนานเท่าไรจะมาถึง พอหลับตาลง นึกว่าตัวเองอยู่ในสนามรบ ไม่ใช่ในรั้วของรามคำแหง สถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติแห่งหนึ่งของประเทศไทย... ข้างต้นเป็นความรู้สึกเท่าที่ประมวลได้จากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงบางส่วนที่อยู่ในเหตุการณ์ความรุนแรงมหาวิทยาลัยรามคำแหง เย็นวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงบ่ายวันที่ 1 ธ.ค. 2556 ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะกลายเป็นอดีตสงบลงไปแล้ว แต่เชื่อว่า ไม่มีทางลบออกไปจากความทรงจำของหลายคนได้ง่ายๆ ต่อจากนี้ จะเป็นการประมวลเหตุการณ์ และการบอกเล่าบรรยากาศจากหลายเสียงที่ระบุว่า ได้สัมผัสเหตุการณ์มาด้วยตัวเอง การตัดสินใจที่ผิดพลาด? เมื่อมวลชนคนเสื้อแดงใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นเวทีชุมนุมใหญ่ นัดผู้ชุมนุมให้มารวมตัวกันก็เกิดกระแสความไม่พอใจของนักศึกษารามฯ บางส่วนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกัน เพราะเห็นว่าที่ชุมนุมของกลุ่ม นปช.อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกินไป จึงเปิดเวทีและจัดชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยฯ จุดชนวนของเหตุการณ์ว่ากันว่า น่าจะเริ่มต้นจากความไม่พอใจของ นศ.รามฯ ที่ถูกทำลายป้ายคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มูลเหตุของเรื่องเกิดจากการที่กลุ่ม นศ.รามฯ อ้างว่าที่ต้องรวมตัวกันนั้น เพราะมีนักศึกษาถูกดักทำร้ายก่อน และยังมีการตัดทำลายป้ายอีกด้วย จุดนี้จึงเป็นปมที่ทำให้เกิดความคับแค้น นำมาซึ่งการยุแหย่ด้วยวาจา กระทบกระทั่งกันตลอดทั้งวัน เหตุการณ์เหมือนจะหยุดอยู่แค่นี้ จนกระทั่งรถแท็กซี่ที่มีคนเสื้อแดงนั่งโดยสารอยู่ ขับเข้ามาบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมรามฯ ห้วงเวลานั้นทุกคนกำลังขาดสติ จึงลุกฮือเข้าปิดล้อมรถทันที ก่อนจะทำการปิดถนนรามคำแหงทั้ง 2 ฝั่ง และรวมตัวกันที่ ซ.รามคำแหง 53 เพื่อออกล่าคนที่ใส่เสื้อสีแดง เมื่อนศ.เห็นรถแท็กซี่ มีคนเสื้อแดงนั่งอยู่ข้างในขับผ่าน ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่แล้ว กลายเป็นไฟปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนกรูไปรุมล้อมรถและเริ่มทุบตีอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นการปะทะเริ่มกระจายเป็นวงกว้าง มีการปิดถนน ใครใส่เสื้อแดงก็จะถูกทำร้าย ทั้งทำลายรถ และปาประทัดใส่ เสียงปืนดังขึ้นประปราย เกิดการยิงสวนกันออกมาจากทั้ง 2 ฝ่าย จนหัวค่ำเหตุการณ์รุนแรงขึ้น แกนนำเสื้อแดงประกาศให้ทุกคนเข้ามาในสนามและหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ก็ไม่เป็นผล ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากที่อยู่บริเวณภายนอก วิ่งเข้าปะทะกับกลุ่มนักศึกษา ช่วงนั้นน่ากลัวมาก เสียงปืน เสียงระเบิด ดังขึ้นต่อเนื่อง ทุกคนต่างกลัว แตกตื่น ไม่รู้จะวิ่งหลบไปทางไหน อยากออกให้พ้นจากมหาวิทยาลัย แต่แกนนำบนเวทีประกาศให้อยู่ข้างใน รอสถานการณ์สงบก่อน การปะทะอย่างดุเดือดนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ช่วงแรกจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัย แต่ต่อมาก็ล้มเหลวในการควบคุมสถานการณ์ ค่อยๆ ล่าถอยออกจนหายไปในที่สุด กระทั่งความรุนแรงถึงขีดสุด พบนักศึกษารามถูกยิงเป็นรายแรก โศกนาฏกรรมเริ่มต้นขึ้น! หลังจากนำผู้บาดเจ็บส่งตัวให้แพทย์ ไม่นานทางโรงพยาบาลรามคำแหง