http://news.voicetv.co.th/thailand/242676.html พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน เสนอ ตั้งสถาบันจับตรรกะวิบัติ เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ นาย พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวในงานสัมมนา “หนักหัวใคร ถ้าฉันใช้ตรรกะวิบัติ” ว่า ดีใจที่นักศึกษาเป็นคนริเริ่มเรื่องนี้เพราะเป็นปัญหาหลักของประเทศ ที่คนมักจะใช้เหตุผลเข้าข้างตัวเองมากกว่าจะเป็นเหตุเผลที่แท้จริง จึงทำให้ประเทศไทยก้าวมาสู่ความวุ่นวายอยู่ตอนนี้ เช่นวันหนึ่งบอกเชื่อในระบอบรัฐสภา แต่อีกวันออกมาบอกว่าเผด็จการดีกว่า โดยอยากให้เริ่มที่หลักคิดทางเศรษฐกิจ ที่ว่าไทยต้องพึ่งต่างประเทศสูง และเป็นการพัฒนาก้าวหน้าของไทย ดังนั้นเศรษฐกิจจะไม่มีทางฟื้นถ้าหากยังไม่กลับมาสู่ระบอบที่ต่างประเทศยอมรับ และการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายน้อยเป็นสิ่งที่ทำกันทั่วโลก ประเทศจะไม่มีทางเจริญถ้าไม่ช่วยคนส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อย และการซื้อเสียงไม่ได้มีแล้ว เพราะประชาชนได้ประโยชน์จากนโยบายมากกว่า และที่ผ่านมาการใช้เงินช่วยคนยากจนก็ไม่ได้ทำให้ประเทศล่มจมเพราะหนี้สาธารณะอยู่เพียง 43%เท่านั้น นอกจากนี้การที่จะให้ยอมรับการเจริญเติบโตที่ปีละ 2-3% เป็น New Normal เป็น ความคิดที่ผิด เพราะศักยภาพของไทยน่าจะโตได้ ปีละ 5-6% เพื่อให้ก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีรายได้สูง และขอเสนอให้จัดตั้งสถาบันจับตรรกวิบัติ ที่ประกอบด้วยนักศึกษาและกลุ่มคนที่มีตรรกะที่ดีเพื่อจับวิบัติ คนทุกกลุ่ม พรรคการเมืองทุกพรรค โดยไม่แบ่งแยก โดยไม่ต้องมีนักการเมือง เพื่อเป็นสียงเตือนไม่ให้มีความคิดที่ไม่สมเหตุสมผลที่จะทำให้ประเทศแย่ลงไป กว่านี้ โดยเสนอว่าหากตนเองเสนอนายกมาตรา 7 หรือ ไม่ลงเลือกตั้งเพื่อให้เกิดปฏิวัติก็ให้ออกมาต่อว่าได้ ซึ่งเชื่อว่าสถาบันนี้จะช่วยแก้ปัญหาชาติได้ ----------------------------------------------------------------------- แอดมินเพจตบดิ้น กล่าวว่า ตรรกะที่ดีคืออะไรเหรอ ?
ตรรกะที่ดีของคนเสื้อแดงคือ - ทักษิณเป็นคนดี ถูกอำมาตย์รังแก - ทักษิณ = ประชาธิปไตย - ยุบสภา = ประชาธิปไตย - เลือกตั้ง = ประชาธิปไตย - รัฐธรรมนูญปี 50 ผ่านการลงประชามติ = ไม่เป็นประชาธิปไตย - สมัคร+สมชาย เป็นนายกในรัฐธรรมนูญปี 50 = เป็นประชาธิปไตย - อภิสิทธิ์ เป็นนายกในรัฐธรรมนูญปี 50 = ไม่เป็นประชาธิปไตย- รักประชาธิปไตย แต่ใครค้านต้องเจอดี - เสื้อแดง สงบสันติอหิงสาเสมอ - ก่อความรุนแรงเป็นแดงเทียม - ถ้าแดงเทียมตายจะกลายเป็นแดงแท้ทันที
บล็อคเกอร์ไปอ่านบทความจากโพสต์ทูเดย์ เห็นว่าน่าสนใจดี เลยขออนุญาตนำมาลงให้อ่านกัน "ทักษิณกลับบ้าน" แค่วาทกรรมสร้างกระแส ช่วงฤดูหาเสียง คำพูดของนักการเมือง ผู้ฟังในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะนโยบายที่หาเสียงหลายเรื่องดูเกินจริง ทำไม่ได้ แต่นักการเมืองต้องพูดให้ถูกใจ เพราะต้องการ “ขายฝัน” ไว้ก่อน ทำได้หรือไม่ได้เป็นอีกเรื่อง ไม่ต่างจากการหาเสียงของฝ่ายพรรคเพื่อไทย ที่หลายโพลคาดว่าจะชนะเลือกตั้ง และมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ทักษิณ ชินวัตรลงทุนด้วยตัวเอง ใช้ระบบสไกป์ส่งเสียงจากแดนไกลมายังพี่น้องเสื้อแดงทุกเวทีเปิดตัวผู้สมัคร สส.ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดครึกโครม ให้เลือกเพื่อไทยมากๆ จะได้กลับประเทศไทยเสียที “ผมจะกลับบ้าน”เป็นวลีที่คนไทยได้ยินตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถ้าไล่เรียงก่อนมีคำประกาศยุบสภา ทักษิณ พูดเรื่องอยากกลับบ้านแทบทุกเวที 1 พ.ค.ในงานปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ฝั่งธนบุรี ทักษิณ โฟนอินว่า “ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลน้ำจะไม่ท่วม เพราะเราจะทำเขื่อนกั้นน้ำ แต่พรรคเพื่อไทยต้องชนะเลือกตั้ง ผมจะได้กลับมา และพี่น้องจะเป็นคนที่ช่วยให้ผมกลับบ้าน อย่าเพิ่งลืมผม” 3 พ.ค.ที่ จ.อุดรธานี ทักษิณ โฟนอินว่า “อยากกลับบ้านแล้ว ตอนนี้เก็บกระเป๋าแล้ว เลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะชนะมากกว่าครึ่งและได้เป็นรัฐบาล” 6 พ.ค.ที่ จ.ศรีสะเกษ “ถ้าเพื่อไทยชนะ เลือกตั้ง ผมจะขอกลับมาอยู่ประเทศไทย และจะทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา รวมทั้งนำตัวนายวีระ สมความคิด ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมไว้ที่กรุงพนมเปญ กลับมายังประเทศไทย” 8 พ.ค.ที่เขตคลองเตย “ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน 12 เดือน แค่ผมลงเครื่องที่สุวรรณภูมิ รับรองพ่อค้ายาเสพติดหยุดขายทันที” มีการกำหนดเดือนกลับที่ชัดเจน“ปลายปีจะกลับบ้าน ปีหน้าจะมาฉลองปีใหม่ที่เมืองไทย พบกันประมาณเดือน พ.ย.”24 เม.ย.ทักษิณ สไกป์ในงานเปิดตัวนโยบายพรรคที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต “ถ้าผมได้กลับไทย จะไม่มีคำว่าแก้แค้น มีแต่แก้ไข จะกลับไปในสภาพเดิมที่คนไทยมีความสุข ราชวงศ์มีความสุข ผมกลับไปไม่มีใครทำร้ายราชบัลลังก์แน่นอน ถ้าผมกลับไปแล้วไม่จงรักภักดี ขอให้ประชาชนรุมประชาทัณฑ์ผมได้เลย” ทักษิณ สร้างฝันกับมวลชนที่รักเขา เลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แล้วจะได้ทักษิณกลับมาเนรมิตความสุขต่างๆ เหมือนเดิม แต่เวลาเปลี่ยนสู่สถานการณ์ปัจจุบัน “ทักษิณ” ได้เป็นศูนย์กลางความขัดแย้ง หลายฝ่ายเชื่อว่าเขาจะคิดแก้แค้น และจะกลับมาล้างบางทุกขั้วอำนาจ ความจริงแล้วไม่มีใครห้ามทักษิณกลับไทย เพราะเจ้าตัวได้หลบหนีออกจากประเทศไทย ไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีซื้อที่ดินรัชดาฯ เมื่อปี 2551 ศาลฎีกาฯ จึงออกหมายจับ “ทักษิณ-พจมาน” ก่อนจะมีคำพิพากษาจำคุกทักษิณเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาทักษิณไปปรากฏตัวที่อังกฤษ จนถูกทางการอังกฤษเพิกถอนวีซ่า ก่อนที่เจ้าตัวจะร่อนเร่ไปประเทศต่างๆ แถบยุโรป และมาปักหลักที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากโทษคำพิพากษาจำคุกที่ติดตัว 2 ปี ทักษิณยังมีหมายจับ 5 คดี คือ 1.คดีทุจริตจัดซื้อกล้ายาง 2.คดีหวยบนดิน 3.คดีให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ปล่อยกู้ให้พม่า 4.คดีก่อการร้าย และ 5.หมายจับโทษฐานเบี้ยวไม่มาตามศาลนัดในคดียื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช. อันเป็นผลสืบเนื่องจากคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท จนมีการออกประกาศจับทักษิณไปทั่ว ดังนั้น หากทักษิณจะเดินทางกลับไทย ก็ต้องมารับโทษคดีอาญาในเรือนจำ 2 ปี ในฐานะนักโทษหนีคดีก่อน ทว่า ที่ผ่านมาทักษิณไม่กล้า มิฉะนั้นก็คงกลับไทยนับแต่ที่เขาลั่นวาจากับพี่น้องเสื้อแดงระหว่างการชุมนุมสงกรานต์เลือดปี 2552 ว่า “ถ้ามีเสียงปืนนัดแรก ผมจะกลับมานำหน้าพี่น้องประชาชน” แต่จนวันนี้เสื้อแดงผ่านสมรภูมิพฤษภาเลือดเมื่อปีที่แล้วจนสองฝ่ายเสียชีวิต 91 คน ทักษิณก็เงียบ ไม่มีวี่แววที่จะกลับมาช่วยคนเสื้อแดง เขาบอกว่า ถ้าไม่กลับก็ไม่ซีเรียส อยู่ต่างแดน ทำธุรกิจ ทำเหมืองทอง มีความสุขกว่ากันเยอะ หนทางที่ทักษิณจะได้กลับไทย คือ พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น จากนั้นออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยกเลิกความผิดทุกคดีหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ซึ่งรวมถึงคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่เป็นชนักติดหลังทักษิณ เป็นปฏิบัติการยกโทษความผิดให้กับทุกฝ่าย “ทักษิณแกนนำ นปช.แกนนำเสื้อเหลืองทหารแกนนำรัฐบาล” จากผลของการต่อสู้ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า หากทักษิณจะกลับประเทศไทยได้ก็มีอยู่เพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ การกลับมารับโทษ หรือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พ้นความผิด ซึ่งขั้นตอนการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นต้องให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก่อน แล้วจึงออก พ.ร.บ.หรือพระราชกฤษฎีกาออกมา ก็สามารถทำให้ทักษิณพ้นผิดได้ทันที แต่นักกฎหมายผู้นี้เชื่อว่า ที่สุดแล้วกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะจะไม่มีเหตุผลรองรับเพียงพอ อีกทั้งยังมีกระแสต่อต้านจากหลายๆ ฝ่าย ซึ่งหากทักษิณจะกลับประเทศไทยจริงๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นที่จะต้องรับโทษตามที่ศาลได้ตัดสินไว้ นี่จึงเป็นภาระหนักของผู้นำพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะหากเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถ้าได้เป็นนายกฯ ในอนาคต จะถูกตั้งคำถามว่าการเป็นน้องสาวแล้วมาผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับพี่ชาย ตัวเองจะมีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งจะเกิดแรงเสียดทานตามมาจนกระเทือนต่อรัฐบาลเพื่อไทย การนิรโทษกรรมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายในสภาพความขัดแย้งแตกแยกในปัจจุบัน แต่คำประกาศ “ผมจะกลับบ้านมาสร้างความสุขให้กับประเทศ” เป็นแค่วาทกรรมหาเสียงที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ในอนาคตอันใกล้ 1-2 ปีนี้ ที่มา http://www.oknation.net/blog/hardcorelawyer/2011/05/11/entry-3/comment
กล้าพูดจังเลย ไอ้ขี้คุย มาเป็นรัฐมนตรีก็ทำแต่ความชิบหาย พวกอำมาตย์ควายแดงนี่แหละ ตรรกะวิบัติ สุด แล้ว
ไอ้คนที่ได้เป็นรัฐมนตรีไม่ถึงครึ่งปีนี่มีดีอะไรนักหนา เก่งแต่ปาก สื่อก็ออกข่าวจัง เคยเห็นดีเบตกับมาร์คตอนเลือกตั้ง (ตอนนั้นงงเลยทำไมอีปูไม่มาดีเบต พอมันเป็นนายกปุ๊บรู้เหตุผลเลย) การันตีเรื่องจำนำข้าวไม่มีขาดทุนจัง มาร์คก็ย้ำที่ปชป.ไม่ดันราคาสู้พท.เพราะมันทำไม่ได้ ทำแล้วประเทศเจ๊ง แล้วสรุปเป็นไง พอไม่ได้เป็นรัฐบาลก็วิจารณ์เหมือนเก่งxิบหาย ------------------------------------------------------------------------------------------------- นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ดำรงตำแหน่ง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 – 18 มกราคม พ.ศ. 2555 นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร