http://chaoprayanews.com/blog/thaiflag/2014/12/19/พไพบูลย์-คุ้มฉายา-รมว/ ผมว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่ตรงจุดปัญหา เพื่อนๆว่าไงครับ?
ผมเห็นด้วยครับ เพราะถ้าเก็บไว้ ตำรวจก็เอามาขายเอง เผาตอนเอามาของมาโชว์นั่นแหละ ให้ผู้สื่อข่าวเป็นพยาน
ไม่แน่ใจครับ แต่ควรมีกรรมการตรวจสอบและเป็นพยานด้วยครับ โดยที่กรรมการต้องไม่ใช่ตำรวจ ทุกวันนี้ผมก็ไม่รู้ว่ามีการเผา ทำลายกันมั้ย หรือตำรวจมันเอาไปเก็บไว้เอง
จุดด่างของกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ตำรวจคือ ล่าช้า ไม่โปร่งใส จับแพะ ถ้าแก้โจทย์เหล่านี้ไม่ได้ ปัญหายาเสพติด...รวมถึงทุกคดี ก็ยังคงมีต่อไป
ระบบศาลด้วยครับ ทั้งล่าช้าและยังมีมาตราฐานไม่เที่ยง เช่น สาวซีวิคทำคนตายเป็นสิบ รับโทษนิดเดียว คนเก็บของเก่า เอาของที่คนทิ้งมาขาย ละเมิดลิขสิทธิ ติดคุก คุกเอาไว้ขังหมากะคนจน
เรื่องขายซีดีเก่านี่ขอเสริม กรณีนี้ผิดตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 โทษฐานที่ขายซีดีหนังโดยไม่มีใบอนุญาต ขนาดจะขายซีดีหนังตามตลาดนัดยังต้องขอใบอนุญาต แม้จะขายแผ่นแท้ถูกลิขสิทธิ์ก็ตาม ไปทำเรื่องได้ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ส่วนต่างจังหวัดก็ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
อีกสักตัวอย่าง ที่เป็นจุดด่างของกระบวนการยุติธรรม http://chaoprayanews.com/blog/article/2014/12/19/นักปั่นหุ้นร่าเริง-กฎหม/
ทราบครับว่าผิด แต่ผลการงานของทั้งสองคดีนี่ไม่ไหว คดีนึงทั้งลากทั้งดึง ทั้งไม่สืบผลให้เด่นชัด ตัดสินเบาแบบปุยนุ่น อีกคดีว่องไวปานนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ตัดสินตามมาตรฐานสากลไม่ลดหย่อน
เผายาเสพติดต่อหน้านักข่าว อย่าเป็นแบบกรณีนี้นะครับ http://www.posttoday.com/รอบโลก/ข่าวรอบโลก/337449/ซะงั้น-นักข่าวเมาควันยาบ้าขณะรายงานภาคสนาม-ชมคลิป ซะงั้น!นักข่าวเมาควันยาเสพติดขณะรายงานภาคสนาม (ชมคลิป) 24 ธันวาคม 2557 เวลา 14:54 น. นักข่าวเมืองผู้ดีเมาควันยาเสพติดจนหยุดหัวเราะไม่ได้ขณะกำลังรายงานภาคสนาม จนต้องขอหยุดรายงานกลางคัน เป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอที่ชวนขำปนสงสารสำหรับคลิป 'Quentin Sommerville struggles complete his piece to camera' เมื่อนาย'ควินติน ซัมเมอเวลล์'ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว'บีบีซี'ประจำภาคพื้นที่แถบตะวันออกกลาง เกิดเมาควันยาจนหยุดหัวเราะไม่ได้ ขณะกำลังรายงานข่าวอยู่บริเวณหน้ากองเพลิงเผายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้จำนวน 8 ตัน ... คลิปนี้เหมือนเทปหลุดเลยครับ กี่เทคๆ ก็ขำ ถ่ายจริงไม่จบซะที 5555555555555
เผาได้ไงครัช ของตั้งแพง ให้ผู้ต้องหากินให้หมดตอนนั้นเลย จับได้พันเม็ดก็ให้มันกินทั้งพันเม็ด ถ้ามีผู้ต้องหาหลายคนก็ให้แบ่งกันกินเท่าๆกัน แล้วปล่อยมันไว้งั้นแหละ รอดแล้วค่อยส่งฟ้อง
กฎหมายเขาดูเจตนาครับ ไม่ได้ดูความเสียหาย ถ้าคุณเกิดขับรถเฉี่ยวกับรถทัวร์ แล้วรถทัวร์ดันเกิดตกเหว ตายยกคัน ฆ่าคนตายคนเดียว ก็ยังถูกยิงเป้าเลย นิทำคนตายเป็นสิบๆ คุณต้องถูกยิงเป้ามั้ยครับ
555 ถ้าข้อเท็จจริงคือ ถ้าคุณไม่มีใบขับขี่ รู้ว่าไม่สามารถขับรถได้ ดันไปขับรถ แถมขับรถโดยไม่มีความรับผิดชอบ แล้วคุณเกิดขับรถเฉี่ยวกับรถทัวร์ แล้วรถทัวร์ดันเกิดตกเหว ตายยกคัน ผมว่าคุณเจตนาครับ สมควรถูกยิงเป้าครับ จะมาอ้างว่าขับรถเป็นไม่ได้ จะอ้างว่ากฎหมายเขาดูเจตนาครับ ไม่ได้ดูความเสียหาย ไม่ได้ เหมือนกรณีคนไทยเมาขับรถชนคนตายที่ญี่ปุ่น เมาไม่อยู่ในสภาพขับรถ กฏหมายเขาก็กำหนด จะอ้างว่ากินไปนิดเดียว เอาอยู่ไม่ได้ครับ ถ้าจะอ้างกฎหมายเขาดูเจตนาครับ ไม่ได้ดูความเสียหาย. ก็ขอให้ดูข้อเท็จจริงประกอบด้วย อย่าแค่คิดและเสนอความจริงแค่ครึ่งเดียว
ตกลงมีขับขี่ คุณจะไปขับชนใคร ก็ได้เหรอครับ ชนใคร ก็แค่ประมาท ส่วนใครไม่มีใบขับขี่ ถือว่าเป็นเจตนา ผมว่าตลกมากนะ อย่ามาตีคลุมแบบนี้ครับ มาตรา 59 วรรค 2-4 กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและ ในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการ กระทำนั้น ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริง อันเป็นองค์ประกอบของความผิดจะ ถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำ นั้นมิได้ กระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่ กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจัก ต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวัง เช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ คือน้องคนนั้น เขาประสงค์จะชนรถตู้เหรอครับ ส่วนเมาแล้วขับนี่ มันผิดตั้งแต่เมาแล้วครับ เมาก็เรื่องหนึ่งครับ ประมาทก็เรื่องหนึ่ง มันอยู่คนละมาตรากัน มันเป็นคนละฐานความผิดกันนะครับ
มีใบขับขี่ก็ไม่ได้หมายความว่าชนใครได้ครับ ไม่มีใครอยากขับรถมีอุบัติเหตุหรอก แต่ไม่มีใบขับขี่ขับรถยนต์ เสือกไปขับนี่สิครับ อุบัติเหตุทางรถยนต์มันฆ่าคนได้ ต้องรับทราบจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ คุณไม่มีใบขับขี่ก็ไม่มีสิทธิขับรถออกถนน ที่ตลกคืออ้างกฎหมายว่าเขาดูเจตนา ไม่ได้ดูความเสียหาย แถมจะไม่ดูข้อเท็จจริงอีก นี่ยังไม่พูดกันเรื่องพยายามปกปิดข้อเท็จจริงอีก จำไว้ว่า ต่อไปไม่มีใบขับขี่ขับชนรถตู้ตายสิบศพก็บอก ผมไม่ตั้งใจ ไม่มีใบขับขี่แต่ผมขับรถเป็น มันเป็นอุบัติเหตุ ขับแค่ร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชัวโมง ไม่ตั้งใจ ตั้งใจไปเที่ยวผับดันเกิดอุบัติเหตุ เจตนาขับรถไปเที่ยวผับ จบนะ. ขึ้นศาล สรุป รอลงอาญา ออกมาขับรถต่อ 5555 ถึงบอกรับบยุติธรรมต้องสังคยานาขนานใหญ่
คุณไม่ฟังผมเลยนะครับ มันต้องแยกฐานความผิดไงคุณ ไม่งั้นก็ โดนคนอย่างตีคลุมไปหมหด มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือโทษไม่หนักพอรึ ทุกคดีหน่ะครับ มันต้องมีการใช้ดุลพินิจของศาล เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ที่เขียนกฎหมายครอบคลุมไว้ทุกๆกรณีบนกระดาษ หรือว่าเคสนี้ศาลมันห่วย ไม่ได้ความหรือครับ เพราะตัดสินไม่เหมือนอย่างที่คุณต้องการ ถ้าน้องขับรถชนรถบัสที่บรรทุกส.ส.เพื่อไทยมาเต็มคัน ตายห่าหมดคันเลยนี่ จะตัดสินน้องเค้ายังไงครับ จะคิดเหมือนอย่างงี้หรือเปล่า หรือว่าคุณแค่ตัดสินคนตามอารมณ์ครับ
ผมนะฟังคุณ แต่คุณนะไม่เข้าใจ ไม่เกี่ยวว่าตัดสินไม่ตรงกับใจผมหรือใจใครจะชนจนตระกูลชินตายยกโคตร หรือ สส เพื่อไทยยกครอก หรือแค่คนเดียว ผิดก็คือผิด ยังคิดเหมือนเดิมครับ อีกอย่างคดีแบบนี้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องประมาทเลยครับ เจตนาฆ่าคนตายชัดๆ ผลของการกระทำที่ไม่มีสำนึกรับผิดชอบ ไม่ปฏิบัติตามกฎกติกาสังคม ทำให้คนตายเป็นสิบ แต่ระบบที่มีมันไม่สามารถแสดงให้เห็นว่ายุติธรรม แค่ปาหี่บอกว่าผิดนะ ประมาทนะ อุบัติเหตุนะ ไม่เจตนานะ ลงโทษไปเท่านี้ก็พอนะ แต่เป็นเด็กอยู่นะ ไม่รู้เดียงสา งั๊นรอลงอาญา เดี๋ยวสังคมก็ลืมๆกันไป ถุย ผมไม่มีส่วนได้เสีย ไม่รู้จักผู้เสียชีวิตสักราย แต่รับไม่ได้กับศรีธนนชัยในระบบยุติธรรม มีการสมคบคิดกันทั้งระบบ แทรกแทรงระบบ ตีความแบบง่อยๆกากๆ อ้างดุลยพินิจพิจารณาถี่ถ้วน เหตุไม่เจตนา ผลจากความประมาท อุบัติเหตุ ปั้นแต่งผลให้ออกมาแบบคิดว่าเนียน แล้วบอกยุติธรรม สมคบคิดกัน ผู้ปกครองเด็ก ตำรวจ ทนาย และ 5555 หลายคดีความครับ ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว ระบบศรีธนนชัยต้องยกเลิกครับ อย่าให้สังคมมันกากขึ้นจนอยู่ไม่ได้เลย