พอดี แว่บไปเจอเอาข่าว เธอผู้นี้ได้พ้นคุกเข้า... *** *** *** http://www.dailynews.co.th/regional/519794 *** *** *** ทำให้นึกถึง นายใหญ่ ที่ทำให้ใครต่อใคร ต้องร่วมได้รับผลกรรม ติดคุกติดตาราง จนกระทั่งหลายๆคน ได้พ้นโทษกันออกมาแล้ว อย่างเธอนางนี้.. เป็นธรรมดาของโลก ที่สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง ... คนใหม่ได้เข้า คนเก่าได้พ้นออกมา ถ้านายใหญ่ไม่หนีในวันนั้น ไม่สร้างเวรกรรมต่อชาติบ้านเมืองเพิ่มเติมต่อเนื่อง เที่ยวยุยง จ้างวาน ปลุกปั่นแบบว่า "ถ้าผมไม่มีความสุข คนอื่นก็อย่าได้มีความสุข" ป่านนี้ คงได้เลี้ยงหลานๆ อยู่กับบ้านแบบเท่ๆไปแล้ว ?… อยากให้บรรดาเหล่าขี้ข้า ที่ยังคิดว่า ขี้ของนายใหญ่ยังหอมหวาน เสมอ ได้โปรดพิจารณากันไว้ครับว่า...จริงมั๊ยว่าสุดท้าย ยามติดคุกติดตาราง ไม่มีใครในหมู่ขี้ข้า หรือแม้แต่นายหญิง นายใหญ่ เขาจะมาสนใจ เหลียวแลกัน … อย่างคุณเธอนางนี้ นับว่ายังพอมีบุญอยู่บ้าง ที่ไม่ต้องถึงกับตายในคุก... ด้วยเวรกรรมที่เธอได้ก่อเอาไว้ . แต่ถ้า 8 ปี ไม่ทำให้เธอได้มีปัญญา รู้เท่าทันสันดานนักการเมือง แล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมๆอีก... อันนั้นก็คงไม่มีใครช่วยอะไรเธอได้ อย่างแน่นอน... หรือเพื่อนๆ ว่าไง?...
ผมว่ามันอาจได้เป็นนายกไปอีกรอบแล้ว หนีหางจุกตูดไปเมืองนอก สาวก เลียไป ล้วงกระเป๋าไป ขอตำแหน่งไป สบายไปหลายคนแระ คนเล่นเป็นแบบเหลิม ก็สบายไป ส่วนไอ้พวกเล่นแล้วฮึกเหิมไม่เลิก บ้างก็เข้าคุก บ้างก็เป็นคดีกำลังจะเข้าคุก อิ อิ
หน้าเหลี่ยมมันหลงตัวเอง ว่าฉลาดกว่าคนอื่น คนอย่างมัน จะไม่ยอมทำอะไรก็ตาม ที่คิดว่า เป็นทางเลือกสุดท้าย ที่มันจะยอมทำหรอกครับ ถ้ามีทางเลือกอื่น ที่ไม่ต้องลำบากและเสียเหลี่ยม ที่มันอุตส่าห์หลบหลีกคุกตะรางได้มาตลอด มันก็ต้องเลือกทางนั้น ๆ จนทำให้ตอนนี้ ตัวมันเอง ก็ได้แสดงให้คนรอบข้าง หรือคนวงนอกอย่างเรา ได้รับรู้แล้วว่า ต่อให้ต้องใช้ใครเป็นโล่ห์ หรือกำแพง ป้องกันตัวเองได้ ไม่ว่าจะต้องใช้การล่อหลอก หรือ การนำความเสียหายไปสู่ชีวิตและทรัพย์สินของคนอื่น สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นประโยชน์ต่อมัน มันจะเลือกทางนั้น ๆ มากกว่า จะยอมเอาตัวเองมาเสี่ยง ถ้าไม่มั่นใจ ว่ามันจะปลอดภัยและ สามารถได้เปรียบคนอื่นจริง ๆ ผมเรียนรู้นิสัยคนแบบนี้ มาจากภาพยนตร์ หรือ แม้กระทั่ง จากคนรอบข้าง หรือบางทีก็จากการตัดสินใจของตัวเอง ในบางครั้ง แต่ผมก็มารู้ทีหลังว่า ยิ่งเลือกแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้ปัญหามันบานปลายขึ้นในหลายเรื่อง บางทีการเลือกทางออก ที่ตรงไปตรงมา กลับทำให้ ชีวิตเราดูง่าย ๆ ขึ้นเยอะ และไม่แย่อย่างที่คิดกลัวไปก่อนอะ
ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ (Sepsis) ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia) มีปัญญาหาข่าวเท็จ หาข่าวโกหกใส่ร้ายชาวบ้าน แต่ข่าวดีมีสาระกลับไม่มีปัญญาหา ไงครับตอบผมได้หรือยัง 1. โซรอสให้เงิน แล้วประชาไทเอาเงินไปทำอะไร 2. สสส. ให้เงินประชาไททำไม 3. ข้อกล่าวหาที่ประชาไทใส่ร้ายสถาบัน ประชาไทไม่ปฏิเสธ แปลว่าประชาไททำจริงใช่ไหม
