ไปเจอเอาโควตเรื่องนี้เข้า...เห็นว่าน่าสนใจ แถมอ่านไปๆ ยังรู้สึกโดนใจในหลายๆประโยค... อยากให้เพื่อนๆ ลองอ่าน และพิจารณากันดูครับ... ถ้าเกิดไปได้ยิน "พวกเขา" มโน จับแพะชนแกะ พูดกันเป็นตุ เป็นตะว่าเป็นเพราะเผด็จการ จะได้เข้าใจ และรู้ทันกันไปว่า... จมูกของพวกเขา (น่าจะ)ยังมีสายตะพายสน อยู่... --------------------------------------------------------------- เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่ง นั่นก็คือโรงงานซัมซุงที่โคราชลดกำลังการผลิต จึงต้องปรับลดพนักงานลงกว่า 1500 คน ในขณะที่ทางบริษัทซัมซุงประกาศว่า ยอดการสั่งซื้อสินค้าลดลง และเปลี่ยนเทคโนโลยี เนื่องจากซัมซุงจะลดกำลังการผลิตอาร์ดไดร์ฟลง เพื่อไปเน้นผลิตภัณฑ์หลักคือโทรศัพท์และแทบเล็คแทน http://www.thairath.co.th/content/512359 http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1437127371 ทำให้มีพนักงานตกงานส่งผลต่อความมั่นคงในชีวิต ไม่เฉพาะแต่บรรดาอดีตพนักงานบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบรรดากิจการที่อยู่รอบๆโรงงาน ทั้งหอพัก, ตลาด, ร้านอาหาร และอื่นๆ เรียกว่ามีผลกระทบในวงกว้างเลยทีเดียว http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437281926 http://www.posttoday.com/local/northeast/377927 - ประเด็นก็คือเรื่องนี้ บรรดาเสื้อแดงและลัทธิตาสว่าง พยายามจะเอาไป #มโน และสร้างวาทกรรที่ว่า... #ต่างชาติย้ายฐานผลิตหนีเพราะไทยไม่เป็นประชาธิปไตย อย่าง user หนึ่งใน พันทิพ ที่ใช้ชื่อว่า "เต่าปีกเหล็ก" ซึ่งได้เข้ามาพยายามเถียงกับคนอื่นๆในกระทู้นี้ ว่าทั้งหมดที่เค้าย้ายฐานการผลิตก็เพราะไทยเป็นเผด็จการ!!! http://pantip.com/topic/33932321 - โดยเค้าพยายามอ้างอิงว่าเนื่องจากทางยุโรป ตัดสิทธิ GSP (ซึ่งเป็นสิทธิที่ลดกำแพงภาษีให้กับ "ประเทศกำลังพัฒนา" เพื่อช่วยส่งเสริมการค้าขายระหว่างกัน) คนๆนี้ได้อ้างอิงเวป Thai E-NEWS ซึ่งก็ทำให้รู้ได้ทันที ว่าเป็นเสื้อแดงหัวรุนแรงสายล้มเจ้าแน่นอน (Thai E-NEWS เป็นแหล่งรวมบทความของคนกลุ่มนี้ อย่างทวิตเตอร์ที่ Thai E-NEWS ใส่ไว้ในลิสท์ ก็จะมีของนางสุดา รังกุพันธุ์ อดีตอาจารย์อักษรจุฬาฯ ที่ประกาศจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ก่อนหนีไปต่างประเทศ) ส่วนเวปอื่นๆที่อ้างมาก็คือ เวปของหอการค้าไทย ซึ่ง Thai E-NEWS อ้างอิงมาอีกทีหนึ่ง - ประเด็นก็คือ คนๆนี้พยายามจะสร้างตรรกะที่ว่า... เพราะไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ยุโรปจึงตัดสิทธิ GSP ทำให้ซัมซุ่งต้องย้ายฐานการผลิตหนี เพราะถ้าผลิตที่ไทย จะมีตราสินค้า Made in Thailand ทำให้ส่งไปขายไม่ได้ - ซึ่งก็มีหลายๆคนเข้ามาตอบโต้ให้เป็นการยกใหญ่ ว่ามันมีหลายเรื่องที่เป็นปัจจัย เช่นเรื่องค่าแรงของไทยที่สูงขึ้น เรื่องความต้องการฮาร์ดำดร์ฟที่อาจจะกำลังลดลงในอนาคต เป็นต้น แต่เรื่องไทยไม่มีเลือกตั้งแล้วฝรั่งกีดกันนั้น ถือเป็นเรื่องที่ #เพ้อเจ้อและมโนอย่างที่สุด เพราะถ้าจะบอกว่าไทยไม่มีเลือกตั้งหรือเป็นเผด็จการ แต่กลับย้ายไปเวียดนามที่เป็น "คอมมิวนิสต์" เหรอครับ? (อันนี้ขำจริงๆนะครับ หุหุหุ) - อีกประเด็นหนึ่งที่คนในกระทู้นั้นไม่ได้พูดตอบโต้ (เพราะส่วนใหญ่จะพูดเรื่องการผลิตและค่าแรงเป็นหลัก) ก็คือ เรื่องการ #ยกเลิกสิทธิ_GSP ซึ่งผมเดาได้เลยว่า คงจะมีลัทธิตาสว่างและเสื้อแดงหลายคนเอาไปมโน ว่าเพราะเป็นรัฐบาลทหารเลยถูกตัดสิทธินี้ ทั้งที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย!!!!!!! *** ในความเป็นจริงสิทธิ GSP นั้น จะให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาโดยมีกฎ ซึ่งตกลงกันในองค์การค้าโลก (UNCTAD) ว่าถ้าสินค้าที่ส่งเข้าไปยุโรปมีมูลค่าเกิน 15-17.5% ติดต่อกัน 3 ปี จะถูกตัดสิทธิในสินค้านั้นๆ รวมถึงการที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับจากธนาคารโลก ให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงค่อนข้างสูง (Upper-Middle Income Countries) เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ทำให้ไทยต้องเสียภาษีในอัตราปกติ (อัตรา MFN) ตามข้อตกลงขององค์การการค้าโลก http://www.thaichamber.org/scripts/detail.asp?nNEWSID=13878 - ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รับรู้มาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว จนสมาคมผู้ส่งออกอาหารแช่แข็งได้มีการให้ข้อมูลเพื่อ เตรียมตัวรับมือสินค้าบางรายการที่จะถูกตัดสิทธิในปี 2557 ก่อนที่จะถูกตักสิทธิหมดทุกรายการในปี 2558 http://www.thai-frozen.or.th/info_service_01.php *** ก็น่าแปลกนะครับที่ข้อมูลข้างบนที่ผมนำมาแสดงนี้ มันก็มาจากที่คนที่ชื่อ "เต่าปีกเหล็ก" อ้างอิงมานั่นแหละ!!! ในขณะที่เค้าเที่ยวด่าคนอื่นในกระทู้นนั้นว่า "โง่บ้าง" หรือไล่คนอื่น "กลับไปเรียนประถมบ้าง" หรือหาว่าคนอื่น "ไม่เป็นกลางและมีอคติบ้าง" (กรุณาดูรูปประกอบหรือเข้าไปอ่านในลิ้งก์นี้) แต่ทุกอย่างที่เค้าพูดมานั้นกลับ #เข้าตัวเค้าหมดเลย คือเค้าเองนั่นแหละที่ไม่อ่าน หรืออาจจะอ่าน แต่เพราะใจมันมีอคติ อยากจะด่ารัฐบาลชุดนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา จนเลือกจับใจความมาเฉพาะที่ตัวเองจะมามโนต่อได้ - แน่นอนว่า ค่าแรงก็คงเป็นปัจจัยหนึ่ง ความต้องการฮาร์ดไดร์ฟที่ลดลงก็คงเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ประเด็นก็คือทั้งหมดมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมือง!!! แต่คนบางคนเค้าไม่สามารถจะคิดแบบนั้นได้ สำหรับเค้าแล้ว ทุกเรื่องที่แย่ๆ ต้องเกิดขึ้น จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เค้าไม่ชอบทั้งสิ้น ----------------------------------------------------- *** แต่ถึงอย่างไรเรื่องค่าแรงยังไงก็เป็นเรื่องสำคัญครับ ไม่เช่นนั้นทาง LG หรือ Samsung คงไม่ย้ายฐาน การผลิตจอโทรทัศน์ออกประเทศไทยเพื่อไปอยู่ที่เวียดนาม โดยระบุว่าเป็นเรื่อง #ค่าแรง หรอกนะครับ (อันนี้อ้างอิงจากข่าวของ VOICE TV ของพานทองแท้ เลยนะครับ และสื่ออื่นๆก็รายงานเช่นเดียวกัน) http://shows.voicetv.co.th/voice-market/154452.html http://www.me-park.com/post-818 http://news.mthai.com/hot-news/economy-news/444489.html http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx… http://pocketnow.com/…/13/samsung-moves-production-to-vietn… --------------------------------------------------------------- หรือเพื่อนๆ คิดเห็นกันเช่นไร เชิญได้ครับ...
