พลังประชาชน โค่นล้มระบบทักษิณ "สมยศ"ฉะแหลก 6 พฤติกรรม ตม.หากินกับต่างด้าว แฉด่าน"ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ"เรียกใต้โต๊ะวันละ 1.8 ล้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ระดับสารวัตรขึ้นไปทุกด่านตรวจค้นเข้าเมืองทั่วประเทศจำนวน 259 นาย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อมอบนโยบายและกำหนดแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้น พล.ต.อ.สมยศได้กำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลด้านความมั่นคง เพราะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้แจกเอกสาร “พฤติกรรมเจ้าหน้าที่ ตม. ที่มีผลต่อความมั่นคงและศักดิ์ศรีของตำรวจไทย” แก่ตำรวจ ตม.ที่เข้าประชุมทุกนาย ประกอบการมอบนโยบาย โดยมีใจความว่า พฤติกรรมเจ้าหน้าที่ ตม. ที่มีผลต่อความมั่นคงและศักดิ์ศรีของตำรวจไทย คือ 1.การรับจ้างทำเรื่องขออยู่ต่อในประเทศไทยอย่างกฎหมายโดยมีตำรวจ ตม.บางกลุ่มทำธุรกิจรับจ้างขยายเวลาการอยู่ในประเทศไทย โดยการทุจริตต่าง ๆ เพื่อให้เข้าเงื่อนไขของการขยายเวลาการอยู่ในประเทศ เช่น การเปลี่ยนวีซ่าจากประเภทนักท่องเที่ยว เป็นวีซ่านักธุรกิจโดยมิชอบ บางรายใช้วิธีการให้วีซ่านักศึกษา โดยการจัดหาสถานศึกษาโดยไม่ต้องเข้าเรียน ซึ่งปัจจุบันค่าจ้างประมาณ 12,000 - 15,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีวิธีรับจ้างทำสมุดบัญชีเงินฝากให้มีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 800,000 บาท เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอยู่อาศัยในช่วงบั้นปลายชีวิต เรียกเก็บค่าตอบแทนมากว่า 3,000 บาท 2. พบพฤติกรรมตำรวจ ตม. ที่ทำอิน-เอาท์ หรือพิธีการเข้า-ออกประเทศ โดยไม่ถูกต้อง ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าชาวต่างชาติต้องการอยู่ในประเทศไทยโดยไม่มีเหตุอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย ใช้วิธีแนะนำชาวต่างชาติที่ต้องการอยู่ต่อโดยไม่มีเหตุผลอ้างตามกฎหมายให้เดินทางไปที่ด่าน ตม.กาญจนบุรี และ ตม. สระแก้ว เพื่อให้รับรองการเดินทางออกและเข้าประเทศ เพื่อขยายระยะเวลาในการอยู่ในประเทศไทยไปอีกครั้งละ 15 วัน 3.มีการยินยอมให้คนเข้าออกเมืองโดยผิดกฎหมาย รับเงินสินบนให้คนเข้าเมืองได้อย่างผิดกฎหมาย ทั้งกรณีที่ไม่มีหนังสือเดินทาง และมีหนังสือเดินทางแต่ไม่ลงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นช่องทางของการค้ามนุษย์ 4.มีการประทับตราการเดินทางเท็จเพื่อส่งคนไปประเทศที่ 3 เจ้าหน้าที่ ตม.บางคนได้ลักลอบนำตราประทับไปรับรองการเดินทางเข้าและออก ว่า บุคคลดังกล่าวเคยเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อให้ปรากฏประเทศต้นทางและใช้อ้างในการเดินทางไปยังประเทศที่ 3 5.มีพฤติกรรมขายบัตร ตม.6 ที่เป็นเอกสารเข้าออก-ทำงานในไทย โดยพบในด่าน ตม.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น มุกดาหาร หนองคาย มีการขาย แบบ ตม.6 ให้แก่ชาวลาวและเวียดนามที่เดินทางทางเข้ามาทางานในประเทศไทย โดยหากผู้ใดใช้แบบฟอร์มจากที่อื่นซึ่งไม่ได้ซื้อก็จะกล่าวหาว่าเป็นแบบฟอร์มปลอม ซึ่งกรณีเช่นนี้ เคยถูกผู้เดินทางบันทึกภาพและร้องเรียนมาแล้วเมื่อประมาณ 4-5 เดือนก่อน แต่ปรากฏว่าด่าน ตม. มุกดาหาร ได้ตรวจหาผู้ที่บันทึกภาพและเรียกคนดังกล่าวมาเพื่อให้ลบภาพต่อหน้า แล้วข่มขู่ให้ให้การว่าเข้าใจผิด จากนั้นก็อำพรางการกระทำผิดด้วยการได้ติดฟิล์มตู้เก็บเงินจนมืดและมีเจ้าหน้าที่ตรวจตราไม่ให้คนบันทึกภาพโดยยังเรียกเก็บเงินเช่นเดิม และ 6.มีบางคนเรียกเก็บเงินในการทำ VISA on Arrival (การขอวีซ่า ณ ด่าน ตม.) นอกเหนือจากค่าธรรมเนียม โดยพบที่ในด่าน ตม.สุวรรณภูมิ ตม.ดอนเมือง พบมีการเรียกเก็บเงินค่าทำ VISA on Arrival นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมของทางราชการ เป็นเงิน 300 - 500 บาท ต่อคน แต่ละวันประมาณมีผู้ต้องจ่าย 6,000 คน เฉลี่ยเรียกเก็บคนละ 300 บาท คิดเป็นเงินกว่า 1,800,000 บาท ต่อวัน โดยไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวถูกแบ่งไปยังใครบ้าง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวตอนหนึ่งขณะมอบนโยบาย ว่า ตนเองรู้หมด ว่า ตม.ทำอะไร ตนเคยอยู่มาก่อน มีการร้องเรียนเข้าตลอดห้วง 1 ปี ทุกคนทำอะไรกันอยู่ หาก พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่จัดการกับคนพวกนี้ ตนจะจัดการกับ ผบช.สตม.เอามาช่วยราชการ รายงานข่าวแจ้งว่า บรรยากาศในห้องประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแต่อย่่างใด ฝากเรื่องน้าแจ้ส ที่น้านวยบอกว่า รอ! กลัวลืมนะ??
เรื่องน้าแจ็สคงหยวนกันไป เพราะน้าแจ็สแกรู้ความลับอะไรเยอะแยะถ้าแกเห็นกับบ้านเมืองคงล้างขยะได้อีกเยอะ เรื่องปืนมันเป็นเรื่องเล็กไปเลยถ้าแลกกับข่าวของแก
ก็เพิ่งจะรู้อะขอรับ ว่ามีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง ตำรวจบางคนขนาดปลดระวางไปแล้ว ยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองรวยมาได้ไงทั้งที่เงินเดือนนิดเดียวเอง
ผมก็การันตีไม่ได้เหมืิอนกันครับท่านไก่ แต่เห็นมีอยู่หน่วยงานหนึ่งที่ลงพื้นที่ตามต่างจังหวัดติดโลโก้ข้างรถว่ากรมทรัพยากรธรณีลงพื้นที่ไปทำประชาพิจารณ์เอางบประมาณลงไปพัฒนาประเทศตามชนบท รถที่ใช้ลงพื้นที่เป็นรถกะบะมิตซูรุ่นแอโร่บอดี้เห็นสภาพแล้วชวนคิดได้ว่าสักวันเจ้าหน้าที่ที่ใช้รถคันนี้ลงพื้นที่คงจะได้กินข้าวลิงข้างถนนเป็นแน่แท้เห็นแล้วเหนื่อยแทนคนทำงาน ลงพื้นที่ก็ลำบากแล้วต้องมาลุ้นกับรถที่ใช้งานอีกแอร์มีหรือเปล่าก็ไม่รู้เห็นนั่งหน้ามันเชียว บางหน่วยงานบางกรมรถตู้จอดเต็มลานจอดรถไม่ได้ใช้อะไรแบ่งมาให้เขาใช้บ้างก็ได้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้คนทำงาน
ขนาดเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน รู้สึกว่าท่านจะขยันแฉเกินเหตุ "ผบ.ตร."ลั่นไม่กลัว!! ทิ้งปรมาณูตำรวจ"สตม."ตายทั้งพวง ส่งบันทึกถึงนายกฯตู่ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 06:00:00 น. เมื่อวันที่ 9 กันยายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีพฤติกรรมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ที่กระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ได้ทำบันทึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว จะส่งไปภายในวันนี้ “เนื้อหาคือสิ่งที่เกิดขึ้น ได้รับการร้องเรียน มีการสืบสวน มีพยานหรือบุคคลที่บอกกล่าวเล่าให้ฟังว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ผมเห็นว่าปัญหานี้ระดับไม่ธรรมดา ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกฎหมาย ผู้นำประเทศต้องรู้ปัญหานี้ และช่วยเหลือแก้ไข ผมมีเวลาน้อยที่จะแก้ปัญหานี้ ถ้าผมอยู่อีกสัก 1-2เดือนคงได้เห็นดีกัน แต่ผมมีเวลาแค่ 20 วัน ผมทำเท่าที่ได้ บอกพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ไปว่าท่านจะเป็นผบ.ตร. รู้ปัญหาแล้ว ท่านทิ้งปัญหานี้ไม่ได้ ต้องเข้ามาแก้ไข ฝากสื่อมวลชนช่วยถามท่านเรื่อยๆว่าท่านจะทำอย่างไร" ผบ.ตร.กล่าว "ผมต้องเรียนท่านนายกฯเพราะเรื่องนี้กระทบความน่าเชื่อถือภาพลักษณ์เศรษฐกิจความมั่นคงของประเทศ หากปล่อยเช่นนี้ต่อไป ความเสียหายเกิดขึ้นกับประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นคนไทย ไม่รู้สึกกันหรือ ที่คนกลุ่มหนึ่ง ทำแบบนี้ ผมเป็นตำรวจผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เหมือนเอาความไม่ดี ความไม่ถูกต้องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเปิดเผย ตีแผ่ หลายคนบอกว่าผมไม่ควรเอาเรื่องนี้ขึ้นมา ผมถามกลับไปว่าถ้าผมรู้แล้ว จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้อีกต่อไปหรือ ถ้าผมไม่รู้ไม่เป็นไร แต่รู้ มีข้อมูล มีคนมาบอกกล่าวร้องเรียนเล่าสู่ คนกลุ่มนั้นไม่อยากเปิดเผยตัวเอง เขากลัวเดือดร้อน เขาประกอบธุรกิจที่ต้องอาศัยตำรวจตม.เช่นมีพนักงานหรือที่ปรึกษาเป็นคนต่างชาติ บริษัทท่องเที่ยว ร้านอาหารที่มีเชฟต่างชาติ พวกนี้ไม่กล้ามีปัญหากับตำรวจหรอก เพราะว่าบางครั้งธุรกิจเหล่านี้มีข้อผิดพลาด คนจ้องจับผิดกับคนระวังสู้ไม่ได้หรอก แต่ขืนเราปล่อยไว้อย่างนี้ ทั้งๆที่รู้ ผมทำไม่ได้หรอก" "ผมอาย ถึงแม้มีเวลา 20 วัน ผมก็รู้สึกอาย บางคนบอกว่าไม่เคยมีส่วนรู้เห็น มีการสอบสวน ตรวจสอบแล้ว อ้างว่าไม่พบผิด ก็พูดไป แก้ตัวไป แต่ผมจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นลายลักษณ์อักษร ผมจะต้องทิ้งสิ่งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีต้องเข้ามาดู เพราะผมเชื่อว่าลำพัง ผบ.ตร.คนเดียวแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้มาจากการตรวจสอบ สืบสวนจากการร้องเรียนถึงความเสื่อมเสีย แล้วกระทบกระเทือนความมั่นคง เช่นกรณีผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ เดินทางเข้าออกในประเทศไทยไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว แต่ไม่มีการตรวจสอบ “ อย่างไรก็ตามที่ทำบันทึกถึงนายกรัฐมนตรียังไม่ระบุถึงตัวบุคคล หากตนรู้บุคคลผมไม่รอท่านนายกฯแล้ว ผมชั๊วะเลย ผมสั่งการพล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม.ในห้องประชุมเมื่อวันที่ 7 กันยายน ให้ดำเนินการแล้ว จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ ท่านอาจอยู่ข้างบนไม่รู้เห็น แต่ต้องแก้ไข ที่ประชุมในวันนั้นผมพูดถึงพฤติกรรมต่างๆ ไม่มีตำรวจ ตม.คนไหนเถียงผมสักแอะ นั่งเป็นนกปากเจ็บหมดเลย” ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงการตำรวจพูดกันว่าตำรวจ สตม.ล้วนเป็นคนที่มีเส้นสาย เป็นคนใกล้ชิดของอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็นั่นสิ จึงต้องบันทึกถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้หากกลัวคงไม่ทำ “วันนั้นประกาศในที่ประชุม ผมทำอย่างนี้รู้ว่าตำรวจตม.เกลียดผม เกลียดก็เกลียดไป ผมไม่เคยต้องการให้ตำรวจตม.ตามพะเน้าพะนอเวลาเดินทาง ตามเป็นพวงเป็นฝูง ผมไม่เข้าใจเหมือนกันผู้บังคับบัญชาที่เดินทางไปต่างประเทศชอบให้ลูกน้องเดินตามเป็นหาง บ้าหรือเปล่า เดินทางไม่เป็นหรือ พวกเดินตามก็บ้า ไม่รู้หรือ เขารำคาญจะตาย เวลาผมเดินทางไปไหน มีคนมาคอยตามผมโคตรรำคาญ ผมบอกไปทำงานเถอะน้องไป พอลุกจากเค้าน์เตอร์แถวที่ประชาชนเขาติดต่อก็ยาว ชาวบ้านด่า ครั้งนี้ใหญ่แค่ไหนก็จะเปิดโปง เรื่องนี้ผมเรียกมาเตือน มาว่า ดำเนินการมาตลอด คิดว่าไม่เคยดำเนินการหรือ บอกเตือนตลอดเขาว่าเขาร้องเรียนอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ออกมาตอนนี้เพราะมันมีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แล้วผู้ต้องสงสัยให้การว่าเดินทางเข้าออกที่สระแก้ว 4-5 รอบ แล้ว เสียตังค์ด้วย ผมไม่ได้จู่ๆกุเรื่องมา ผมไม่ใช่คนบ้า ใครๆก็รู้ทั้งนั้น ฝ่ายสืบสวนรู้ทุกคน” ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้ายว่า "เป็นความหละหลวมหรือไม่ให้คิดกันเอง อย่าให้พูดทุกเรื่อง ไม่หละหลวม เหลวไหล รุ่งริ่ง มันไม่เป็นอย่างนี้หรอก นี่ไม่ใช่แค่การทิ้งทวน แต่คือการทิ้งปรมาณู ทิ้งทวนตายทีละศพ แต่ทิ้งปรมาณูตายทั้งพวง" http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441797143
ซ่อนกลิ่น ส้มจี๊ด กระดังงา. ทิ้งทวนก่อนเกษียณ 'สมยศ' เผยเตรียมย้าย ตม.ระดับสูงหลายราย ยอมรับภายในมีการทุจริตและผลประโยชน์มาก พร้อมฝาก 'จักรทิพย์' ช่วยล้างบางต่อ http://t.co/d1VmRiQicV กำชับคดีแจ้ส ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือน ก้อดังแล้วมั้งงง??