http://www.isranews.org/เรื่องเด่น-สำนักข่าวอิศรา/item/38021-ืnews02_38021.html พบอบจ.บุรีรัมย์ควักเงิน20ล.ช่วย "ขนคน" เดินสายเชียร์ "บุรีรัมย์ยูไนเต็ด" วันจันทร์ ที่ 20 เมษายน 2558 เวลา 09:30 น. "สตง." ตรวจสอบพบข้อมูลงบการเงิน "อบจ.บุรีรัมย์" เบิกจ่ายเงินอุดหนุน 20 ล้าน ให้สมาคมกีฬาจ.บุรีรัมย์ ขนคน เดินสายตามเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ลงแข่งขันจังหวัดต่างๆ ประมาณ 500-4,950 คน รวม 16 ครั้ง ชี้ตาม กม.ทำไม่ได้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ (อบจ.บุรีรัมย์) กำลังถูกจับตามองเรื่องการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ แหล่งข่าวจากจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สตง.บุรีรัมย์ ได้สรุปผลการตรวจสอบงบการเงินของอบจ.บุรีรัมย์ พบว่ามีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการให้เงินสนับสนุนแก่เอกชน ไม่ใช่การใช้เงินเพื่อดูแลและจัดทำบริการสาธารณเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 "ขณะนี้ สตง.บุรีรัมย์ ได้ส่งผลการตรวจสอบเรื่องนี้ ให้ส่วนกลาง เพื่อให้พิจารณาผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว" แหล่งข่าวระบุ อนึ่ง ปัจจุบัน นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน ชิดชอบ ดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์ ขณะที่ เนวิน ชิดชอบ ปัจจุบันเป็นประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยัง นางกรุณา ชิดชอบ นายก อบจ.บุรีรัมย์ ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์ อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 044-602-5XX เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้วแต่ไม่มีผู้รับสาย ข้อมูลในเว็บไซต์ ทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ระบุว่า "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" กำเนิดขึ้นจากการรวมตัวกันของสุดยอดทีมฟุตบอล 2 ทีม ของจังหวัดบุรีรัมย์ การรวมตัวกันของ บุรีรัมย์ พีอีเอ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2554 ที่ทำคะแนนสูงสุดเป็นสถิติที่ไม่มีใครลบได้ กับ บุรีรัมย์ เอฟซี แชมป์ดิวิชั่น 1 ปี 2554 ที่เป็นตำนานความยิ่งใหญ่ของชาวบุรีรัมย์ ก่อให้เกิดเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สุดยอดทีมฟุตบอลของประเทศไทย ทีมฟุตบอลที่สร้างประวัติศาสตร์ทีมแรกและทีมเดียวของประเทศ ไทย ที่คว้าแชมป์ 4 รายการ ใน ฤดูกาลเดียวกัน 4 ปีของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จมากมาย คว้าแชมป์มาแล้ว 11 แชมป์ คือ - แชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. 2558 - แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2557 - แชมป์พรีเมียร์คัพ 2557 - แชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. 2557 - แชมป์ลีกคัพ 2556 - แชมป์เอฟเอคัพ 2556 - แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2556 - แชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. 2556 - แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2555 - แชมป์ลีกคัพ 2555 - แชมป์เอฟเอคัพ 2555 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของสถิติแชมป์มากที่สุดที่ไม่เคยมีสโมสรใดในประเทศไทย ทำได้มาก่อน เมื่อรวมกับอีก 3 แชมป์ คือ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ลีกคัพ ประจำปี 2554 ในนาม บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็เท่ากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มาครอบครองแล้ว 14 แชมป์ ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่เคยมีสโมสรฟุตบอลใดในประเทศไทย ทำได้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลไทยสโมสรเดียวที่ได้สิทธิเข้าแข่งขันรายการเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ปีติดต่อกัน และได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 10 ทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชีย ด้วยผลงานการเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นสถิติที่ดีที่สุดของสโมสรฟุตบอลจากประเทศไทย ในรายการนี้ ความสำเร็จของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นจากส่วนผสมขององค์ประกอบ 3 ประการ ที่ลงตัว 1. ความทุ่มเท เอาจริงเอาจัง ของประธานสโมสร เนวิน ชิดชอบ 2. ความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงของนักฟุตบอลทุกคน ที่กระหายชัยชนะทุกนัดที่ลงสนาม 3. การสนับสนุนที่สุดยอดของแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคน และผู้สนับสนุนทุกราย ผู้เล่นคนที่ 12 ที่ร่วมสู้ ร่วมยืนเคียงข้าง เป็นกำลังใจให้นักกีฬา และสโมสร ทุกๆ นาที ทั้งในสนาม และนอกสนาม ไม่เคยทิ้ง ไม่เคยท้อ และไม่เคยถอย ช่วยให้ทีมก้าวข้ามสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาได้ ทุกๆ ครั้ง ------------------------------------------------------------------------------------- แม้จอมขุดคุ้ยจัดให้ถึงขนาดนี้ ก็โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ก็ว่าสโมสรฟุตบอลทีมนี้ทุนหนา ค่าสปอนเซอร์สูง รายได้มหาศาล
ถ้าจริงก็ต้องลงโทษครับ แม้ผมจะเชียร์บุรีรัมย์ก็ตาม แต่ดูจากรายได้และสปอนเซอร์ต่างๆก็น่าจะเยอะอยู่ แต่ถ้าใช้เงินหลวงด้วย ไม่ค่อยดีครับ เอาเปรียบทีมอื่นเกินไป(ถ้าจริงนะ)
..ความเห็นส่วนตัวผม นะครัช.. ..น่าจะใช้ตั้งแต่ช่วงยังเป็น ..บุรีรัมย์ พีอีเอ และก็ บุรีรัมย์ เอฟซี.. หรือเปล่า?? ..เพราะตอนนั้น ยังไม่บูม เท่าไหร่.. ..แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด??? ..ก็ไม่ควรใช้เงินหลวง.. ครัฟผม
แหมะ เพิ่งซื้อเสื้อชุดเยือนสีดำไปหมาด ๆ นี่เอง เพิ่งทิ้งลงตะกร้าจะให้เขาไปซักเนี่ย ยังมะได้ใส่เรย ผิดก้อว่ากันไปตามผิด
อัพเดท.... http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/38032-report01_38032.html ชำแหละคำชี้แจง"เนวิน" Vs. สตง. ปมเงินอุดหนุนอบจ.บุรีรัมย์ ตอบคนละเรื่อง! วันจันทร์ ที่ 20 เมษายน 2558 เวลา 16:30 น. "ในนามของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมต้องขอเรียนชี้แจงว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่เคยรับเงินอุดหนุนใดๆจาก อบจ.บุรีรัมย์ และไม่เคยได้รับเงินอุดหนุนใดๆจากสมาคมกีฬาจังหวัด" นี่คือประโยคคำพูดของ "นายเนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองใหญ่ ที่เปิดแถลงข่าวด่วนจากเกาหลีใต้ ระหว่างนำ "ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" เดินทางไปแข่งขันศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2015 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีปรากฎข่าวว่า "สตง.บุรีรัมย์" ตรวจสอบพบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ซึ่งถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง และกำลังได้รับความสนใจจากสาธารณชนอยู่ในขณะนี้ ในการเปิดแถลงข่าวดังกล่าว นายเนวิน ยังระบุด้วยว่า "ตั้งแต่เราก่อตั้งสโมสรมา รายได้หลักของเรามาจาก ค่าบัตรผ่านประตู สปอนเซอร์ ซึ่งตรวจสอบได้จาก งบดุลบัญชี ที่บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ส่งให้สรรพากรในทุกๆ ปี เราไม่เหมือนสโมสรอื่นๆ เราไม่เคยรับเงินใดๆ จากทางสมาคมกีฬา เราไม่เคยรับเงินอุดหนุนใดๆ จากอบจ.จังหวัด เรายืนอยู่บนลำแข้งของเราเอง" ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าได้มีการนำเงินจากอบจ.บุรีรัมย์แล้วนำไปใช้ในการเดินทางของกองเชียร์จริงหรือไม่ เนวิน ตอบว่า "สโมสรไม่เคยรับรู้และไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้เลย อย่างที่บอกว่ารายได้ทั้งหมดของเราสามารถตรวจสอบได้จากงบดุลที่นำเสนอต่อสรรพากรบุรีรัมย์" ฟังดูแล้ว "มีน้ำหนักและน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก!" (อ่านประกอบ: "เนวิน" ยัน"บุรีรัมย์ยูไนเต็ด"ไม่เคยรับเงิน"อบจ."ขนคนเดินสายเชียร์ 20 ล.) แต่อย่างไรก็ตาม หากใครที่มีโอกาสได้อ่านข้อมูลข่าวการตรวจสอบงบการเงินของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามที่ สำนักข่าวอิศราwww.isranews.org นำเสนอไป (อ่านประกอบ: พบอบจ.บุรีรัมย์ควักเงิน20ล.ช่วย "ขนคน" เดินสายเชียร์ "บุรีรัมย์ยูไนเต็ด") ในช่วงเช้าวันที่ 20 เม.ย.58 ที่ผ่านมา และนำมาเทียบเคียงกับคำชี้แจงนายเนวิน ดังกล่าว จะพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจหลายประการดังนี้ หนึ่ง ผลการตรวจสอบ สตง.บุรีรัมย์ ระบุว่า หน่วยงานที่ได้รับงบอุดหนุนจาก อบจ.