นโยบายจำนำข้าว.... ควรเอาผิดกับอดีตนายกปูยิ่งลักษณ์หรือไม่ครับ คำถามง่ายๆสั้นๆ ตรงประเด็น ควร หรือ ไม่ควร
ก็ให้ ปปช สตง อคส ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปซิ่ครับ... แล้วถ้านายกตู่นิ่งเฉยจนเสียหายหลายแสนล้านบาท ก็ฟ้องถอดถอนได้เลยครับ...
มันเอาเรื่องต่างกรรม ต่างวาระมาผูก กันมั่วไปหมด นี่แหละ สันดานไพร่แดง กรณี อีปู คนในสังคม ทั้ง ปปช. ทั้ง สนง. เค้าเตื่อนแล้วว่า มันมีการโกงกัน จี ทู จี ก็เก๊ อีปูยืนยันหนักแน่น ว่าไปดูมาแล้ว เห็น MOU แล้วเป็นของจริง แล้วก็เดินต่อ ทีนี้ เค้าไปตรวจดูแล้วไปใช่ของจริง แสดงว่า อีปู รู้เห็นเค้าโกงกัน แล้วยังเสือกเดินต่อ ไม่ยอมยับยั้ง สมควรโดนเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าไปถามยิ่งลักษณ์ตอนนี้ นางก็จะตอบ(อ่านโพย)ว่า....... "เรื่องนี้ต้องไปถามคุณธนูทวย คงควรคอย ว่าควรหรือไม่ควร"
แห๋มชอบเอาคำพูดมาตัดสั้นๆ โดยไม่ดูบริบทว่าผู้พูดต้องการสื่ออะไร มาๆเดี๋ยวผมจะสอนให้ ตั้งใจฟังนะ... http://image.ohozaa.com/view2/y6U150EA28buBxbC
ควรนิดนึงครัชชช เพราะ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำ แต่ดันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เลยต้องโดนนิดนึงครัชชชช
ควรครับเพราะการกระทำตามกฎหมายอาญาหมายความรวมถึงการงดเว้นการกระทำด้วยนี่ นายกปู รู้อยู่แล้วว่าหากดำเนินนโยบายนี้ต่อจะเกิดความเสียหายแต่ก็ยังดำเนินนโยบายจำนำข้าวต่อ มาตรา 59 บุคคลจะต้อง “รับผิด” ในทางอาญา ก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาทหรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิด แม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา กระทำโดยเจตนาได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกัน ผู้กระทำย่อมประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริง อันเป็นองค์ประกอบของความผิดจะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ กระทำโดยประมาทได้แก่ กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้น จักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ การกระทำให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้น โดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย ดูตาม วรรค5นะครับ มาตรา 59วรรคท้ายการกระทำให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้น โดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำ เพื่อป้องกันผลนั้นด้วย -การกระทำให้หมายความรวมถึง การให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้น โดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย -งดเว้นกระทำการ มีทั้งกรณี เจตนา และประมาท -งดเว้นกระทำการ โดยมีเจตนากระทำผิดแล้ว ผลไม่เกิด รับผิดฐานพยายามกระทำผิดได้ -งดเว้นกระทำการ มีการกระทำโดยพลาดตาม ม 60 ได้ หากผู้กระทำมีหน้าที่ป้องกันผลต่อผู้ได้รับผลร้ายด้วย -ความผิดที่ต้องการเจตนา หากขาดเจตนา เพราะไม่รู้องค์ประกอบความผิด ไม่ต้องรับผิด เว้นแต่กรณี ความไม่รู้เกิดจากความประมาทตาม ม 62 ว 2 -งดเว้นกระทำการ มีตัวการร่วมตาม ม 83 ได้ -งดเว้นกระทำการ มีผู้สนับสนุนตาม ม 86 ได้ -งดเว้น เป็นการตัดโอกาสผู้อื่นเข้าช่วย ผู้เสียหายแล้ว เช่น เข้าช่วยแล้ว หยุดช่วย เป็นงดเว้นกระทำการ
แปลว่าถ้ายื่นแล้ว ต่อให้โครงการแย่แค่ไหนก็ต้องทำ? พอทำแล้วก็ไม่ผิด? ถ้ายืนยันอย่างนั้นช่วยยกข้อกฏหมายที่เลิกโครงการที่ยื่นไปแล้วไม่ได้มาให้ดูหน่อยครับ
กับเรื่องที่หมดอายุความไปแล้วยังทำหมาหมู่มากกว่านิ..สุกำพล-ยิ่งลัก-ทักษิณ ถอดถอนในสิ่งที่ไม่มีให้ถอดถอน เหอๆๆ
ถ้าคิดแบบพระยา โครงการ(ที่เรารู้อยู่แล้วว่าใครทำ)ที่ชอบอ้างว่าปชป.ทำ ก็ไม่ผิดอะไรเลยซิครับ เพราะปชป.ก็ยื่นโครงการก่อนทำด้วย แล้วจะมานั่งจับผิดด่าเขาทำไหม? มัน2มาตรฐานหรือเปล่า?