ถ้าผมจะบอกว่าซัมซุงเวียตนาม จากเดิมที่มีแค่โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เค้าได้ตัดสินใจลงทุนอีกหลายหมื่นล้านบาทพื่อสร้างโรงงานผลิตและประกอบโทรศัพท์ในเวียตนาม สมัยรัฐบาล"ปู" ผมจะผิดมั้ยน้า
แสดงว่า รัฐบาลอีโง่ มันเป็นเผด็จการแน่ ๆ ถึงได้โดนยุโรปตัดสิทธิ์ GSP http://1.179.129.205/chiangrai/newsdetail.asp?ID=320
จะให้ฟังดูดีเลิศหรูอย่างไรก็ได้ แต่สัจธรรมของธุรกิจการค้าของโลกใบนี้คือกำไรตัวเดียว ธรรมาภิบาล ความเป็นปชต. ความรับผิดชอบต่อสังคม หรือแม้แต่มนุษยธรรม เป็นเพียงองค์ประกอบของการทำธุรกิจการค้าเท่านั้น ถ้าคำพูดหรูหราข้างบนเป็นหลักการธุรกิจจริงๆ จีน รัสเซีย ซาอุ อินเดีย ฯลฯ ไม่มีวันได้เกิดหรอกครับ ผมอยู่ใน labour intensive manufacturing ประมาณปี2000ตอนที่ปชต.ของเรารุ่งเรืองเฟื่องฟู บริษัทผมต้องลดขนาดโรงงานในไทยจากพันกว่าคนเหลือร้อยกว่าคนเพราะไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าที่ผลิตในจีนและอินเดียได้เนื่องจากปัญหาค่าแรง และต้องย้ายฐานการผลิตไปอยู่ในเวียงจันทน์เพราะค่าแรงไม่ถึงครึ่งของไทย สิบห้าปีผ่านไป จีนกับอินเดียโตขึ้นและแพงขึ้นมาก โดยเฉพาะปัญหาต้นทุนค่าแรงที่พุ่งสูงขึ้นในจีน และปีนี้ ขณะที่ไทยมีรัฐบาลเผด็จการ โรงงานในไทยของบริษัทผมกลับขยายตัว เพราะความมีฝีมือของแรงงานไทยและความจงรักภักดีที่อยู่กันมาหลายสิบปีทำให้บริษัทไปเน้นสินค้าระดับพรีเมี่ยมซึ่งต้นทุนแรงงานไม่ใช่ตัวแปรหลัก อีกตัวอย่างหนึ่งคืออิหร่าน ก่อนที่จะเริ่มเจรจาเรื่องยกเลิกการกีดกันทางการค้า แบรนด์ดังๆมันเห็นช่องทางทำกำไร ไปทำสัญญาเช่าพื้นที่ทำห้างหรูเรียบร้อยไปแล้ว ย้อนขึ้นไปสองบรรทัดแรกว่าไอ้คำหรูๆทั้งหลายจริงๆแล้วแค่ไม้ประดับครับ ใครไปลุ่มหลงทุ่มเทให้มีแต่จะหน้าแตกเสียเปล่าๆ
อเมริกาก็ไม่เป็นประชาธิปไตยครับ มิตซู ย้ายฐานผลิตกลับประเทศเลย http://www.dailynews.co.th/foreign/337671
ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่ครับ แต่ที่รู้ก็คือเวียตนามเค้าเป็นประชาธิปไตย เพราะเค้ามีการ"เลือกตั้ง" แบบประชาธิปไตย แต่ละเขตมีผู้แทนฯได้ ๓ คน พรรคคอมฯก็เลือกมา ๕ คน ให้ประชาชนเลือก พรรคฯจะติดประกาศภูมิหลัง ผลงานของทั้ง ๕ คนนั้นตามที่สาธารณะ วันเลือกตั้งปิดหีบบ่าย ๓ ยังไม่ถึง ๑๑ โมง ตำรวจประจำเขตก็มาเคาะประตูบ้านเร่งให้ผู้ที่ยังไม่ไปเลือกตั้งไปลงคะแนน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีธุระ ไปลงคะแนนไม่ได้ ก็สามารถมอบฉันทะให้คนในครอบครัวไปลงคะแนนแทนได้ ป่วย นอนโรงพยาบาล เจ้าหน้าก็จะนำบัตรลงคะแนนไปให้กา ผลการเลือกตั้งออกมา เกิน ๙๙ เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าประชาชนตื่นตัว รักประชาธิปไตยถึงได้ไปเลือกตั้งอย่างล้นหลาม วันเลือกตั้งถ้าผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนไม่ตายกระทันหัน สงสัยประชาธิปไตยต้อง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์แน่นอน
