ให้ผมเดา คงเพราะหน้าเหลี่ยมรับปากอะไรบางอย่างไว้กับสหรัฐ เช่น รับปากให้สหรัฐตั้งฐานทัพที่สัตหีบ รับปากจะไม่เข้าข้างจีนในข้อพิพากทะเลจีนใต้ ..... สรุปคือ หน้าเหลี่ยมเอาผลประโยชน์ชาติเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของครอบครัวมัน นอกจากนี้แล้ว ยังมองไม่เห็นอะไรที่ทำให้สหรัฐต้องเข้าข้างคนโกง คนชั่วแบบหน้าเหลี่ยม
สหรัฐ มันไม่สนหรอกครับว่าประเทศไหน ใครจะโกง ผลประโยชน์ของมันเท่านั้นที่ต้องการ ให้มากอสลี้ภัยไปประเทศมัน มันก็ทำมาแล้ว เรื่องโกงๆ ของใคร มันไม่สนหรอกครับ
ไอ้กันมันอยากให้ไทยเป็นซาอุของ AEC เป็นประเทศใหญ่ที่คบไอ้กัน เพื่อลดแรงกดดันของจีนในภูมิภาค และยังทำให้ประเทศแถว ๆ นี้ต้องทะเลาะกันตลอดเวลาจนรวมกลุ่มกันไม่ติด
1. สาเหตุสำคัญที่สุดคือจีนครับ ขอตั้งฐานทัพสกัดกั้นจีน กับนโยบายต่างประเทศของไทยที่ลดการให้ความสำคัญกับจีนครับ พูดง่ายๆก็สหรัฐต้องการให้ไทยเป็นเสมือนดัง ยูเครน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไงครับ เป็นทั้งสุดยอดขี้ข้าและผู้กุมยุทธศาสตร์สำคัญจ่อตูดจีน นอกจากนี้ไทยยังเป็นศูนย์กลางให้อเมริกาแผ่ขยายอิทธิผลไปทั่วทั้งอาเซียนได้ง่าย เพื่อเชื่อมกับออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์อีกด้วย อีกทั้งมีการคาดการณ์ อนาคตภูมิภาคนี้ในอนาคตจะเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง การที่สหรัฐแผ่อิทธิผลในแถบนี้ได้ จะได้เปรียบเหนือจีนแบบมหาศาล 2. น้ำมันในอ่าวไทย อันนี้ ไม่ใช่จุดประสงค์ของรัฐบาลสหรัฐโดยตรง เพราะตะวันออกกลางคงน่าสนใจกว่าเยอะ แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มทุนน้ำมันที่หนุนหลังรัฐบาลสหรัฐต่างหากที่ต้องการ บริษัทเหล่านี้เสาะแสวงหาแหล่งทรัพยากรไปทั่วโลกแหละครับ เจอที่ไหนก็พยายามจะสูบทรัพยากรประเทศชาวบ้านเค้ามาเพื่อหากำไรหมดล่ะ หากรัฐบาลขี้โกงครองอำนาจ การเจรจาต่อรองเพื่อให้บริษัทน้ำมันของตัวเองได้ผลประโยชน์สูงสุดจะง่ายขึ้นมาก กลุ่มทุนเหล่านี้จึงพยายามกดดันรัฐบาลของตัวเองให้ออกมาต้านรัฐประหาร เชียร์แม้วไง 3. จริต และอีโก้ส่วนตน ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อเมริกามองว่าทุนนิยมเสรีและประชาธิปไตยคือสิ่งที่ดีที่สุด และดูถูกแนวความคิดอื่นๆทั้งหมด ดูถูกรูปแบบการปกครองของไทย ดูถูกแนวคิดแบบปรัชชาเศรษฐกิจพอเพียง และมองว่าจะไม่เอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐเท่าที่ควร (มันมองว่าคนไทยโง่ หากไทยใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบสุดโต่ง สหรัฐจะกินรวบได้ง่ายขึ่้น) ไอ้แม้วเลยเป็นที่ถูกใจ คอเดียวกันจริตเดียวกันว่างั้น แถมยอมเป็นขี้ข้า ขออะไรได้ทุกอย่าง อะไรจะดีไปกว่านี้ 4. รักษาภาพลักษณ์ เจ้าโลกแลผู้นำแห่งประชาธิปไตย อันนี้สำคัญน้อยที่สุด เพราะเราก็รู้ๆกันอยู่ ว่าอเมริกันมีหลามมาตราฐาน แต่ยังไงมันก็ใช้หลอกประชาชนตัวเอง และสาวกอเมริกันดรีมทั่วโลกได้
ข้อ 4 นี่ผมเห็นภาพเลย รักษาภาพลักษณ์ "เจ้าโลก" มันเห็นภาพตรงที่ เจ้าโลกคืออุปกรณ์ข่มขืนชนิดนึง ที่พร้อมจะยัดเยียดโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม ก็จะใช้สารพัดวิธีในการยัดเยียดเจ้าโลกให้อีกฝ่ายนึง ลองว่าถ้าโดนยัดเยียดเจ้าโลกให้แล้วยังไงก็ต้องเออออห่อหมกหรือไม่มีปากมีเสียง อเมริกาจึงพยามยามเอาเจ้าโลกนี่แหละไปยัดเยียดข่มขืนหลาย ๆ ประเทศให้ตกเป็นของตน ไม่ได้ทะลึ่งนะ แค่มองขำ ๆ แต่มันน่าจะใช่
