ไหนๆ รัฐบาลลุงตู่ ก็เน้นเข้ามาปฏิรูป ปราบโกง ป้องทุจริต ฯลฯ แล้ว... อย่างกรณีนี้ ควรยกย่อง ผู้นำชุมชนในหมู่บ้าน ที่ทราบข้อมูล และแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบ และดำเนินการ … ------------------------------------------------------------ สนธิกำลังสกัดจับแก๊งซื้อทุเรียนอ่อนยึดของกลาง 1 คันรถ เอาผิดพ่อค้า-เจ้าของสวน ชุมพร - หน่วยงานภาครัฐในอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร สนธิกำลังสกัดจับแก๊งซื้อทุเรียนอ่อน ยึดของกลาง 1 คันรถยนต์ กว่า 1,500 กิโลกรัม ดำเนินคดีทั้งพ่อค้า และเกษตรกรเจ้าของสวน วันนี้ (30 พ.ค.) พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.ท.ชนินทร์ ณรงค์น้อย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุชาติ พิเคราะห์ รอง ผกก.ป. ร่วมกับ นายปัญยม รอดคง ปลัดอำเภอท่าแซะ ฝ่ายความมั่นคง นายบุญส่ง อึ้งเจริญ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต นายสังคม ชุมสุข นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตร จ.ชุมพร น.ส.ณัทธิมา สุขเสวียด รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอท่าแซะ น.ส.พรรณวดี อรุณทัต นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สนง.เกษตรอำเภอท่าแซะ สนธิกำลังร่วมกันออกตรวจสอบป้องกันปัญหาการลักลอบซื้อขายทุเรียนอ่อน หลังจากได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนในหมู่บ้านว่า มีพ่อค้ามารับซื้อ และตัดทุเรียนอ่อนจากชาวสวนของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากการตรวจสอบพบว่า ที่สวนทุเรียนของ นางแก้ว หมายถมกลาง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 23 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้มี นายประสาน เนียมสุวรรณ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329 หมู่ 16 ตำบลบ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พ่อค้ารับซื้อทุเรียนได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน บจ 2949 ระนอง กระบะหลังติดกรงเหล็กบรรทุกทุเรียนอยู่เต็มคันหนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปรากฏว่า เป็นทุเรียนอ่อนทั้งหมด จึงควบคุมตัวเจ้าของสวนทุเรียน และพ่อค้าที่รับซื้อไปสอบสวนที่ สภ.ท่าแซะ เจ้าหน้าที่สอบสวนทราบว่า นายประสาน ได้ตกลงเหมาซื้อทุเรียนอ่อนทั้งหมดที่ยังไม่แก่เกินกว่า 60% หรือยังไม่ครบกำหนดเวลาเก็บผลผลิตขายจากสวนของนางแก้ว ในราคากิโลกรัมละ 45 บาท เป็นเงินกว่า 6 หมื่นบาท เพื่อนำไปส่งขายต่อให้แก่พ่อค้าคนกลาง จนมาถูกจับกุมดังกล่าว พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.ท่าแซะ กล่าวว่า ปัญหาการซื้อขายทุเรียนอ่อนถือเป็นนโยบายสำคัญของจังหวัดที่ต้องออกตรวจสอบป้องกัน และจับกุมอย่างเข้มงวด เนื่องจากการซื้อขายทุเรียนอ่อนจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยรวม เพราะจะทำให้ต่างประเทศไม่ซื้อทุเรียนจากประเทศไทย การจับกุมในครั้งนี้ได้จับกุมทั้งผู้ชื้อ และผู้ขาย เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยึดอาชีพเป็นพ่อค้า และทำสวนทุเรียนมานานย่อมที่จะรู้ดีถึงคุณภาพของทุเรียนที่ซื้อขายกันว่าแก่ได้คุณภาพ หรือเป็นทุเรียนอ่อนที่ยังไม่สามารถเก็บขายได้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทุเรียนอ่อนทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวนายประสาน พ่อค้ารับซื้อทุเรียนอ่อน และนางแก้ว เจ้าของสวน ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 ผู้ใดโดยก่อเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะของตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภค หรือประชาชนรายใดได้รับความเดือดร้อนโปรดแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวก่อนหน้านี้ได้มีคดีตัวอย่างมาแล้ว เหตุเกิดท้องที่ สภ.แกลง จ.ระยอง ศาลจังหวัดระยอง สั่งจำคุกพ่อค้าทุเรียนขายทุเรียนอ่อนให้แก่ผู้บริโภคเป็นเวลา 15 วัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 โดยไม่รอลงอาญา http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000061405 ----------------------------------------------------------- พวกเห็นแก่ได้ อยากรวยทางลัด โดยอาศัยการเอาเปรียบคนอื่น แถมที่สำคัญ ทำลายชาติ ทำลายชื่อเสียง ทำลายอาชีพตนเองในระยะยาวเห็น ๆ... ไม่แน่ใจว่า ในอดีตที่ไม่ใช่รัฐบาลลุงตู่ มีการเข้มงวดในเรื่องแบบนี้ มากน้อยแค่ไหน... แต่เท่าที่จำได้...ได้รับ ได้ยินเสียงบ่นกันมาตลอดถึงการเอาเปรียบของพ่อค้า แม่ค้า ด้วยการโกงเยี่ยงนี้ โดยเฉพาะกับผลไม้ที่มีราคาสูง และเลือกดูยาก อย่างทุเรียน... อยากให้มีการสุ่มตรวจสอบจับกุมแบบนี้ให้มากๆครับ... สำหรับผม ขอแจ้งเบาะแส ไว้ที่นี่เลยครับว่า... ขอให้ลองแวะไปซื้อทุเรียนข้างทาง ที่มีราคาสูงๆ แถบทางขึ้น จว.ภาคเหนือ ดูซัก 4-5 ร้านดูครับ... ไอ้ที่บอกว่าเป็น ทุเรียนหลง ทุเรียนหลิน โลละ 3-4 ร้อย นั่น... ซื้อกลับไปกินบ้านแล้ว เป็นยังไงกันบ้าง...
