(26 ส.ค.58) นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ "ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี" แสดงความเห็นตัวร่างรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ในโค้งสุดท้าย ก่อนสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจะลงมติในวันที่ 6 กันยายนนี้ ด้วยชื่อนางงามรัฐธรรมนูญกว่า 13 ชื่อที่คิดออก ไม่เพียงเท่านี้ ยังพร้อมชักชวนแฟนเพจ ร่วมสนุก ตั้งชื่อนางงามรัฐธรรมนูญใหม่ ที่คิดว่าโดนใจสุดๆ ลุ้นชิงบัตรรางวัลอิ่มจุใจมูลค่า 10,000 บาท โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440597075 .............................................................................................................. มีผู้ส่งชื่อเข้าร่วมแล้ว ลองอ่านดูครับ Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya 44 นาที · เรียน คุณปลอดประสพ ผมขอเสนอตั้งชื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า "โหดปราบเหี้ย" ครับ ขอบคุณครับ
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พร้อมด้วยนายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อแสดงความเห็นและเสนอแนะต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในนามพรรคเพื่อไทย ให้สมาชิก สปช.ได้รับทราบก่อนจะลงมติในวันที่ 6 ก.ย. โดยนายสามารถกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับกดหัวประชาชน ทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งอ่อนแอ ไม่สามารถทำงานได้ เป็นเป็ดง่อย ไม่แก้ปัญหาของประเทศ เพราะจะมีอำนาจแฝงอื่นมาครอบงำอำนาจประชาชน โดยมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) มาสืบทอดอำนาจ และปราศจากการตรวจสอบ ซึ่ง คปป.ส่วนหนึ่งจะมีองค์ประกอบมาจากการเลือกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำให้มีจำนวนมากพอเกิน 2 ใน 3 ของจำนวน คปป.ทั้งหมด เพียงพอที่จะเข้ามาเทกโอเวอร์อำนาจบริหารของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ นายสามารถกล่าวว่า ส่วนที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญระบุว่า คปป.เป็นกลไกป้องการการทำรัฐประหารในอนาคตนั้น การมี คปป.เป็นการรัฐประหารและยึดอำนาจไปแล้วล่วงหน้า เหตุใดไม่ปล่อยให้มีการแก้ปัญหาไปตามครรลองประชาธิปไตยปกติ การมี คปป.เหมือนเป็นการเตรียมการให้เกิดวิกฤตรอบสอง ทั้งนี้หาก สปช.ลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะรณรงค์ให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ยังติดปัญหาอยู่ที่ประกาศ คสช.ไม่ให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหว จึงอยากให้ คสช.เปิดกว้างให้พรรคการเมืองรณรงค์ให้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ เชื่อว่าหากประชาชนรับรู้จุดอ่อนของรัฐธรรมนูญนี้ จะไม่รับร่างแน่นอน เพราะขณะนี้ทุกพรรคการเมืองก็ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเห็นด้วยกับการทำประชามติ ก็พร้อมยอมรับเสียงของประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยจะลงสมัครเลือกตั้งหรือบอยคอตการเลือกตั้งหรือไม่นั้นยังไม่ สามารถตอบได้ ขอรอดูและตัดสินใจสถานการณ์ไปทีละขั้นตอนก่อน http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000097250
