วันที่ 26 ก.ค. ณ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น. ศาลนัดไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำ พ.1547/2559 ที่พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พระราชวิจิตรปฏิภาณ หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นจำเลย เรื่องละเมิด ด้วยการแพร่หลายข่าวให้เสียหายด้วยข้อความที่ทำให้ประชาชนรู้สึกดูหมิ่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420เรียกค่าเสียหาย10ล้านบาท จากกรณีระหว่าง เดือน ก.พ.58– 16 ก.พ.59 เจ้าคุณพิพิธ ให้สัมภาษณ์ถึงโจทก์หลายครั้ง มีเจตนาทำให้ประชาชน เข้าใจว่าโจทก์ใส่ความ สมเด็จพระมหารัชชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีการเผยแพร่ลงสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งเฟซบุ๊ค และยูทูปด้วย โดยจำเลยยังกล่าวถ้อยคำเปรียบเทียบ ที่อาจทำให้ประชาชนดูถูกดูหมิ่นโจทก์ โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ โจทก์ และพระราชวิจิตตปฏิภาณ หรือเจ้าคุณพิพิธ จำเลย เดินทางมาศาล พร้อมทนายความ เพื่อร่วมไกล่เกลี่ย ซึ่งการไกล่เกลี่ยใช้เวลานาน ประมาณ 4 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น โดยทั้งสองฝ่าย สามารถตกลงกันได้ หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า เจ้าคุณพิพิธยอมรับความจริงและรับปากว่าหลังจากนี้จะไม่พูดจาหรือ ให้ข่าวพาดพิงให้ได้รับความเสียหายอีก รวมทั้งยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ประกอบด้วยค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล กว่า 30,000 บาท พร้อมทั้งทำสัญญาตกลงกันว่า หากกล่าวเท็จ ว่าร้ายให้ได้รับความเสียหายอีก สำหรับข้อตกลงที่คู่ความทั้งสองฝ่าย ทำสัญญารวม 5 ข้อ มีเนื้อหาดังนี้ 1.จำเลย ยอมรับว่าได้พูดให้ข่าวให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลข่าวสารหลายครั้งตามคำฟ้อง จนเกิดความเสื่อมเสียต่อสิทธิของโจทก์ 2. โจทก์และจำเลย ตกลงว่านับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความนี้ จำเลยจะไม่พูดไม่ให้ข่าวให้สัมภาษณ์ หรือไม่ให้ข้อมูลใดๆ พาดพิงถึงโจทก์ หรือ อาจทำให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียสิทธิอีกต่อไป 3.จำเลย ยอมรับและยินยอมให้โจทก์ให้ข้อมูลข่าวสารให้สัมภาษณ์ถึงการยอมความครั้งนี้ได้ 4.จำเลย ยอมชดเชยค่าทนายความให้แก่โจทก์เป็นเงิน จำนวนทั้งสิ้น 30,000 บาท พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมศาลในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืน 5.โจทก์และจำเลย ไม่ติดใจเรียกร้องอย่างใดต่อกันอีก และทั้งสองฝ่ายได้ปรับความเข้าใจต่อกันเป็นอย่างดีแล้ว และหากผิดสัญญาประนีประนอมยอมความก็ให้โจทก์บังคับคดีได้ในทันที http://headshot.tnews.co.th/contents/197741/
พระเอาเงินที่ไหนมาจ่ายตั้ง 3 หมื่นบาท เงินส่วนตัวหรือเงินวัดครับ ถ้าเงินส่วนตัว พระเอามาจากไหน เป็นพระเข้ามาบวชเพื่อละกิเลส แล้วสะสมเงินทองได้อย่างไร ยิ่งถ้าเป็นเงินฆราวาส ก็คงบริจาคให้วัดเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ใช้จ่ายส่วนตัว
ใครจะเป็นรายต่อไป ??? ด่าเค้าต่อหน้าแล้วไปขอโทษลับหลังซะงั้น ข่าว 7 สี - พระพุทธะอิสระกับเจ้าคุณพิพิธ ที่มีเรื่องฟ้องร้องหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหายกัน 10 ล้านบาท วันนี้ทั้ง 2 ก็สามารถเจรจายอมความกันได้ พระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม และพระราชวิจิตรปฏิภาณ หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เดินทางไปศาลแพ่งตามนัดไกล่เกลี่ย กรณีพระพุทธอิสระเป็นโจทย์ยื่นฟ้องเจ้าคุณพิพิธ ฐานละเมิดโดยการหมิ่นประมาทให้เสียหายเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท หลังไกล่เกลี่ยกันนานกว่า 5 ชั่วโมง พระพุทธะอิสระบอกว่า สามารถไกล่เกลี่ยยอมความกันได้โดยคู่กรณีจะไม่ให้สัมภาษณ์ที่ทำให้เสื่อมเสียอีก สำหรับคดีนี้เจ้าคุณพิพิธ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหมิ่นประมาทพระพุทธอิสระหลายครั้ง โดยมีเจตนาทำให้ประชาชนเข้าใจว่า พระพุทธะอิสระใส่ความสมเด็จพระมหารัชชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และถูกวิพากษ์วิจารณ์จนได้รับความเสียหาย
ผมก็เคยไปวัดสุทัศน์ ช่วงปีใหม่ หลายปีแล้ว พระเณร โฆษณา ขายบุญ กันเอิกเกริก ไม่ต่างจากธรรมกาย ลักษณะการพูด สไตล์ เหมือนท่านเจ้าคุณเลย
ปอนด์ สงขลา และคนอื่นๆ อีก 10 คนได้แชร์ลิงก์ เดือดทะลุเพดาน!!!..."หมอเหรียญทอง" ลั่นไอ้กุ๊ยห่มจีวร(รายละเอียด) "หมอเหรียญทอง" ลั่นไอ้กุ๊ยห่มจีวร(รายละเอียด) แชร์ headshot.tnews.co.th แล้ว ตาช่วง จะฟ้องหมอ อ๊ะป่าว
ศาสนาคริสต์มีสารภาพบาปได้จริงครับผม แต่เป็นคนธรรมดาไปสารภาพบาปกับพระ ไม่ใช่พระ พระแค่รับฟัง ผมเข้าใจอย่างนั้น แนะนำ.....ทำอะไรจะไม่ให้ผิดต้องพูดว่า มาร์คชั่งไข่