ก็ออกมายืนยันว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ คือ นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง วัย 21 ปี สาเหตุการตาย เพราะถูกยิงเข้าที่ชายโครงข้างซ้าย จำนวน 2 นัด เมื่อโรงพยาบาลยืนยันการเสียชีวิตแล้ว บรรดานักศึกษารามคำแหงได้ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้เพื่อนที่จากไป บรรยากาศเป็นไปด้วยความสลดและหวั่นเกรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ฝั่งผู้ชุมนุมเสื้อแดง แกนนำควบคุมฝูงชนได้แล้ว และสั่งให้ทุกคนปักหลักอยู่ภายในสนามราชมังฯ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก พอรู้ว่ามีคนตาย ทุกคนเลยยิ่งหวาดกลัว นักศึกษาที่ติดอยู่ข้างใน มหาลัยมีเกือบสามพันคน อธิการบดีเลยประกาศให้พักค้างคืนในอาคารเรียน และขอให้ทุกคนดูแลกันและกัน เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง สั่งเปิดพื้นที่อาคารเรียน เพื่อให้นักศึกษานอนพักค้างคืน รวมทั้งสั่งห้ามออกนอกมหาวิทยาลัยเพื่อความปลอดภัยของทุกคน จากนั้นประสานไปทาง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ ค่ำคืนแห่งความสับสนนั้น นักศึกษายังคงรวมตัวนั่งฟังปราศรัยจากแกนนำบนเวที ซึ่งมีการควบคุมตัวผู้ที่ต้องสงสัยเข้ามาก่อกวนได้เป็นระยะ ระหว่างนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์คอยบินวนเหนือมหาวิทยาลัยตลอดทั้งคืน ต่อมามีผู้บุกรุกเข้ามาจากประตูด้านหลัง สาดกระสุนเข้าใส่การ์ดอาสาซึ่งล้วนเป็นนักศึกษาทั้งสิ้น คืนนั้นเรานอนในอาคาร รอคอยความช่วยเหลือที่ไม่รู้อีกนานเท่าไรจะมาถึง พอหลับตาลง นึกว่าตัวเองอยู่ในสนามรบ ไม่ใช่ในรั้วของรามคำแหง สถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติแห่งหนึ่งในประเทศไทย กระทั่งเช้าวันที่ 1 ธ.ค.สถานการณ์ที่ยังไม่คลี่คลาย ได้กลับมาปั่นป่วนอีกครั้ง นักศึกษาที่มารวมตัวกันเตรียมออกจากมหาวิทยาลัย เป็นอันต้องกระจัดกระจายหนีเอาชีวิตรอด บ้างก็นอนหมอบนิ่งอยู่ที่พื้นตามเสียงของแกนนำ บ้างก็วิ่งหลบเข้าที่กำบังกันจ้าละหวั่น เพราะเสียงปืนและระเบิดระลอกใหม่เกิดขึ้นอีกแล้ว และคราวนี้เหมือนจะรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะปรากฏกลุ่มชายคอยยิงสกัดคนที่พยายามจะออกนอกรั้วมหาวิทยาลัย และสกัดรถพยาบาล ไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บภายในมหาวิทยาลัย สิ้นสุดด้วยความสูญเสีย ขณะที่ในรั้วรามคำแหง เกิดเหตุการณ์เศร้าสลด ทางฝั่งของนปช.ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน การ์ดของ นปช.ซึ่งถูกคนร้ายไม่ทราบฝ่ายยิงจากสะพานด้านหลังสนามราชมังฯ ถูกประกาศเป็นผู้เสียชีวิตเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ดำเนินมาถึงจุดเกินกว่าจะควบคุม แกนนำนปช.จึงประกาศยุติการชุมนุม โดยระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นเรื่องที่สูญเสียมากพอแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นอีก และเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับรัฐบาลในการรับมือสถานการณ์ จึงตัดสินใจยุติการชุมนุมชั่วคราว ขอให้พี่น้องเสื้อแดงเดินทางกลับไปภูมิลำเนา ขณะที่ภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากเฝ้ารอความช่วยเหลือมาทั้งคืน สัญญาณแรกที่ช่วยจุดประกายความหวังให้ฝูงชนในรามคำแหง คือข้าวกล่องและน้ำที่ทยอยส่งเข้ามาให้ จากนั้นก็มีการบอกต่อกันว่าจะมีทหารเข้ามาช่วยทุกคนออกไป เมื่อรถทหารชุดแรกจำนวน 1 กองร้อย จากกรมทหารราบที่ 11 รอ. เคลื่อนมาถึงเขตรามคำแหง ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ ขณะที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ตรงเข้าไปคุยกับอธิการบดี ทหารที่เหลือก็จัดตั้งแถวอยู่ที่ตึกอธิการ ส่วนหนึ่งตั้งแถวเป็นแนวยาวที่หน้าประตูรั้วรามคำแหง เพื่อเป็นกำบังให้กับนักศึกษาออกจากประตู กลับไปหาคนทางบ้าน ที่รอคอยการกลับมาอย่างลุ้นระทึก ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้งหมด ทั้งพยานหลักฐาน หรือลำดับเหตุการณ์ ต่างพุ่งตรงไปในประเด็นว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ มีจุดประสงค์ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น ผลสรุปของการนองเลือดนี้จึงแลกมาด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ นศ.รามคำแหงส่วนใหญ่มารวมตัวกันด้วยความรักต่อสถาบัน ไม่ได้ต้องการให้เกิดเหตุนองเลือด สิ่งที่เราอยากได้ขณะนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น
เอาหลักฐานมาหน่อยซิครับว่าทำจริง คลิปบอกรุมทำร้ายเห็นมีแต่ถ่ายตีรถ มาอีกทีก็เป็นรูปตอนบาดเจ็บ ตอนตายได้ ทำไหมถึงถ่ายตอนถูกทำร้ายไม่ได้ แถมมักง่ายนะครับ สงสัยก็อปวางหลายครั้งแถมโกหกไม่ลืมหูลืมตา ขนาดลิงค์เน่ายังเอามาลง
โถจากราดดำนาซะด้วย ดูนี่ดีกว่า https://www.youtube.com/watch?v=l4Zu5Au_53Q เมิงไปกรีดรูปเขาทำไม อ่อ เลยพาลไปร้านพิซซ่าซะด้วย ดิบ ถ่อย เถื่อน สถุล
ลำดับเหตุการณ์ข่าวหน้าราม ม็อบเสื้อแดงปะทะนักศึกษา 72,460อ่าน 0แสดงความเห็น 61 เวลาประมาณ 02.15 น. มีเสียงยิงปืนดังเป็นระยะ ๆ รอบ ๆ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และพบนักศึกษาถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยรามคำแหง 53 เวลาประมาณ 02.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ประตูด้านหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ หรือใครเป็นคนสร้างสถานการณ์ดังกล่าว เวลาประมาณ 01.00 น. อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง แสดงความรู้สึกผิดหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมกับเรียกร้องให้ศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่ ศิษย์ปัจจุบัน ออกมาปกป้องมหาวิทยาลัย เวลาประมาณ 00.45 น. เพื่อนนักศึกษารามคำแหงได้ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้แก่นักศึกษาที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบยิง 30 พฤศจิกายน 2556 ผศ. วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้สั่งเปิดพื้นที่อาคารเรียน เพื่อให้นักศึกษาพักค้างคืน รวมทั้งห้ามออกนอกมหาวิทยาลัย พร้อมเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกมาดูแลและควบคุมสถานการณ์ด้วย คลิกอ่านข่าวได้ที่นี่ หลังแกนนำเสื้อแดงทราบข่าวการปะทะหน้าราม มีผู้บดาดเจ็บและเสียชีวิต ก็ได้ประกาศให้รวมตัวกันที่ลานพ่อขุนรามคำแหงเพื่อความปลอดภัย พร้อมกับยืนไว้อาลัยให้แก่นักศึกษาที่เสียชีวิต เวลา 23.00 น. โรงพยาบาลรามคำแหง ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง วัย 21 ปี ถูกยิงที่ชายโครงข้างซ้ายจำนวน 2 นัด นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย เวลา 22.30 น. สถานการณ์หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มคลี่คลาย แกนนำนักศึกษาได้เรียกนักศึกษาทุกคนเข้าไปในมหาวิทยาลัย แต่ยังมีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายประมาณ 50-100 คน รวมตัวกันอยู่บริเวณวัดเทพลีลา ก่อนจะมีเสียงคล้ายระเบิดปิงปองดังถึง 