ประเด็นที่เหล่าคนในราชดำนา กับ ประชาไท ชอบเล่น (ฟอร์บส จัดอันดับ ในหลวง)

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย por, 9 Dec 2014

  1. por

    por อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,397
    ฟอร์บส จัดอันดับ ในหลวง เป็นราชวงศ์รวยสุดของโลก 3 ครั้งคือ ปี 51 52 53

    และ บทความ In Thailand, A Rare Peek At His Majesty's Balance Sheet เขียนโดย Simon Montlake ในปี 55

    นิตยสาร ฟอร์บส์ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล อดุลยเดช พระชนมายุ 80 พรรษา ของไทย ทรงเป็นราชวงศ์ผู้มีพระราชทรัพย์มากที่สุดของโลก ( World Wealthiest ่s Royal ) ด้วยพระราชทรัพย์มูลค่ารวม 35,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1 ล้านล้านบาท(ปี 55 อยูที่ 30,000 ล้านดอลลาร์)

    ฟอร์บส์ระบุว่าได้ปรับอันดับของพระองค์หลังจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งกำกับดูแลพระราชทรัพย์ เปิดเผยการครอบครองที่ดินจำนวนรวมมาก รวมทั้งจำนวน 87,000 ไร่ ( 3,493 เอเคอร์) ในกรุงเทพมหานคร

    แต่ฟอร์บส์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า มูลค่าทรัพย์สินของราชวงศ์จากประเทศต่างๆส่วนใหญ่ที่ติดอันดับ มักนับรวมพระราชทรัพย์ของสมาชิกราชวงศ์ทั้งหมด หรือทรงครอบครองพระราชทรัพย์ของประเทศในนามของพระองค์ ส่งผลให้ไม่มีราชวงศ์ใดที่ติดอันดับอภิมหาเศรษฐีประจำปีของนิตยสารฟอร์บส์ในแต่ละปี

    แต่เป็นที่น่าสังเกต ว่า นิตยสารในเครือ อื่นๆ จัดได้ไม่เคยเท่ากับที่ทางฟอร์บจัด และประเด็นตกสำรวจในเสปน กับ ญี่ปุ่น รวมถึง แหล่งข่าวที่ส่งให้ Forbes คือใคร? เท่าที่ตรวจสอบมา จะมีนักวิชาการไทย จากมหาลัยแถบภาคเหนือ กับ ธรรมศาสตร์ ชอบเขียนเรื่องนี้ แล้วมีทั้งคนไทยและฝรั่งเอาไปอ้างอิง

    และนี่คือประเด็น ที่พวก กาสร...... ชอบเล่นกันซะเหลือเกิน

    หลังจากนั้นทางไทยเองได้ส่งจดหมายชี้แจง ออกมา ในปี 53 และทูตไทย ในอเมริกา ได้ชี้แจงอีกครั้งในปี 55
    แต่ทาง ฟอร์บ Simon Montlake ผู้เขียนบทความ ก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร
     
    bookmarks likes this.
  2. por

    por อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,397
    และนี่คือบทความที่เขียนอธิบายเรื่องนี้ได้ ตรงที่สุด ถึงที่มาที่ไปครับ


    โดย ต่อตระกูล ยมนาค

    หลายคนอาจได้อ่านจดหมายของผมแล้ว ที่ชื่อว่า "ถึง เพื่อนชาวไทย ที่รักในหลวง " ผมได้เขียนตอบจดหมายเวียนทางอีเมลฉบับนี้เพื่ออธิบายเรื่องที่มีคนส่งข้อความใส่ร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับที่ 1ของโลก เมื่อ 3 ปีกว่ามาแล้ว แต่จดหมายฉบับนี้ของผมยังคงวนเวียนอยู่รอบโลก นับเป็นแสนๆครั้ง โดยผมเองไม่เคยคิดว่าจะเป็นเรื่องที่มีคนไทยสนใจกันมากถึงขนาดนี้ เพราะเป็นจดหมายที่ผมเขียนขึ้นภายใน 15 นาทีทันทีที่ได้หลังอ่านข้อความผิดๆที่มีคนพยายามจะใส่ร้ายในหลวงอันเป็นที่รักของเรา ความจริงผมหวังแค่เพียงจะชี้แจงความจริง ในวงแคบๆเพื่อให้เพื่อนๆร่วมชั้นปี 2509 ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้ง 400 คนได้รับรู้ เรื่องที่ผมติดตามมาตลอดแต่ไม่เคยเขียนบอกเล่าให้ใครๆทราบมาก่อน
    ผมกลับมาเขียนถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อจะต้องชี้แจงโต้กับ ดร. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ในเรื่องนี้อีกครั้ง
    ก่อนอื่นขอให้อ่านคำอธิบายของผมในจดหมาย "ถึง เพื่อนชาวไทย ที่รักในหลวง " ที่เขียนไว้อธิบายสั้นๆก่อนว่า ทำไมในหลวงจึงไม่ใช่กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดของโลก เหตุผลสำคัญก็คือว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่สามารถนำยอดเงินมาบวกรวมกันเป็นยอดเงินของในหลวงได้

    จดหมายถึงคนไทย ของ รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค
    เมื่อ: 6ตุลาคม2552, 09:31:16

    " ถึง เพื่อนชาวไทย ที่รักในหลวง
    ได้โปรดอย่าได้ FORWARD จดหมายเวียน ที่ลบหลู่ให้ร้ายในหลวง (Forbes magazine ลำดับกษัตริย์ ที่รวยที่สุดในโลก) ต่อไปอีก เพราะนอกจากจะเข้าข่ายร่วมกระทำการหมิ่น และให้ร้ายต่อในหลวงของเรา แล้วยังร่วมกล่าวหาอย่างเป็นเท็จกับพระองค์ท่านอีกด้วย โดยพระองค์ท่านเองไม่สามารถออกมาชี้แจง หรือโต้ตอบอย่างใดได้เลย

    ท่านทราบไหมว่า วังที่ในหลวงพระทับที่สวนจิตรนั้น เป็นบ้านที่เล็กกว่าบ้านของเศรษฐีไทยหลายพันคน และเล็กกว่าแม้กระทั่งบ้านของอดีต รมต. หลายร้อยคน วังสวนจิตรลดาถึงแม้จะมีบริเวณใหญ่ แต่ส่วนที่เป็นที่ประทับมีบริเวณเล็กมาก ที่ดินส่วนใหญ่เป็น โรงเรียน โรงงานทดลองทำปุ๋ย เลี้ยงวัว ทดลองปลูกข้าว บุคคลทั่วไปก็เข้าไป รร.จิตรลดา ได้โดยขอแลกบัตร ได้ทุกคน จากบริเวณโรงเรียน ก็มองเห็นอาคารที่ประทับได้ห่างออกไปไม่ถึง 100 เมตร ใครอยากจะเห็นด้วยตาตนเองก็เข้าไปดูได้สะดวกง่ายๆ

