ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้‘ธัมมชโย’ปาราชิกตามพระลิขิตสังฆราช ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้“ธัมมชโย”ปาราชิกตามพระลิขิตพระสังฆราช จากการเบียดบังทรัพย์สินวัดธรรมกาย ชงหน.คสช.ตั้งกรรมการร่วมดำเนินการให้เป็นบรรทัดฐาน วันที่ 20 ก.ค.58 นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการวินิจฉัยหลวงปู่พุทธะอิสระและนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ยื่นคำร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุด และอดีตอธิบดีกรมการศาสนาอีกรายหนึ่งว่าไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่มีพระราชวินิจฉัยกรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์แต่เบียดบังทรัพย์ไปเป็นของตนเองโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า พระลิขิตฉบับลงวันที่ 26 เม.ย. , 1 พ.ค. และ 10 พ.ค. 2542 ระบุว่า กรณีของพระธัมมชโยเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาได้ยักยอกเอาทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดพระธรรมกายไปเป็นของตนเอง โดยนำเงินของวัดมาซื้อที่ดินหลายแปลง ต่อมาพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องพระธัมมชโยเป็นจำเลยต่อศาล จึงถือว่าพระธัมมชโยย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร เปรียบเหมือนใบไม้เหี่ยวเหลืองหลุดจากขั้วแล้ว ไม่อาจเขียวสดต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้พระธัมมชโยย่อมต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระลิขิต ทั้งนี้มหาเถรสมาคมมีหน้าที่สนองพระลิขิต แต่ปรากฎว่าในการประชุมครั้งที่ 16/2542 ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามพระลิขิตเพียงเรื่องเดียวคือติดตามรับมอบและคืนที่ดินอันเป็นของวัดพระธรรมกายเท่านั้น ส่วนประเด็นพระวินิจฉัยของพระสังฆราชว่าพระธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ มิได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด นายรักษเกชา กล่าวด้วยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงจะทำความเห็นเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาควาหมสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่ายศึกษาประเด็นทางพระวินัยที่ยังไม่ได้ข้อยุติกรณีพระธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกตามพระวินิจฉัยของพระสังฆราชฯหรือไม่ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป โดยคณะกรรมการอาจเป็นพระเถรชั้นผู้ใหญ่ที่มหาเถรสมาคมคัดเลือกกันเอง 3 รูป ผู้แทนจากสำนักพุทธฯผู้แทนสำนักนายกฯ สภาปฏิรูป สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ฯลฯ และเมื่อได้ผลสรุปอย่างไรขอให้นำข้อสรุปบรรจุเข้าวาระการประชุมมหาเถรฯเพื่อพิจารณาลงมติสถานภาพของพระธัมมชโยให้สาธารณชนรับทราบต่อไป ส่วนกรณีนายพชร ซึ่งมีคำสั่งให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ถอนฟ้องพระธัมมชโยโดยอ้างบ้านเมืองต้องร่วมกันสร้างความสามัคคีของคนในชาติทั้งหมู่เหล่า เห็นว่าหากดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในศาสนจักร โดยเฉพาะในเหล่าพระภิกษุ สามเณรและประชาชน และไม่เกิดประโยชน์แก่สาธารณะนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าหากเป็นไปตามข้อกล่าวอ้างของนายพชร นายสุชาติ ไตรประสิทธิ์ อดีตอัยการสูงสุด คงไม่มีความเห็นให้สั่งฟ้องคดีมาตั้งแต่ต้น และมีการสืบพยานต่อเนื่องยาวนานเกือบ 7 ปี อีกทั้งในคดีนี้นายพชร ขณะดำรงตำแหน่งรองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมเป็นคณะทำงานพิจารณาสำรวจคดีของพระธัมมชโยและได้มีความเห็นให้สั่งฟ้องพระธัมมชโยเป็นจำเลย โดยเทียบเคียงกับคดีสันติอโศก นายรักษเกชา กล่าวอีกว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเคารพในหลักการที่อัยการต้องมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี แต่การสั่งคดีต้องเป็นไปโดยเที่ยงธรรมสุจริต ผู้ตรวจฯจึงทำความเห็นและข้อเสนอไปยังนายกฯและหัวหน้า คสช. ขอให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาการมีความสั่งถอนฟ้องของนายพชรว่า มีความผิดตามมาตรา 147 หรือไม่ จากการถอนฟ้องคดีที่ไม่อาจยอมความกันได้หรือไม่ นอกจากนี้หลังมีคำสั่งถอนฟ้องสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ได้ส่งคำสั่งขอถอนฟ้องไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นข้อกฎหมายว่ามีอำนาจถอนฟ้องคดีอาญาหรือไม่ เช่นเดียวกับอดีตอธิบดีกรมการศาสนา ซึ่งไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามพระลิขิตของพระสังฆราชฯจึงขอให้หัวหน้าคสช.ตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณาความผิดทั้งทางวินัยและอาญาด้วย “การที่อดีตอัยการสูงสุดอ้างว่าพระธัมมชโยได้ยอมมอบทรัพย์สินเป็นที่ดินและเงินจำนวน 959,300,000 บาท คืนให้กับวัดพระธรรมกายถือเป็นการตามพระลิขิตของพระสังฆราชฯโดยครบถ้วนทุกประการแล้วนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าการกระทำของพระธัมมชโยครบองค์ประกอบความผิด ฐานเบียดบังทรัพย์ของวัดไปเป็นของตนเอง แม้ภายหลังพระธัมมชโยจะนำทรัพย์ที่ยักยอกไปมาคืนให้แก่วัด ก็ถือเป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิด ไม่อาจทำให้การกระทำความผิดอาญาที่สำเร็จไปแล้วกลายเป็นไม่ผิดไปได้ อีกทั้งพระธัมมชโยใช้เวลานานเกือบ 7 ปี จึงยอมคืนทรัพย์สินโดยไม่ยอมคืนทรัพย์ตั้งแต่มีพระวินิจฉัยตักเตือน”เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว
แต่พระเอาม็อบมาปิดกงศุล เขาด่ากันทั่ว ไม่ยักกะสอบ ไม่รู้ฝั่งใหนสร้างความเสียหายกว่ากัน คนมีคดีก็บวชได้ ที่สุราษ
ฝั่งธัมมชโยทำเสียหายอ้ะ เวลาเรียกสอบก็เยิ่ยเย้อบอกว่าโรคแยะ ตอนรับจ๊อบฟอกเงินก็เนียนซะเหลือเกิน จริง ๆ พฤติกรรมนี้เขารู้กันมานานแล้ว ไอ้ประเภทหลอกเงินชาวบ้านเอาเงินมาซื้อตำแหน่ง จะให้สาธยายต่อไหมล่ะ
เขาบวชได้และดำรงเพศบรรพชิตครองผ้าเหลืองได้อย่างสมบูรณ์ เพราะท่านทั้ง 2 ไม่ได้ผิด ปาราชิก๔ ส่วนคดีมันเป็นคดีที่ตะกวดสั่งฟ้องเฉย ๆ ศาลยังไม่ได้ตัดสิน แล้วคิดยังไงกับพระที่ออกมาพูดถ้อยคำแบบนี้บ้างล่ะ
อย่าว่าแต่ศิษย์เอกที่มาคอยปกป้อง ธัมมชโยเลย แม้แต่ตัวธัมมชโยเองก็ใช่ว่าจะรอดจากความแม่นใน พระไตรปิฎก ผมขอเริ่มด้วยข้อมูล ของ ส ศิวลักษณ์ก่อน ขอเชิญท่านเลอคูเชิญทัศนา
ส ศิวลักษณ์ ท่านมาจากสายพระพุทธทาส แต่ไม่ละเอียดเหมือนอาจารย์ ถือว่าเป็นพวกเถรใบลานเปล่า ที่ว่าถูกก็ถูก แต่ไม่ลึกซึ้งนะ
อริสมันต์ มีคดี ก็ บวชได้นี่ เคยรุ้บ้างไหม รักเกียรติ ก็ มีคดี ก็ บวช ได้นี่ ศึกษาหาความรู้เยอะๆ หน่อย อายเขา
ผิดข้อไหนหล่ะบอกหน่อยสิ อ้อ แล้วเที่ยวไปเปลี่ยนคำสอนของท่านอวดอ้างตนวิจารณ์พระพุทธเจ้า แบบนี้อันไหนเสียหายกว่ากันนะ เขาไม่ได้ห้ามนี่ว่ามีคดีห้ามบวช อ้อแล้วท่านบวชแต่ก็มาขึ้นศาลนะ ไม่ได้หนีไปไหน ไม่เหมือนสัมภเวสีบางตัว จริงมั้ย ตอบหน่อย
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=354199 อริสมันต์บวชแล้วได้ฉายา'ฐิตะมันโต'เมียลูกพร้อมหน้า ข่าวการเมือง วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ.2555 10:36น. "อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง" อดีตแกนนำ นปช. . เข้าพิธีอุปสมบท ที่ วัดสัมพันธวงศ์ ภรรยาครอบครัวพร้อมหน้า ได้รับฉายาว่า "ฐิตะมันโต" แปลว่า ผู้ตั้งมั่นอยู่ในความสำเร็จ โดยมีบุคคลสำคัญทางการเมือง และอดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก บรรยากาศในงานพิธีอุปสมบทของ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. ล่าสุด มีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่ง นายอริสมันต์ ได้กล่าวก่อนที่จะมีการทำพิธีปลงผมในเวลา 08.00 น. ด้วยอาการสงบและสำรวม ว่า จะตั้งใจบวชทดแทนคุณบิดา มารดา และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง โดยในระยะเวลา 1 เดือนที่บวชนี้ ตนก็จะตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ และแม้ว่าจะมีการอุปสมบทขณะที่ยังมีคดีความติดตัวอยู่ก็ถือว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะก่อนหน้านี้ได้ปรึกษากับพระอุปัชฌาย์แล้ว ว่าสามารถทำได้ ขณะที่ นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ภรรยาของ นายอริสมันต์ ได้กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ในวันนี้ ครอบครัวและลูกชายของ นายอริสมันต์ ได้เดินทางมาเข้าร่วมงานทั้งหมด โดยในช่วงนี้จะเดินทางมาถวายภัตตาหารเพล และนิมนต์ไปทำบุญที่บ้าน ล่าสุด นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. ได้ถือฤกษ์ เวลา 09.19 น. เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสัมพันธวงศ์ โดยได้รับฉายาว่า "ฐิตะมันโต" แปลว่า ผู้ตั้งมั่นอยู่ในความสำเร็จ โดยมีบุคคลสำคัญทางการเมือง และอดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก อาทิ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายสุพร อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) นางดารุณี กฤตบุญญาลัย รวมถึง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งบรรยากาศพิธีแห่นาคก่อนหน้านี้ เป็นไปด้วยความปิติยินดีของผู้เข้าร่วมงาน รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 400 คน ที่มาร่วมรำแห่นาคอย่างสนุกสนาน
เรื่องของทักษิณกะธัมมชโย เป็นหลักฐานที่มีชีวิต มีตัวตนชัดเจน ให้คนทั่วไป เห็นเป็นรูปธรรมว่า ****ในทางโลกทักษิณเป็นตัวอย่างของการเลือกปฎิบัติของกฎหมาย ทำผิดกฎหมาย แต่ยังลอยนวล ไม่สามารถเอาตัวมาลงโทษได้ ขนาดเรื่องง่ายๆ จะถอดยศ ยังไม่มีใครกล้าทำ ****ในทางธรรม ก็มีการเลือกปฏิบัติ ธัมมชโยทำผิดพระธรรมวินัย ต้องปาราชิก มีหลักฐานชัดเจน แต่ก็ยังลอยนวล ไม่มีใครจัดการให้สึกได้ ขนาดจะสอบสวนคดี ยังต้องไปกราบกราน ขอความกรุณากันถึงวัด
ม็อบลูกศิษย์ธัมมชโยอดีตส.ส.พท.แจม ค้านผู้ตรวจการแผ่นดินให้รื้อคดีอาจารย์ต้องปาราชิก 21ก.ค.2558 เมื่อเวลา 13.45 น. กลุ่มเครือข่ายลูกศิษย์วัดพระธรรมกายประมาณ 200-300 คน พร้อมพระภิกษุได้มารวมตัวที่ด้านหน้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะอาคารบี โดยนำเครื่องขยายเสียงและป้ายไวนิล ระบุข้อความคัดค้านมติผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีปาราชิกพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยลูกศิษย์เรียกร้องให้เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมาพบและชี้แจงกรณมีมติดังกล่าว พร้อมทั้งระบว่าคดีจบไปนานกว่าสิบปไม่ควรรื้อฟื้นขึ้นมาอีก หากวัดพระธรรมกายไม่ได้รับความเป็นธรรมเชื่อว่าลูกศิษย์นัดแสนจะรวมตัวออกมาปกป้องพระธัมมชโย ระหว่างการรวมตัวแกนนำขอให้ลูกศิษย์ช่วยติดต่อไปยังเครือข่าย โดยใช้โทรศัพ์มือถือและโซเชียลมีเดียให้มาร่วมกัน และล่าสุดมีลูกศิษย์ทยอยเดินทางมาด้านหน้าศูนย์ราชการ และนำเครื่องขยายเสียงติดตั้งท้ายรถปิกอัพมาติดตั้ง ทั้งนี้พบว่ามีนางลีลาวดี วัชโรบล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ลูกศิษย์คนสำคัญก็ร่วมมาสมทบด้วย ล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ออกมาชี้แจงกรณีพระธัมมชโยแล้ว http://www.komchadluek.net/detail/20150721/210167.html ............................................................................................ 13:23 "พุทธะอิสระ"ชี้คดี"ธัมมชโย"ควรจบก่อนถวายพระเพลิง"สังฆราช"อ้างจะได้จากไปอย่างไม่มีมลทิน ............................................................................................ หากพ้นรัฐบาลลุงตู่ เชื่อได้ว่า จัดการลัทธิ นี้ไม่ได้แน่ครับ
กนกซัดข้าราชการหัวหด ไม่กล้าทำเรื่องธัมชโยปาราชิก http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2015/07/23/กนกซัดข้าราชการหัวหด-ไม/
บอกให้เอาบุญนะ ....แบบว่าเวลาหาหญ้ากินน่ะ ให้กินขี้เป็ด ขี้ไก่ ผสมเข้าไปด้วย จะได้มีโปรตีนไปเลี้ยงสมอง กินแต่หญ้าล้วน ๆ ........ มันถึงกระโหลกหนาปัญญาทรามแบบนี้ไงล่ะ