อย่างกรณีนี้ ถ้าศาลมีคำสั่งตัดสินแน่ชัดว่าผิดจริง (อาจจะถึงศาลฎีกาหรือไม่ แล้วแต่การต่อสู้ของจำเลย) กำหนดให้พรรคต้องขับ ผู้รับผิดชอบเฟ้นหาตัวผู้สมัครโดยตรง (เช่นผู้อำนวยการประจำจังหวัดของพรรค เพราะขนาดเรื่องในจังหวัดตัวเองยังไม่รู้ ) ออกจากสมาชิกพรรค พร้อมกับตัวสมาชิกที่โดนตัดสินว่าผิดด้วย เพื่อให้การคัดกรองผู้สมัครสส.ของพรรคจะได้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ----------------------------------------------------------------------------------------- 27 ธ.ค. 58 มีรายงานว่า พ.ต.ท.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมชุด ปส.สภ.เมืองขอนแก่น ได้จับกุม น.ส.พลอยเพ็ญ พิมพ์เกษ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดบึงกาฬ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดบึงกาฬ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5,750 เม็ด เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา สำหรับการจับกุมดังกล่าว เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดของจังหวัดขอนแก่น โดยก่อนหน้านี้ได้จับกุม นายอัฐชะริยะพล หรือ อ๊อฟ ศรีไพรวัลย์ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1,100 เม็ด โดยให้การซัดทอดว่ารับซื้อมาจากชาวลาว จึงขยายผลล่อซื้อ โดยนัดหมายส่งยากันที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ ช่วงกลางดึกวันที่ 24 ธ.ค. เมื่อถึงเวลานัดหมายมีรถยนต์ยี่ห้อ ซีอาร์วี สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 6138 พังงา มาจอด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และพบ น.ส.พลอยเพ็ย นั่งอยู่ในรถ พร้อมนายฉลอง หรือกบ ยอดขำ อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี เป็นคนขับ จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 5,750 เม็ด บรรจุในซองสีฟ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องห่อด้วยกระดาษของขวัญวางปะปนกับสิ่งของอื่น ด้าน น.ส.พลอยเพ็ญ ให้การว่ารับจ้างส่งยาให้กับชาวลาว และจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าเคยสมัครเป็น ส.ส. เขต 1 บึงกาฬ เมื่อปี 2554 และกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่มักแอบอ้างนำหน้าชื่อว่าเป็น ด็อกเตอร์ ทั้งที่ยังไม่สำเร็จการศึกษา และเคยถูกมหาวิทยาลัยตักเตือนมาแล้ว แต่เจ้าตัวกลับเมินเฉยยังคงใช้ด็อกเตอร์นำหน้าชื่ออยู่ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) จะมีการประชุมชุดสืบสวนภาค 4 เพื่อขยายผลถึงเครือข่ายและยึดทรัพย์ต่อไป http://www.naewna.com/local/195012
แต่อดีต สส. พรรรค ปชป. ก้ออยู่ทุกพรรคนะ ที่อยากเข้าแต่เขาไม่เอาก้อมี ออกไปตั้งพรรคเองก้อหลาย ออกไปแล้วเลวก้อมี อยู่แต่แอบเลวก้อมี จิงมั้ง โหม้งแหม่ง??
