“พี่ใหญ่มังกร” ออกมาเล่นบทกระเป๋าหนักอย่างนี้ “อินทรีปีกหัก” หนาวแน่! จีนประกาศเป็น “เจ้าภาพ” การตั้งธนาคารเพื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเซีย หรือ Asian Infrastructure Investment Bank (AIIB) และกว่า 30 ประเทศ รวมถึงยักษ์ใหญ่ยุโรปเช่นอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมันและอิตาลีประกาศจะเข้าร่วมด้วย, สหรัฐฯก็หน้าแตก เพราะเดิมสหรัฐฯคิดว่าอย่างไรเสีย ปักกิ่งก็คงจะเชิญชวนให้ใครมาร่วมได้ไม่กี่ประเทศ เพราะที่ผ่านมาธนาคารโลก, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารพัฒนาแห่งเอเซียก็มีกลไกทำหน้าทีนี้ อยู่แล้ว วอชิงตันมีอิทธิพลเหนือ World Bank, IMF และ Asian Development Bank (ADB) มาตลอด และแบ่งสรรปันตำแหน่งกันเสร็จสรรพ นั่นคือคนของสหรัฐฯคุมธนาคารโลก, ยุโรปครอบไอเอ็มเอฟ และญี่ปุ่นรับตำแหน่งใหญ่ของธนาคารพัฒนาเอเซียไป จีนเคยโวยวายว่าสามสถาบันหลักเหล่านี้ถูกโลกตะวันตกยึดครองเอาไว้หมด ประเทศอื่น ๆ ในเอเซีย, ตะวันออกกลางและอัฟริกาไม่มีสิทธิเสียงเท่าที่ควร จึงควรมีการแก้ไขกติกาให้เกิดความเสมอภาค แต่เมื่อสหรัฐฯและยุโรปทำอิดออด, จีนก็เดินหน้าชักชวนประเทศในเอเซียอื่น ๆ มาร่วมตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่โดยที่ปักกิ่งจะเป็นคนลงขันเงินก้อนแรก ให้เห็นว่าไม่ได้แค่พูดเล่นแต่ทำจริงทำจัง แรก ๆ ก็ดูเหมือนจะมีที่ประกาศพร้อมจะเข้าร่วมไม่กี่ชาติ ไทยเราก็เป็นประเทศแรก ๆ ที่ถูกชักชวนให้เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง แต่จีนก็เดินสายเชิญชวนประเทศต่าง ๆ มาเป็นผู้ร่วมลงทุนโดยยืนยันว่าไม่ได้ตั้งเพื่อปะทะกับสถาบันเก่าทั้งสามแต่ เพื่อจะได้เสริมทัพเงินลงทุนเพื่อการปูทางให้มีก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใน เอเซียอย่างเป็นกิจลักษณะ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก้าวย่างนี้ก็ต้องถือว่าจีนต้องการจะขยายอิทธิพล, พิสูจน์บารมีและถ่วงดุลกับอำนาจสหรัฐฯอย่างปฏิเสธไม่ได้ อินเดียในฐานะเป็นประเทศใหญ๋ในเอเซียเข้าร่วมแล้ว คำถามใหญ่ก็คือว่าญี่ปุ่นจะตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะโตเกียวจะต้องฟังเสียงวอชังตันในเรื่องนี้ และเมื่อสหรัฐฯเป็นพระเอกของเวทีเดิม ญี่ปุ่นเป็นพระรองมาตลอด, การตัดสินใจครั้งนี้จึงมีความยากลำบากใจอยู่ไม่น้อย นายกฯญี่ปุ่นชินโซะ อาเบะไม่ได้บอกปัดทันควัน แต่แสดงความกังวลว่า AIIB จะสามารถบริหารด้วยธรรมาภิบาลที่ได้มาตรฐานโลกหรือไม่ พูดง่าย ๆ ก็คือญี่ปุ่นตั้งข้อสงสัยว่าจีนจะเป็น “พี่เบิ้ม” ของงานนี้แต่เพียงผู้เดียว หรือจะมีระบบการบริหารที่เป็นมืออาชีพและสอดคล้องกับมาตรฐานของการพิจารณา ข้อเสนอเงินกู้เพื่อการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสมาชิกได้จริงหรือ ไม่? โปร่งใสไหม, ยุติธรรมไหม? อะไรทำนองนี้ แค่ตั้งคำถามนี้จีนก็คงจะเคืองขุ่นแล้ว เพราะความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ไม่อาจจะเรียกว่าเป็นปกติ และในหลาย ๆ เรื่องยังมีประเด็นที่จะต้องเป็นคู่แข่งกัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้นำจีนพยายามจะบอกชาวโลกว่าจีนไม่ได้ต้องการจะครอบงำธนาคารใหม่แห่งนี้ แต่ยินดีจะพิจารณาปล่อยกู้พร้อมกับธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟเพื่อสามารถตรวจสอบ ระหว่างกันได้เพื่อให้เกิดความแน่ใจในคุณภาพของการบริหารเช่นกัน จีนแสดงความจริงจังเรื่องนี้ด้วยการประกาศว่าจะลงขันขั้นต้น $50,000 ล้าน หรือเท่ากับ 1.6 ล้านล้านบาทเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา พร้อมกับเอ่ยชื่อ “หุ้นส่วน” 27 ประเทศ โดยเน้นที่สมาชิกอาเซียนเพื่อสร้างถนน, ท่าเรือและทางด่วนไปทั่วเอเซีย