บุรีรัมย์ คือ สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์มิได้ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ปรากฎชื่อเป็นผู้รับเงินโดยตรง อบจ. จึงไม่มีความจำเป็นที่ใครจะต้องเข้าไปตรวจสอบงบดุลของบริษัทฯ ที่นำส่งให้กรมสรรพากรหรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามที่นายเนวินระบุไว้แต่อย่างใด (ยกเว้นกรณีอื่น?) เพราะในทางปฏิบัติตรวจสอบไปก็ไม่มีวันเห็น? สอง ผลการตรวจสอบ สตง.บุรีรัมย์ ยังระบุด้วยว่า การที่ อบจ.บุรีรัมย์ เบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน "ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง" ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ เป็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยงานรัฐ คือ "อบจ.บุรีรัมย์" ว่า มีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 20 ล้านบาท ให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ขณะที่ในผลการตรวจสอบของ สตง.บุรีรัมย์ ระบุชัดเจนว่า การใช้งบประมาณในการสนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นการสนับสนุนงบประมาณให้องค์กรเอกชนและภารกิจที่สนับสนุนไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 อีกทั้งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการนำเด็ก เยาวชน ประชาชน และบุคลากรกีฬา เดินทางไปชมและเชียร์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ไม่ได้เป็นการศึกษาหรือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ และไม่ถือเป็นการดูแลและจัดทำการบริหารสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ตามที่มาตรา 17 (18) แห่ง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง กำหนดอำนาจหน้าที่ ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2546 และลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 กำหนดแต่อย่างใด นอกจากนี้ในการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 มกราคม 2553 โครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับเงินอุดหนุนจะต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ โดยกรณีการจัดให้มีและบำรุงสถานที่สำหรับกีฬาหรือส่งเสริมกีฬา จะต้องเป็นการดำเนินการที่มีลักษณะเป็นการจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองเป็นส่วนรวม ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว กิจกรรมหรือค่าใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวมิได้นำไปใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม แต่นำไปใช้จ่ายในลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลและเกิดประโยชน์เฉพาะตัว เช่น ค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะในการจ้างเหมารถยนต์ ให้กับผู้ร่วมโครงการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ฯลฯ ดังนั้น การสนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 20,000,000 บาท จึงถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ดังนั้น คำถามสำคัญที่ ผู้เกี่ยวข้องต่อกรณี โดยเฉพาะ "นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน" ซึ่งจะดำรงตำแน่งเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์ จะต้องตอบคำถามแก่สังคม คือ 1. อบจ.บุรีรัมย์ ได้เบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ และสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ มีการนำเงินส่วนนี้ ไปใช้เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ตามที่ สตง.ตรวจสอบพบจริงหรือไม่ 2. อบจ.บุรีรัมย์ ทราบหรือไม่ ว่า การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการให้เงินสนับสนุนแก่เอกชน ไม่ใช่การใช้เงินเพื่อดูแลและจัดทำบริการสาธารณเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 และ 3.ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย จากการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้องครั้งนี้บ้าง มิใช่ปล่อยให้ "นายเนวิน" ในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้เป็นสามี ออกมาพูดชี้แจงให้ความเห็นต่อสาธารณชนในมุมของตนเอง เพียงแค่ว่า "ไม่เคยได้รับเงินอุดหนุน" ซึ่งถือเป็นการตอบคำตอบแบบ "ไม่ตรงประเด็น" หรือ "ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง" ที่เกิดขึ้น หรือข้อเท็จจริงมันปรากฎชัดเจน จนไม่รู้จะตอบชี้แจงยังไงดี ?