#ต่างชาติย้ายฐานผลิตหนี เพราะไทยไม่เป็นประชาธิปไตย #ต่างชาติย้ายฐานผลิตเข้ามานี้ เพราะไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เหมือนกันมั้ยยยยย!!! ปอกเปลือก ทรราช บริษัท Mitsubishi Motors ของญี่ปุ่นประกาศปิดโรงงานเลิกผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ย้ายมาเปิดที่ไทยและเพื่อนบ้านเราแทน ------------- ข่าวดีอีกข่าวสำหรับคนไทยหัวใจรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ และประชาชน แต่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นข่าวร้ายสำหรับโปร-อเมริกาทั้งหลายนะครับ คริๆ คืออย่างนี้ครับ วันนี้ลองตระเวนข่าวจากฝั่งจีนบ้างในส่วนที่เกี่ยวกับประเทศไทยนี่แหละ ก็มีอยู่หลายข่าวนะ แต่หยิบมาให้อ่านซัก 2 ข่าวก่อน (โพสต์ละข่าว) ข่าวแรกสำนักข่าว People's Daily Online พาดหัวข่าวเมื่อวันที่ 27 ก.ค.58 ว่า "Japanese automaker Mitsubishi Motors to end US production" เห็นแล้วทำให้ต่อมความสะใจทำงานเกินร้อยเลยอ่ะ ถ้าไม่ได้เล่าข่าวนี้ให้แฟนเพจฟังนี่คงจะเสียดายแย่แน่ๆเลย ตามรายงานข่าวบอกว่าบริษัท Mitsubishi Motors ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กำลังวางแผนยกเลิกการผลิตเฉพาะโรงงานที่อยู่ในสหรัฐฯเท่านั้น โปรดฟังอีกครั้ง "…ยกเลิกการผลิตเฉพาะโรงงานที่อยู่ในสหรัฐฯเท่านั้น!" ฮี่ๆๆ… มีต่ออีกนะ และจะขายโรงงานที่อยู่ใน central Illinois (พื้นที่ส่วนหนึ่งในรัฐอิลลินอยของสหรัฐฯ) ซึ่งมีพนักงานอยู่มากว่า 1,200 คน (Mitsubishi Motors confirmed Friday that it plans to stop production at its only US factory and sell the plant in central Illinois that has more than 1,200 workers.) ชัดมะ!... หมายความว่าไงครับ? ก็หมายความว่าจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นในอเมริกา ไม่ต่ำกว่า 1,200 คนนะสิครับ และอาจจะเป็นโดมิโนไปยังธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วยก็ได้ นี่ขนาดญี่ปุ่นเป็นมหามิตรของสหรัฐฯก็ยังทำกันได้ลงคอขนาดนี้เลยนะนี่ รายงานข่าวบอกว่าหลังจากที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นได้พิจารณาถึงระบบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกแล้วจึงได้ตัดสินใจว่า มีความจำที่จะต้องยกเลิกการผลิต (end production) ที่โรงงานดังกล่าวและหาผู้ซื้อ (โรงงาน) ตามคำแถลงข่าวของนาย Dan Irvin โฆษกของบริษัทประจำอเมริกาเหนือ การแถลงการดังกล่าวปรากฎออกมาหลังจากที่สื่อฯญี่ปุ่นรายงานว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายหนึี่งของญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกการผลิตในสหรัฐฯโดยหันไปให้ความสนใจที่ตลาดในเอเซียแทน (ฮี่ๆๆ) ยอดการผลิตรายปีที่โรงงานแห่งนี้ซึ่งผลิตรถยนต์ประเภท Outlander SUV ได้ลดลงถึง 64,000 คนจากที่มากกว่า 200,000 ต่อปีในปี 2002 และเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทขายรถยนต์ได้เพียง 82,000 คันเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า 1% ของตลาดทั้งหมด (จะอยู่ต่อไปได้อย่างไรหละครับ ก็อเมริกันเขาชาตินิยมสุดๆ เขาไม่ค่อยนิยมรถญี่ปุ่นอ่ะ แม้จะเรียกให้ญี่ปุ่นไปลงทุนในประเทศเขา แต่เขาบอกกับประชาชนของเขาว่าของอเมริกันดีกว่า