วันนี้ (13 ม.ค.) เวลา 17. 29 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บริเวณด้านข้างโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ทราบข่าว ต่างพากันไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จกันเป็นจำนวนมาก ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และพระรูปสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2554โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักช่างสิบหมู่ออกแบบและปั้นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระราชอิริยาบถทรงอุ้มสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ พระราชโอรส อันแสดงถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูก ประทับบนพระราชอาสน์ มีขนาด 1.25 เท่าของพระองค์จริง ทรงฉลองพระองค์ลำลองแบบคอจีน เบือนพระพักตร์ออกไปทางฝั่งน้ำเจ้าพระยา สวนสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ทรงอาภรณ์ผ้านุ่งอย่างเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษา และประชาชน ได้ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานกำเนิดโรงพยาบาลศิริราชเมื่อปี 2431 และพระราชทานชื่อโรงพยาบาล "ศิริราช" ตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ซึ่งสิ้นพระชนม์ขณะทรงพระเยาว์ สำหรับสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษานั้น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ปรับปรุงสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่สร้างไว้บนพื้นที่ของสถานีรถไฟธนบุรีเดิม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 ปัจจุบันสวนแห่งนี้ได้มีการขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 12 ไร่ โดยอยู่รอบอาคารของสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช มีการปลูกสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค และบรรเทาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยไว้กว่า 150 ชนิด อาทิ นางแย้ม , สารภี , อบเชย, การบูร , กานพลู ซึ่งภูมิสถาปนิกได้ออกแบบให้ต้นสมุนไพรดังกล่าวปลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมในธรรมชาติ 3 แบบคือ ป่าทุ่งหญ้า ป่าโปร่ง และป่าที่สมบูรณ์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน และประชาชนทั่วไป นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทอดพระเนตรทัศนียภาพ และวิถีชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณสองฝั่งของริมคลองบางกอกน้อย ซึ่งเป็นชุมชนที่ชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่อย่างเกื้อกูลกัน โดยมีวิถีชีวิตอย่างเรียบง่าย ยังคงใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจร ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช ในเวลา 18.20 น. โดยมีประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จจำนวนมาก พร้อมเปล่งเสียงถวายพระพรดังกึกก้อง และต่างปลื้มปีติที่เห็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระพักตร์แจ่มใส และมีพระพลานามัยที่แข็งแรง ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
รู้สึกปลื้มปิติอย่างยิ่งที่เห็นพระองค์มีพระพลานามัยที่แข็งแรง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดกาล