วันที่ 20 มิ.ย. นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ถึงกรณี "เชื้อไวรัสเมอร์ส (MERS)" ที่ทั้งคนไทยและต่างประเทศให้ความสนใจเฝ้าติดตามข่าวสาร และมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อดังกล่าวของไทยอย่างใกล้ชิด โดย นายไพศาล ระบุว่า "อย่าตกใจไวรัสเมิร์สจนเกินการ เพราะ หนึ่ง - ถ้าเป็นแล้วมีโอกาสตายแเค่ 30% มีโอกาสรอดกว่า 70% สอง - พยายามอยู่ในที่แห้งและอากาศสม่ำเสมอ พักผ่อนนอนให้มาก กินน้ำให้มาก ดื่มน้ำมะนาวโซดาเป็นระยะๆ ตั้งใจรักษาให้ดี พ้น 10 วัน ก็หาย และสาม- ถ้าอาการเป็นมากก็ให้กินปัสสวะตนเองวันละ 2 จอก ก็จะหาย" อนึ่ง ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ ประกาศให้ประชาชนทราบว่า โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ถูกจัดเป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 7 และเป็นโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความลำดับที่ 22หลังจากไทยประกาศพบผู้ต้องสงสัยว่าป่วยติดเชื้อไวรัสเมอร์ส โดยสถานการณ์ล่าสุด เมื่อ19 มิ.ย. ที่ผ่านมา นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า กรณีผู้ป่วยต้องสงสัยจะป่วยโรคเมอร์สที่ จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการออกมาว่าเป็นเชื้อหวัดสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อ ไรโนไวรัส (Rhinovirus) เป็นเชื้อไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น ส่วนกรณีชาวโอมานที่ป่วยโรคเมอร์สนั้น ขณะนี้ผู้ป่วยยังอยู่ในห้องแยกโรค โดยอาการล่าสุดดีขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยสามารถหายใจได้เอง และสามารถรับประทานอาหารได้เองแล้ว ขณะที่ลูกชายและน้องชายของผู้ป่วยมีอาการไข้และไอลดลง ทั้งนี้ มาตรการควบคุมป้องกันการระบาดของโรคเมอร์ส ยังอยู่ในระดับ 1 อยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ถ้ากระทรวงฯรับไม่ไหวถึงยกมาตรการป้องกันระดับ 2 คือให้โรงพยาบาลในโรงเรียนแพทย์ร่วมกันรับสถานการณ์http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1434806305 ท่าทาง พวกมันคงอยากให้ประเทศชาติล่มจมจริงๆ ?... เคยสงสัย ไอ่นี้มันเป็นใคร ที่เเท้ก็พวกฝ่ายเผด็จการอำมาตย์ดักดานงมงายนี้เอง ท่านบอกมา รีบๆกินฉี่ กินขี้ สร้างภูมิคุ้มกันเร๊วววว
คติพจน์เจ้าพระยา คือ "ความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดเราเท่าเส้นผม" แต่กระนั้น ก็รอดูไพศาลว่าเขาจะแก้ตัวยังไง ว่าพูดปลอบใจ พูดเพราะนึกว่าน่าจะรักษาได้คล้ายหวัดใหญ่ธรรมดา หรือพูดเอามันส์เฉยๆ
มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ (แต่ผมก็ไม่เคยลอง) พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นนิสสัย 4 ของภิกษุ 1. บิณฑบาตร 2.กวาดวิหาร 3.ดูแลอุปัชฌาย์ 4.ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า แต่พระองค์ท่านก็ตรัสไว้ว่าอย่าได้เชื่อสิ่งใดที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถึ่ถ้วน ขนาดพระพุทธเจ้ายังสอนว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่พระองค์สอนจนกว่าจะใช้ปัญญาในการไตร่ตรองสิ่งนั้นอย่างรอบคอบ แล้วจึงเชื่อได้ แต่ทำไมกับเสื้อแดงแค่มีฝ่ายตัวเองพ่นขี้เรื่องอะไร ก็อมขี้เขามาพูดต่อโดยไม่ได้รับการไตร่ตรองใด ๆ ทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง เชื่อไหมว่ารูปนี้ควายแดงเชื่อกันทั้งบ้านทั้งเมือง
เวลา ดื่มปัจสาวะ ต้องเป็น ของตัวเองด้วยนะครับ เดี๋ยว เจ้าพระยาหน้าตาดี ได้ความรู้ ใหม่ จะลองไปดื่มดู จะไปดื่มของคนอื่น มันไม่เป็นยา เวลาดื่ม ใส่ขวด เอาตรงกลางๆ อย่าไปเอา ตรงต้น หรือ ปลายนะครับ อันนี้เป็นความรู้ ไม่ได้น่าเกลียดแต่อย่างใด บ้านนอก คุณไม่รู้หรือโอ่งใส่น้ำ ใบใหญ่ๆ เวลาหน้าฝน ใส่เดือนมันไต่ขึ้นไปตายในน้ำ หรือ แม้แต่ บ่อน้ำก็ดี ดื่มได้ครับ เป็นยาเย็น
ถ้าสิ่งที่คุณไพศาลโพส ไม่มีการทดลอง งานวิจัย หรือผลพิสูจน์ทางการแพทย์รองรับ ผมก็คิดว่าไม่ถูกต้องที่จะเผยแพร่แบบนี้ครับ อาจทำให้คนที่อ่านเข้าใจผิดได้
ท่านบอกตรงไหนว่ากินขี้ กินขี้นี่ต้องกินขี้ทักษิณหรือเปล่า เอ้อ ท่านบอกว่าสร้างภูมิคุ้มกันยังไงเหรอ สร้างภูมิคุ้มกันกับรักษาโรค นายเวรแยกออกหรือเปล่า จะโจมตีใครทำไมต้องเปิดช่องว่างให้โจมตีกลับด้วยหว่านายเวร ป่ะ ตั้งรัฐในค่ายทหารกัน
อันนี้น่าทึ่งกว่า55555 ควายแดงเผาเมืองปล้นห้างอ้างประชาธิปไตย ปล้นทุกอย่างยกเว้นหนังสือ เหตุอ่านไม่ออกกะอ่านไม่เกินสามบรรทัด