รอยเตอร์ - บิล เกตส์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ยังคงครองความเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปี 2015 นิตยสารฟอร์บส์ระบุเมื่อวันจันทร์ (2 มี.ค.) โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ขยับขึ้นมาติดท็อป 20 ขณะที่ เจ้าสัวซีพี นั่งแท่นมหาเศรษฐีหมายเลข 1 ของไทย ด้วยทรัพย์สินกว่า 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน “ทักษิณ” รั้งอันดับ 7 มีทรัพย์สินพอๆ กับอดีตทนายความของเขา “วิชัย ทองแตง” ด้านตำแหน่งมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในปีนี้ตกเป็นของนายอีวาน สปีเกล วัย 24 ปีและบ็อบบี้ เมอร์ฟี วัย 25 ปีผู้ก่อตั้งร่วมสแน็ปแชต แอปพลิเคชันยอดฮิตทางโทรศัพท์มือถือ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินคนละ 1,500 ล้านดอลลาร์ ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก วัย 30 ปี ขยับจากอันดับ 21 จากเมื่อปีที่แล้วขึ้นมารั้งอันดับ 16 อภิมหาเศรษฐีโลก หลังทรัพย์สินเพิ่มพูนสู่ 34,800 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ไมเคิล จอร์แดน อดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังของชิคาร์โก บูลส์ และเจ้าของสโมสรชาร์ลอตต์ ฮอร์เนตส์ ในปัจจุบัน รั้งอันดับ 1,741 ด้วยทรัพย์สิน 1,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ยังคงเป็นชาติที่มีมหาเศรษฐีระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 536 ราย ตามมาด้วย 213 ราย เยอรมนี 103 ราย และอินเดีย 90 ราย ส่วนรัสเซียที่กำลังประสบปัญหาค่าเงินและภาวะยุ่งเหยิงในตลาดน้ำเงินมีอภิมหาเศรษฐีติดอันดับลดลงจาก 111 คนเมื่อปีก่อน เหลือแค่ 88 คน ในส่วนของประเทศไทยมีเศรษฐีติดอันดับรวยสุดในโลกของฟอร์บส์ในปีนี้ 11 รายเช่นเดิม โดยเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ วัย 75 ปี ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และครอบครัว รั้งตำแหน่งมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่ง ด้วยทรัพย์สิน 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับ 81 ของโลก ตามมาด้วย เจริญ สิริวัฒนภักดี วัย 70 ปี แห่ง “เบียร์ช้าง” รั้งอันดับ 87 ของโลก ด้วยทรัพย์สิน 13,200 ล้านดอลลาร์ อันดับ 3 ตกเป็นของ กฤตย์ รัตนรักษ์ มีทรัพย์สิน 3,800 ล้านดอลลาร์ รั้งอันดับ 452 ของโลก ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้หลบหนี วัย 65 ปี อยู่ในอันดับ 7 ของไทย และอันดับ 1,118 ของโลก มีทรัพย์สิน 1,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายวิชัย ทองแตง อดีตทนายความของทักษิณ ในคดีซุกหุ้นเมื่อสืบกว่าปีที่แล้ว ทีผันตัวเป็นนักลงทุนอิสระในตลาดหุ้นและลงทุนในธุรกิจต่างๆ พุ่งพรวดขึ้นมาติดอันดับต้นๆของประเทศไทย และยังมีทรัพย์สินพอๆกับอดีตลูกความของเขาอีกด้วย อันดับมหาเศรษฐีในไทยที่ฟอร์บส์ระบุว่ามีทรัพย์สินตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปประจำปี 2015 1. ธนินท์ เจียรวนนท์ (ซีพี) มีทรัพย์สิน 13,600 ล้านดอลลาร์ ติดอันดับ 81 ของโลก 2. เจริญ สิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) 13,200 ล้านดอลลาร์ อันดับ 87 ของโลก 3. กฤตย์ รัตนรักษ์ (ช่อง 7) 3,800 ล้านดอลลาร์ อันดับ 452 ของโลก 4. วาณิช ไชยวรรณ (ไทยประกันชีวิต) 3,700 ล้านดอลาร์ อันดับ 462 ของโลก 5. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (บางกอกแอร์เวย์ส) 2,800 ล้านดอลลาร์ อันดับ 663 ของโลก 6. วิชัย ศรีวัฒนประภา (คิง เพาเวอร์) 2,600 ล้านดอลลาร์ อันดับ 714 ของโลก 7. ทักษิณ ชินวิตร และครอบครัว 1,700 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,118 ของโลก 8.ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ (พฤกษาเรียลเอสเตท) 1,700 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,118 ของโลก 9. คีรี กาญจนพาสน์ (บีทีเอส) 1,700 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,173 ของโลก 10. สุดธิดา รัตนรักษ์ 1,700 ล้านดอลลาร์ (สื่อสารมวลชน, อสังหาริมทรัพย์) อันดับ 1,173 ของโลก 11. วิชัย ทองแตง 1,600 ล้านดอลลาร์ (นักลงทุน) อันดับ 1,190 ของโลก อันดับมหาเศรษฐีในไทยที่ฟอร์บส์ระบุว่ามีทรัพย์สินตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปเมื่อปี 2014 1. ธนินท์ เจียรวนนท์ (ซีพี) มีทรัพย์สิน 11,400 ล้านดอลลาร์ ติดอันดับ 97 ของโลก 2. เจริญ สิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) 9,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 141 ของโลก 3. วาณิช ไชยวรรณ (ไทยประกันชีวิต) 3,650 ล้านดอลาร์ อันดับ 429 ของโลก 4. กฤตย์ รัตนรักษ์ (ช่อง 7) 2,800 ล้านดอลลาร์ อันดับ 609 ของโลก 5. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (บางกอกแอร์เวย์ส) 1,750 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,036 ของโลก 6. ทักษิณ ชินวิตร และครอบครัว 1,600 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,092 ของโลก 7. วิชัย ศรีวัฒนประภา (คิง เพาเวอร์) 1,500 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,154 ของโลก 8. คีรี กาญจนพาสน์ (บีทีเอส) 1,350 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,270 ของโลก 9. สุรินทร์ อุปพัทธกุล 1,300 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,284 ของโลก 10. ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ (พฤกษาเรียลเอสเตท) 1,150 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,442 ของโลก 11. อาลก โลเฮีย (อินโดรามา เวนเจอร์ส) 1,100 ล้านดอลลาร์ อันดับ 1,465 ของโลก http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000025165 ปล cp ติด 1 ใน 100 แล้วนะครับ โหดขิงๆ
คิดถึงพวกเสื้อแดงชอบพูด นักการเมืองพรรคอื่น โดยเฉพาะปชป.ว่ากินกันจนประเทศล่มจม หรือโกงมากกว่า แต่ยังไม่เคยเห็นใครรวยติดอันดับเท่าทักกี้สักคน
อดีตทนายความไอ้แม้วติดอันดับท๊อปของไทย จะเป็นแหล่งซุกหุ้น ฟอกเงินให้ไอ้แม้ว เหมือนที่มันไปซุกหุ้นให้คนใช้ คนขับรถจนรวยหุ้นติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศหรือเปล่า
วิชัย ทองแตง LOW RISK ...HIGH RETURN Wed, 2012-07-18 10:48 ชื่อของ “วิชัย ทองแตง” ในวัย 65 ปี อาจไม่คุ้นสำหรับวงการบันเทิง แต่สำหรับวงการการเมืองและนักลงทุนแล้ว ชื่อนี้เป็นที่จดจำ เพราะเขาคืออดีตทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในคดีซุกหุ้น เมื่อปี พ.ศ. 2544 จนทำให้ “ทักษิณ” รอดพ้น ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความผิดแค่ “บกพร่องโดยสุจริต” และเป็นคดีสุดท้ายที่เขาเป็นทนายให้ เป็นนักลงทุนเริ่มเติบโตจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ยังเป็นทนายความ ชื่อของ “วิชัย” กลายเป็นนักเป็นนักเทกโอเวอร์ โดยปี 2546 เขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจเครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล และปี 2553 สวอปหุ้กับกลุ่ม นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ จนติดอันดับเศรษฐีหุ้นในเมืองไทยอันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าหุ้น 11,804 ล้านบาท ตามการจัดอันดับของวารสารการเงิน การธนาคารในปี 2554 สำหรับการลงทุนในธุรกิจทีวีรอบนี้ ที่เขาไม่ถนัด แต่มาด้วยแรงชักชวนจากญาติที่เป็นน้าของภรรยา ที่ทำธุรกิจเคเบิลทีวีอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร แต่ “วิชัย” ก็เข้ามาเป็นแกนหลัก และอยู่ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัทเคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช ซึ่งหลังจากมีที่ปรึกษาวางโมเดลธุรกิจ และหาพันธมิตรแล้ว ก็มั่นใจว่าผลตอบมาแทนจะเป็นแบบ High Return หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เขาทำเผื่อฐานคะแนนของอดีตลูกความของเขาหรือไม่ “วิชัย” บอกว่าทุกวันนี้แม้เขาไม่ได้ติดต่อกับ “ทักษิณ” แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะมีภาพติดอยู่ เพราะในความเป็นจริงเขาคือเพื่อนกับ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” สามีของ “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือในฐานะที่เป็นน้องเขยของ “ทักษิณ” นั่นเอง “วิชัย” กับ “สมชาย” เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2509 สนิทกันด้วยความที่ต่างคนต่างเป็นเด็กต่างจังหวัด โดยวิชัย มาจาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ส่วนสมชายมาจาก อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ไม่เคยห่างกัน แม้กระทั่งวันเปิดตัวธุรกิจซีทีเอช “สมชาย” ก็ยังมาร่วมงาน สำหรับเขาแล้วจะเกี่ยวพันกับการเมืองหรือไม่นั้น คงต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่สิ่งที่เขายืนยันคือหลักการลงทุนของเขาที่ทำให้อดีตทนายความกลายเป็นมหาเศรษฐีได้นั้น ไม่ใช่แค่ High Risk Hig Return แต่ต้องคิดแบบ Low Risk High Return