ยิ่งนักการเมืองดิ้นมากๆ(โดยเฉพาะสมาชิกพรรคแม้ว) แสดงว่า รธน.ฉบับนี้ต้องดีแน่นอน ตั้งมาเหอะชื่ออะไรก็ได้ แต่อย่าเปลี่ยนสาระนะ
ผลการจับฉลากออกมาแล้วนะครับ แต่ไม่เห็นบอกว่าจะรับรางวัลเป็นบัตรรับประทานอาหาร 1 หมื่นบาท ได้ที่ไหน อย่างไร ปลอดประสพ ประกาศรธน.ฉบับ "ระเบิดเวลา" คือชื่อที่คัดแล้ว จ่อให้เจ้าตัวอธิบายที่มา วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 10:51:42 น. วันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก จากกรณีที่ก่อนหน้าได้เชิญชวนให้ประชาชน ร่วมกันตั้งชื่อรัฐธรรมนูญ โดยจะคัดเลือกมา1รายชื่อที่โดนใจ และให้รางวัลเป็นบัตรรับประทานอาหาร 1 หมื่นบาทนั้น ล่าสุด เช้าที่ผ่านมา นายปลอดประสพ ได้โพสต์ประกาศผล รายชื่อ ที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว ว่า นางงาม หรือ ระเบิดเวลา ต้องขอบคุณมิตรรักนักเพลง (แฟนเพจทั้งหลาย) การโพสต์ครั้งนี้ มีผู้เข้ามา view 96,327 คน แชร์ออกไปอีกจำนวนมาก ที่สำคัญที่สุดคือ มีผู้เสนอชื่อเข้ามาถึง 675 คน แต่ที่ไม่น่าแปลกใจเลยก็คือ ทั้ง 675 ชื่อ หรือ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครชอบร่างรัฐธรรมนูญ...ที่กำลังตั้งชื่อนี้เลย (คุณเข้าใจรึยังครับ) ผู้ตั้งชื่อเหล่านี้ (แน่นอนเขาไม่ชอบท่าน) เขามองรัฐธรรมนูญฉบับห่วยนี้ (หยาบหน่อยนะครับ) ในแง่มุมที่ไม่ดี 3 ประเด็นด้วยกัน คือ กลุ่มแรกมองว่า เป็นร่างที่อัปยศ มีเงื่อนงำ และคิดหลอกลวง กลุ่มที่สองมองว่า เป็นเผด็จการและมีการสืบทอดอำนาจ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมองว่า เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและถอยหลังเข้าคลอง ทั้งสามกลุ่มนี้มีปริมาณใกล้เคียงกันมาก 5 ชื่อ ที่ดูเหมือนแฟนคลับ จะมีความเห็นด้วยคล้ายๆกัน และหนึ่งในนั้นจะเป็นชื่อที่ผม ขออนุญาตเลือกให้เป็นผู้ชนะ โดยมีหลักเกณฑ์ง่ายๆ (คิดเอง ถ้าไม่ถูกใจก็อย่าโกรธนะครับ) คือจะต้องครอบคลุมทุกมิติ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม และ ความมั่นคง ต้องเป็นชื่อที่สะท้อนความจริงจนเถียงไม่ออก และ เป็นชื่อง่ายๆ ที่ใครๆ ก็พูดได้ คือไม่แสบ ไม่หยาบคาย จนเกินไป (ไม่ทราบขัดใจโจ๋รึเปล่า) ขออนุญาตเรียงลำดับ 5 ขั้น มาดังนี้ ลำดับ 5 "บอนไซ" อธิบายว่า ปกติต้นไม้ปลูกลงดิน จะเจริญเติบโต ถ้าไม่อยากให้โตก็ต้องตัดรากออก นำไปใส่กระถางเล็กๆ และรดน้ำใส่ปุ๋ยแต่น้อยให้พอรอดไปวันๆหนึ่ง เฉกเช่น ประชาธิปไตย ถ้าจะพัฒนาให้เจริญงอกงาม ก็ต้องปล่อยให้ประชาชน เขาร่วมกันคิด ร่วมกันพัฒนา หากจะไม่ให้โตก็ให้ตัดหลักการประชาธิปไตย