กระทู้แนะนำล่าสุด จากบางขุนพรหม http://pantip.com/topic/33182641 ก่อนหน้านี้ก็มีมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ห้องสมุด ปล อ่านด้วยใจเป็นกลาง ผมรู้ศึกเหมือน หลังๆ เจ้าประจำราชดำนาหลายคน กระจายตัวมากขึ้น ปล2 ทำไมชอบใช้คำว่าคลั่งชาติจัง + ชอบเปรียบเทียบเมกา ปล3 แสดงว่าเจ้าของกระทู้ยังไม่เคยดู หนัง ประวัติศาสตร์ ของ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ว่าเขาอวยชาติตัวเองกันขนาดไหน
นักวิชาการบางคน ได้ทุน สนับสนุน จากต่างชาติ แต่ละประเทศ ดีต่อกัน หรือ รา้ย ต่อ กัน โดยทางตรง อย่างเดียว เหรอครับ การจะทิ้งระเบิด ตรงเป้า สมัยนี้ เขาไม่ใช้คนชี้ พิกัด แบบเก่า แต่เขาใช้คนใน การรบชนะอย่างสิ้นเชิง คือการที่ฝ่ายตรงข้าม โดนกัดกิน จากภายใน บางประเทศ เพาะบ่ม ตัวหนอนไว้ เป็นสิบปี เพื่อใช้งาน
พวก รดน เริ่มเปิดแนวรุก ไปยืดพื้นที่ห้องอื่นเป็นฐานปฏิบัติการครับ Pantip ตอนนี้ tag ข้ามห้องได้ เห็นชุดความความคิดของแต่ละห้องมาwarใส่กัน เป็นความบันเทิงที่เรียก Rating จากคนดูได้เป็นอย่างดีเลยละครับ
ในสมัยสงครามโลกคนพวกนี้เรียกว่าแนวที่ 5 ครับ เป็นข้าศึกที่ไม่ได้บุกมาจาก 4 ทิศทาง แต่แฝงตัวทำลายเป้าหมายจากภายใน ในประเทศพวกฝรั่งใครที่น่าสงสัยว่าจะเป็นแบบนี้ เขาไม่ยืดหลัก Human Right โลกสวยในการปฏิบัติหรอกครับ เขาจับไปขัง สอบสวนหาต้นตอ หรือไม่ก็ส่งหน่วยปฏิบัติการลับไปอุ้มฆ่าเลย http://www.komchadluek.net/detail/20150112/199300.html
สมกับเป็น(เวทีมวย)ราชดำเนินจริงๆ ความจริงเสี้ยวเดียวก็ขยายกันแบบมั่วๆ ที่คนมันทะเลาะกันก็เพราะมั่วข้อมูลนี่แหละ แล้วทะนงตัวว่าเก่ง โลกไปถึงไหนแล้ว โลกส่วนตัวล่ะสิ
พวกนี้เขาเลยจุดนั้นไปแล้วครับ สิ่งที่พวกนั้นเป็นตอนนี้คือ หน่วยปฏิบัติการIO ที่ทำกันเป็นงานประจำเป็นอาชีพไปแล้ว
ขอโควท ช่างเป็นการให้เหตุผลที่ลักลั่นย้อนแย้งที่สุดในสามโลก ตั้งกระทู้มาอย่างดีว่าการทำหนังแบบนี้ทำให้คนคลั่งชาติ แล้วญี่ปุ่นทำหนัง AV ในทุกรูปแบบที่จะคิดได้ ทำไมคนญี่ปุ่นไม่บ้าเซ็กส์ละครับ สุดท้ายหนังก็คือหนังครับ ดูจบก็คือจบ คนที่ไม่เชื่อในวิจารณญาณของประชาชน ไม่ใช่คนที่เซนเซอร์หรอกครับเพราะเขาต้องเซนเซอร์ตามกฎหมาย แต่เป็นคนที่ใช้วาทกรรม "หนังทำให้คนคลั่งชาติ" ต่างหากที่ไม่เชื่อในวิจารณญาณของประชาชน
พวกนี้ชอบทำตัวตั้งคำถามกับ "ชาตินิยม" ฮะ คำก็คลั่งชาติ สองคำก็คลั่งชาติ บางระจันในประวัติศาสตร์จริงๆเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ทุกวันนี้คนไทยเรา ไม่ได้คลั่งชาติตามแบบที่คนบางพวกชอบกล่าวอ้าง เราไม่ได้คลั่งแค้นพม่ากะจะเอาขวานไปจามพม่าเมื่อดูบางระจันเสร็จซักหน่อย อุ้ย ลืมไป คนบางพวกชอบแซะว่ารักชาติทำไม รัฐชาติเป็นแค่สิ่งสมมตินะ 555555
คนที่ไปหาว่าคนอื่นคลั่งชาติ ก็คงเป็นคนที่ชังชาติจนเสียสติหรือเปล่า ? ทำไมบ้านเรามีแต่ ลิเบอรัลเก๊ ก็ไม่รู้ รัฐชาติ เส้นเขตแดน คือมายา โดนยิงตาย...่าเพราะบุกรุกข้ามชายแดนคือของจริง
อีกอย่างนะครับ หลายๆประเทศก็ได้ดีเพราะหนังเพราะละครแนวประวัติศาสตร์นะครับ ดูเกาหลีก็ได้ ก่อนที่เคป๊อบจะบุก ก็เอาแดจังกึมมากรุยทางไว้ก่อนแล้ว ทำให้คนคิดจะตามรอยแดจังกึมกันทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้าใครศึกษาเพิ่มก็จะรู้ว่าแดจังกึมนางนี่ก็เป็นหมอหญิงในสมัยพระเจ้าจุงจง อยู่ตรงกับกลางกรุงศรีอยุธยาบ้านเรา แต่ผู้จัดเขาเอาเรื่องอาหารเรื่องนางในยัดเข้าไปเป็นเรื่องเป็นราวเลย แต่สุดท้ายก็ต้องจบลงล็อกที่เป็นหมอ ญี่ปุ่นนี่ถ้าแนว ปวศ.ดังๆต้องลาสต์ซามูไร ก็จะให้ภาพยุคปฏิรูปเมจิเลย ยุคที่จักรพรรดิเรียกอำนาจคืนจากเหล่าขุนนางโชกุน ปราบพรรคพวกอะไรมากมาย หนัง ละครแนวประวัติศาสตร์ ถ้าดูแล้วคิดตาม มันได้อะไรเยอะ ไม่ได้มีแต่แง่มุมแย่ๆอย่างที่เดี๋ยวนี้ชอบมาตีปี๊บกันตามพันดริฟต์หรือพวกเพจร่านๆ ปล.จริงๆจะว่าไปแล้วถ้าอยากทำแดจังกึมแบบไทยๆ เรื่องท้าวทองกีบม้าก็สนุกนะ
ญี่ปุ่น ขาดเสรีภาพในทำหนังAV ในประเทศ cencor อวัยวะเพศทุกเรื่องเลย หนังโป๊นอกประเทศญี่ปุ่นที่เขา uncencor ได้ยังมีเสรีภาพมากกว่าเยอะเลย
เอาจริงๆนะ จุดเริ่มต้น บางระจัน เป็นตัวละคร ที่ พ่อ PD and the gang ชูขึ้นมา เพื่อสร้าง Hero ในประวัติศาสตร์ ที่ไม่ใช่เจ้าและไม่ใช่คนของเจ้า
เรื่องบางระจันมีบันทึกตั้งแต่ตอนต้นรัตนโกสินทร์แล้วละครับ แต่ที่เอามาทำหนังทำละครซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ผลงานแต่งเสริมเพิ่มเติมจาก PD and the gang
ตีความของการนำเสนอของหนังไม่แตกแล้วยังเปรียบเทียบไม่ถูกอีก ถ้าพูดจริงๆ น่าจะเป็นเพราะจขกท.คนนั้นมีจิตใจที่อคติและไม่มีพื้นฐานของการเสียสละ ก็เลยคิดได้แค่นั้น ปล.คนคิดก็งี่เง่า แต่คนชอบนี้น่าจะงี่เง่ากว่า
ทำไงได้ไอเว็บโลกสวยอันนี้ มันเป็นเว็บที่มีอิทธิพลทางความคิดสูง ถ้าใครสามารถยืดพื้นที่สื่อตรงนี้ครอบครองไว้ในมือได้ จะเป็นอะไรที่ชิงความได้เปรียบเป็นอย่างยิ่ง
มันคงอยากจะเลียนแบบเวียตนาม หนัง ละคร ที่เกี่ยวกับประวิติศาสตร์ การสร้างชาติของกษัตริย์เวียตนามโบราณห้ามเผยแพร่ แต่สนับสนุนให้สดุดี ยกย่องเด็กชายที่ถูกล้างสมองให้อุ้มระเบิดวิ่งเข้าไปทำระเบิดพลีชีพในคลังน้ำมันของรัฐบาลเวียตนาม เปิดพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์เวียตนามองค์สุดท้ายที่คอมมิวนิสต์สร้างภาพว่าเป็น"เพล์บอย" ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อแสดงว่าพระองค์ท่านเป็น"เพล์บอย" จริงๆ