    ผมเห็นว่าพระองค์ท่านกินอยู่แบบคนไทยชั้นกลางทั่วไป ไม่ใช่แบบเศรษฐีไทยอย่างแน่นอน คนซ่อมรองเท้าของพระองค์ท่าน ได้เล่าให้พวกเราได้รับทราบว่า ท่านจะส่งรองเท้าเก่าท่านมาซ่อมตลอดจนซ่อมไม่ไหว รองพระบาทเก่าคู่นั้นช่างยังเก็บไว้ให้เราไปดูได้ สมาคมทันตแพทย์ไทยไปเข้าเฝ้าขอพระราชทานหลอดยาสีฟันเก่าที่ทรงใช้ยาสีฟันได้จนหยดสุดท้าย โดยรีดจนหลอดแบนเป็นกระดาษ ไปขอดูที่สมาคมได้
    เกี่ยวกับทรัพย์สินมูลค่ามาก ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรย์ ที่ฝรั่งไปเอามูลค่าของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ธนาคารไทยพานิชย์ นั้นมารวมว่าเป็นทรัพย์สินของในหลวงด้วยนั้น ไม่ใช่ครับ ที่เป็นของพระองค์ท่านส่วนพระองค์ มีครับแต่ไม่มาก เรียกว่า ทรัพย์สินส่วนพระองค์ จะต้องเสียภาษีอากรภายใต้กฏหมาย เหมือนประชาชนทั่วไป ทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์เดิม ส่วนที่ถูกยึดมาเป็นของรัฐหลังปฎิวัติ 2475 นั้นตกเป็นของรัฐทั้งหมด เห็นได้ว่าทรัพย์สินส่วนนี้จึงไม่ต้องเสียภาษีเหมือนส่วนที่เรียกว่า ทรัพย์สินส่วนพระองค์
    สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดตั้งขึ้น โดยรัฐบาลยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง2475 ให้ รมต.คลังของรัฐบาลเป็นประธานควบคุมดูแล ที่จริงก็คือทรัพย์สมบัติของราชวงค์จักรีเดิมถูกยึดมาเป็นของกลางเป็นของรัฐฯหมดแล้ว หลังจากได้ยึดอำนาจจากระบบปกครองโดยกษัตริย์ มาเป็นโดยรัฐบาลใดๆที่ชนะการเลือกตั้งก็จะได้สมบัติที่ยึดมาทั้งหมดนี้ไปดูแล ที่ดินของ ราชวงค์จำนวนมากก็ถูกยึดมาเรียกว่า ที่ดินราชพัสดุ กระทรวงการคลังดูแล ธนาคารออมสินธนาคารที่ ร.6 ทรงตั้งด้วยเงินส่วนพระองค์เริ่มต้นเอง ปัจจุบันมีเงินเพิ่มพูนเป็นแสนล้านก็กลายเป็นธนาคารของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ระเบียบที่ ร. 6 ท่านวางไว้เดิมให้เสนาบดีพระคลัง เป็นคนดูแลปัจจุบัน รมต.คลังเป็นคนดูแลเอง ตั้งกรรมการได้เองทั้งคณะ รัฐบาลจึงเอาเงินไปใช้ได้สะดวกมาก พระราชวงค์ไม่มีสิทธิ์ใดๆในธนาคารเลย
    ผมเป็นคนไทยธรรมดา มิได้เกี่ยวข้องเป็นราชนิกูลแต่อย่างใด มีเชื้อสายบรรพบุรุษเป็นมอญ ลาว จีน มีเชื้อสายไทยแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น แต่ก็ได้เกิดมาในประเทศไทยที่มีความสุขและมีกษัตริย์ที่ดี ผมจึงรักในหลวงมาก การใส่ร้ายพระองค์ท่านต่างๆในขณะนี้ไม่ให้ความเป็นธรรมกับพระองค์ท่านเลย และเริ่มมีคนหลงไหลและเชื่อคำให้ร้ายต่างๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงมีอยู่ พิสูจน์ได้ใครยังไม่เห็นจริงก็ออกมาโต้ได้อย่าเชื่อโดยไม่พิสูจน์ก่อน

    ขอแสดงความนับถือ
    รองศาสตราจารย์ ดร.ต่อตระกูล ยมนาค "
    __________________________
    หลังจากจดหมายนี้ออกไป ได้มีคนได้ออกมาวิพากวิจารณ์ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับที่ผมเขียนในหลายหลายแนว บางท่านที่รักท่านแบบไม่ให้ใครแตะต้องก็ต่อว่าผมว่านำเรื่องส่วนพระองค์มาเขียนทำไม ท่านจะมีเงินมากก็เหมาะสมที่ท่านจะมีได้เพราะสมบัติตกทอดของท่านมา ผมเข้าใจที่ท่านเหล่านี้ต่อว่ามา แต่ถ้าความจริงนั้นพระองค์ท่านไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย หากเรารู้ความจริงนี้แต่ไม่กล้าพูด คงจะไม่ถูกต้องแน่
    ผมเห็นว่าความไม่ร่ำรวยของกษัตริย์ในยุคใหม่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยนั้น ควรเป็นความภูมิใจของประเทศไทย และประชาชนคนไทยเสียด้วยซ้ำไป
    ขอชี้แจงต่อ ดร. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ มธ.ผู้เขียนบทความเรื่องสำนักงานทรัพย์สินฯโดยทำการตัดต่อพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2479 ออกมาเผยแพร่อย่างผิดๆ
    เพื่อจะบิดเบือนว่า ในหลวงของเรา สามารถใช้เงินจาก สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ตาม พระราชอัธยาศัย โดยไม่มีข้อจำกัด !
    ดูที่เขานำเสนอครับ
    "มาตรา 6 รายได้จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่กล่าวในมาตรา 5 วรรคสองนั้น จะจ่ายได้ก็แต่เฉพาะในประเภทรายจ่ายที่ต้องจ่ายตามข้อผูกพัน รายจ่ายที่จ่ายเป็นเงินเดือน บำเหน็จ บำนาญ เงินรางวัล เงินค่าใช้สอย เงินการจร เงินลงทุน และรายจ่ายในการพระราชกุศล เหล่านี้เฉพาะที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วเท่านั้น
    รายได้ซึ่งได้หักรายจ่ายตามความในวรรคก่อนแล้ว จะจำหน่ายใช้สอยได้ก็แต่โดยพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆ ......
    .................................................................................................."



    โดยจงใจตัดประโยคบางตอนนี้มาใช้ย้ำถึง 5 ครั้ง ตลอดบทความของเขา เพื่อชักจูงให้ผู้อ่านเข้าใจว่าในหลวงมีสิทธิ์ใช้เงินจากสำนักงานทรัพย์สินได้ ตามอำเภอใจ !
    “ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆ”
    “ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆ”
    “ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆ”
    “ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆ”
    “ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆ”


    ข้อความที่ถูก สมศักดิ์ตัดหายไปในตอนท้ายของมาตรา 6 มีความสำคัญมาก เพราะแท้ที่จริงแล้ว เจตนาผู้ออกกฏหมายข้อ 6 นี้เพิ่มเติมเมื่อปี พศ. 2492 ต้องการเขียนเพิ่มเติมขึ้น ก็เพื่อจะจำกัดขอบเขตการใช้เงินของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในขณะนั้นซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจำกัดมิให้นำไปใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัว แต่จำกัดขอบเขตไว้ให้นำไปใช้ได้ในเรื่องเพื่อประโยชน์สาธารณะส่วนรวมเท่านั้น
    ข้อความในมาตรา 6 เต็มๆ มีดังนี้
    -------------------------------------------------------
    มาตรา ๖ รายได้จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่กล่าวในมาตรา ๕ วรรคสองนั้น จะจ่ายได้ก็แต่เฉพาะในประเภทรายจ่ายที่ต้องจ่ายตามข้อผูกพันรายจ่ายที่จ่ายเป็นเงินเดือน บำเหน็จ บำนาญ เงินรางวัล เงินค่าใช้สอยเงินการจร เงินลงทุน และรายจ่ายในการพระราชกุศล เหล่านี้เฉพาะที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วเท่านั้น
    รายได้ซึ่งได้หักรายจ่ายตามความในวรรคก่อนแล้ว จะจำหน่ายใช้สอยได้ ก็แต่โดยพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัย ไม่ว่าในกรณีใดๆหรือโดยคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เฉพาะในกรณี
    ที่เกี่ยวกับการพระราชกุศลอันเป็นการสาธารณะ หรือ
    ในทางศาสนา หรือ
    ราชประเพณีบรรดาที่เป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ เท่านั้น
    ---------------------------------------------------------------------
    อ้างอิง: พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2479

    ถัดมาอีกหลายปี สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงได้ออกรายงานประจำปี 2553 ชี้แจงเป็นทางการ หลังจากปล่อยให้คนนอกวิพากวิจารณ์กันหลายตลบโดยที่ในรายงานฉบับดังกล่าวมี “บทส่งท้าย” ซึ่งเป็นการเขียนขึ้นเพื่อตอบโต้รายงานของนิตยสาร “ฟอร์บ”(Forbes) ที่ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่เป็นพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเฉพาะเป็นที่ทราบกันดีว่า “ฟอร์บ” วางข้อสรุปของตนอยู่บนการคำนวนมูลค่า “ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ประเภทต่างๆที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้ไปรวมให้เป็นทรัพย์สมบัติส่วนพระองค์ของในหลวงด้วย ลำพังการบวกราคาที่ดินสองข้างทางถนนราชดำเนินทั้งหมด ไปจนถึงมูลค่าอาคารพระที่นั่งอนันตสมาคม ก็ทำให้เราเห็นเจตนาของผู้ที่กระทำว่ามีเบื้องหลังไม่บริสุทธิ์ต่อประองค์ท่านอย่างไร
    “บทส่งท้าย” ของรายงานประจำปีของสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้โต้แย้ง ประเด็นสำคัญนี้ ดังนี้

    ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์สินของรัฐและของแผ่นดิน ซึ่งมีรัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบ โดยสำนักงานฯ เป็นผู้ดูแล
    ผมขอย้ำว่าผมภูมิใจมากที่สุด ที่เรามีในหลวง เป็นผู้มัธยัสถ์ และเป็นอยู่อย่างพอเพียง ในพระราชวัง ที่ไม่เหมือนพระราชวังกษัตริย์ที่ไหนในโลก มีโรงวัว และแปลงนา ที่ผลิตนมและข้าว ได้จริงๆในรั้ววัง และมีโรงทำปุ๋ยจากขยะอยู่หน้าทางเข้าโรงเรียนจิตรลดา ด้วย
    เป็นสถานที่ ที่ผมจะต้องนำเพื่อนชาวต่างประเทศผ่านถนนข้างวัง ให้เขาเห็นว่ากษัตริย์เราอยู่อย่างไร ด้วยความภาคภูมิใจเสมอ

    ...............................................................................................

    หลายคนอาจสงสัย ว่าแล้วทำไม สำนักงานทรัพย์สินถึงได้ ถือครอง ทรัพย์สินได้มากขนาดนั้น คำตอบก็คือ หลังปฏิวัติ ในปี 2475 พอถึงปี2479 คณะ .... ก็ได้ร่างกฎหมายเรื่องนี้ขึ้นมา และแก้ไขอีกครั้งใน 2481
    ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น ส่วนในหลวงของเรา เสด็จขึ้นครองราช ในปี 2489 นั่นคือท่านไม่ได้เป็นผู้ร่างกฎหมาย หรือ เขียนกฎหมายชุดนี้ขึ้นมา นักการเมืองในสมัยนั้นต่างหาก ที่เขียนขึ้น เหตุใดคนบางกลุ่มถึงพยายามยัดเยียดให้เป็นเพราะในหลวง .........
     
    Last edited: 9 Dec 2014
    conservative, คนกวาดขยะ, -3- และอีก 9 คน ถูกใจ
  3. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    ฟอร์บ ตีราคาที่ดินของทรัพย์สินเป็นมูลค่าตามราคาที่ดิน แต่ไม่ได้คิดว่า ที่ส่วนหนึ่งของทรัพย์สินฯ นั้น ได้ให้ชาวบ้านเช่าในราคาถูก
     
  4. por

    por อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    10 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    2,397
    ถ้าทำได้ช่วย แชร์กันด้วยครับจะได้เป็นความรู้
    หลังๆ เห็นคนบางกลุ่ม เล่นบ่อยมาก
     
  5. นอกคอก

    นอกคอก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    12 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    5,396
    ถูกแล้วครับถ้าตีมูลค่าที่ดินมันเยอะ จนบางคนนำ้ลายไหล แต่ท่านให้เช่าแบบว่าแทบจะฟรี
     
  6. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    ถ้าของในหลวงแล้วคณะราษฎรเอาไปแจกได้ไงฮะ :speechless:



    10690116_711611455596276_4128347870509185097_n.jpg
    คณะร่านฯ ได้แชร์รูปภาพ
    4 กันยายน
    อ้อพ่อPD ลืมไปนะ! สองหมื่นที่ว่าให้ราษฎรนี่คือให้ยืมนะจ๊ะ! ราษฎรเอาไปต้องเอามาคืนกระทรวงกลาโหมนะจ๊ะ! แต่เงินสองหมื่นนี้ทรัพย์สินฝ่ายกษัตริย์ไม่ได้คืนจากกลาโหมนะจ๊ะ นะ! กลาโหมเอาไปแล้วก็เอาไปเลยนะ เข้าใจตรงกันนะ! ไม่งงนะ! เป็นวิธีการที่แยบคายจริงๆพับผ่าสิ!!!!!

    //พ่อPD ฉลาดล้ำ!!!! นะจ๊ะ!
    จริงๆ แล้วพ่อPD ก็เป็นคนดีกะเค้าบ้างเหมือนกันนะฮ๊าฟฟฟ! เช่นการเอาเงินทรัพย์สินฝ่ายกษัตริย์บริจาคให้กระทรวงกลาโหมไปช่วยเหลือราษฎร!

    20,000 บาท!!