4 ครั้ง และมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีขว้างปาสิ่งของจากบนโทลเวย์เป็นระยะ ๆ เวลาประมาณ 20.40 น. เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชาถูกยิงด้านหลังจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยจะเดินออกไปด้านนอกจนเผชิญหน้ากับตำรวจ จากนั้นมีเสียงปืนดังขั้น โดยไม่ทราบวิถีกระสุน ทำให้นักศึกษาได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเฮลิคอปเตอร์บินตรวจพื้นที่ เวลาประมาณ 17.11 น. เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นภายหลังการอ่านแถลงการณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราม คำแหง โดยกลุ่มนักศึกษาเข้าไปรุมทำร้ายชายคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงจน เกิดเหตุชุลมุนขึ้น การ์ดต้องควบคุมชายคนดังกล่าวออกไปอย่างทุลักทุเล โดยกลุ่มนักศึกษาได้ปิดถนนหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง และมีท่าทีจะเดินไปที่ด้านหน้าสนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่เป็นระยะ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านบริเวณด้านหน้าหอนาฬิกาดังกล่าว และมีการยั่วยุกัน ทำให้กลุ่มนักศึกษารามคำแหงส่วนหนึ่งวิ่งไล่ตามไป แต่สุดท้ายแล้วแกนนำก็ได้เรียกให้กลับมาชุมนุมในที่ตั้งตามเดิม เวลา 13.00 น. บริเวณหอนาฬิกาด้านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง มีกลุ่มนักศึกษารามคำแหง ได้รวมตัวกันตั้งจุดปราศรัยบนรถขยายเสียง เพื่อต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยระบุว่า นักศึกษารามมารวมตัวเพราะมีนักศึกษารามคำแหงถูกทำร้ายที่ ซ.มหาดไทย และ ซ.รามคำแหง 53 และมีการทำลายป้ายรูปพ่อขุนรามคำแหง โดยแกนนำนักศึกษาที่มาชุมนุมอ้างว่าเป็นฝีมือกลุ่มคนเสื้อแดง คลิกอ่านข่าวได้ที่นี่ 30 พฤศจิกายน 2556 (ช่วงเช้า) นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ได้ขอให้กลุ่ม นปช. ทุกคนร่วมออกมาแสดงพลังคัดค้านการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการประชาชนเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ส่วน นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า กลุ่ม นปช. จะขัดขวางไม่ให้กลุ่ม กปปส. ออกมายึดสถานที่ราชการอีกต่อไป และคาดว่าจะมีคนเสื้อแดงออกมารวมพลังกว่า 1 แสนคน พร้อมฝากไปยังกลุ่มนักศึกษารามคำแหง ที่จะขัดขวางการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ว่า อยากให้ต่างคนต่างอยู่ ให้ทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะไม่อยากให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น คลิกอ่านข่าวได้ที่นี่ 28 พฤศจิกายน 2556 นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า 30 พ.ย. นี้ คนเสื้อแดงจะชุมนุมกันจนกว่านายสุเทพจะยุติ ไม่ว่าด้วยการตาย การยุติการชุมนุม หรือการมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันไม่ให้นายสุเทพเปิดประตูรัฐประหาร หรือตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย คลิกอ่านข่าวได้ที่นี่
