http://www.isranews.org/isranews-article/item/27525-nacc-rcie.html เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2557 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเอกสารชี้แจงกรณีที่แฟนเพจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) “Yingluck Shinawatra” โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2557 โจมตีการทำงานของ ป.ป.ช. กรณีที่มีมติแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีถอดถอนกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว พร้อมนัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ในวันที่ 27 ก.พ.2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 2 ฉบับ 1.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีโครงการจำนำข้าว และ 2.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไต่สวนโครงการระบายข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้ --- 1.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีโครงการจำนำข้าว วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 14.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงว่า ด้วยปรากฏข้อมูลทางสื่อมวลชน Social Media ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีได้ลง Facebook ส่วนตัว กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องการทุจริตของรัฐบาลและของนางสาว ยิ่งลักษณ์ฯ ในโครงการรับจำนำข้าว สรุปความว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเป็นโครงการที่ดีตนมิได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาและเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยเฉพาะตนได้ทำหนังสือขอทราบพยานหลักฐาน และคัดค้านกรรมการ ป.ป.ช. (ศ.วิชา มหาคุณ) แต่ก็ไม่ได้รับตอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่งรีบร้อน เมื่อเปรียบเทียบกับคดีอื่นเช่นทุจริตโครงการระบายข้าวเมื่อปี 2552 และ ปรส. เป็นต้น เป็นไปในลักษณะที่จะถูกสังคมกล่าวหาได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ประสงค์จะล้มล้างรัฐบาล นั้น ขอเรียนชี้แจงว่าทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาเนื่องมาจากพรรคประชาธิปัตย์ร้องต่อประธานวุฒิสภาให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นการละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ไม่ยับยั้งการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นผลมาจากคำกล่าวหาเดิมของ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรีมาพร้อมกับ กรณี G to G หากแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับพิจารณากรณี G to G ในเบื้องต้นก่อน โดยไม่ทิ้งประเด็นเรื่องนโยบายที่ผิดพลาดและความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งที่ได้มีการทักท้วงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วถึง 2 ครั้งแต่ไม่ยับยั้ง ดังนั้น ในกระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเริ่มมีการไต่สวนตั้งแต่ นโยบายของรัฐความหมายของคำว่าจำนำ ความคิดเห็นทางวิชาการ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง(คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ) แล้วจึงลงสู่กระบวนการไต่สวนเรื่อง G to G ทั้งนี้ได้เริ่มไต่สวนมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2557 รวมแล้วเป็นเวลา หนึ่งปีเศษ มิใช่ 21 วัน ตามที่นางสาวยิ่งลักษณ์ฯ กล่าวแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการขอทราบพยานหลักฐานและการคัดค้านกรรมการ ป.ป.ช. นั้น ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งให้รักษาการนายกรัฐมนตรีทราบแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน --- 2.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไต่สวนโครงการระบายข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 14.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงว่า กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ฯ ว่าทุจริตโครงการระบายข้าว เมื่อปี 2552 นั้น เป็นกรณีกล่าวหาว่าทุจริตในการระบายข้าวและมีกรณีร้องขอให้ถอดถอนนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กรณีเดียวกัน โดยมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดการไต่สวนจึงล่าช้ากว่าปกติ ขอเรียนชี้แจงว่า ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์คณะไต่สวนคดีดังกล่าวนั้น ได้มีการดำเนินการไต่สวนต่อเนื่องตลอดมา เป็นกรณีฮั้วประมูลมีเอกสารประกอบเป็นจำนวนมาก และมีอุปสรรคในการดำเนินการ เนื่องจากไม่สามารถนำเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาได้ เพราะบุคคลที่ครอบครองเอกสารปฏิเสธอ้างว่าไม่มีเอกสารเนื่องจากถูกน้ำท่วม แม้แต่ส่วนราชการก็ไม่ยอมมอบเอกสาร อ้างว่ามีการขนย้ายตอนน้ำท่วมไม่สามรถหาเอกสารได้ จนครั้งหลังสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ได้เตือนไปอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นกรมการค้าต่างประเทศ อคส. และ อตก. แต่ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวจนกระทั่งบัดนี้ อันได้แก่เอกสารดังต่อไปนี้ 1. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี 2552 1.1 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2552 1.2 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การคลังสินค้า เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2552 1.3 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2552 จำนวน 15 สัญญา (สัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 24-38) 1.4 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2552 ทุกฉบับ 1.5 สำเนาบันทึก ด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2552 ยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสารเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมด และระงับการอนุญาตให้ภาคเอกชนที่ชำระเงินค่าข้าวสารบางส่วนตามสัญญาซื้อขายข้าวสาร ทำการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังกลาง 1.6 รายละเอียดผลการพิจารณาของกรมการค้าต่างประเทศหรืออัยการสูงสุดเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมด และระงับการอนุญาตให้ภาคเอกชน ที่ชำระเงินค่าข้าวสารบางส่วนตามสัญญาซื้อขายข้าวสาร ทำการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังกลาง 1.7 รายละเอียดการระบายข้าวสารที่ซื้อขายตามสัญญาออกจากคลังสินค้าทุกแห่ง 1.8 สำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสารและการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 1.9 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารออกนอกราชอาณาจักร 1.10 สำเนาบันทึก ที่ อคส. 9000/98 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 เรื่อง การประชุมผู้ซื้อข้าวสารตามสัญญาซื้อขายเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร จำนวน 14 ราย และสำเนาบันทึก ที่ อคส. 1091/419 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 1.11 รายละเอียดการจำหน่ายข้าวสารตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อ ที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสาร และการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 1.12 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารนอกราชอาณาจักร จำนวน 6 สัญญา 2. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2553 2.1 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ปี 2553 2.2 รายละเอียดการระบายข้าวสารที่ซื้อขายตามสัญญาออกจากคลังสินค้าทุกแห่ง 2.3 สำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสารและการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 2.4 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารออกนอกราชอาณาจักร 2.5 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การคลังสินค้า เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2553 2.6 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2553 (เฉพาะสัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 62-63) 2.7 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ปี พ.ศ. 2553 (สัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 43) 2.8 รายละเอียดการจำหน่ายข้าวสารตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสาร และการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย จำนวน 23 สัญญา ทั้งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารมาชี้แจงโดยด่วนแล้ว จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน เพราะบุคคลที่ครอบครองเอกสารปฏิเสธอ้างว่าไม่มีเอกสารเนื่องจากถูกน้ำท่วม แม้แต่ส่วนราชการก็ไม่ยอมมอบเอกสาร อ้างว่ามีการขนย้ายตอนน้ำท่วมไม่สามรถหาเอกสารได้ อ่านนะไอ้ควายเวร ปปช.ทำเอกสารน้ำท่วมเหรอครับ
จาก การตรวจสอบพบว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้มีหนังสือเลขที่ อคส.10131/1906 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2556 แจ้ง ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 (พันตำรวจโท อนุรักษ์ โรจนิรันดร์กิจ) อ้างถึง หนังสือของ สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ ยธ 0811/089 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ดูปีด้วยนะควายเวร
