บทความแปลกและน่าคิด........สงครามธุรกิจยุคใหม่ สู้กับ"อะไรก็ไม่รู้"

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย kokkai, 31 ต.ค. 2015

  1. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    อ่านบทความเรื่อง “แบงก์ต้องเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี” ของ “สุดใจ ชาญชาตรีรัตน์” ใน “ประชาชาติธุรกิจ” วันก่อนแล้วอึ้งไปเลยครับ

    เมื่อนายแบงก์ใหญ่บอกว่าโลกการเงินวันนี้กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก “เทคโนโลยี”

    ไม่ใช่แค่ “ดิจิทัลแบงกิ้ง” แต่ยังไปไกลกว่านั้น

    ถามว่าคืออะไร

    นายแบงก์ทุกคนตอบเหมือนกันก็คือ “ไม่รู้”

    ความน่ากลัวของสงครามครั้งนี้ก็คือ เขาไม่รู้ว่ากำลังสู้อยู่กับอะไร

    คู่แข่งของเขาไม่ใช่แบงก์ด้วยกันแล้ว

    แต่เป็นอะไรก็ไม่รู้

    ---------------------------------------------------------------------------
    โลกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว

    และยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

    ยังไม่นิ่งครับ

    ในอดีตคนที่เริ่มต้นก่อนคือ คนที่ได้เปรียบ

    เพราะมีฐานที่มั่นและฐานลูกค้าเหนือกว่ารายใหม่

    แต่วันนี้บางทีคนที่โชคดี คือ คนที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ

    เพราะสามารถเดินตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้เลยโดยไม่มีภาระ
    http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2015/10/31/สงครามธุรกิจยุคใหม่-สู้/


     
  2. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
    เทคโนโลยีนี้ตามแทบไม่ทัน วันนี้เป็นระดับสุดยอด ไม่กี่ปีก็เป็นขยะ
     
  3. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    ผมยังชอบอีกบางช่วง บางตอนครับ
    -------------------------------------------------------
    การจะขยับไปสู่รูปแบบใหม่ ๆ ก็ไม่ชัดว่า “ความเปลี่ยนแปลง” นั้นเป็น “ของจริง” หรือ “แฟชั่น” ที่บูมแบบชั่วข้ามคืน

    ตอนนี้คนที่ทำธุรกิจคงต้องใช้วิธีการปรับตัวแบบเดินใน”ความมืด”

    เมื่อเราไม่รู้ว่าในความมืดมีอะไร

    เราก็ต้องค่อยๆก้าว หยั่งขาลงช้า ๆ

    ถ้าเจออะไรไม่ชอบมาพากล จะได้ชักขากลับได้ทัน

    จะปรับตัวแบบวู่วามไม่ได้เลย

    เพราะคู่แข่งใหม่ในวันนี้

    คือ อะไรก็ไม่รู้

    น่ากลัวจริง ๆ
    ----------------------------------------------------------------
    แต่ก็แปลกที่อ่านบทความนี้แล้ว ผมกลับนึกถึงคำสอนทางศาสนาพุทธ ในเรื่องความไม่ประมาท ความเป็นอนิจจัง
     
  4. สับปรับ

    สับปรับ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    27 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    574
    แต่ผมเชื่อว่าคนจะย้อนกลับไปใช้วิถีชนบทมากขึ้น
     
  5. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    อธิบายหน่อย ได้ไหมครับ ?
     