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์ , สำนักข่าวไทย ลำดับสถานการณ์ข่าวหน้าราม ม็อบเสื้อแดงปะทะนักศึกษา มีดังนี้ 1 ธันวาคม 2556 เวลาประมาณ 16.00 น. ศูนย์เอราวัณ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ราย ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 57 คน โดยรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย คลิกอ่าน ข่าวที่นี่ เวลาประมาณ 15.45 น. นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มแรกที่ กทม. จัดรถไปรับออกมาจากมหาวิทยาลัย เดินทางถึงศูนย์ช่วยเหลือฯ โรงเรียนวัดพระราม9 แล้ว เบื้องต้นทุกคนปลอดภัย เวลาประมาณ 15.15 น. ทหารจากกรมทหารราบที่ 11 นำรถบัสมารับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ยังตกค้างอยู่ภายในออกจากพื้นที่ คาดค่ำนี้จะนำนักศึกษาออกมาได้หมด และมหาวิทยาลัยจะทำหนังสือขอให้ส่งกำลังทหารมาประจำเพิ่ม เวลาประมาณ 11.00 น. ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงว่า เหตุการณ์การปะทะหน้าราม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย บาดเจ็บทั้งหมด 45 ราย คลิกอ่านข่าวได้ที่นี่ เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้มาตรวจความเรียบร้อยการเคลื่อนย้าย กลุ่ม นปช. ออกจากสนามราชมังคลากีฬาสถานหลังยุติการชุมนุม หลังจากนั้นได้ประสานงานกับทาง อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อไปรับตัว นักศึกษารามคำแหงที่ตกค้างอยู่ในมหาวิทยาลัยและไม่สามารถออกมาจากพื้นที่ได้ โดยจะมีรถบัสนำตัวออกมาเพื่อความปลอดภัย เวลาประมาณ 08.00 น. ม็อบเสื้อแดง ยุติการชุมนุมชั่วคราว โดยแกนนำระบุว่า เนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นเรื่องที่สูญเสียมากพอแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นอีก และเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับรัฐบาลในการรับมือสถานการณ์ นปช. จึงตัดสินใจยุติการชุมนุมชั่วคราว ให้คนเสื้อแดงเดินทางกลับไปภูมิลำเนา และเตรียมความพร้อมในการออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมร่วมกันอีกครั้ง คลิกอ่านข่าวได้ที่นี่ เวลาประมาณ 06.45 น. แกนนำกลุ่ม นปช. ยังคงชี้แจงให้กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงอยู่ภายในสนามราชมังคลาฯ เพื่อรอการ์ดตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนจะประเมินสถานการณ์ เวลาประมาณ 06.30 น. ได้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีปาระเบิดเข้ามาตรงทางเข้าก่อนถึงหอนาฬิกาโดยหลังเกิด เหตุได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า มีชิ้นส่วนสลักระเบิดตกอยู่ ขณะที่ภายในตึกอธิการบดี ด้านในมหาวิทยาลัยรามคำแหง พบว่ายังมีนักศึกษาติดค้างภายในจำนวนมาก เวลาประมาณ 05.30 น. นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงและนักเรียนอาชีวะส่วนหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังเหตุการณ์ด้านหน้ามหาวิทยาลัยยังคงรวมกลุ่มกันอยู่ เป็นจุด ๆ โดยกลุ่มนักศึกษาที่เฝ้าระวังเหตุการณ์ด้านหน้ามหาวิทยาลัย คุณยายเหรอ
ประมวลภาพที่ยังไม่เคยเห็น ความรุนแรงหน้าราม พลพรรคเสื้อแดงอาวุธครบมือ Posted by chronomist , ผู้อ่าน : 16121 , 13:37:47 น. หมวด : นักข่าวอาสา พิมพ์หน้านี้ chompoopookha , TanchokT และอีก 4 คนโหวตเรื่องนี้ ขอขอบคุณภาพข่าวจากแนวหน้าและ v for thailand ควายแดงใจสัตว์
"วันที่ล้อมยิงคนเสื้อแดงในราชมังคลา" ก่อนหน้านี้ก็เคยงงมาทีตอนเพื่อนพูดขึ้นมา พอเจอในพันทิพก็เลยคิดว่า คงเป็นอีก1ในชุดความเชื่อที่พูดกันไปตามใบบอก
ในเวทีมันพูดแบบนั้น เพื่อให้คนเสื้อแดงกลัวไม่กล้ากลับออกไปครับ พูดง่ายๆ แกนนำเสื้อแดงเอาคนเสื้อแดงเป็นตัวประกัน
ตอนคนเยอะ รุมทำเขาได้ ต่างไชโยโห่ร้องประกาศชัยชนะ คนถูกทำเขาทนไม่ได้จึงต้องตอบโต้ ไอ้ที่เคยเก่งกล้าพอโดนเข้าบ้างก็ร้องเป็นหมาโดนน้ำร้อน ไม่ต้องระบุว่าเป็นพวกไหน เสื้อสีอะไร อ่านแล้วก็รู้เองได้ ที่สำคัญคือตอนนี้ลุงตู่ปราบอยู่หมัดหมด ผมอยากอยู่สงบๆอย่างนี้อย่างน้อยห้าปี วอนลุงตู่ช่วยจัดให้ที
คดีอยู่ในกระบวนการแล้วครับ ไม่ต้องห่วง ว่าแต่จะไม่คิดรำลึกหน่อยเหรอครับ เห็นเสื้อแดงวันนั้นกลัวเสียงปืนกันใหญ่จนไม่กล้ากลับบ้านกันเลย
จะรีบไปไหน คดีนี้ศาลชั้นต้นเพิ่งตัดสินเอง คุก 4 ปี 4 เดือน 4 นปช. บุกบ้านป๋าเปรม ศาลให้ประกัน 5 แสน สั่งห้ามไปนอก 21,560อ่าน 113แสดงความเห็น 2,136 ศาลอาญา สั่งคุก 4 ปี 4 เดือน "วีระกานต์-ณัฐวุฒิ-เหวง-วิภูแถลง" แกนนำ นปช. ไม่รอลงอาญา กรณีนำม็อบบุกบ้าน พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี 2550 แต่ให้ประกันตัววงเงินคนละ 5 แสนบาท พร้อมห้ามไปต่างประเทศ วันที่ 16 กันยายน 2558 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และนายแพทย์เหวง โตจิราการ ซึ่งทั้งหมดเป็นแกนนำ และแนวร่วม นปช. รวม 7 คน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และข้อหาอื่น ๆ กรณีนำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากสนามหลวงไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พลเอก เปรม ลาออกจากตำแหน่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัดมีเพียง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. จำเลยที่ 4 เพียงคนเดียวที่ไม่ได้เดินทางมาศาลตามนัดแต่มอบอำนาจให้ตัวแทนขอเลื่อนฟังคำพิพากษา สาเหตุจากนายวีระกานต์ป่วยมีอาการเลือดออกในลำไส้ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า มีเหตุสมควรจึงให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาเฉพาะในส่วนของนายวีระกานต์ จำเลยที่ 4 ส่วนจำเลยทั้งหมดได้มายังศาลครบ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาในส่วนจำเลยที่มาศาล ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมกลุ่มแกนนำที่อยู่บนรถซึ่งผู้ชุมนุมได้ขัดขวางโดยใช้เก้าอี้และอิฐปาใส่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่การป้องกันตัวตามที่จำเลยกล่าวอ้าง และพิจารณาคำปราศรัยของแกนนำแล้วเห็นว่า ไม่มีเจตนาที่จะห้ามปรามผู้ชุมนุมอย่างจริงจัง ศาลจึงพิพากษา จำคุก นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนายแพทย์เหวง คนละ 4 ปี 4 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานทำร้ายเจ้าพนักงาน พิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน และให้ยกฟ้องนายวีระศักดิ์ และนายวันชัย ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 เนื่องจากหลักฐานยังมีข้อสงสัยว่าร่วมกระทำผิดหรือไม่ พร้อมนัดให้นายวีระกานต์ มาฟังคำพิพากษา ในวันที่ 30 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น. โดยภายหลังศาลมีคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยที่ถูกพิพากษาจำคุกลงมาที่ห้องขังใต้ถุนศาลอาญาทันที และขณะนี้ทนายความอยู่ระหว่างยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลอาญาอนุญาตให้จำเลยทั้งสี่ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์โดยตีราคาประกันคนละ 5 แสนบาท พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
อุ๊ย สื่อต่างชาติเขาเสนอความจริงเหรอ สื่อต่างชาติกเลือกได้ เห็นแต่เสนอด้านเดียว ไม่เสนอเรื่องอื่น ก๊ากกกกก ไอ้ขี้แพ้ แถไม่เลิก หวายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีเรื่องนี้ในสื่อต่างชาติป่ะ