“วิชา” ยันประกันราคาข้าวยุค “มาร์ค” ก็มีการทุจริต ผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว ยันต้องมีคนรับผิดชอบ เผยใกล้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอบข้อซักถามกรรมาธิการ (กมธ.) ซักถาม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตอนหนึ่งกรณีดำเนินการในนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างไรว่า เราได้ขอให้สถาบันวิจัยพัฒนาประเทศ (TDRI) ดำเนินการทำวิจัยในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพบว่า มีการแทรกแซงราคาพืชผลทางเกษตร และการแทรกแซงตลาด เมื่อสรุปผลพบว่า กระบวนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว แม้จะมีประโยชน์ต่อเกษตรกร ยกระดับพืชผลการกษตร แต่มีช่องโหว่เยอะ ดังนั้นในงานวิจัยจึงเสนอให้ทำนโยบายประกันราคาข้าวแทน แบบสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายวิชา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่า นโยบายประกันราคาข้าวไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่พบว่ามีการทำให้เกิดสิ่งทีเรียกว่าการทุจริตเชิงนโยบายได้ ซึ่งขณะนี้เรากำลังไต่สวนคดีนายอภิสิทธิ์ที่ถูกร้องเรียนในคดีประกันราคาข้าวอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้สองมาตรฐาน “ถามว่าทำไมคดีนายอภิสิทธิ์ถึงยังไม่จบ เพราะมีปัญหาเรื่องการส่งเอกสารต่าง ๆ และการให้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งในด้านของการไต่สวนอยู่ในระหว่างกระบวนการ และล่าสุดได้สรุปความเห็นแล้วว่า ต้องมีคนผิด ไม่ผิดไม่ได้ เพราะว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง” นายวิชา กล่าว นายวิชา กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นการทุจริตในด้านเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) คือให้บริษัทมารับซื้อข้าว โดยอาจจะใช้วิธีการฮั้ว ฉะนั้นจุดนี้เป็นจุดแตกต่างจากกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ใช้วิธีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แต่ให้บริษัทเอกชนมารับซื้อข้าวแทน ซึ่งปรากฏว่ามีการฮั้ว โดยขณะนี้เราใกล้จะแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว และจะดูว่าต้องแจ้งใครบ้าง http://www.isranews.org/isranews-news/item/35842-wicha_898_02.html
ป.ป.ช.แจงคดีอภิสิทธิ์อ้างน้ำท่วมเอกสารเสียหาย On January 28, 2014 นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้อแงกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ปช.ในฐานะโฆษกคณะกรรมการป.ป.ช.เปิดเผยว่าตามที่คณะกรรมการได้มีมติให้ ดำเนินการไต่สวนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยนบายข้าวแห่งชาติ ในกรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว อันเป็นมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือทุจริตต่อ หน้าที่ตามกฏหมายอื่นที่ได้แจ้งให้ทราบไปแล้ว ล่าสุดทางป.ป.ช.ได้รับหนังสือจากประธานวุฒิสภา นายนิคม ไวยรัชพาณิชย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์รวม 146 คนได้ยื่นร้องถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งในการดำเนินการนโยบายจำนำข้าว ส่งผลให้ขาดทุนกระทบต่อการส่งออกข้าว และการระบายข้าวแบบจีทูจีไม่เป็นความจริง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ทางคณะกรรมการป.ป.ช.จึงมีมติให้รวมเรื่องทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องเดียวกัน นายวิชากล่าวต่อว่า ทางประธานป.ป.ช.ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งแต่งตั้งให้คณะกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คนเป็นองค์คณะในการพิจารณา โดยมีตนเป็นกรรมการผู้รับผิดชอบซึ่งจะดำเนินการสอบสวนให้เร็วที่สุดและจะมี การเชิญนางสาวยิ่งลักษณ์มาให้ข้อมูลโดยจะส่งหนังสือเชิญภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ พร้อมด้วยนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นางพรทิวา นาคาสัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่มีการร้องดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2552-2553 นั้นทางป.ป.ช.ดำเนินการมาตลอดแต่เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ทำให้เอกสารบางส่วนเสียหายจึงไม่สามารถทีจะดำเนินการต่อไปได้ ผิดกับกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ยังสดอยู่จึงมีการดำเอนการที่ไว้กว่า ป.ป.ช.ดำเนินการตามหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนที่กรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ที่บอกว่าป.ป.ช.ไม่เปิดโอกาสให้มาชี้แจงนั้นตนขอบอกว่าไม่ สามารถให้มาชี้แจงได้เพราะยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่หากแจ้งข้อกล้าวหาแล้ว ถึงมาชี้แจงได้ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ http://www.lokwannee.com/web2013/?p=52047 พวกตอแหล
ยังมาทำหน้าทะเล้นอิ๊ก จะโดนถีบอยู่รอมมะร่อ ไม่สงสารนะเฟร้ย เพื่อนก็เพื่อนเหอะ ว่าแต่ซำบายดี บ่ สหาย อิ๊อิ๊ (ขอนอกรอบหน่อยนะ จขกท.)
2.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไต่สวนโครงการระบายข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 14.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงว่า กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ฯ ว่าทุจริตโครงการระบายข้าว เมื่อปี 2552 นั้น เป็นกรณีกล่าวหาว่าทุจริตในการระบายข้าวและมีกรณีร้องขอให้ถอดถอนนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กรณีเดียวกัน โดยมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดการไต่สวนจึงล่าช้ากว่าปกติ ขอเรียนชี้แจงว่า ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์คณะไต่สวนคดีดังกล่าวนั้น ได้มีการดำเนินการไต่สวนต่อเนื่องตลอดมา เป็นกรณีฮั้วประมูลมีเอกสารประกอบเป็นจำนวนมาก และมีอุปสรรคในการดำเนินการ เนื่องจากไม่สามารถนำเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาได้ เพราะบุคคลที่ครอบครองเอกสารปฏิเสธอ้างว่าไม่มีเอกสารเนื่องจากถูกน้ำท่วม แม้แต่ส่วนราชการก็ไม่ยอมมอบเอกสาร อ้างว่ามีการขนย้ายตอนน้ำท่วมไม่สามรถหาเอกสารได้ จนครั้งหลังสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ได้เตือนไปอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นกรมการค้าต่างประเทศ อคส. และ อตก. แต่ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวจนกระทั่งบัดนี้ อันได้แก่เอกสารดังต่อไปนี้ 1. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี 2552 1.1 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2552 1.2 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การคลังสินค้า เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2552 1.3 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2552 จำนวน 15 สัญญา (สัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 24-38) 1.4 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2552 ทุกฉบับ 1.5 สำเนาบันทึก ด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2552 ยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสารเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมด และระงับการอนุญาตให้ภาคเอกชนที่ชำระเงินค่าข้าวสารบางส่วนตามสัญญาซื้อขายข้าวสาร ทำการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังกลาง 1.6 รายละเอียดผลการพิจารณาของกรมการค้าต่างประเทศหรืออัยการสูงสุดเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมด และระงับการอนุญาตให้ภาคเอกชน ที่ชำระเงินค่าข้าวสารบางส่วนตามสัญญาซื้อขายข้าวสาร ทำการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังกลาง 1.7 รายละเอียดการระบายข้าวสารที่ซื้อขายตามสัญญาออกจากคลังสินค้าทุกแห่ง 1.8 สำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสารและการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 1.9 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารออกนอกราชอาณาจักร 1.10 สำเนาบันทึก ที่ อคส. 9000/98 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 เรื่อง การประชุมผู้ซื้อข้าวสารตามสัญญาซื้อขายเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร จำนวน 14 ราย และสำเนาบันทึก ที่ อคส. 1091/419 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 1.11 รายละเอียดการจำหน่ายข้าวสารตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อ ที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสาร และการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 1.12 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารนอกราชอาณาจักร จำนวน 6 สัญญา 2. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2553 2.1 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ปี 2553 2.2 รายละเอียดการระบายข้าวสารที่ซื้อขายตามสัญญาออกจากคลังสินค้าทุกแห่ง 2.3 สำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสารและการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 2.4 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารออกนอกราชอาณาจักร 2.5 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การคลังสินค้า เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2553 2.6 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2553 (เฉพาะสัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 62-63) 2.7 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ปี พ.ศ. 2553 (สัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 43) 2.8 รายละเอียดการจำหน่ายข้าวสารตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสาร และการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย จำนวน 23 สัญญา ทั้งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารมาชี้แจงโดยด่วนแล้ว จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน http://www.isranews.org/isranews-article/item/27525-nacc-rcie.html
ก่อนอื่นลูกกะxรี่รู้รึเปล่าว่าใครเป็นต้นตอที่อ้างว่าเอกสารหาย ไม่ต้องมาถามหาช็อยส์นะผมไม่ชอบออกข้อสอบปรนัย
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมพวกควายแดงมันไม่ยอมรับความจริงนะ ปปช ชี้แจง มันก็อ้างอยู่นั่นแหละ ปปช ทำหาย เห็นพวกควายแดงแล้ว สงสารประเทศไทยจริงๆ ยิ่งมีคนแบบควายแดงเยอะๆ สังคมจะเป็นยังไง พวกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องแบบนี้
โลกวันนี้... คอลัมนิสต์ พระพยอม กลฺยาโณ วีระ มุสิกพงศ์ จรัล ดิษฐาอภิชัย จักรภพ เพ็ญแข อมร วาณิชวิวัฒน์ เรืองยศ จันทรคีรี อัคนี คคนัมพร พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช วาทตะวัน สุพรรณเภษัช https://th.wikipedia.org/wiki/โลกวันนี้ ลองดูค่ายอื่นๆวันนั้นเขาลงว่าอะไรกันบ้าง... http://www.komchadluek.net/detail/20140128/177771.html นายวิชา กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ไต่สวนทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรมการค้าต่างประเทศ องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) อดีตกรรมการระบายข้าว และบุคคลอื่นๆ อีก รวม 25 ราย โดยดำเนินการเรียกมาไต่สวนทุกวัน ไม่ได้หยุด พร้อมพยาน และยังมีหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐานไปยังหน่วยงานต่างๆ 16 แห่ง แต่ปรากฏว่า มีหน่วยงานบางหน่วยไม่ส่งให้ โดยอ้างว่า เอกสารเหล่านั้นถูกน้ำท่วมไปเมื่อปี 54 ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงมีหนังเสือเตือนไปยังหน่วยงานเหล่านั้นแล้ว โดยเฉพาะองค์การคลังสินค้า (อคส.) เจ้าเดิมที่มีปัญหาเรื่องการจัดส่งเอกสารในการระบายข้าวสาร ซึ่งป.ป.ช.เห็นใจ เพราะเป็นเรื่องการระบายข้าวตั้งแต่ปี 52-53 โดยบางหน่วยงานก็ได้ระบุว่า ไม่สามารถส่งเอกสารให้ได้ เพราะมีการขนย้ายเอกสารหลักฐานในช่วงน้ำท่วมทั้งในกทม.และต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่ยังส่งเอกสารให้ไม่ครบคือ กระทรวงพาณิชย์ อตก. และล่าสุดอ้างว่า ไม่สามารถเข้าทำงานในหน่วยงานได้ เนื่องจากมีการปิดล้อมสถานที่ราชการของผู้ชุมนุมกปปส.จึงทำให้พยานหลักฐานขัดข้อง ขอเรียนว่า ป.ป.ช.ไม่ได้หยุดการไต่สวน http://www.dailynews.co.th/politics/212056 นายวิชา กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนการทุจริตการระบายข้าวสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 52-53 ที่มีการกล่าวหานางพรทิวา นาคาศัย อดีตรมว.พาณิชย์ และการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ทุจริตต่อหน้าที่โครงการระบายข้าวปี 52-53 นั้น ป.ป.ช.ได้ไต่สวนคดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดการไต่สวน โดยสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 25 ปาก ทั้งเจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ องค์การตลาดเพื่อการเกษตร กรมการค้าต่างประเทศ รวมถึงทำหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงจากหน่วยงาน 16 แห่ง แต่มีบางหน่วยงาน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ องค์การคลังสินค้าง(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร ยังไม่ยอมส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.ทราบ โดยอ้างว่าเอกสารสูญหายระหว่างเกิดเหตุน้ำท่วม และถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมสำนักงาน ไม่สามารถหาข้อมูลได้ ดังนั้นป.ป.ช.จึงได้ทำหนังสือเตือนไปยังหน่วยงานเหล่านี้ให้เร่งส่งข้อมูลให้ป.ป.ช.ทราบโดยเร็วต่อไป
ยังหน้าทะเล้นไม่หยุดอิ๊ก ว่าจะขอร้องคนอื่นว่าอย่าตื้บเวรรุนแแรงนัก แบบเนี๊ยะต้องปล่อยลูกช้างลูกหมาไปตามกรรมแระ 555+
ตอนแแถลงก็อยู่ในช่วงรัฐบาลอีโง่ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ทั้ง ครม. กับ สส. พรรคเผาเมือง รวมทั้ง ไอ้เจ้าพระยาฯ คงไล่กระทืบ ปปช. ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ก่อนหน้าแถลงก็โดนฝูงควายแดงไล่บี้มาตลอด
อิอิอิ งานนี้ยิ่งลักษณ์และพวกติดคุก นักโทษทักษิณ และสมุน หนีคุกกันจนตาย โอ๊คลูกนักโทษทักษิณ คิวติดคุกต่อไป อภิสิทธิและพวกรอเลือกตั้งกลับมาเป็นนายก ควายแดงอกตรมหมองหม่นกันทั้งประเรทศ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บาปกรรมมีจริง สวรรค์ช่วยคนดีโดนใส่ความให้รอดพ้นจากการกระทำของคนชั่ว เช่นคนดีโดนใส่ความจากคนชั่ว สวรรค์เมตตาให้คนดีพ้นภัยจากการกล่าวหา ด้วยน้ำท่วมที่มาจากฝีมือของคนชั่ว
ไม่ต้องมโนครับ ยิ่งลักษณ์เตรียมขึ้นศาลไปชี้แจง ตอบติดๆขัดๆงูๆปลาๆโง่ๆไม่รู้เรื่องก็เตรียมติดคุกแล้วครับ 5555 ทุกวันนี้ทักษิณยังไม่ได้กลับบ้าน เร่ร่อนเป็นเปรตขอส่วนบุญด้วยการแอบเจรจา 5555 ส่วนสมุนหนีคุกไปต่างประเทศไม่เห็นกลับมาสักตัวเหมือนกัน มีแต่เป็นศพตายเพาะกรรมตามทันมะเร็งแดกหิ้วมาเป็นรายๆ กรัก กรัก กรัก ไม่เห็นต้องจิ้นข่าวจริงๆทั้งนั้น ไอ้ไอซ์โอ๊ครออีกนิดเตรียมโดนฟ้องเข้าคุก รับเงินจากการโกงของพ่อระยำทักษิณ หลักฐานชัดเจน แค่นี้ก็กุมขมับไม่รู้จะแก้ต่างยังไง ที่เห็นๆกลัวขรี้หดตดหายไม่ออกมาหอนตามเพสเหมือนเดิม ขรี้ขึ้นสมองไปแระ คริ คริ คริ คริ คริ คริ เรื่องจริงไม่ได้มโน เรื่องจริงไม่ได้โม้ แต่เรื่องจริงควายแดงดิ้นแทบตาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทำไปเถอะนะ นายเวร ไอ้มโนจินตนาการน้ำแตกเนี่ย สมาชิกในบอร์ดยิ่งเหงารอนายเวรมาให้สอนถึงที่เลย ก๊ากกกกกกกกกกกก
เราจะพบคำตอบจากภาพตอแหล โดยควายตอแหล เอามาจากเพจตอแหลที่ชื่อว่า มิตรตอแหลท่านหนึ่ง โดยสมาชิกตอแหลเอามาแปะแล้วชิ่ง อย่าหวังเลยครับ ฌาปนกิจมันยังไม่รู้เลยว่าแปลว่าอะไร
เฮ้ย..นายเวร มีปัญญาแต่เอาภาพมาตัดแปะแค่นั้นเหรอ เอาหลักฐานที่ยืนยันได้มายันดิไม่ใช่เอาข้อความที่เค้าโพสกันในเฟส ตอนมรึงถีบหน้าเขา เขาก็เอาหลักฐานมายัน มาแก้ต่าง แต่พอเขาถีบหน้ามรึง ทำไม่เอาหลักฐานมาแก้ต่าง มายืนยันล่ะ
ระบอบมาร์คคืออะไรเหรอครับ ขอคำจำกัดความหน่อย ระบอบแม้วคือระบอบที่แม้วมีอำนาจสั่งการปกครองทั้งทางตรงหรือทางอ้อม จน ปัจจุบันชาวนาก็จนเหมือนเดิม เจอปรากฎการณ์แพงทั้งแผ่นดิน โง่ ควายแดงก็ยังโง่อยู่เหมือนเดิม เป็นหนี้ ที่ชาวนาเป็นหนี้เพราะต้องกู้มาเนื่องเงินจำนำข้าวยังไม่ได้นะเหรอครับ หรือเอาหนี้ไฟแนนซ์รถคันแรกดีครับ หาที่พักให้หนี้ ขี้ข้า นี่ภาพนี้อธิบายชัดเจนครับว่า ใครประกาศตัว ขอทาน ภาพนี้ก็แสดงให้เห็นได้ดีครับ ว่าชอบของฟรี ขอทาน ถ้าไม่ให้ก็ปล้นเอาเลยครับ
http://www.isranews.org/isranews-article/item/27525-nacc-rcie.html เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2557 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเอกสารชี้แจงกรณีที่แฟนเพจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) “Yingluck Shinawatra” โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2557 โจมตีการทำงานของ ป.ป.ช. กรณีที่มีมติแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีถอดถอนกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว พร้อมนัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ในวันที่ 27 ก.พ.2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 2 ฉบับ 1.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีโครงการจำนำข้าว และ 2.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไต่สวนโครงการระบายข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้ --- 1.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีโครงการจำนำข้าว วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 14.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงว่า ด้วยปรากฏข้อมูลทางสื่อมวลชน Social Media ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีได้ลง Facebook ส่วนตัว กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับเรื่องการทุจริตของรัฐบาลและของนางสาว ยิ่งลักษณ์ฯ ในโครงการรับจำนำข้าว สรุปความว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเป็นโครงการที่ดีตนมิได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาและเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยเฉพาะตนได้ทำหนังสือขอทราบพยานหลักฐาน และคัดค้านกรรมการ ป.ป.ช. (ศ.วิชา มหาคุณ) แต่ก็ไม่ได้รับตอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่งรีบร้อน เมื่อเปรียบเทียบกับคดีอื่นเช่นทุจริตโครงการระบายข้าวเมื่อปี 2552 และ ปรส. เป็นต้น เป็นไปในลักษณะที่จะถูกสังคมกล่าวหาได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ประสงค์จะล้มล้างรัฐบาล นั้น ขอเรียนชี้แจงว่าทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาเนื่องมาจากพรรคประชาธิปัตย์ร้องต่อประธานวุฒิสภาให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นการละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ไม่ยับยั้งการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นผลมาจากคำกล่าวหาเดิมของ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่กล่าวหานายกรัฐมนตรีมาพร้อมกับ กรณี G to G หากแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับพิจารณากรณี G to G ในเบื้องต้นก่อน โดยไม่ทิ้งประเด็นเรื่องนโยบายที่ผิดพลาดและความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งที่ได้มีการทักท้วงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วถึง 2 ครั้งแต่ไม่ยับยั้ง ดังนั้น ในกระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเริ่มมีการไต่สวนตั้งแต่ นโยบายของรัฐความหมายของคำว่าจำนำ ความคิดเห็นทางวิชาการ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง(คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ) แล้วจึงลงสู่กระบวนการไต่สวนเรื่อง G to G ทั้งนี้ได้เริ่มไต่สวนมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2557 รวมแล้วเป็นเวลา หนึ่งปีเศษ มิใช่ 21 วัน ตามที่นางสาวยิ่งลักษณ์ฯ กล่าวแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการขอทราบพยานหลักฐานและการคัดค้านกรรมการ ป.ป.ช. นั้น ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งให้รักษาการนายกรัฐมนตรีทราบแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน --- 2.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไต่สวนโครงการระบายข้าวสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 14.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ในฐานะโฆษกกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงว่า กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ฯ ว่าทุจริตโครงการระบายข้าว เมื่อปี 2552 นั้น เป็นกรณีกล่าวหาว่าทุจริตในการระบายข้าวและมีกรณีร้องขอให้ถอดถอนนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กรณีเดียวกัน โดยมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดการไต่สวนจึงล่าช้ากว่าปกติ ขอเรียนชี้แจงว่า ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์คณะไต่สวนคดีดังกล่าวนั้น ได้มีการดำเนินการไต่สวนต่อเนื่องตลอดมา เป็นกรณีฮั้วประมูลมีเอกสารประกอบเป็นจำนวนมาก และมีอุปสรรคในการดำเนินการ เนื่องจากไม่สามารถนำเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาได้ เพราะบุคคลที่ครอบครองเอกสารปฏิเสธอ้างว่าไม่มีเอกสารเนื่องจากถูกน้ำท่วม แม้แต่ส่วนราชการก็ไม่ยอมมอบเอกสาร อ้างว่ามีการขนย้ายตอนน้ำท่วมไม่สามรถหาเอกสารได้ จนครั้งหลังสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ได้เตือนไปอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นกรมการค้าต่างประเทศ อคส. และ อตก. แต่ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวจนกระทั่งบัดนี้ อันได้แก่เอกสารดังต่อไปนี้ 1. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี 2552 1.1 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2552 1.2 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การคลังสินค้า เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2552 1.3 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2552 จำนวน 15 สัญญา (สัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 24-38) 1.4 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2552 ทุกฉบับ 1.5 สำเนาบันทึก ด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2552 ยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสารเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมด และระงับการอนุญาตให้ภาคเอกชนที่ชำระเงินค่าข้าวสารบางส่วนตามสัญญาซื้อขายข้าวสาร ทำการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังกลาง 1.6 รายละเอียดผลการพิจารณาของกรมการค้าต่างประเทศหรืออัยการสูงสุดเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมด และระงับการอนุญาตให้ภาคเอกชน ที่ชำระเงินค่าข้าวสารบางส่วนตามสัญญาซื้อขายข้าวสาร ทำการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังกลาง 1.7 รายละเอียดการระบายข้าวสารที่ซื้อขายตามสัญญาออกจากคลังสินค้าทุกแห่ง 1.8 สำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสารและการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 1.9 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารออกนอกราชอาณาจักร 1.10 สำเนาบันทึก ที่ อคส. 9000/98 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 เรื่อง การประชุมผู้ซื้อข้าวสารตามสัญญาซื้อขายเพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร จำนวน 14 ราย และสำเนาบันทึก ที่ อคส. 1091/419 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2552 1.11 รายละเอียดการจำหน่ายข้าวสารตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อ ที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสาร และการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 1.12 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารนอกราชอาณาจักร จำนวน 6 สัญญา 2. เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2553 2.1 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ปี 2553 2.2 รายละเอียดการระบายข้าวสารที่ซื้อขายตามสัญญาออกจากคลังสินค้าทุกแห่ง 2.3 สำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระเงินค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสารและการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย 2.4 สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งออกข้าวสารออกนอกราชอาณาจักร 2.5 สำเนาบันทึกกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งองค์การคลังสินค้า เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ปี พ.ศ. 2553 2.6 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อการส่งออกนอกราชอาณาจักร ปี พ.ศ. 2553 (เฉพาะสัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 62-63) 2.7 สำเนาสัญญาซื้อขายข้าวสาร เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ปี พ.ศ. 2553 (สัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ คชก. ซข. 43) 2.8 รายละเอียดการจำหน่ายข้าวสารตามสัญญาซื้อขาย และสำเนาบันทึกการคืนเงินผู้ซื้อที่ได้ชำระค่าข้าวสาร แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวสาร และการคืนหลักประกันสัญญาซื้อขาย จำนวน 23 สัญญา ทั้งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารมาชี้แจงโดยด่วนแล้ว จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน เพราะบุคคลที่ครอบครองเอกสารปฏิเสธอ้างว่าไม่มีเอกสารเนื่องจากถูกน้ำท่วม แม้แต่ส่วนราชการก็ไม่ยอมมอบเอกสาร อ้างว่ามีการขนย้ายตอนน้ำท่วมไม่สามรถหาเอกสารได้ อ่านนะไอ้ควายเวร ปปช.ทำเอกสารน้ำท่วมเหรอครับ