ยามเขาเห็นด้วยกับแม้ว ว่าทหาร ก็เชียร์เขาว่าประเทศประชาธิปไตยอย่างโน้นอย่างนี้ พอเขากลับมาเอาใจรัฐบาลทหาร ก็กลับเปลี่ยนความคิด แบบนี้ทั้งชาติก็คงไม่ได้ลืมหูลืมตาหรอก
ปีก่อนขายดีไปหน่อย... ผู้นำสหรัฐระบุ ต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้า และอยากลดการขาดดุลการค้ากับไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างการหารือในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาวว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ มีความสำคัญมากขึ้น และไทยเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมที่สหรัฐจะทำการค้าด้วย “ผมคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ เราน่าจะพยายามขายของให้กับคุณมากขึ้นอีกสักหน่อย” สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ รายงานว่า เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐขาดดุลการค้าต่อไทยที่ 18,900 ล้านดอลลาร์ มากสุดเป็นอันดับที่ 11 ในบรรดาประเทศคู่ค้าทั้งหมดของสหรัฐ ขณะสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า การพบหารือครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นของ 2 ประเทศ หลังจากที่ชะงักไปจากการทำรัฐประหารในไทยเมื่อปี 2557 ในการเดินทางเยือนสหรัฐนาน 3 วันครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะ ยังจะได้พบกับคณะผู้แทนนักธุรกิจไทยในสหรัฐด้วย http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/775407
พวกกาสรสีชาดนี่ก็ชอบ "งับมาเป็นส่วนๆ แล้วตีความกันเอง" นะ เนื้อข่าวจริงกับส่วนที่งับมาเนี่ย มันคนละเรื่องกันเลย นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี แล้ว เตรียมหารือเจ้าหน้าที่และนักลงทุนไทย ก่อนเข้าหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯค่ำวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะ เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม ตามคำเชิญของ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อย้ำความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญ และ เป็นพันธมิตรที่ดีมาอย่างยาวนาน ซึ่งตามกำหนดการ นายกรัฐมนตรี จะเข้าหารือกับนักธุรกิจ และนักลงทุนไทยในสหรัฐฯเพื่อทราบถึงปัญหาอุปสรรคในการลงทุน และการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในอนาคต ก่อนเข้าหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสหรัฐฯช่วงค่ำวันนี้ โดยเป็นการหารือแบบ 2 ต่อ 2 หรือ 4 EYE ก่อนหารือแบบเต็มคณะ สำหรับหัวข้อการหารือจะเน้นการเจรจาทางการค้าเป็นหลัก เพราะไทยติด 1 ใน 16 ประเทศที่เกินดุลการค้า และถูกตรวจสอบจากสหรัฐฯ คาดว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเสนอให้ไทยซื้อสินค้าของสหรัฐฯเพื่อให้ดุลการค้าลดลง ซึ่งมีทั้งสินค้าเกษตร เครื่องบินโบอิ้ง ขีปนาวุธ มูลค่า 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 850 ล้านบาท และเฮลิคอปเตอร์แบล็อค ฮอว์ค ทั้งนี้ มุมมองของนักวิชาการด้านความมั่นคง ชี้ว่าความต้องการที่แท้จริงที่สหรัฐฯ ที่จะพบกับไทย คือ สหรัฐฯต้องการให้ไทยช่วยกดดันเกาหลีเหนือต่อต้านการก่อการร้าย และลดความสัมพันธ์กับประเทศจีน เจรจาทางการค้าเพื่อลดดุลการค้า ให้ไทยช่วยสหรัฐฯให้มีบทบาทในอาเซียนมากยิ่งขึ้น ส่วนไทยต้องการการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และประเทศมหาอำนาจ ไทยหวังให้สหรัฐฯจัดอันดับ TIP Report ที่ดีขึ้น ผลักดันให้ไทยออกจากการจับตามองเป็นพิเศษ ในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเชิญสหรัฐฯร่วมลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี ขณะที่รัฐบาลไทย ยืนยันการพบปะกันในครั้งนี้มีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี และพร้อมเจรจาในสิ่งที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ ที่สำคัญ เป็นการประกาศว่าขณะนี้ไทยมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นแผนระยะยาว เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ จึงขออย่าห่วงว่าจะมีการดำเนินการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อคนไทย http://www.krobkruakao.com/politics/53637
นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี แล้ว เตรียมหารือเจ้าหน้าที่และนักลงทุนไทย ก่อนเข้าหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯค่ำวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะ เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม ตามคำเชิญของ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อย้ำความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญ และ เป็นพันธมิตรที่ดีมาอย่างยาวนาน ซึ่งตามกำหนดการ นายกรัฐมนตรี จะเข้าหารือกับนักธุรกิจ และนักลงทุนไทยในสหรัฐฯเพื่อทราบถึงปัญหาอุปสรรคในการลงทุน และการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในอนาคต ก่อนเข้าหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสหรัฐฯช่วงค่ำวันนี้ โดยเป็นการหารือแบบ 2 ต่อ 2 หรือ 4 EYE ก่อนหารือแบบเต็มคณะ สำหรับหัวข้อการหารือจะเน้นการเจรจาทางการค้าเป็นหลัก เพราะไทยติด 1 ใน 16 ประเทศที่เกินดุลการค้า และถูกตรวจสอบจากสหรัฐฯ คาดว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเสนอให้ไทยซื้อสินค้าของสหรัฐฯเพื่อให้ดุลการค้าลดลง ซึ่งมีทั้งสินค้าเกษตร เครื่องบินโบอิ้ง ขีปนาวุธ มูลค่า 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 850 ล้านบาท และเฮลิคอปเตอร์แบล็อค ฮอว์ค ทั้งนี้ มุมมองของนักวิชาการด้านความมั่นคง ชี้ว่าความต้องการที่แท้จริงที่สหรัฐฯ ที่จะพบกับไทย คือ สหรัฐฯต้องการให้ไทยช่วยกดดันเกาหลีเหนือต่อต้านการก่อการร้าย และลดความสัมพันธ์กับประเทศจีน เจรจาทางการค้าเพื่อลดดุลการค้า ให้ไทยช่วยสหรัฐฯให้มีบทบาทในอาเซียนมากยิ่งขึ้น ส่วนไทยต้องการการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และประเทศมหาอำนาจ ไทยหวังให้สหรัฐฯจัดอันดับ TIP Report ที่ดีขึ้น ผลักดันให้ไทยออกจากการจับตามองเป็นพิเศษ ในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเชิญสหรัฐฯร่วมลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี ขณะที่รัฐบาลไทย ยืนยันการพบปะกันในครั้งนี้มีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี และพร้อมเจรจาในสิ่งที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ ที่สำคัญ เป็นการประกาศว่าขณะนี้ไทยมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นแผนระยะยาว เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ จึงขออย่าห่วงว่าจะมีการดำเนินการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อคนไทย http://www.krobkruakao.com/politics/53637
อุ้ย! กดดันตั้งแต่ปี 2559 มาถึงปีนี้ก็ยังทำ HA อะไรไม่ได้อยู่ดี ฟินปลอบใจพวกกาสรสีชาดเค้าละ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/687154
ไม่มีอะไรจะเล่นลุงตู่แล้วเหรอ ไอ้ตุ๊ด แถซะจนตูดถลอกจนถึงหน้ามึงแล้ว เป็นกรูคงไม่หน้าด้านออกมาพูดเรื่องนี้หรอกวะ ยอมรับซะเถอะว่า ไอ้ตระกูลรัดฉานพ่องมึงอะ ไม่มีทางได้กลับมาตายห่าให้ขี้ข้าตะกวดแดงได้แห่แหนศพในเมืองไทยหรอก no way.....