จ้างผู้จัดการมาคนนึง ให้บริหารบริษัท พอถึงเวลา มีโปรเจคนึงขาดทุนย่อยยับ บรรลัยศักดิ์ มีคู่ค้าฆ่าตัวตายไป สิบกว่าคน ผู้จัดการคนนั้น ควรรับผิดชอบอะไรบ้างไหม . . . . อ้อ ประเทศไม่ใช่บริษัทสินะครับ ใช่ นายยก ผู้จัดการประเทศ ควรจะมีความรับผิดชอบ + จริยธรรม + ความซื่อสัยต์ มากกว่าผู้จัดการบริษัท ...แน่นอน
ประเทศไม่ใช่บริษัท แต่ไปเทียบเคียงกับการบริหารบริษัททำซากอะไรละครับ อ้างเหตุผลที่ไม่อาจเชื่อมโยงไปสู่ข้อสรุปดังที่อ้าง... แบบนี้ละที่เขาเรียกตรรกะกุดๆกากๆ
เจ้าพระยาหน้าตาดีช่วยไปให้ความรู้พวกนี้ที... ไม่รู้ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ทักษิณบริหารประเทศในรูปแบบบริัษัทเอกชน "ผมเป็นผู้ลงทุน ทุกคนต้องทำงานตามที่ผมรับมอบหมายให้ เจ็บป่วยไข้ผมก็มีบริการพิเศษผลประกอบการที่บริษัทหาได้มาทุกคนจะได้รับในรูปแบบของการเป็นหุ้นส่วนและเงินเดือน ส่วนผลกำไรผมในฐานะผู้บริการ จะเป็นผู้จัดการเอง ซึ่งผมเองใส้ไม่ได้ตีบตันและก็ต้องการผลตอบแทนและเงินเดือนเหมือนทุกๆ คน" http://pantip.com/topic/30768494
ไปเทียบเคียงกับการบริษัททำซากอะไรละครับ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1314517096&grpid=01&catid=01 "นิวัฒน์ธำรง" ชี้แจงสวนทางกับความเชื่อของคนทั่วไปว่าว่า "การปกครองประเทศเหมือนการบริหารบริษัท เราต้องกำหนดกลยุทธ์ เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ทำงานให้สำเร็จ ทำได้เท่านี้ประเทศก็สำเร็จ นี่คือจุดเด่นที่นักการเมืองอาชีพไม่มี การปกครองประเทศวัดกันที่งาน การปกครองประเทศจะทำงานลอยตามน้ำไปเรื่อยไม่ได้"
เจ้าพระยาพูดยังงี้ก็ด่าปูกับพรรคซิครับ เพราะปูไม่มีประสบการณ์การเมืองเลยมีแต่ประสบการณ์ด้านธุรกิจ แล้วพรรคส่งมาสมัครเป็นนายกมาทำไม คิดว่าเป็นบริษัทหรือสนามเด็กเล่นหรือไง
ตอแหลจริงๆค่ะ เค้ามีเอกสารตั้งมากที่บอกว่ามันโกงกันยังไง มีใครโกงบ้าง แถมยังมีคนส่งเอกสารเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรอีก ยังมาแถลงภาพบิดเบือนว่า หาไม่ได้ว่าโกงยังไง พวกนี้ไม่รับรู้เรื่องจริงหรอกค่ะ รู้แต่เรื่องโกหกไปวันๆ
ก็บอกเองประเทศไม่ใช่บริษัท เป็นคำอ้าง การพูด ความคิด ของB\bankyly โน้นครับ แล้วทำไมเขานำไปเทียบเคียงกับการบริหารบริษัท เคเข้าจัยย
ไหนครับเอกสารที่เขาบอกว่า มันโกง ไหนครับเอกสารเขาเล่าว่า มันโกง ไหนครับเอกสารที่คุณได้ยินมาว่า มันโกง กร๊ากกกกกกกกกก
http://news.sanook.com/1620253/ วันนี้(27 มิ.ย.)วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดังได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเผยทหารได้ตรวจสอบโกดังในโครงการจำนำข้าว ที่บางกระดี อ.เมือง ปทุมธานี พบมีข้าวหายไปกว่า 90,000 กระสอบจากทั้งหมด 1.3 แสน กระสอบ โดยใช้วิธีทำนั่งงร้านเพื่อซ่อนข้าวที่หายไปและยังตรวจพบข้าวคุณภาพต่ำปะปนอีกด้วย มีใจความดังนี้ งานนี้ มีเรื่อง.....ทหาร บูรพาพยัคฆ์ จาก กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(ร.2รอ.) บุกเข้าตรวจโกดัง สต็อกข้าว ในโครงการจำนำข้าว ที่ บางกระดี อ.เมือง ปทุมธานี พบข้าวหายเพียบ จนน่าตกใจ.... ผบ.ร.2รอ.เผย จาก1.3แสน กระสอบ หายไปกว่า9หมื่นกระสอบ เอานั่งร้านบังตาทับกระสอบไว้ เผย ชาวบ้านแจ้งทหาร แถมข้างในกระสอบ เป็นข้าวคุณภาพต่ำ เมล็ดหัก.....งานนี้ ต้องมีสอบสวน คสช.เกาะไม่ปล่อยแน่ เพราะการทุจริตในโครงการ จำนำข้าว เป็นเหตุผลหนึ่ง ของการรัฐประหาร
ผมพูดถูกแล้วครับ เหตุผลของคุณ B\bankyly นั้นคือยกตัวอย่างเปรียบเทียบบริษัทกับประเทศเพื่อให้เข้าใจง่าย ในความหมายของผมคือตรงๆตามคุณพูดนั้นแหละว่าเทียบประเทศกับบริษัทไม่ได้ แล้วทำไมเขามั่นใจว่าคนที่เคยทำแต่ธุรกิจถึงจะสามารถบริหารการเมืองได้ ที่พูดเพราะคุณชอบแกล้งโง่เรื่องคำประจำ แล้วก็ดิ้นไปได้เรื่อยๆ
ผมไม่เข้าใจสมาชิกเล้ย ก็รู้อยู่เเล้วว่ามันมีธงก็ไปตอบมันอีก กี่ครั้งเเล้วที่มันหาคำตอบไม่ได้เเล้วเผ่นหนีไปไม่เบื่อหรือไง หรือจะโปรดสัตว์ก็ควรดูด้วยว่าเป็นบัวขั้นไหนนะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
ตอนแรกผมก็คิดแบบนี้ครับ แต่บอร์ดมีควายแดงแค่สองตัวครับ ถนัดแปะแล้วชิ่งไปตัวนึง เลยเลี้ยงไว้ดูเล่นครับ เวลาหงุดหงิดก็มาระบายกับมันครับ มันอยู่เพจควายแดงมันก็ครื้นเครงในกะลาครับ ออกมาข้างนอกจะโชว์พาว แต่ดันโชว์โง่ครับ
ความไม่ชอบมาพากลในการส่งออกข้าวจีทูจีของกระทรวงพาณิชย์ในโครงการรับจำนำข้าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึก โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณี บริษัท GSSG IMP AND EXP CORP ที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรงพาณิชย์ อ้างว่าเป็นผู้รับมอบข้าวรายใหญ่จากประเทศจีน แต่ภายหลังถูกเปิดโปงว่าเป็นบริษัทที่ถูกอุปโลกน์ขึ้น เพราะจริงๆ แล้วมีการส่งต่อข้าวลอตใหญ่ให้บริษัทสยามอินดิก้าของไทย ที่มี “เสี่ยเปี๋ยง” หรือนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร นักธุรกิจผู้เคยมีคดีฟ้องร้องเรื่องข้าวสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของ ล่าสุด คณะทำงานตรวจสอบคดีทุจริตจำนำข้าวของ ป.ป.ช. มีการเรียกเอกสารดำเนินการทั้งหมดในโครงการนี้จากทางกระทรวงพาณิชย์ตามคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เริ่มจาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ยื่นคำร้องเมื่อเดือน ธ.ค. 2555 โดย นพ.วรงค์ได้นำหลักฐานเส้นทางทางการเงินที่ขุดคุ้ยพบว่าการเงินที่ชำระค่าข้าวหลายพันล้านบาทนั้นไม่ได้มาจากรัฐบาลจีนหรือบริษัท GSSG IMP AND EXP CORP ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน แต่เป็นเงินของบริษัทสยามอินดิก้าทั้งสิ้น มีการโอนไปมาหลายทอดผ่านธนาคารพาณิชย์ในประเทศหลายสาขา รวมถึงพบเงินอีกส่วนหนึ่งถูกโยกไปยังบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกเงินด้วย นอกจากนั้น ทางคณะทำงาน ป.ป.