ต่อเลยครับ นายกฯส.กีฬาบุรีรัมย์ ไม่พร้อมแจงปมใช้เงิน"อบจ."ขนคนเชียร์ทีมบอลเนวิน 20ล. วันพุธ ที่ 22 เมษายน 2558 เวลา 13:00 น. "สุพจน์ สวัสดิ์พุทรา" นายกสมาคมกีฬาจ.บุรีรัมย์ ปัดแจงข้อเท็จจริงปมใช้งบอบจ.20 ล้าน จัดกิจกรรมพา "แฟนบอล" เดินสายเชียร์ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ระบุยังไม่พร้อม ติดธุระ ส่วนเจ้าหน้าที่สมาคมฯ รับผิดชอบงานเอกสารต่างๆ ลาคลอดบุตร ากกรณีสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบพบว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ (อบจ.บุรีรัมย์) มีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการให้เงินสนับสนุนแก่เอกชน ไม่ใช่การใช้เงินเพื่อดูแลและจัดทำบริการสาธารณเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 นั้น (อ่านประกอบ: ชัดๆผลสอบ สตง.!"อบจ.บุรีรัมย์" จ่าย 20 ล.ให้ส.กีฬาฯ ขนคนเชียร์ ทีมบอลเนวิน) ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย.58 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายสุพจน์ สวัสดิ์พุทรา นายกสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม นายสุพจน์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า "ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ ติดภารกิจอยู่ ถ้าพร้อมเมื่อไรจะแจ้งอีกที" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเงินของอบจ.มาจัดกิจกรรม พาเยาวชน ประชาชน ตามไปเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด จริงหรือไม่ นายสุพจน์ ตอบว่า "ไม่จริงหรอก" ก่อนจะหยุดคิดนิดหนึ่ง และพูดว่า "ยังไม่ให้สัมภาษณ์อะไรตอนนี้ดีกว่า" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน เบื้องต้น ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบที่รับผิดชอบงานด้านเอกสาร อยู่ระหว่างลาคลอดบุตร และไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดในสมาคมทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในรายการตรวจสอบของ สตง.บุรีรัมย์ ระบุว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ เบิกจ่ายเงินตามฎีกาที่ 137/2556 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 จำนวน 20,000,000 บาท เพื่ออุดหนุนให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษาแก่เด็ก เยาวชน ประชาชน และบุคลากรกีฬาได้ไปศึกษาดูงาน เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลหรือกีฬาประเภทต่าง ๆ ภายในประเทศ และกีฬาประเภทต่าง ๆ ของจังหวัดบุรีรัมย์ให้สูงขึ้น เพื่อพัฒนาความรู้ด้านกีฬาให้เด็ก เยาวชน และประชาชนให้มีความรู้เกี่ยวกับกีฬาและการออกกำลังกาย ฯลฯ ซึ่งสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ นำเงินอุดหนุนที่ได้รับไปใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง ประชาสัมพันธ์ และค่าพาหนะในการจ้างเหมารถยนต์ เพื่อนำเด็ก เยาวชน ประชาชน และบุคลากรเดินทางไปชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่เข้าแข่งขันตามจังหวัดต่าง ๆ รวม 16 ครั้ง ๆ ละประมาณ 500-4,950 คน เป็นเงิน 20,000,000 บาท ขณะที่การใช้งบประมาณในการสนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นการสนับสนุนงบประมาณให้องค์กรเอกชนและภารกิจที่สนับสนุนไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 อีกทั้งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการนำเด็ก เยาวชน ประชาชน และบุคลากรกีฬา