ส่วนใหญ่ทำละครประวัติศาสตร์เพื่อเทิดเกียรติบรรพบุรุษในการต่อสู้เพื่อบ้านเมือง สร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาชาติแผ่นดิน ผู้ที่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในแผ่นดิน ย่อมไม่ประสงค์ให้เกิดสภาพเช่นนั้น เพราะโดยหลักการแบ่งแยกและปกครองย่อมง่าย ในการควบคุม อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการปกครองโดยดูดทรัพยากรคนส่วนใหญ่มาเลี้ยงกลุ่มขี้ข้า ซึ่งสมัยยิ่งลักษณ์ได้ทำแล้วและล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะสิ่งนี้เป็นการผลักมิตรไปเป็นศัตรู ปูลู ผมว่าคนที่เห็นต่างเรื่องนี้ ไม่ไปดูซะก็หมดเรื่อง
อ่านจบบทความผมสรุปความได้ว่า "เพราะไม่มีคำว่าหิมะ จึงยืนยันได้ว่าคนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต ดังนั้นอย่าเชื่อประวัติศาสตร์ให้มากนัก" คนไทย, ภาษาไทย, และภูเขาอัลไต : โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 21:12:09 น. คนไทย, ภาษาไทย, และภูเขาอัลไต "เราไม่มีศัพท์ที่บอกให้รู้ว่าเรามาจากเทือกเขาอัลไต เพราะไม่มีศัพท์คำว่าหิมะเลย" (หิมะเป็นคำยืม) มีแต่คำว่า กล้วย อ้อย ควาย นา ฯลฯ บ่งบอกว่าอยู่ในเขตร้อนชื้น อ.สุวัฒนา เลี่ยมประวัติ (คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร) กล่าวในงานเสวนายุคมืดของประวัติศาสตร์ไทยที่ ม.ธรรม ศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2557 (จาก fb เมดอินอุษาคเนย์) ข้อความข้างบนรับรู้กันมานานแล้ว และเป็นที่ยอมรับกว้างขวางในหมู่นักวิชาการ แต่ยังมีครูบาอาจารย์อีกมากไม่รู้ จึงยังเชื่อว่าคนไทยและภาษาไทยมาจากเทือกเขาอัลไต ตามตำราเก่า เช่น ตำรา ความรู้ทั่วไปทางภาษาไทย ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง (พิมพ์เมื่อ พ.ศ.2523) ภาคที่ 1 หลักภาษา มีผู้ถ่ายสำเนาส่งมาให้อ่าน จะคัดมาดังนี้ ตำนานอักษรไทย แต่เดิมไทยอยู่แถบภูเขาอัลไต ซึ่งอยู่กลางทวีปอาเซีย ต่อมาไทยมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินในบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและฮวงโหต่อมาย้ายมาตั้งราชธานีอยู่ที่น่านเจ้าเป็นอาณาจักรใหญ่ต่อมาพวกจีนมีอำนาจขึ้นก็เริ่มขยายอาณาเขตรุกแดนไทยเข้ามาโดยลำดับ พวกไทยที่ไม่ยอมอยู่ในอำนาจจีน จึงพร้อมใจกันอพยพจากเมืองเดิมมาตั้งภูมิลำเนา ----- ได้ชื่อว่า ไทยใหญ่ ส่วนอีกพวกหนึ่ง ----- ได้ชื่อว่า ไทยน้อย ต่อมาพวกไทยน้อยอพยพมาตั้งภูมิลำเนาถึงแดนลานช้าง ลานนา และเขตสยามปัจจุบัน ----- ยอร์ช เซเดส์ สันนิษฐานว่าเดิมการเขียนหนังสือของไทยคงจะได้แบบจากมอญ เพราะลักษณะอักษรอาหม ลื้อ ผู้ไทยแถบสิบสองปันนา มีลักษณะใกล้อักษรขอมทั้งนั้น ต่อมาเมื่อราว พ.ศ.1500 พวกขอมแผ่อาณาเขตมาถึงดินแดนไทย ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.1800 ขอมอ่อนอำนาจลง พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงประกาศตั้งกรุงสุโขทัยเปนอิสระ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์จะให้ราษฎรเลิกประพฤติตามธรรมเนียมขอมและคงจะให้เลิกใช้ภาษาขอมในทางราชการ และกลับใช้ภาษาไทยตามเดิม ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง พระองค์ทรงเห็นว่าอักษรซึ่งได้แบบจากมอญเขียนไม่สะดวก จะใช้อักษรขอมล้วนก็ไม่สมควร เพราะเมืองสุโขทัยเป็นอิสระ พระองค์จึง "หาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทยนี้ ลายสือไทยนี้จึงมีเพื่อพ่อขุนผู้นั้นใส่ไว้" หมายเหตุ ในศิลาจารึกมีคำว่า "ลายสือไทยนี้" อยู่หลายตอน หมายความว่า "หนังสือไทยนี้" คือหนังสือที่พ่อขุนรามคำแหงทรงประดิษฐ์ขึ้นนี้เท่านั้น มิได้ประสงค์จะแสดงว่า หนังสือของชนชาติไทยเพิ่งมีขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1826 ทั้งหมดนี้ (รวมหมายเหตุในล้อมกรอบ) คัดจากตำราเก่าเมื่อ พ.ศ.2523 มีในห้องสมุดสถาบันการศึกษา แล้วมีผู้คัดขึ้นสื่อสาธารณะแบ่งปันเผยแพร่กว้างขวาง แต่หลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีไม่สนับสนุน ทางการจึงยกเลิกแนวคิดเทือกเขาอัลไตไปนานแล้ว และประวัติศาสตร์แบบนี้ถูกตรวจสอบคัดค้านมากจนไม่น่าเชื่อถืออีก ใครพูดเรื่องเทือกเขาอัลไตทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องตลกจึงเขียนบอกไว้ตรงนี้จะได้ไม่เข้าใจไขว้เขว
หนังละครอิงประวัติศาสตร์ไม่ใช่เป็นสารคดีประวัติศาสตร์ซะหน่อย ให้ไทยเลิกทำหนังละครอิงประวัติศาสตร์ แต่พวกจีนยังสร้างซะจนเอียน สามก๊กเอย มังกรหยกเอย ฯลฯ ญี่ปุ่นเองก็ใช่ย่อยซะที่ไหน
สงสัยจะเป็นเรื่องนี้ http://www.komchadluek.net/detail/20130109/148978/ตาดูดาวเท้าติดดินละครถูกทิ้ง.html 'ตาดูดาว เท้าติดดิน'
ผู้คนย้ายภูมิลำเนามานาน มาอยู่ที่ไม่มีหิมะตก ก็เลยไม่มีใครพูดถึงหิมะ มันไม่เคยเกิด ไม่เคยมี ก็ไม่รู้จะไปพูดถึงทำไม พอนานเข้า จึงไม่รู้ว่า เกร็ดนํ้าแข็งที่หล่นจากฟ้า มันเรียกว่าอะไร จึงต้องไปยืมคำจากภาษาอื่นมา ถ้าคำในภาษาสามารถสืบต่อได้กันเป็นพันๆปี ไม่ผิดเพี้ยนหรือสูญหายเลย ป่านี้คนไททั้งสุวรรณภูมิ คงพูดภาษาไท สำเนียงเหมือนกันหมดแล้ว เป็นอ.อักษรด้วย ถ้าคิดได้แค่นี้ ผมว่าอย่าเขียนบทความ ให้มาอายทั้งภาควิชาเลยครับ
มันไปทั่วทุกบอร์ดแล้ว โดยเฉพาะพวกเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องเลย ส่วนมากวัยรุ่น ไม่รู้พวกนี้ใครไปเอาลมยัดใส่แทนสมอง ถึงคิดเองไม่เป็น รู้สึกมันมีคนจุดแล้วก็เออออตามกัน ทำตัวขาดความอบอุ่น ขาดเสรีภาพ เรื่องอะไรของมัน ทั้งที่กิจกรรมมันก็ทำได้ปรกติ ไม่ได้มีใครไปสั่งห้าม นอกจากเรื่องต่อว่ารัฐบาล เขาขอสักเรื่องให้บรรยากาศมันเดินไปสู้ ชาวบ้านเค้าได้ AEC จะมาแล้ว