มหาศาสดาแป๊ะลิ้มโกเต๊ก ปฐมบทผู้นำจิตวิญญาญองค์แรก ของเหล่าพันธมิตรเหลิืองสีขี้ ก่อนที่ขี้สีเหลืองจะมีการกลายพันธุ์ เปลี่ยนยีนส์ เปลี่ยนชื่อ แซ่ ณ ตอนนั้นท่านศาสดาลิ้มได้นำเอาคำพูด คุณดา ไปเผยแพร่ พูดซ้ำ ด้วยอิทธิฤิทธิ์บุญบารมี ไม่มีคดีอะไรระคายผิวเกิดขึ้นเลย นอกจากกระสุนถากหัว
ลองดูแล้วเหลี่ยมจะติดใจ เพราะหน้าเหลี่ยมมีคดีรออยู่เป็นหางว่าว ติดครั้งแรกแล้ว ก็จะต้องมีครั้งต่อไป กรรมมันเยอะ
ถ้านายทักษิณไม่หนี-ป่านนี้ได้เลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน อย่างทักษิณเค้าไม่เรียกหนี เค้าเรียกถอยไปตั้งหลัก จะเรียกหนีมันต้องอย่าง ..... แม่ของ สส ปชป น้องชายของนายชวน ประธานพรรค คนดี โน้น ที่โกงธนาคาร เป็นพันๆล้าน แล้วหลบหนี ไม่ให้ใครรู้อยู่ไหน เพื่อไม่ให้ตามจับได้ พอคดีหมดอายุความ ค่อยกลับมาเสวยสุข ผิดกับทักษิณ ไม่ได้ปกปิดที่อยู่ ไปไหนได้สบาย อยากจับก็ตามไปจับ แถมยังส่งข่าวมาทักทายชาวไทยเสมอ กำลังเลี้ยงหลานอย่างสุขใจ ให้คนบางคนมันตรมใจตาย ที่ทำอะไรทักษิณไม่ได้ 555
พูดมาเยอะมาก สุดท้ายสำหรับมือดี ทักกี้ก็แค่คนถ่วงความเจริญ นักวางระเบิดที่ยังต้องใช้ชืิ่อหากิน เพราะเสื้อแดงมือดีไม่สามารถใช้ประโยชน์หาเงินแล้วต่างหาก
น่าจะเปลี่ยนเป็น คนที่เอาแต่แปะอ้างว่ารักปชต. แต่ไม่เคยทำอะไรให้ปชต. คนที่อ้างทำเพื่อคนอื่นกลับทิ้งเพื่อนมากกว่า
ถ้าไอ้แม้วอยากเท่ห์ บอกลูกน้องหุบปาก วันๆหาแค่เรื่องความผิดคนอื่นมากพูด มันคิดว่าคนอื่นผิดไอ้แม้วไม่ผิด โง่จัง ความจริงที่คนอื่นๆฟังคือมันยอมรับว่าไอ้แม้วผิด
ย้อนรอยคดียักยอกทรัพย์ธนาคารมหานคร - VoiceTV by Veeraporn Wungsa-art8 กรกฎาคม 2555 เวลา 12:49 น. ตำรวจยังมีเวลาเหลือไม่ถึง 3 เดือนในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารมหานคร แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า คดีนี้จะหมดอายุความโดยที่ไม่สามารถจับกุมได้ เหมือนคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย ที่ผู้ต้องหาเป็นน้องชายอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ติดตามย้อนรอยคดีที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ส่วนหนึ่งของรายงานการสอบสวนคดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งความดำเนินคดีกับนางภคินี สุวรรณภักดี อดีตรองกรรมการ ผู้จัดการสายสินเชื่อธนาคารมหานครและพวกรวม 4 คนโดยระบุถึงพฤติกรรมที่กลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 354 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 307/311 /313 และ 315 ในฐานะผู้ดำเนินงานของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตามคำฟ้องระบุว่า เหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2538 ถึง 30 ตุลาคม 2540 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหาที่ 1-3 ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ต้องหาที่ 4 และบริษัทในเครือ และบุคคลอื่นที่เปิดบัญชีไว้แทนผู้ต้องหาที่ 