เดินทางไปชมและเชียร์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ไม่ได้เป็นการศึกษาหรือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ และไม่ถือเป็นการดูแลและจัดทำการบริหารสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ตามที่มาตรา 17 (18) แห่ง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง กำหนดอำนาจหน้าที่ ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2546 และลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 กำหนดแต่อย่างใด นอกจากนี้ในการตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 มกราคม 2553 โครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับเงินอุดหนุนจะต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ โดยกรณีการจัดให้มีและบำรุงสถานที่สำหรับกีฬาหรือส่งเสริมกีฬา จะต้องเป็นการดำเนินการที่มีลักษณะเป็นการจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองเป็นส่วนรวม ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว กิจกรรมหรือค่าใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวมิได้นำไปใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม แต่นำไปใช้จ่ายในลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลและเกิดประโยชน์เฉพาะตัว เช่น ค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะในการจ้างเหมาะรถยนต์ ให้กับผู้ร่วมโครงการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ฯลฯ ดังนั้น การสนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 20,000,000 บาท จึงถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น และเห็นควรรายงานผลการตรวจสอบให้ อบจ.บุรีรัมย์ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และหาผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวน 20,000,000 บาท รวมทั้งดำเนินการตามควรแก่กรณีกับผู้ที่มีส่วนร่วมทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบระมัดระวัง รอบคอบและถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหนังสือสั่งการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดโดยเคร่งครัดต่อไป อ่านประกอบ : "ชัยนาท"ต้นแบบ"บุรีรัมย์"! สตง.เชือด "อบจ." ใช้งบขนคนเชียร์ทีมกีฬา"นักการเมือง" ชัดๆผลสอบ สตง.!"อบจ.บุรีรัมย์" จ่าย 20 ล.ให้ส.กีฬาฯ ขนคนเชียร์ ทีมบอลเนวิน ชำแหละคำชี้แจง"เนวิน" Vs. สตง. ปมเงินอุดหนุนอบจ.บุรีรัมย์ ตอบคนละเรื่อง! "เนวิน" ยัน"บุรีรัมย์ยูไนเต็ด" ไม่เคยรับเงิน"อบจ."ขนคนเดินสายเชียร์ 20 ล. พบอบจ.บุรีรัมย์ควักเงิน20ล.ช่วย "ขนคน" เดินสายเชียร์ "บุรีรัมย์ยูไนเต็ด"
อัพเดทไปเรื่อย http://www.isranews.org/investigati...113-report02_38113.html#.VTiEpXHA3UU.facebook โชว์หนังสือ"สตง." จี้มหาดไทยคุมเข้ม!ก่อน"ส.กีฬาบุรีรัมย์"ใช้งบ"อบจ."ขนคนเชียร์บอล เขียนวันที่ วันพฤหัสบดี ที่ 23 เมษายน 2558 เวลา 11:56 น.
แล้วแต่ผู้พิพากษาหรือทางการจะตัดสินครับ อบจ.จ่ายเงินสมาคมกีฬา สมาคมฯให้เป็นค่าบริการประชาชน ไม่ได้จ่ายให้ส.ฟุตบอลครับ เหมือนกับกรณี บริการประชาชนไปดูหนังฟรี ไม่ได้จ่ายให้ผู้สร้างหนังครับ เหมือนกันที่สร้างความสุขให้ประชาชน ถ้าจะต่างกันก็แค่ มีอำนาจทำได้หรือไม่ตามกฏหมาย ถ้าผิดก็อยู่ที่ปฏิบัติโดยมิชอบตามกฏหมาย ไม่ใช่โกงครับ แต่ผมชอบความคิดนี้ครับ เสียเงินแค่เล็กน้อยแต่ได้ผลประโยชน์แก่ท้องถิ่นครับ ให้ประชาชนได้ดูบอลดีกว่าออกเงินให้ อบจ.ไปต่างประเทศดูงานครับ