ไปเจอเอาบทความนี้เข้า เห็นว่าน่าสนใจ... ----------------------------------------------- http://akecity3.blogspot.com/2016/03/blog-post.html ----------------------------------------------- เรื่องความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละคนนั้น คงไปห้ามกันไม่ได้ เพียงแต่การจะเลือกเชื่อ เลือกศรัทธา ควรใช้สติปัญญาและศึกษา ปฏิบัติตาม พระธรรม คำสอน...ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใส… การทำบุญด้วยหวังผลกำไร ได้ผลตอบแทน ได้ไปสวรรค์ชั้นสูงๆ ตามปริมาณของปัจจัย และสิ่งของนั่น... ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธองค์แน่นอน...
ผมเอง มีเด็กตรงข้ามบ้าน คนหนึ่ง เป็นคนเหลือขอ งานการไม่ค่อยใส่ใจ แต่ว่า เวลากินใช้เต็มที่ ขอคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย ทำมาหากิน ไม่ค่อยอยู่นาน เพราะติดลักเล็ก ขโมยน้อย รวมถึงความเกียจคร้าน ไปทำงานสายโด่ง เข้าคุกก็เคยมาแล้ว (คดีเสพยา) ผมเกริ่นถึงบุคคลคนนี้ เพราะว่ามีครั้งหนึ่ง เขาได้ลงทุนไปบวช จำพรรษา อยู่พักใหญ่ ผมใช้คำว่า "ลงทุน" เพราะแกขอญาติผู้ใหญ่ ไว้ เพื่อให้ได้เข้าไปอยู่ในวัด ผมได้ยินกับหู ตอนที่เพื่อนแก ซึ่งเป็น คนขายของเก่า คุยกับแก ตอนเป็นพระแล้วว่า " ไง หลวงพี่ ได้เงินทำบุญมาเยอะไหม โห ท่าจะสบายกว่า ไปเอาของมาขายอีกนะ " เพื่อนแก พูดถึงตอนที่ แกมักจะลักขโมยของ ชาวบ้านมาขายของเก่า กับเพื่อนบ้าง หรือ ขโมยของใหญ่หน่อย เช่น จักรยานยนต์ ไปขายบ้าง จริง ๆ แล้ว แกก็บวชได้ไม่นานหรอก ผมคิดว่า คงไปทำให้วัดเสียหาย ไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า การบวชเป็นพระ ก็กลายเป็นช่องทางทำมาหากิน ของคนริ จะรวยทางลัด กับเขาเหมือนกัน ก็อนาถใจนิดหน่อย ผมไม่ค่อยจะเชื่อหรอก ว่า คนรวยที่คิดว่า การทำบุญมาก ๆ จะได้ขึ้นสวรรค์ ก็เลยปันเงิน สัก 10% หรือ 20% จากเงินที่หาได้ แล้วก็อนุมานว่า น่าจะเพียงพอให้ไปสวรรค์ได้ ถ้าทำบุญกับพระ โดยเฉพาะกับพระดัง ๆ เรียกว่า กะสบาย ทั้งชาตินี้ ชาติหน้าเอาเลย โดยไม่ต้องสนหรอก ว่าชาตินี้ หาเงินมายังไง ถ้าอะไร ๆ มันง่ายแบบนั้น สวรรค์ คงล้น ไปด้วยคนโลภ ค่อนข้างแน่
เห็นด้วยกับกระทู้อย่างยิ่งครับ ฆราวาสก็มีส่วนที่ทำให้พระเสียพระเหมือนกัน ตอนเด็กๆที่บ้านจะทำกับข้าวไปเลี้ยงเพลที่วัดใกล้บ้านเป็นครั้ง แม่ผมจะทำอาหารด้วยความปราณีตบรรจง ขณะพระฉันแม่จะคอยดูว่าพระท่านชอบอาหารที่แม่ทำไปถวายหรือไม่ ถ้าพระฉันอาหารของแม่หมดขณะทีอาหารที่บ้านอื่นทำไปถวายยังเหลืออยู่ แม่จะดีใจจนออกนอกหน้า สะกิดให้ผมดูว่า"เห็นไหม เห็นไหม?" นั่นเป็นยุคสมัยที่วัตถุยังไม่มีอิทธิพลมากเท่าทุกวันนี้ เดี๋ยวนี้แค่อาหารที่ปรุงแต่งอย่างปราณีตบรรจงคงไม่พอเสียแล้ว เพราะความพอใจของพระมีราคาแพงขึ้นจนแม้ฆราวาสฐานะดีๆยังหาไว้ประดับบารมีไม่ได้
บวชแล้วให้มาอยู่ที่นี่ วันพระยังต้องบิณฑบาตเพื่อนำมาฉันเพราะไม่มีศรัทธามาทำบุญ ทุกเช้าเดินถนนลูกรัง+แอสฟัลท์บิณฑบาตไปกลับ 7 ก.ม. เท่านั้นเอง
กลับบ้านอยากตักบาตรร่วมกับแม่ จะออกไปซื้อกับข้าว แม่บอกว่าให้เงินท่านก็ได้ จะได้ไม่ลำบาก ผมเลิกตักบาตรมานานแล้ว แค่ฝากบุญกับคนอื่นเขาตอนนี้ใครจะไปวัดก็ร่วมถวายน้ำสักโหล