4 ทั้งหมด 7 บัญชี จำนวน 33 ครั้ง จ่ายเงินไป 144 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,195 ล้านบาท โดยผู้ตรวจการของธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาที่ 4 มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียง 47 ล้านบาท และพบอีกว่า เป็นการอนุมัติสินเชื่อเกินอำนาจของผู้ต้องหา รวมทั้งได้จ่ายสินเชื่อไปก่อนที่คณะกรรมการบริหารธนาคารจะอนุมัติ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนและสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่ออัยการเมื่อปี 2548 แต่ในช่วงที่อัยการจะส่งสำนวนฟ้องต่อศาล นางภคินี ผู้ต้องหาที่ 3 ได้หลบหนี กระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับวันที่ 25 ธันวาคม 2549 ตำรวจยืนยันว่า ได้ใช้ความพยายามในการจับกุม แต่ไม่สามารถจับกุมได้ ซึ่งคดีจะหมดอายุความในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ และมีการคาดการณ์ว่า จะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกกฎหมายได้ เหมือนกรณีคดีฉ้อโกงทรัพย์สินของธนาคารกสิกรไทย สาขาจังหวัดสงขลา มูลค่าความเสียหาย 200 ล้านบาท ซึ่งมีนายระลึก หลีกภัย น้องชายคนเล็กของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหาเมื่อครั้ง เป็นผู้จัดการสาขา โดยคดีเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2537 และผู้ต้องหาหลบหนีในช่วงที่พี่ชายเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 2 ครั้งจนกระทั่งคดีหมดอายุความในช่วงปี 2547 ตำรวจยอมรับว่า การจับกุมผู้ต้องหาที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนักการเมืองเป็นไปอย่างยากลำบาก จนกระทั่งบางครั้งคดีขาดอายุ ความ แม้คดีนั้นจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติจำนวนมากก็ตาม http://news.voicetv.co.th/thailand/44015.html พวกคนดีศรีแห่งกะลาเหลืองนี่มันแปลกๆ โดยเฉพาะเทพเจ้าของคนใต้ นังชวนหลีกหลีกไปให้ไกล น้องชายโกง200ล้าน ปล่อยให้คดีหมดอายุความ ไม่ติดตามจับมาลงโทษ .....แล้วตอนนี้น้องชายสุดที่รัก ที่ลักชาติไป200ล้าน ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติที่บ้าน แถมเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยอีก สงสัยสอนวิชาการโกงอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม โกงอย่างไร ไม่ให้ติดคุก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ส่วนนังชวนหลีกไป ก็เที่ยวพล่ามแต่เรื่องคุณงามความดี มีจริยธรรม ความซื่อสัตว์ ออกมาพูดแต่ละครั้งรู้บ้างไหม คนได้เเต่ สมเพช เวทนา รู้จักสั่งสอนคนในครอบครัว คนในพรรคตัวเองให้ดีก่อน ก่อนจะเที่ยวไปสั่งสอนคนอื่น
ขำมือดีมากกว่า หลอกตัวเองว่ายังมีคุณธรรมอยู่ มีแต่มุขซ้ำซาก คนนั้นต้องเลวให้ได้ แล้วตูก็จะได้เหมาสมาชิกสภากาแฟให้เลวไปกับมัน ดูแล้วน่าสมเพชจริงๆ คนไม่มีอะไรดี มันก็พยายามหลอกตัวเองต่อไป มิน่าทำไมทิ้งเสื้อแดง เพราะไม่งั้นก็เล่นมุขนี้ไม่ได้ เพราะตัวเองจะติดร่างแหว่าเป็นพวกเดียวเผาศาลากลางไปด้วย