อีกทั้งยังตั้งเป้าไว้ว่าจะระดมเงินทุนให้ได้ $100,000 ล้านเหรียญหรือ 3.2 ล้านล้านบาท สำหรับโครงการต่าง ๆ ในอนาคต ธนาคารพัฒนาเอเซียประเมินว่าระหว่างปี 2010-2010 ประเทศในเอเซียและแปซิฟิค อาจต้องการเงินลงทุนมากถึง 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของตน แต่ ADB สามารถหาเงินกู้มาให้ได้เพียง $10,000 ล้านเหรียญต่อปีเท่านั้น ดังนั้น AIIB จึงมีบทบาทเสริมมากกว่าจะมาทดแทนหน้าที่ ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่มีอยู่ สุทธิชัย หยุ่น โลกไม่ได้หมุนรอบอเมริกาอีกแล้วนะเสื้อแดง
เคยคิดไว้เมื่อเห็นการพัฒนาประเทศของจีนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ว่าสักวันคงก้าวเข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจโลก และเข้ามาในจังหวะพอเหมาะพอดีกับที่พญาอินทรีกำลังขนร่วง
ไม่ว่าประเทศไหน ที่มีนโยบายกระตุ้นให้คนใช้จ่าย โดยไม่คำนึงถึงความสามารถในชำระหนี้ (ไม่รู้จักหลักพอเพียง) เศรษฐกิจประเทศนั้นก็จะโตแบบฟองสบู่ วันหนึ่งฟองสบู่นั้นก็ต้องแตกอย่างแน่นอน สิ่งเหล่านี้เป็นสัจธรรม ที่เจอกันมาบ่อยครั้ง แต่ประเทศทุนนิยมเสรีทั้งหลาย ไม่เคยมีใครจำเป็นบทเรียน
ถ้าฝรั่งเศส เยอรมันเข้าร่วมตามที่เป็นข่าว อีกหน่อย imf คงเป็นทางเลือกอันดับท้าย ๆ เพราะ มันบีบ ประเทศที่กู้เหลือเกิน ตอนทนงค์ไปเซ็นต์ รัฐบาลชวนแทบกระอักเลือด คนไทย ซัดยาขมไปหลายหม้อ พอเริ่มฟื่นทักษิณ มาพอดี ผลาญสบายเลย เจอยิ่งลักษณ์ล่าสุด ....หม่อมอุ๋ย ให้เรากินยาขมอีกแระ ที่จริง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ไม่ต้องเลือกตั้งมันเลย จะได้ไม่มีใครมาผลาญให้คนไทยต้องกินยาขม ใน 15 ปี ข้างหน้าอีก ถึงตอนนั้นผมก็หมดแรงสู้แล้ว นอนแห้งตายแหง๋ ๆ 555
รัฐบาลสหรัฐส่งสาส์นอวยพรวันสงกรานต์ถึงคนไทย ประสบความสุขความเจริญ-สุขภาพแข็งแรง เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ส่งสาส์นในนามประธาธิบดีโอบามาและชาวอเมริกาอวยพรถึงประชาชนชาวไทยเนื่องในวันปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ความว่า "ในนามของประธานาธิบดีโอบามาและประชาชนชาวอเมริกัน....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1atidiN ไม่มีไรมากกก มาบอกให้งดเหมาไถ ว็อดก้า วันสงกรานต์
วันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า เมื่อจีนคิดการใหญ่: ธนาคารโลกในเวอร์ชันเอเชีย .........การขยับตัวของจีนในครั้งนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ตามวิสัยทัศน์ของนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนซึ่งมีกรอบแนวคิดหลักที่จะผงาดอำนาจออกไปให้กว้างขึ้นผ่านการเชื่อมโยงการค้า ระหว่างทวีปทั้งทางบกและทางทะเลตามที่เรียกว่า “One Belt, One Road” โดยนอกเหนือจากการจัดตั้ง AIIB แล้ว จีนยังมีการดำเนินงานอีกหลายอย่าง อาทิการสนับสนุนให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากล การสนับสนุนให้สถาบันการเงินทั้งในและนอกจีนออกพันธบัตรสกุลเงินหยวนได้เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปของจีนถูกวางไว้อย่างครอบคลุมเพื่อให้จีนมีบทบาทในเวทีโลกในด้านต่างๆเพิ่มขึ้นในอนาคต แผนการใหญ่ที่จีนวางไว้ในครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จและส่งผลกระทบต่อโลกมากน้อยเพียงใดนั้นเราคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อที่ไทยจะได้ปรับตัวให้ทันการณ์และได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด
https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/DocLib_/article14_04_15.pdf เมื่อจีนคิดการใหญ่: ธนาคารโลกในเวอร์ชันเอเชีย วิชญ์พล สุธาสินีนนท์