ประธานศาลปกครองสูงสุด ยื่นฟ้องรองประธานคนที่ 2 และตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 และ เป็นตัวการ, ผู้สนับสนุน หลังไม่มีการสอบสวนในคดีที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง สั่งพักราชการตน เกิน 60 วัน แถมยังส่งหนังสือไปถึง ก.พ. ให้ทบทวนส่งตัวแทนร่วมสอบสวน ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้เกิดความเสียหาย แหล่งข่าวเชื่อ กก. หวังถ่วงเวลาให้ “ไพบูลย์” เกษียณก่อน http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000056836 วันนี้ (19 พ.ค.) รายงานข่าวจากศาลปกครอง แจ้งว่า วานนี้ (18 พ.ค.) นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้ยื่นฟ้อง นายชาญชัย แสวงศักดิ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 2 และนายวิษณุ วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ฐานกระทำความผิดความประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 83 ฐานเป็นตัวการและผู้สนับสนุน ซึ่งศาลอาญาได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีดำที่ อ 1738/2558 โดยคำฟ้องบรรยายว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) มีมติสั่งพักราชการนายหัสวุฒิ จากตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายหัสวุฒิ ตามความในมาตรา 24 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 และระเบียบของ กศ.ป. โดยมีมติแต่งตั้ง นายชาญชัย เป็นประธาน และนายวิษณุ เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งตามระเบียบของ กศ.ป. ระบุว่า ให้คณะกรรมการสอบสวนฯ ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว แต่ไม่เกิน 30 วัน นับแต่ที่ได้รับแต่งตั้งจาก ก.ศป. หากมีความจำเป็นไม่อาจสอบสวนได้เสร็จให้ขยายเวลาได้ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 วัน แต่จนถึงปัจจุบันล่วงเลยมากว่า 60 วัน คณะกรรมการดังกล่าวก็ยังไม่ได้ดำเนินการสอบสวน หรือจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อกำหนดแนวทางสอบสวนแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีความพยายามส่งหนังสือไปถึง คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อให้พิจารณาทบทวนการส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวน ทั้งที่เป็นอำนาจของ ก.พ. และอยู่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการสอบสวน “การกระทำดังกล่าวของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หรือมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรตคุณของโจทก์ที่สร้างสมมาเป็นเวลากว่า 40 ปี และไม่อาจกลับมาปฏิบัติหน้าประธานศาลปกครองสูงสุดได้โดยเร็ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157” คำฟ้อง ระบุ แหล่งข่าวภายในศาลปกครอง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวน และสั่งพักราชการนายหัสวุฒิไปแล้ว ส่วนตัว นายหัสวุฒิ เองก็มั่นใจในความบริสุทธิ์ และเคารพในมติของ กศ.ป. แต่คณะกรรมการสอบสวนฯที่ตั้งขึ้นกลับมีพฤติกรรมส่อให้เห็นว่า ถ่วงเวลาดึงเรื่องการสอบสวนให้ช้า ทั้งที่ระเบียบของ กศ.ป. ระบุชัดเจนว่าให้มีการสอบสวนโดยเร็ว ไม่เกิน 60 วัน ซึ่งนับถึงขณะนี้ก็ล่วงเลยระยะเวลาที่กำหนดมาแล้ว ส่งผลให้ นายหัสวุฒิ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องฟ้องคดีอาญาในครั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า มีการวิเคราะห์ว่าคณะกรรมการสอบสวนฯ ที่มี นายชาญชัย เป็นประธานนั้น อาจต้องการถ่วงเวลาเพื่อให้เกิดความได้เปรียบเรื่องเสียงการลงมติภายในคณะกรรมการสอบสวนฯ โดยประวิงเวลารอให้ นายไพบูลย์ เสียงก้อง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ซึ่งร่วมเป็นกรรมการสอบสวนฯ ด้วยเกษียณอายุราชการ อีกทั้งยังมีความพยายามส่งหนังสือไปยัง ก.พ. ถึง 2 ครั้งเพื่อกีดกัน นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ อดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นผู้ที่ ก.พ. ส่งเข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวนฯตามกฎหมาย โดยอ้างว่า นายธีรยุทธ์ มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะมีความใกล้ชิดกับนายหัสวุฒิ แต่สุดท้ายทาง ก.พ. ก็ยืนยันการส่งนายธีรยุทธ์ กลับมา “พฤติกรรมของคณะกรรมการสอบสวนฯมองได้ว่ามีความพยายามดึงเวลาเพื่อให้ได้เปรียบในทางเกมชิงอำนาจ ทั้งการถ่วงเวลารอให้นายไพบูลย์ เกษียณอายุ หรือการค้านชื่อนายธีรยุทธ์ ไปถึง ก.พ. ทำให้กระบวนการสอบสวนล่าช้าขัดต่อระเบียบ กศ.ป. แตกต่างจากเมื่อครั้งสอบสวน และลงมติสั่งพักราชการนายหัสวุฒิ ที่ทำกันอย่างเร่งรีบ” แหล่งข่าว ระบุ
ใช่ เหมือนคดีซุกหุ้นของนักโทษหนีคดีไง ชนะไป 8:7 ทีชนะไม่เห็นโวย แต่พอแพ้ก็มาอ้างนั่นอ้างนี่ ยอมรับบ้างก็ดี ประเทศจะได้เลิกวุ่นวาย
มีได้ แต่ไม่ได้เกิดกับคดีพวกมึงแน่นอน เพราะหลักฐานชัดเจนมาก ที่ผิดพลาดหนักก็คือคดีซุกหุ้นทั้งสองครั้งของพ่อแม้วมึว
เสียงส่วนใหญ่จริง แต่ไม่ใช่ว่าเหม็นขี้หน้าใคร ก็ฟันธงว่าผิด หรือชอบใคร ก็ฟันธงว่าถูก ต้องอาศัยหลักฐานและคำให้การของแต่ละฝ่าย การอ้างอิงกฏหมาย ปล. ผมว่าคุณน่าจะเอาช่วงว่างจากงานหาความรู้ใส่ตัวบ้างน่ะ รู้สึกในหัวนี้แทบจะไม่มีอะไรเลย
อีกคนบอกว่าศาลตัดสินพลาดได้ อีกคนบอกสังคมชาวเน็ตตัดสินก่อนศาลนั้นทำไม่ถูก ต้องรอให้ศาลตัดสิน เออ......ดีเนอะ