  6. สับปรับ

    สับปรับ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    27 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    574
    ผมเห็นคนแถวบ้านผมกลับมาถิ่นเดิมกันมากขึ้น คนที่ไปอยู่บางกอกแต่หนุ่มแต่สาว พอแก่ตัวก้อกลับมาบ้านกันหมด สิ่งที่ได้ยินบ่อยๆคือเบื่อ ไม่ค่อยมีพี่น้องเพื่อนฝูง อากาศไม่ดีๆลๆ
     
  7. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    เวลาผมหาความรู้ด้านการเกษตร ในยูทูป
    คนที่เป็นวิทยากร หรือเกษตรกรตัวอย่าง ที่สละเวลาให้ความรู้กับบุคคลทั่วไป
    โดยที่ตัวท่านเหล่านั้น ก็ดูมีความสุขกับวิถีชิวิตของตัวเอง(เหนื่อย แต่มีความสุข)
    สิ่งที่ผมได้ยินท่านเหล่านี้กล่าวเป็นประจำคือ การน้อมนำเอาปรัชญาวิถีชีวิตแบบพอเพียงของในหลวง มาเป็นต้นแบบ
    ผมว่าพระเจ้าแผ่นดินของเรานี้ พระองค์ท่านช่างมองการณ์ไกลจริงๆ
     
    maya, ต้นหอม, มิติใหม่ และอีก 6 คน ถูกใจ
  8. Strangerman

    Strangerman อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    25 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    885
    ผมมองว่า ทุกวันนี้การพัฒนาไม่ใช่สิ่งไม่ดี แต่เราต่างหากที่ต้องเลือกและตีโจทย์คำว่าพอเพียงมาปรับใช้กับตัวเราเองครับ

    พอดีนั่งอ่านเวปไปเรื่อยๆ ดันไปเจอกูรูตนนึง ใช้คำนี้คงไม่ผิด วิจารณ์คนที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงซะเละเทะเลย แต่ตนเองแก้ผ้าโชว์หัวนมดำๆ ซะงั้น เหอๆ
    ไม่อยากตัดแปะให้เสียเวลาคนอ่านนะครับ ตาม Link ไปเลยถ้ามีเวลาครับ

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1411041439

    แหล่งซ่องสุมของเหล่ากาสรแดงสินะ ฮ่าๆๆ ไม่แปลกใจเลยที่มันไม่เคยเข้าใจคำว่าพอเพียง
     
    maya, มิติใหม่, kokkai และอีก 2 คน ถูกใจ
  9. ปู่ยง

    ปู่ยง อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,820
    สงครามชิงแหล่งพลังงานครับ

    ถ้าเราย้อนกลับไปสู่วิถีธรรมชาติได้
    เราจะไม่เข้าไปสู่วังวนของสงคราม
     
    kokkai likes this.
  10. สับปรับ

    สับปรับ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    27 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    574
    เรื่องธนาคาร ผมรู้แค่ว่าสมัยก่อนธนาคารจะรับฝากเงิน-ปล่อยเงินกู้ แค่นั้นจริงๆ
    แต่สมัยนี้ไม่รุเขาเป็นอะไร ขอร้องให้ผมทำประกันชีวิต-อุบัติเหตุ-ขอโหวตการบริการ -ทำบัตรสินเชื่อๆลๆ
    เมื่อก่อนใครทำงานแบงค์ ว่ากันว่าเป็นคนมีหน้าที่การงานดีมาก
    มาตอนนี้ไม่ต่างจากคนขายประกัน
    ส่วนเรื่องธุรกิจของคนเมืองในมุมมองเด็กบ้านนอก ผมสังเกตุ และเคยถาม คนเมืองที่ผันตัวกลับมาบ้านเกิด หลายๆคนเขามีความคิดที่จะหาเงินให้ได้เยอะๆทำทุกทางเพื่อให้ได้เงินมา เพื่อจะได้กินของแพงๆขับรถหรูๆอยู่บ้านใหญ่ๆ
    พอแก่ตัวไป เขากลับไร้เพื่อน เพราะเหลี่ยมจัด เป็นนิสัย
    ร่างกายอ่อนแอเพราะกิน-นอน นั่งสบายในห้องแอร์
    เป็นเบาหวาน-ความดัน-ภูมิแพ้ เพราะกินอาหารสังเคราะห์และสารเร่งเคมี
    คนบางคน เลยเลือกออกจากเมืองมาทำธุรกิจออนไลน์ดีกว่า ไม่ต้องทนรถติดในเมือง มีเวลาเฮฮากับพ่อแม่พี่น้องตามบ้าน ขี้เกียจวันไหนก้อหยุดได้ จริงมั้ย!
     
    มิติใหม่, Alamos, kokkai และอีก 5 คน ถูกใจ
  11. Maratiraj

    Maratiraj อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    11 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    986
    ถ้ามองที่เศรษฐกิจโลกที่เป็นภาวะ over supply การผลิตล้น ผู้บริโภคก็เงินฝืดไม่อยากเอาเงินมาจับจ่ายใช้สอยอีก
    พวกภาคธุรกิจตอนนี้อยู่ลำบาก
     
    AlbertEinsteins, ต้นหอม และ Alamos ถูกใจ
  12. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    อย่าว่าแต่คนบ้านนอก กลับ บ้าน คนกรุงเทพฯ ที่เรารู้จักหลายคน ก็เริ่ม ออกไปสู่ต่างจังหวัด แลัว ทำวิถี เศรษฐกิจพอเพียงกัน
     
    Alamos และ kokkai ถูกใจ.
  13. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    เมื่ออายุมากขึ้น คนที่คิดได้(แต่บางคนก็ยังคิดไม่ได้) จะเริ่มรู้ว่า
    การทำงานแล้วมีความสุข จิตใจแจ่มใส มันคือกำไรมากล้น มากกว่ากำไรที่เป็นเงินทองทรัพย์สิน
    บทความที่ผมยกมาตามกระทู้นี้ ผมว่าเกิดจากการเสพติดระบบทุนนิยม
    การทำงานทุกอย่าง เขาจึงเล็งเอาเฉพาะกำไรที่จับต้องได้(เงินตรา)
    และต้องคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ปีนี้ ปีหน้า ปีต่อๆไป จะต้องทำกำไรเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม
    เมื่อมีปัจจัยที่เขาควบคุมไม่ได้ คาดการณ์ไม่ถูกโผล่ออกมา เขาจึงเป็นทุกข์
    ซึ่งผิดกับวิถีชีวิตแบบพอเพียง เพราะแค่ทำงานวันนี้ให้ดีที่สุด เราก็พอใจแล้ว มีความสุขแล้ว
    วันต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เราก็รับได้ เพราะเราไม่ยึดติดว่าต้องทำกำไรให้ได้เท่านั้นเท่านี้
    แค่ทำงานแล้วมีความสุข สุขภาพดี เราก็ถือว่านั่นคือกำไรที่เพียงพอแล้ว
     
    Last edited: 10 พ.ย. 2015
    ต้นหอม, Alamos และ กีรเต้ ถูกใจ
  14. กีรเต้

    กีรเต้ อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    11,917
    Location:
    เชียงใหม่
    ใช่เมื่ออยู่ต่างจังหวัด ชีวิตเรียบง่าย ผู้คนบ้านใกล้เรือนเคียงเป็นมิตร คอยดูแลกัน ซึ่งไม่พบในสังคมกรุง ทำให้ชาวเมืองบางคนเริ่มติด และเริ่มคิดได้ หลายคนใช้ชีวิตอย่างสงบ จะสังสรร หรือ เข้าสังคม ก็เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
     
    kokkai likes this.
  15. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
  16. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    เลิกใช้เงินสด มันทำลายองค์กรอาชญากรรมได้ไงอะครับ
    หรือทำให้การใช้เงินทุกครั้งมีหลักฐาน พอจะตามสืบได้
    ผมอ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจว่า มันมีความสัมพันธ์กันยังไง?
     
  17. สับปรับ

    สับปรับ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    27 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    574
    ตอนนี้ บ้านผมกำลังมีปัญหานายทุนปั่นราคาที่ดิน ซื้อ-ขายที่ดิน ห้างชั้นนำลงมาทุบตลาดชุมชนถึง3เจ้า ธนาคารแข่งกันปล่อยกู้โดยเอาเม็ดเงินและข้อเสนอที่มันดูว่าดี โดยไม่สนใจว่าคนนั้นจะอ่านหนังสือออกหรือไม่ และกำลังสร้างสนามบินโดย
    นายทุน โดยทั้งหมดนี้นักการเมืองท้องถินเป็นใจ เพียงบอกว่าเอาความเจริญมาสู่ชุมชน หารู้ไม่ว่า เขากำลังขุดบ่อล่อปลาเท่านั้น
     
    kokkai likes this.
  18. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479
    จะทุนนิยม จะสังคมนิยม จะเศรษฐกิจพอเพียง
    จะประชาธิปไตย จะคอมมูนิสต์ จะรัฐประหาร
    มันคือวิธีความเป็นมนุษย์
    และมนุษย์ย่อมต้องสรรหาสิ่งที่สนองความอยากและสำคัญที่สุดในความคิดสำหรับตัวเองและความคิดตัวเองเสมอ

    ถ้าคุณชอบการแข่งขันกดดัน คุณก็อยู่ในที่ๆแข่งขันกดดัน

    ถ้าคุณอยากประชดสังคม คิดว่าแก้ผ้าโชว์หัวนมดำ แล้วคนจะสนใจ คุณก็จะไม่ลังเลที่จะทำ เพราะคุณคิดว่าดีที่สุดสำหรับคุณเอง
    แต่ถ้ามันผิดกฏหมายตำรวจจะไปจับเข้าคุก คุณก็อาจคิดว่าไม่ทำดีกว่าเพราะคุณจะเดือดร้อน
    หรือถ้ามันผิดกฏหมายตำรวจจะไปจับเข้าคุก แต่คุณคิดว่าทำแล้วมีคนนับหน้าถือตามีชื่อเสียงเลื่องระบือ ผิดกฏหมายช่างมัน คุณก็เลือกที่จะทำ

    สุดท้ายทุกทางเลือก ทุกการกระทำ ก็สนองตัณหา ความอยาก กิเลส สติตัวเองทั้งนั้น
     
    Last edited: 7 พ.ย. 2015
    Redbuffalo010 และ สับปรับ ถูกใจ.
  19. kokkai

    kokkai อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    6 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    8,076
    สุดท้ายทุกทางเลือก ทุกการกระทำ ก็สนองตัณหา ความอยาก กิเลส สติตัวเองทั้งนั้น
    ถูกต้องครับ
    แต่ถ้ามองให้ลึกๆ วิถีชีวิตแบบพอเพียง ผมว่าน่าจะเป็นการใช้ชีวิตใกล้เคียงกับทางสายกลาง ตามคำสอนของศาสนาพุทธมากที่สุด
     
    AlbertEinsteins likes this.
  20. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479
    ผมไม่อยากฟันธง เพราะความคิดความต้องการและกิเลสของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และคนบางคนมนุษย์บางคนก็ไม่พร้อมยอมปรับยอมรับดื้อดึง เหมือนพุทธองค์ที่บอกว่าคนเราเหมือนบัวสี่เหล่าสี่กอ

    บางคนในความคิดเขาไม่สามารถอยู่แบบพอเพียง โลว์โปรไฟล์ได้ บางคนชีวิตนี้แพ้ไม่ได้ บางคนต้องอวดภูมิให้ได้
    ดังนั้นทุกคนก็จะแสดงแก่นในแต่ละส่วนสนับสนุนตัวเองออกมาเสมอ อันนี้ไม่ว่ากัน ขออย่างเดียวอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน

    เช่นสิ่งที่คุณแสดงความเห็นออกมาน่าจะตอบโจทย์ความเป็นมนุษย์ความเป็นสัตว์โลกมากที่สุด แต่สุดท้ายก็อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนอีกกลุ่มอีกแนวคิดอยู่ดี เพราะกิเลสแห่งความเป็นมนุษย์

    ผมเชื่อว่า
    สุดท้ายจะเข้าใจและรู้ซึ้งก่อนสิ้นลมหายใจว่าอะไรคืออะไร
     
    สับปรับ, kokkai และ Redbuffalo010 ถูกใจ

Share This Page