นอกจาก ช่วยๆกัน แต่งเสริม เติมต่อ ให้ชาวบ้านร้านช่อง ที่อ่านน้อย ไม่ค่อยได้ตามสถานการณ์ เข้าใจไปอย่างนั้นว่า... รัฐบาลลุงตู่ เป็นต้นเหตุปัญหาเศรษฐกิจทั้งหมด... ไร้ฝีมือ/เอาแต่พวกพ้อง/บริหารไม่เป็น/ เป็นเผด็จการที่ต่างชาติ ไม่เชื่อถือ บลาๆๆๆๆ... เห็นเรียงแถวกันออกมา ในเรื่องเดียวกันกับที่นายใหญ่หนีคุก ว่าไว้แบบเพ้อเจ้อ หลงๆลืมๆว่า ตัวเองเป็นนักโทษหนีคุกอยู่ โดยเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจให้รัฐบาล… อย่างขนาด "โต้งไว้ลาย" ยังออกมาว่าแบบหน้าด้านๆได้ว่า... ************************************************* ห่วงเศรษฐกิจ จี้ผู้มีอำนาจ จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ ************************************************* พวกโนเนม ตอนนี้ ต่างก็เร่งออกมาเสนอหน้า โชว์ตัว กลัวถูกโลกลืมด้วยเหมือนกัน... ************************************************* http://www.posttoday.com/politic/378944 ************************************************* ล่าสุด คุณเธอคนนี้ ก็ออกมา ผายลมทางปากกับเขาด้วยเหมือนกัลล์... ******************************************************* ******************************************************* เหอๆๆ…อ้าปาก ก็เห็นลิ้นไก่กันแล้ว...ว่ามั๊ย... เห็นว่ามีสำนักพิมพ์ขี้ข้าในสังกัด เลยเร่งออกตัวเสนอหน้ากันยกใหญ่... หรือเพื่อนๆ ว่าไง เชิญได้ครับ...
ถึงแม้ลุงตู่ จะไม่ได้ใช้เวลาราชการ ไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ ผลาญเงินชาติ เที่ยวไปช็อปต่างบ้านต่างเมือง เหมือนนังปูเน่า... ก็ยังบริหารงาน สู้นังปูเน่าไม่ได้...ว่างั้นเหอะ... เนอะ...พวกขี้ข้าเนอะ...
ปรากฏการณ์ นายว่าขี้ข้าพลอย ขุนพลอยพยัก ก็เกิดขึ้น หรืออาจบางที ช่วยยกหางให้นาย เวลานายผายลมจะได้สะดวก
ไอ้โต้งไว้ลายมันแนะนำให้ผู้มีอำนาจจะทำอะไรก็รีบทำเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ลุงตู่น่าจะเริ่มด้วยการทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของรัฐจากบรรดาผู้ทำความผิดทั้งหลาย เริ่มจากการทวงเงินที่สูญเสียไปจากการทุจริตการจำนำข้าว ภาษีจากการซื้อขายหุ้น เงินช่วยเหลือน้ำท่วมที่ถูกนำไปผลาญ เงินงบประมาณแผ่นดินที่ถูกใช้ผิดประเภทเช่นเอาไปซื้อเสื้อผ้าและค่าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของอดีตนายกฯ เงินภาษีที่เอาไปจ่ายให้คนเผาบ้านเผาเมืองศพละ7.5ล้าน ที่ดินป่าสงวนที่ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และผู้ทำรายการข่าวครอบครองอยู่ ความเสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดจากความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำ ฯลฯ แค่นี้ก็หลายแสนล้านแล้วครับ อาจถึงล้านล้านบาทด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม ไอ้คนที่ไปบีบน้ำตาที่หน้าโรงงานต้องเอาให้หนัก
ผมเป็นพี่ตู่สวนกลับแล้วว่าฟังคำแนะนำก็เท่านั้น เพราะแนะนำมาคงไม่แคล้วไม่ได้เรื่องเหมือนตอนทักษิณคิดเพื่อไทยทำ รถคันแรก ทำฟองสบู่ตลาดรถยนต์ รถมือหนึ่งตอนนี้ขายไม่ออก มือสองราคาร่วงยับเยิน คนผ่อนรถชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่มีเงินจับจ่าย บางคนรถจะโดนยึด จำนำข้าวหมื่นห้า ดูดเงินลงทุนที่รัฐมีไปล้านๆบาท แถมต้องคอยจ่ายเงินค่าโกดังอีกทุกปี ราคาข้าวในโกดังก็ลดลงทุกปีเพราะมันเน่าเสีย สามปีห้าปีกลายเป็นผงแทบไร้มูลค่า แค่นี้ก็เห็นได้แล้วว่าคิดนโยบายง่าวๆโง่ๆ สู้อุ๋ยร้อยจุดยังไม่ได้เลย ขนาดอุ๋ยร้อยจุดห่วยแล้วนะ ทักษิณแม่งห่วยกว่า อวดอ้างว่ารวยเพราะเก่งเศรษฐกิจ เนื้อแท้คือเอามือกุมไข่ขอสัมปทานผูกขาดจากคณะรัฐประหาร จ่ายเงินคอรัปชั่นเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อปกป้องธุรกิจ ให้คู่แข่งเสียประโยชน์จากต้นทุนที่สูงกว่า เข้าสู่อำนาจรัฐเอาข้อมูลที่สำคัญเรื่องลดค่าเงินบาทมาใช้ประโยชน์ ทำให้หนี้สินบริษัทตัวเองที่มีไม่ผันแปรเหมือนคนอื่น เพราะรีบไปป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหนี้ แปลงหนี้เงินดอลล่าร์เป็นเงินบาท หรือคงอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่ โยกเงินรายได้แปลงเป็นดอลล่าร์อ้างลงทุนหรือซื้อของต่างประเทศ ฟันกำไรในรูปเงินบาทสบายๆ พอมีอำนาจรัฐในมือ เปลี่ยนแปลงสัญญาร่วมงาน ทำให้จ่ายเงินค่าสัมปทานลดลงในส่วนโทรศัพท์เติมเงิน รับเงินส่วนนี้ไปหลายหมื่นหลายแสนล้าน ถ้าให้ฟังคำแนะนำของคนแบบนี้ พี่ตู่ของผมเอาหมามาเป็นที่ปรึกษาดีกว่า อย่างน้อยหมามันซื่อสัตย์ ซื่อตรง ตรงไปตรงมา แม้ให้คำแนะนำแบบคนไม่ได้ แต่ก็ทำให้ใจเบิกบานสบายใจ ไม่ต้องคอยเครียดกับกูรู้มือกุมไข่ขอสัมปทานหนีคุกหนีคดีจอมปลอม
นับวันก็น่าอดสูใจฝ่ายแม้วยิ่งนัก ไอ้พวกที่มาอ้างเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ กลับไม่เคยรู้เรื่องเลย สำหรับผมคนเหล่านี้ไร้ค่านักในการให้ความเห็นเช่นนี้ การเรียกร้องนี้ถ้าให้บอกตามตรงไม่มีอะไรมากนอกจาก ใช้ความรู้สึกชิงชังของตัวเองเป็นที่ตั้ง สมัยยิ่งลักษณ์กลับใช้วาทกรรม "ประชาชนคิดไปเอง" เนื่องจากความโง่ของตัวพอได้ยินคำว่า "อุปทาน" ก็ไม่คิดหน้าคิดหลัง เลยกลายเป็นการราดน้ำมันลงกองไฟ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ขับไล่ในเวลาต่อมา