เรื่องนี้ผมไม่รู้ รู้แต่ว่า นโยบายเส็งเคร็งอย่างจำนำข้าวเนี่ย ควรมีให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากพรรคเพื่อไทยด้วย ข้อหาหาเสียงหลอกลวงประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ จินตนาการว่าถ้าฟ้องได้จริง คงทำให้พรรคการเมืองระระมัดระวังมากขึ้นในการเสนอนโยบายหาเสียง ไม่งั้นถ้าทำไม่ได้จริง เสียหายขึ้นมาโดยฟ้องเละจนแทบยุบพรรคอัตโนมัติเลยทีเดียว
ผมเลยจำกัดเอาเฉพาะผู้รับผิดชอบระดับจังหวัด ไม่ใช่ระดับภาค หรือประเทศ เพราะจริงแล้ว คนในจังหวัดหลายคนที่พอจะรู้คร่าวๆว่า คนดังๆที่มีศักยภาพพอจะสมัครสส.ได้ ทำอาชีพอะไร จึงคิดว่าพวกสมาชิกพรรคที่อยู่ในจังหวัดน่าจะรู้ดีกว่าชาวบ้านทั่วไป โดยเฉพาะผู้อำนวยการคัดเลือก หรืออีกอย่างคือให้พรรคได้รู้จักมีความรับผิดชอบ ทำงานคัดเลือกคนดีๆมาให้ประชาชนเลือกด้วย ไม่ใช่พอเห็นว่ามีฐานเสียงเยอะ ตรูจะเอามา โดยแกล้งโง่ไม่รู้เบื้องหลังว่าคนนี้เลวหรือดี
การเมืองที่ผ่านมามันไม่ตรงไปตรงมา มันถูกครอบงำด้วยอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้การแข่งขันในการหาเสียงกับประชาชนมันก็ถูกอิทธิพลบีบไปด้วย บางพื้นที่นี่ไม่ต้องหาคนดีมาสมัครหรอก เอาคนเลวมาก หรือคนเลวน้อยหน่อย มาสมัครก็ยังหายากเลย เพราะไม่มีใครกล้ามาสมัครเป็นคู่แข่งของอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าลงสมัครได้ ก็หมายถึงว่าพรรคที่มีอิทธิพลในท้องถิ่นมองแล้วว่า ไม่มีน้ำยา ให้มันสมัครไป เพราะยังไงก็ไม่มีคนเลือกมันหรอก ไอ้พรรคที่ส่งสมัคร ก็คงสักแต่ว่าส่งให้มันครบพื้นที่เท่านั้นไม่ได้หวังผลอะไร เพราะยังไงก็แพ้ แต่จะปล่อยให้พื้นที่ว่างไม่มีผู้สมัครของพรรคก็ดูกะไรอยู่ มันจะดูเหมือนเป็นพรรคกระจอกไป มันเป็นสภาพการแข่งขันการเลือก สส ตั้งแต่ทักษิณ ตั้งพรรคการเมือง การสรรหาผู้สมัครตั้งแต่สาขาพรรคในแต่ละจังหวัด และภาค มาถึงส่วนกลาง มันแค่ทฤษฎี ที่ดูเหมือนไม่ยอมรับความเป็นจริง เพราะถ้าเราไปดูที่ทำการพรรคของพรรคการเมืองในจังหวัดต่าง ๆ มักจะเห็นว่า ถ้าพรรคไหนเป็นรัฐบาล ที่ทำการพรรคจะเปิด พรรคไหนเป็นฝ่ายค้าน ส่วนใหญ่ที่ทำการพรรคจะปิด อีกหลายพรรคไม่เคยเห็นที่ทำการพรรคเลย ไม่รู้มันมีหรือเปล่า ไอ้พรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลถ้าจะมีสาขาพรรคในจังหวัดใด ส่วนใหญ่ก็จะต้องมี สส ที่ได้รับเลือกอยู่ในจังหวัดนั้นด้วย ถ้าไม่มี สส อยู่ ก็อาจใช้บ้านผู้สมัครที่สอบตกเป็นที่ทำการ เอาป้ายไปติดแอบ ๆ ไว้ แบบกลัวคนเห็นก็มี เพราะฉะนั้น การที่จะให้มีการรับผิดชอบในการคัดเลือก สส ที่ลงสมัครถ้าไปเจอบางพื้นที่ที่มีอิทธิพล ก็อาจไม่เป็นธรรมเท่าไร เพราะแค่หาคนลงสมัครได้ ก็ดีใจกันทั้งพรรคแล้ว ถ้าครั้งนี้ปฏิรูปไม่ได้ ก็คงอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานละครับ