ป.ป.ช.ขอบคุณ สนช.ผ่านกฎหมายปราบปราบทุจริตข้ามชาติ On May 4, 2015 222 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (United Nations Convention against Corruption: UNCAC) ว่า ประเทศไทยเข้าเป็นรัฐภาคีภายใต้อนุสัญญา UNCAC มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จึงก่อให้เกิดหน้าที่ในการปฏิบัติตามพันธกรณี ของอนุสัญญาหลายประการ โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สอดรับและสามารถปฏิบัติตามพันธกรณี อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีความพยายามแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อดำเนินการ ตามพันธกรณีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรหลักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อประโยชน์ในการต่อต้านการทุจริต รวมถึงการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีและข้อตกลงระหว่างประเทศ จึงได้เสนอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ …) พ.ศ. … เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ สนช.ได้พิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป สำหรับประเด็นสำคัญๆ ของการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว อาทิ กำหนดฐานความผิดการให้/รับสินบนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ กำหนดฐานความผิดเฉพาะสำหรับนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้สินบนเจ้าหน้าที่ กำหนดหลักการริบทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพ กำหนดหลักอายุความ โดยมิให้มีการนับอายุความ หากมีการหลบหนีในคดีทุจริต ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอขอบคุณสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริต เพราะผลของการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยมีกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ เป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาต่อต้านการทุจริต ในฐานะรัฐภาคีได้อย่างครบถ้วน และยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการแก้ไขกฎหมายเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เป็นสากล เกิดการยอมรับและเชื่อมั่นจากนานาประเทศยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเกิดประโยชน์ต่อการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย http://www.lokwannee.com/web2013/?p=142981 คนที่กระทบเต็มคือ ทักษิณ วัฒนา อัศวเหม ประชามาลีนนท์ นับจากนี้ทักษิณไม่อาจกลับไทยได้แล้วเมื่อกฏหมาย ปปชใหม่มีผลบังคคับใช้
คนที่อยากให้ทักษิณกลับมา ก็เพื่อให้กลับมาติดคุก คนที่ไม่อยากให้ทักษิณกลับมาคือลูกน้องทักษิณ กำลังอยู่ดีกินดีไม่อยากติดคุกเพื่อนายอีกต่อไป
อย่าว่าจะออกนำหน้าไปสู้กับพวกชั่วเลย แค่นายทหารขานชื่อ ก็ฉี่ราดกางเกง แข้งขาอ่อนยืนไม่ขึ้นแล้ว จากพฤติกรรมหน้าตัวเมีย ฟันธงว่าคงใช้เส้นสายอิทธิพล ไม่เข้าจับใบดำใบแดง แน่นอน แต่ก็ดีแล้วล่ะไม่งั้นถ้าไปเป็นทหารอยู่หมู่ไหน อาจพาลพาพรรคพวกตายทั้งหมู่ก็เป็นได้