อุ้ย! ดิ้นกับพาดหัวข่าวซะงั้น ช่างหัวสื่อมันเถอะ จะพาดหัวยังไงก็ช่าง แต่สุดท้ายก็ปฎิเสธความจริงไม่ได้ละว่า "สหรัฐ มันไม่สนใจว่าใครจะประชาธิปไตยหรือเผด็จการ" ตามที่พวกกาสรสีชาดมันพร่ำเพ้อกันหรอกนะ
ประท้วงมาตั้งแต่ปี 2559 ก็ไม่เห็นจะทำ HA อะไรได้อยู่ดี สงสารพวกกาสรสีชาดเนอะ "หมาเห่า มันไม่กัด" จริงๆ
แดงบอกห้ามเข้าประเทศ... ก็เข้าได้ แดงบอกไม่ให้เจอ... ก็ได้เจอ แดงบอกไม่ค้าขายด้วย... ก็เกินดุลการค้า ดิ้นหนักเลย...
"สินค้าแพง" ???? เวบต่างประเทศจัดเอาซะประเทศไทยเขียวเชียว ลงไปอยู่ตั้งที่ 70 จาก 115 ประเทศ Cost of Living Index for Country 2017 Mid-Year https://www.numbeo.com/cost-of-living/rankings_by_country.jsp
บอกตรงๆนะครับ ผมก็ไม่ได้ปลาบปลื้มอะไรนักหนาที่ตาทรัมป์แกเชิญลุงตู่เยือนทำเนียบขาว เพราะรู้ว่า national interest ย่อมเป็นจุดหมายสูงสุดของทุกประเทศ ยังไงมันก็ต้องมีผลประโยชน์เคลือบแฝง แต่ที่สนุกคือได้เห็นฝูงควายแดงทั้งใหญ่ทั้งเล็กดิ้นทุรนทุรายที่ถูกตีนลูบหน้า
ไปซื้ออะไรใหม่หรอ? ถ่านหิน 155,000 ตัน... ตามแผนของ SCG นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า ภาคเอกชน เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกและสนับสนุน ดังนั้น หากมีข้อเสนอ หรือข้อติดขัด ขอให้แจ้ง รัฐบาลจะได้ดำเนินการเพื่อให้กลไกเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญ รัฐบาลได้ดำเนินการตามหลัก “สิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ” โดยยึดแนวทาง “ เคารพ คุ้มครอง และเยียวยา” เพื่อเป็นไปตามแนวทางของสหประชาชาติ ภายหลังการหารือ นายกลินทร์ สารสิน ผู้บริหาร เอสซีจี ได้ชี้แจงกรณี การซื้อถ่านหินจากสหรัฐฯว่า เอสซีจี เตรียมลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐฯ 2 ฉบับ รวม 155,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ และทดแทนการซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันอินโดนีเซียมีความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้น เอสซีจี จึงต้องมองหาแหล่งถ่านหินใหม่ ซึ่งถ่านหินจากสหรัฐฯมีคุณภาพดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน https://m.posttoday.com/biz/gov/518344 เครื่องบิน 28 ลำ... ตามแผนของการบินไทย เรืออากาศเอก มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบขั้นตอนการดำเนินการจัดหาเครื่องบินจำนวน 28 ลำในช่วงระยะ 5 ปี (2560-64) เพื่อทดแทนเครื่องที่ปลดระวาง https://www.khaosod.co.th/economics/news_439732 เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ... ตามแผนของกองทััพบก เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการซื้ออาวุธในสหรัฐฯ ว่า ไทยวางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้ามาบริหารประเทศแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ตามงบประมาณที่ได้ โดยก่อนหน้านี้สหรัฐฯไม่ยอมขาย เราจึงไปหาซื้อที่อื่น แต่เมื่อสหรัฐฯให้กลับมาซื้อได้ เราก็นำแผนเดิมที่รัฐบาลก่อนๆ ทำไว้ออกมาดำเนินการ https://www.dailynews.co.th/politics/602147 24 มิถุนายน 2556 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้อนุมัติขายเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์แบบ UH-72A Lakota จำนวน 6 ลำ ให้ตามที่ไทยขอซื้อเป็นมูลค่าราว 77 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ไทยเป็นพันธมิตรประเทศแรกที่สหรัฐฯ ขายอากาศยานปีกหมุนประสิทธิภาพสูงรุ่นนี้ให้ ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับที่ใช้ในกองทัพสหรัฐฯ http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000076192 เนื้อหมู... เจรจามาตั้งแต่สมัยโอบาม่า 7 ก.