เพื่อกระตุ้นให้คนในประเทศเขาใช้ของๆพวกเขา ญี่ปุ่นก็หอบเงินไปลงทุน แล้วก็เจ๊งเพราะขายไม่ออกนะสิ) หนังสือพิมพ์ Nikkei ด้านธุรกิจของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัท Mitsubishi อาจจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายแรกที่จะยกเลิกการผลิตทั้งในสหรัฐฯและในยุโรป (ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้นนะ มียุโรปด้วย ซวยหนักเข้าไปอีกแล้วเศรษฐกิจอียู ต่อไปนี้สำคัญนะ อย่าลืมขีดเส้นได้ไว้ด้วยหละครับ) บริษัท Mitsubishi ได้สร้างโรงงานในประเทศไทย โปรดฟังอีกครั้ง "บริษัท Mitsubishi ได้สร้างโรงงานในประเทศไทย" อันนี้สำหรับโปรอเมริกา "The company (Mitsubishi) has built a plant in Thailand" (ฮี่ๆ ได้ยินป๊ะ? คริๆ) และได้ซื้อโรงงานแห่งหนึ่งของ Ford (ของสหรัฐฯ) ในประเทศฟิลิปปินส์ และกำลังก่อสร้างอีกแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย คราวนี้มาดูปฏิกิริยาจากฝั่งสหรัฐฯบ้าง นาย Bill Brady วุฒิสมาชิกรัฐอิลินอยของสหรัฐฯกล่าวว่า "เรากำลังจะทำทุกอย่างที่เราสามารถทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าบริษัท Mitsubishi ไม่มีความต้องการโรงงานดังกล่าวอีกต่อไป (อันนั้นเป็นภาษาการเมืองสไตล์สหรัฐฯ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้ประชาชนที่เป็นพนักงานมีความสบายใจขึ้นมาตรงไหนเลย ความหมายที่ชัดเจนที่ต้องการจะสื่อก็คือว่า ญี่ปุ่นจะขายโรงงานทิ้งและจะยกเลิกการผลิตแน่ๆ เตรียมตัวตกงานและหางานใหม่กันได้แล้ว!) แต่ว่าโรงงานแห่งนี้ก็มีประสิทธิภาพมาก ถือว่าเป็นแรงงานระดับโลก และเป็นเคลือข่าวของซับพลายเออร์ที่ไม่เป็นสองรองใคร (นั่นแหละคือสไตล์การหาผู้ซื้อรายใหม่ของเขาหละ)" Bill Brady พูดปลอบใจคนงานชาวอเมริกันที่กำลังจะตกงานไม่ต่ำกว่า 1,200 คนในโรงงานแห่งนี้ว่า เขาและเจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังดำเนินการวางแผนหาผู้ผลิตรายใหม่เข้าไปซื้อโรงงานแห่งนี้ (ก็แสดงว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครรับซื้อนะสิ จะซื้อช้าหรือเร็วนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับญี่ปุ่น เพราะได้ตัดสินใจปิดโรงงานยกเลิกการผลิตไปแล้ว และย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยแทน หมายความว่าไง? ก็หมายความว่าที่ประเทศไทยก็จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ และที่สหรัฐฯก็จะมีการตกงานเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้เช่นกันนะสิครับท่าน ฮ่าๆๆ) พอเขาทำอะไรญี่ปุ่นในกรณีนี้ไม่ได้ เขาก็หาเรื่องเล่นงานไทยด้วยข้อหาการค้ามนุษย์ สารพัดข้ออ้างที่เขาจะนำมากดดันเรา ตราบใดที่ไทยยังไม่ยอมให้เขาจูงจมูก ไม่ยอมทำตามใจเขา เขาก็จะหาเรื่องอยู่อย่างนี้ร่ำไป ถ้าบอกว่าอเมริกาอยากได้สนามบินภูเก็ต งั้นไทยยกให้เลย เออ… แบบนี้รับรองได้เลยว่าไทยไม่มีทางได้เทียร์ 3 แน่นอน คนไทยยอมไหมหละ? ฝันไปเหอะ แต่โปร-อเมริกานี่คงจะเห็นด้วยกับจักรวรรดิเฮเกนะ The Eyes 28/07/2558 ---------- http://en.people.cn/business/n/2015/0727/c90778-8926948.html