เห็นข่าวนี้แล้วนึกถึงช่วงที่ยางพารา กก.ละร้อยกว่าบาท มีคนมารับซื้อเปลือกไม้ยางพาราที่ชาวสวนกรีด ออกมาจากต้น กก.ละ 2.50 บาท แล้วเอาไปคลุกกับน้ำยาง ทำเป็นเศษขี้ยาง ผมได้ยินข่าวนี้แล้วเกลียดทั้งชาวสวนที่ขาย เกลียดทั้งคนที่มารับซื้อ มันทำให้ราคาเศษขี้ยางตกทั้งระบบ เห็นแก่ตัวจริงๆ
มีคนเจอมา...ลูกละ 450… ตบมือข้างเดียวไม่ดัง... ชาวสวนย่อมรู้อยู่แก่ใจ...อ่อน แก่ สุก ห่าม... คนขาย พ่อค้า แม่ค้าอยากได้กำไรมากๆ... เพียงแต่หวังว่า...ส่วนใหญ่ จะยังยึดคำโบราณที่ว่า... "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" กันไว้มากๆครับ... ไม่ใช่… "โกงได้ แต่ให้มีผลงาน หรือเอามาแบ่งปันกัน"... เหมือนสมัยที่นายหญิง นายใหญ่ ของชาวไพร่ จ่ายเงินซื้อ/จ้าง สส. ให้ยกมือให้ในสภาฯ... ขอบพระคุณภาพจาก... https://www.facebook.com/ut24hrs
ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าไอ้คนซื้อยอมลงทุนจ่ายเงินโลละ 45 บาท เพื่อเอาของห่วยไปหลอกขายคนอื่นเนี่ยนะ ตอนนี้ในหมู่บ้านผมเห็นหมอนทองโลละ 70 ถ้าไปซื้อตลาดใหญ่คงถูกกว่านี้ แปลว่าพ่อค้าอย่างมากก็เอาไปหลอกขาย ฟันกำไรแค่โลละ 15-25 บาทเท่านั้นเอง รถกระบะ 1 คันบรรทุกได้ 1 ตัน กำไรแค่ 15000-25000 บาท ยังไม่คุ้มค่าปรับเลยอย่าว่าแต่ค่าประกันตัวสู้คดีอาญาอีกนะ งงจริง ๆ ว่าทำไปเพื่อ???
แทบจะเป็น ข่าวรายวัน... ช่วยๆกัน แจ้งเบาะแส ฟันให้หนักครับ... คนไทยเรา มักไม่อยากเอาเรื่อง เอาราวอะไรกับใคร มักจะยอมๆกัน ถ้าไม่หนักหนาสาหัสมากมายนัก เจอพ่อค้า แม่ค้าขี้โกง ผ่านไปแล้ว(บางที)ก็มักปล่อยผ่านๆไป ไอ้พวกมักง่าย เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้เลยมักจะเหิมเกริม ไม่รู้จักเข็ดหราบ... ปล่อยๆไว้ ต่อไปก็คงเหมือนการจราจรที่ คนเข้าคิวต่อแถวรถติด ตามๆกันไปเป็นระเบียบ แต่ต้องมายอมให้ไอ้พวกวิ่งไหล่ทาง แทรกขวา แซงซ้าย เบียดเข้าใน ไปกันก่อน... สุดท้าย รถก็ติดวินาศสันตะโร... ติดกันเป็นงูกินหาง ถ้าไม่มีตำรวจยืนคุมอยู่...