พ. 2556 นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.กษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนางคริสตี้ แอนน์ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยว่า ขณะนี้สหรัฐฯมีความสนใจให้ไทยพิจารณาเปิดตลาดนำเข้าเนื้อวัวทุกชนิดกับเนื้อวัวติดกระดูก รวมทั้งเนื้อสุกรเข้าประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาเรายังไม่เคยอนุญาตให้นำเข้ามาได้ เพราะไม่มีเอกสารรับรองสุขอนามัยสินค้าตามมาตรฐาน OIE และไทยเองยังมีข้อกังวลในเรื่อง โรควัวบ้า (BSE) ซึ่งเป็นโรคที่กรมปศุสัตว์เฝ้าระวัง และยังไม่มีการตรวจพบในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกายังขอให้ไทยพิจารณาเปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมูเข้าไทย ซึ่งไทยไม่เคยกีดกัน แต่ที่นำเข้าไม่ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องของสุขอนามัยสัตว์ เนื่องจากการเลี้ยงหมูในสหรัฐฯ มีการอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดง ในขณะที่ประเทศไทยมีกฎหมายห้าม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2525 และ พ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2542 ดังนั้น แม้เราจะให้นำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐฯได้ แต่หากตรวจพบสารเร่งเนื้อแดงก็จะไม่ให้ผ่านมาตรการสุขอนามัยสัตว์ของประเทศไทย http://www.thairath.co.th/content/edu/324987
การต้อนรับผู้นำรัฐบาลทหารของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นภาพที่หาได้ยากมากในกรุงวอชิงตันดีซี รัฐบาลไทยจึงถูกจับตามองถึงความสัมพันธ์ในหลายด้านโดย เฉพาะด้านการทหา และความร่วมมือทางทหาร ระหว่างไทย-สหรัฐในอนาคต รวมถึงการซื้ออาวุธด้วยเช่นกัน ติดตามได้รายงาน การพบกันระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะจบสิ้นไปแล้ว แต่เชื่อว่าผลการหารือในด้านต่างๆ จะมีผลตามมาในอนาคต และแม้ว่านายทรัมป์จะไม่สอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย แต่พลเอกประยุทธ์ก็แสดงจุดยืนให้สหรัฐทราบว่า ยังคงเดินหน้าโรดแมปไปสู่การเลือกตั้งตามที่เคยประกาศไว้ คุณเขมสรณ์ หนูขาว ซึ่งติดตามคณะของนายกรัฐมนตรีเข้าไปยังทำเนียบขาว มีบรรยากาศการพบกันครั้งนี้มาให้ชม... ไทยกับสหรัฐอเมริกา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเกือบสองร้อยปี และที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาจะค่อนข้างอ่อนไหว กับคำว่าประชาธิปไตยและมักจะแสดงออกถึงการไม่ยอมรับ หรือสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ทำให้สื่อของสหรัฐเองมองว่า การพบกันระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านนโยบายระหว่างประเทศ... หลังตัวแทนภาคเอกชนไทย 25 คน หารือร่วมกับหอการค้าสหรัฐอเมริกา ได้ผลสรุปด้านการค้าการลงทุนหลายอย่างที่น่าสนใจ ด้านตัวแทน scg ยืนยันเรื่องลงนามซื้อถ่านหินจากสหรัฐ เพราะต้องการเปิดตลาดเชื่อว่าคุ้มค่าการลงทุน ติดตามรายงานจาก เขมสรณ์ หนูขาว
ไปขุด นสพ. วันที่ 1 มกราคม 2519 มาแปะ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมืองไทยมีปัญหาสินค้าแพงมานานแล้วนะ ไม่ใช่แค่ตอนนี้
ข้อตกลงจริงๆ มีอยู่แค่นี้ แต่พวกกาสรสีชาดมโนออกมาได้เป็นวรรคเป็นเวรซะงั้น http://www.nationmultimedia.com/detail/politics/30328384