    อ้อพ่อPD ลืมไปนะสองหมื่นที่ว่าให้ราษฎรนี่คือให้ยืมนะจ๊ะ ราษฎรเอาไปต้องเอามาคืนกระทรวงกลาโหมนะจ๊ะ แต่เงินสองหมื่นนี้ทรัพย์สินฝ่ายกษัตริย์ไม่ได้คืนจากกลาโหมนะจ๊ะ นะ! กลาโหมเอาไปแล้วก็เอาไปเลยนะ เข้าใจตรงกันนะ! ไม่งงนะ! เป็นวิธีการที่แยบคายจริงๆพับผ่าสิ!!!!!

    เงินตัวเองก็มีไม่ควัก! มันควักยาก! ไม่เหมือนเงินทรัพย์สินฝ่ายกษัตริย์ ควักทีเป็นหมื่นเป็นแสนง๊ายง่าย!!!!

    นี่พ่อเป็นคนดีกับเค้าบ้างแล้วนะ เลิกด่าพ่อแล้วหันมาชื่นชมบูชาในคุณความดีของพ่อกันบ้างเห๊อะ!!! //พ่อPD พ่อพระ!
    10649804_675086425915446_6347617545918437983_n.jpg
     
    -3- likes this.
  7. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    10690116_711611455596276_4128347870509185097_n.jpg
    คณะร่านฯ

    ถูกใจแล้ว · 6 ธันวาคม · มีการแก้ไข ·



    ความแตกต่างระหว่าง "ในหลวง" กับ "คณะราษฎร"

    ในหลวงยกที่ดินให้ประชาชนเป็นหมื่นๆไร่ ส่วนคณะราษฎรโกงที่ในหลวงเอาไปเข้าพกเข้าห่อซื้อขายกันราคาถูกๆ

    เท่านี้ไม่พอนะนอกจากในหลวงจะยกที่ดินฟรีๆ ให้ประชาชนแล้วยังแถมเงินให้ราษฎรอีกตั้งร้อยล้านบาท ส่วนคณะราษฎรของพ่อPD หละสั่งโอนเงินของในหลวงไปใช้ฟุ่มเฟือยเป็นแสนๆ บาท

    เรื่องมันเป็นยังงี้...

    เมื่อปี 2518 เนื่องจากรัฐบาลออกพรบ.สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน ฉะนั้นในหลวงจึงได้อุดหนุนประเดิมแก่ประชาชนเป็นปฐมฤกษ์ด้วยการ พระราชทานที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ทรงมีพระราชอำนาจที่จะโอนทรัพย์สินเพื่อการสาธารณะประโยชน์ ได้ตามบทบัญญัติแห่งพรบ. สำนักทรัพย์สินฯ)

    เป็นจำนวนถึง 51,967 ไร่ ในพื้นที่ 8 จังหวัด
     
    conservative, por, -3- และอีก 2 คน ถูกใจ
  8. อู๋ คาลบี้

    อู๋ คาลบี้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    15 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    12,204
    พยายามจะดิสเครดิตเจ้า แต่ก็ซุยไปเรื่อย
     
  9. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    เห็นเล่นเรื่องนี้ในเวปกระโปก ของไอ้วาฬอยู่
     
  10. bookmarks

    bookmarks อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    23 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,447
    บางคนถึงอยากจะกลับมาเป็นที่ปรึกษา สำนักงานทรัพย์สินฯ เรื่องนี้ไอ้แม้วมันพูดหลายครั้งมาก คงมองเห็นวิธีจะครอบครองมาเป็นของตนได้อย่างง่ายๆ อยู่
     
    คนกวาดขยะ และ นอกคอก ถูกใจ.
  11. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    น่าเศร้าคือพระองค์ทำเพื่อชาวไทยทุกคนไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง แม้แต่พวกที่มันโจมตี พระองค์ก็ทรงอภัยให้ คนเนรคุณทั้งหลายไม่คิดถึงเรื่องนี้เลย ตัวเกิดมาเป็นมนุษย์ อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้เคยทำคุณประโยชน์ หรือคุณงามความดีอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง อยากให้ไปเดินตามเสด็จ สถานที่ๆทุรกันดาร ที่แม้แต่ในแผนที่ยังไม่มีระบุ แต่แผนที่ ที่พระองค์ทรงถือเป็นประจำ มีจุดพิกัดนั้น
     
    conservative, คนกวาดขยะ, por และอีก 3 คน ถูกใจ

Share This Page