คอลัมน์ : เศรษฐกิจ / วิเคราะห์เศรษฐกิจ เมื่อวานนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ก็คงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ภายในเดือนธันวาคมนี้ จะมีการปรับราคาพลังงานทั้งระบบ ทั้งก๊าซและน้ำมัน เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องแบกภาระมากเกินไป โดยแอลพีจีจะขึ้นไปอยู่ที่ 27 บาท ส่วนเอ็นจีวีจะขึ้นไปอยู่ที่ 16 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมัน น่าจะมีการปรับอัตราภาษีสรรพสามิต โดยภาษีสรรพสามิตในน้ำมันเบนซิน น่าจะลดลงมาเหลือลิตรละ 2 บาท 60 สตางค์ จากที่ปัจจุบันนี้จัดเก็บอยู่ที่ลิตรละ 5 บาท 60 สตางค์ ส่วนน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ จะลดภาษีสรรพสามิตลงมาเหลือ 2 บาท 4 สตางค์ จากที่จัดเก็บอยู่ที่ 5 บาท 4 สตางค์ และสำหรับน้ำมันดีเซล จะมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตมาอยู่ที่ลิตรละ 2 บาท 25 สตางค์ จากปัจจุบันนี้เก็บอยู่ที่ 75 สตางค์ และทั้งหมดนี้คือ ทิศทางพลังงานในอนาคต ที่ต้องบอกได้เลยว่า นี่แหละคือจุดจบของนโยบายประชานิยม http://www.tnews.co.th/html/content/112306/
รื้อไปเลยครับ ให้มันสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ผลิตเองกี่ % นำเข้ากี่ % ก็เอามาถัวเฉลี่ยแจกแจงเป็นต้นทุนให้ชัด ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปใช้ต้นทุน นำเข้า แต่ภาคธุรกิจปิโตรเคมีใช้ต้นทุน ในประเทศ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่า ประชานิยมด้วยซ้ำ
ติดตามนานๆเริ่มบรรลุขอรับ... พอจับประเด็นพวกแม่มได้แล้ว... แม่มบิดข้อมูลกันไปกันมางี้นี่เอง แล้วหาแดรกกันท่ามกลางความชุลมุนของชาวบ้าน... แม่มสารเลวจริงๆ
เข้าตรวจสอบ ปตท. แล้วนำผลประโยชน์ของพลังงานของชาติกลับคืนประชาชนดีกว่าครับ กิจการกำไรเป็นหมื่นๆล้าน แต่ประชาชนใช้น้ำมันแพงเป็นอันดับต้นๆของโลก