ช. ยังมีการตรวจสอบข้อสังสัยกรณี บริษัท GSSG IMP AND EXP CORP เป็นบริษัทของรัฐบาลจีนจริงหรือไม่ โดยมีการเรียกเอกสารใบรับรองการจดทะเบียนบริษัท GSSG IMP AND EXP CORP มาจากกรมการค้าต่างประเทศ พร้อมกันนั้น ทาง ป.ป.ช. ได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญทางด้านประเทศจีนมาร่วมยืนยันความถูกต้องของเอกสาร ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฎว่าเอกสารของบริษัทดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าบริษัท GSSG ทำธุรกิจขายข้าว แต่ขายอุปกรณ์เครื่องกีฬาและพลาสติก รวมทั้งไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนของรายชื่อผู้ถือหุ้น และไม่มีการเซ็นรับรองความถูกต้องของเอกสารตามกฎหมาย “ในเอกสารมีเพียงการประทับตราคำว่าบริษัท GSSG IMP AND EXP CORP เป็นรัฐวิสาหกิจของจีนจริง แต่ถือเป็นการประทับตราของทางบริษัท GSSG เอง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะปกติแล้วเอกสารราชการลักษณะนี้จะต้องมีการยืนยันความถูกต้องและมีตราประทับจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย คือสถานทูตจีนในประเทศไทยและสถานทูตไทยในประเทศจีน จึงถือเป็นเอกสารที่สามารถนำมาอ้างอิงประกอบการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.ได้” แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ระบุ ขณะเดียวกัน ในเอกสารที่กระทรวงพาณิชย์มอบให้ ป.ป.ช. ยังไม่มีการรับรองที่ชัดเจนว่า บริษัทดังกล่าวเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนในการทำสัญญาซื้อข้าวจีทูจีกับไทยจริงๆ เพราะตามหลักปฏิบัติสากลของรัฐบาลจีนจะมีระเบียบกำหนดไว้ว่า กรณีทำสัญญาซื้อขายธัญพืช รัฐบาลจะมอบให้ทาง “คอปโก้” ซึ่งเป็นหน่วยงานคล้ายกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้ดำเนินการ หรืออย่างสินค้ายางพารา จีนจะมอบให้บริษัทที่ให้ทำในนามรัฐบาลจีน คือ “ชิโนเคม” แต่ถ้าเป็นเรื่องการซื้อธัญพืชภายในประเทศ ก็จะให้ “เหลียงอิ๋ว” หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์จีน เป็นผู้กำหนดราคาสูงสุดในการรับซื้อจากเกษตรกร ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่บริษัท GSSG ดังกล่าว ไม่ใช่ของรัฐบาล เพราะถ้าเป็นของรัฐบาลจริงก็จะระบุอำนาจในการดำเนินการแทนไว้ด้วย http://thaipublica.org/2013/05/g-to-g-6/
http://www.straitstimes.com/breakin...s-deal-buy-thai-rice-due-graft-probe-20140204 BANGKOK (REUTERS) - China has cancelled a government-to-government deal to buy 1.2 million tonnes of Thai rice after Thailand's anti-corruption agency launched investigations into a state rice-buying scheme, the Thai commerce minister said. "China lacks confidence to do business with us after the National Anti-Corruption Commission started investigations into the transparency of rice deals between Thailand and China," Mr Niwatthamrong Bunsongphaisan told reporters. He said the government would open a tender to sell 400,000 tonnes of rice from state stocks next week. Industry experts estimate those stocks could be about 15 million tonnes. The government is desperate to get funds for the scheme because some farmers who have sold grain to the state have been waiting months for their money. The deal between Thailand and Chinese state enterprise Beidahuang was signed on Nov 20, for delivery starting in December. The shipment was delayed, however, after Prime Minister Yingluck Shinawatra dissolved Parliament in December. - See more at: http://www.straitstimes.com/breakin...due-graft-probe-20140204#sthash.S79DkB9j.dpuf
เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เผยการขายข้าวแบบจีทูจี “ไทย-จีน” แค่ลงนามในหลักการ ส่วนการซื้อขายเป็นเรื่องของบริษัทไปตกลงกับไทย ลั่นไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตัน ตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง ยันซื้อจากหลายประเทศ ไม่ใช่แค่ไทย เลี่ยงตอบกำลังจะเป็นเครื่องมือบังหน้าทุจริต วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น.คณะโรงเรียนการเมืองของจีน นำโดยรองผู้อำนวยการการเมืองของจีน จากกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พร้อมกับทูตได้เดินทางมาเยือนพรรคประชาธิปัตย์ โดยรอง ผอ.การเมืองของจีน ได้บรรยายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยยืนยันว่า ผู้นำคนใหม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน และมีแนวคิดที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตเป็นสองเท่าตัว ภายใน 10 ปี และจะดำรงเป้าหมายจีดีพีของจีนโต 15% ต่อปี ทุกๆ ปี อีกทั้งจีนยังมีนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดความมั่งมีศรีสุขต่อประชาชน และเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงต้องการให้เกิดสันติภาพ ซึ่งเมื่อจีนมีศักยภาพเพียงพอ ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสันติภาพให้กับโลก จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.โรงเรียนการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนึ่ง คือ เป็นพรรคการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน พร้อมกับเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนนักเรียนการเมืองระหว่างกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มากขึ้น ซึ่งรอง ผอ.การเมืองจีน ก็เห็นด้วยในหลักการ นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวถึงการขายข้าวแบบจีทูจี ระหว่างไทยกับจีน ว่า เป็นประเพณีที่เกิดขึ้นมาหลาย 10 ปีแล้ว เพราะประเทศไทยผลิตข้าวมากที่สุด และขายข้าวได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกตลอดมา จึงมีการหารือกันขอให้จีนซื้อข้าวเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยให้มีรายได้ดีขึ้น ต่อมาก็มีการลงนามในข้อตกลงสนับสนุนค้าสินค้าเกษตร และสนับสนุนการค้าและวางแผนงาน 5 ปี ด้านการเกษตร สำหรับเรื่องข้าวถือว่ามีความสำคัญมากกว่ายางพารา และมันสำปะหลัง หรือผลไม้อื่น แต่ข้าวก็ถือว่าขายลำบาก แต่ตามประเพณีที่ปฏิบัติมา จีนก็เห็นว่า ควรที่จะสนับสนุน จึงลงนามในหลักการเรียกว่าระหว่างรัฐบาลเป็นในระดับหลักการเท่านั้น แต่ถ้าจะซื้อขายจริงๆ จะมอบหมายให้บริษัทไปหารือกับประเทศไทยโดยตรง ทั้งนี้ ทราบว่า มีการเซ็นสัญญากับบริษัทแล้ว โดยประมาณหลายแสนตัน แต่ไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตัน ตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง เพราะจีนไม่ได้ซื้อข้าวจากไทยประเทศเดียว จึงไม่ได้ซื้อมากมาย เพราะเราก็ไม่ได้ขาดข้าวอยู่แล้ว เพียงแต่ซื้อเพื่อปรับตามความต้องการของตลาดที่ชอบรสชาติข้าวไทย แต่บางครั้งก็ซื้อจากเวียดนาม รัสเซีย และอีกหลายประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทที่จีนมอบหมายให้ซื้อข้าวกับบริษัท จีเอสเอสจี กับไทย ใช่หรือไม่ เอกอัครราชทูตจีน กล่าวเลี่ยงว่า ไม่ได้มีบริษัทเดียว แต่มีหลายบริษัทประมาณ 4-5 บริษัท ซึ่งสัญญาซื้อขายก็ยังไม่ได้ยุติทั้งหมด ต้องตกลงกันต่อไป สาเหตุที่จีนเลือกซื้อข้าวไทยขณะที่ราคาสูงกว่าประเทศอื่น เพราะคุณภาพและรสชาติต่างกัน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทยมีชื่อเสียงในประเทศจีน โดยเฉพาะผู้บริโภคทางภาคใต้ของจีนชอบข้าวไทย แม้ราคาจะสูง แต่บริษัทเอกชนต้องคิดว่าคุ้ม ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ซื้อข้าวจากไทย เพราะทุกอย่างมีกลไกตลาดกำกับ เมื่อถามว่า สังคมกำลังสงสัยว่า จีทูจีในการขายข้าวระหว่างไทยกับจีน กำลังเป็นเครื่องมือบังหน้าในการทุจริตนั้นมองอย่างไร เอกอัครราชทูตจีน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ โดยกล่าวว่า ไม่ทราบ และอยากอธิบายว่า การซื้อข้าวจากไทยเป็นประเพณีที่ทุกปีต้องซื้อ ส่วนการเปิดแอลซี รัฐบาลจะไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของบริษัท เนื่องจากการดำเนินการของบริษัท หรือรัฐวิสาหกิจจะทำเอง รัฐบาลมีบทบาทเพียงแค่ชี้นำให้มีการซื้อขายเท่านั้น จากนั้นบริษัทจะไปตกลงกันเองกับประเทศไทย “ระบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้ซื้อ แต่มีบทบาทชักนำให้รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนเข้ามาซื้อเท่านั้น หลังจากนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแล้ว รวมถึงเรื่องการตกลงราคาก็เป็นเรื่องที่สองฝ่ายคุยกัน หลักการอยู่ที่กลไกตลาด บริษัทที่ซื้อไปต้องขายได้กำไร เพราะถ้าขาดทุนคงไม่ซื้อเพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วย เนื่องจากมีกฎเกณฑ์และระเบียบหลายอย่าง” นายก่วน มู่ ระบุ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000146326