พร้อมสร้างสารพัดการครอบงำไว้เหมือนกระถาง ลำดับ 4 "ทายาทอสูร" หมายความว่า ปฏิวัติรัฐประหารก็แล้ว ฉีกรัฐธรรมนูญก็เเล้ว เรียกไปปรับทัศนคติก็แล้ว นึกว่าจะจบ ที่ไหนได้กลับมาเกิดใหม่ เผลอๆจะเหี้ยมกว่าเดิมหรือเปล่า ยังไม่แน่ใจ ลำดับที่ 3 "อวยเผด็จการ" อันนี้ผู้เสนอชื่อ คงจะตั้งใจซัดสนช. กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และ อาจารย์บวรศักดิ์ จังๆ เพราะเขาเห็นว่า พวกท่านทั้งหลาย ร่วมกันสนับสนุนขบวนการเผด็จการอย่างสุดลิ่ม (ไม่ทราบมีบุญคุณกันมาแต่หนไหนครับ หรือหวังอะไรข้างหน้าอีก) ลำดับ 2 "ตบหัวประชาชน" ฉบับนี้ตรงข้ามกับ ฉบับปี40 ที่เรียกกันว่า ฉบับประชาชน แปลง่ายๆ คือ ไม่เคยคิดว่า ประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ คิดแต่เพียงว่า ตนเป็นผู้ปกครอง ประชาชนต้องอยู่ในอาณัติเท่านั้น อยากจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่อย่างไร ก็บัญญัติเข้าไปโดยไม่ต้องเกรงอกเกรงใจผู้ใด เช่น เลือก ส.ว. เอง 123 คน หรือมีการเสนอให้ใช้ระบบ open list เพื่อบีบให้สภามีแต่พรรคเล็กๆ เพื่อเปิดช่องให้มีนายกฯคนนอก เป็นต้น ทีนี้มาลำดับที่ 1 ผมเลือกชื่อที่คุณ Do Dindang Charoen เสนอ "ระเบิดเวลา" ผมจะไม่อธิบายมาในที่นี้ เพราะหวังว่า คุณ Do Dindang Charoen จะได้มาอธิบายด้วยตนเอง (กำลังคิดจะทำ เรียลลิตี้ โชว์ อยู่ ไม่รู้เขาห้ามรึเปล่า) ระเบิดเวลาในทัศนะผมก็คือ ผมเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะ ไม่ยอมรับ ซึ่งก็จะนำไปสู่ความขัดเเย้ง และ ลงเอยด้วยการต่อสู้ที่อาจไม่มีใครควบคุมได้ กลุ่มนักวิชาการ จะออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้าน ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งแน่นอนที่สุด ก็จะกระทบกับผู้มีอำนาจ สำหรับสื่อจำนวนไม่น้อย ก็คงจะ วิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ผู้ถืออำนาจก็คงจะโมโหโกรธาอาละวาดหนักขึ้นไปอีก ใครดูข่าวก็จะรู้สึกว่า บ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ สำหรับรัฐบาลต่างประเทศ (เนื่องจากไม่ได้กินแกลบ) เขาก็คงจะประท้วงทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่คบค้ากับประเทศไทยเช่นเดิม เพราะเห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เศรษฐกิจก็จะยิ่งแย่ไปกว่าทุกวันนี้ สุดท้าย ฝ่ายการเมืองอย่างน้อยก็สองพรรคใหญ ก็คงจะหาทางแก้รัฐธรรมนูญ เพราะหากไม่แก้ ใครเป็นรัฐบาลก็เท่ากับเอาเท้าเหยียบคุกไปครึ่งหนึ่งแล้ว เเต่การแก้รัฐธรรมนูญก็จะเป็นการเผชิญหน้ากับองค์กรพิเศษทั้งหลายทั้งแหล่ที่ตั้งรอเอาไว้ หากไม่จบ ด้วยรัฐบาลถูกปลด ก็จบด้วยทหารเข้ามารัฐประหารอีก เป็นวงจรอย่างนี้ไม่หยุดหย่อน เหมือนระเบิดที่ถูกตั้งเวลาเอาไว้แล้ว คิดอย่างไรช่วยกันวิจารณ์หน่อยครับ เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองของเราเอง http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441079251