ช่วงหลังจีนมีความเข้มแข็งทางทหารมากขึ้น และมีปัญหาพิพาทอาณาเขตทางทะเลเกือบทุกประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิค ญี่ปุ่น ฟิลิฟปินส์ เวียตนาม ถ้าจีนแผ่ขยายอำนาจและมีอิทธิพล ก็จะควบคุมจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลและเส้นทางเดินเรือในภูมิภาคนี้ทั้งหมด สหรัฐเลยต้องย้อนกลับมาภูมิภาคนี้ใหม่ ทางอากาศ สหรัฐอยากใช้สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งสหรัฐคุ้นเคยอย่างดี ทางทะเล อยากใช้ฐานทัพเรือคัมรันของเวียตนามซึ่งมีทำเลดีกว่าฐานทัพเรือซูบิคของฟิลิปปินส์ และจ่อคอหอยจีน
อย่าไปหลงการสร้างภาพความสำคัญของเราเลย อเมริกามันไม่รู้ด้วยซ่ำว่าไทยแลนด์อยู่ตรงไหนหรือว่าเราเป็นใคร มีค่ายบางระจันทร์ ปกป้องเอกราชไทย พวกมันยังคิดว่าเราเป็นไต้หวัน หรือไม่ก็จังหวัดหนึ่งของจีน ถ้าในเชิงยุทธศาสตร์จุดนี้ยังไม่มีสิ่งทำให้อเมริกาหรือพันธุ์มิตร ได้หรือเสียผลประโยชน์ มันไม่สนใจหรอกว่าใครเป็นใคร ทุกวันนี้มันเป็นการใช้ล๊อบบี้ยี้สต์เดินเกมการเมือง ดูตัวเล่นที่ออกมาแสดงก็ไม่ได้โดดเด่นมากมาย เผอๆคนอเมริกาในประเทศมันเองยังไม่รู้จักเลยว่าพวกนี้เป็นใคร ตำแหน่งของอเมริกามันเยอะมากๆ เช่น ไวท์เพรสชิเคนท์ นี้มันโหลพอๆกับตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรี ผมไม่คิดว่าบุคคลในตำแหน่งที่มีอำนาจจะอยู่ข้างนายเหลี่ยม เพียงแต่นายเหลี่ยมเขาเล่นเกมล๊อบบี้ยีสต์นี้เป็น จำนายทอมที่เป็นตัวล๊อบบี้ให้วุฒิสภาอเมริการและนักการเมืองอเมริกาโจมตีไทยเรื่องปฏิวัต คมช ได้ไหม นึ้ก็คล้ายๆกัน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1231249571 ผมขำวันที่ยิ่งลักษณ์แหกขี้ตาไปพบนายแดเนียล รัสเซล จัง เพราะไม่เคยมีเนื้อข่าวเธอให้สัมภาษณ์เรื่องการพูดคุยเลย คนที่ให้ข่าวกลับไม่เคยพูดอังกฤษเพราะไม่มีแม่เป็นฝรั่ง และเรื่องที่ให้ข่าวมันก็ตลกๆต่อเนื้อหาและการให้ข่าว มันไม่เหมือนภาษาการฑูตเลย http://www.thairath.co.th/content/477229
สหรัฐชื่นชอบเผด็จการอยู่แล้วครับ ไอ้ที่เห็นด่า ๆ เผด็จการนั่นน่ะเฉพาะเผด็จการที่ไม่เล่นด้วย ถ้าคนไหนเล่นด้วยสหรัฐก็จะเฉย ๆ หรือแสดงความห่วงใยพอเป็นพิธีนะครับ
หลักๆคือ รัฐบาลไทยปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับจีน ขนาดทำเอ็มโอยูกับจีน ซึ่งจะเป็นการเชื่อมเศรษฐกิจไทยเข้ากับจีนและประเทศในกลุ่ม BRICS จนอเมริกาเองก็กลัวจะเสียอิทธิพลไป อีกทั้งอเมริกาก็ต้องการสกัดอิทธิพลจีนอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อไทยเราไม่เป็นกู๊ดบอยอีกต่อไป อเมริกาก็ต้องลงแส้ หรือก็ต้องไล่รัฐบาลปัจจุบันออกไปเพื่อให้รัฐบาลที่เป็นกู๊ดบอยเข้ามาแทน ซึ่งกู๊ดบอยคนนั้นคือใครก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ ทุกวันนี้อเมริกาก็คบเวียดนามนะครับ ถึงจะเป็นคอมมิวนิสต์ก็เถอะ ด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของเวียดนามที่ไม่ค่อยลงรอยกับจีนอยู่แล้ว ก็สมประโยชน์กันไป อเมริกาเอง รู้จักอู่ตะเภาดี รู้จักเวียดนามใต้ไซ่ง่อนดีอยู่แล้ว คุมทั้งฟิลิปปินส์ เวียดนามได้ ก็คือการล้อมทะเลจีนใต้ หลังบ้านจีนไว้ดีๆนี่เอง อเมริกานี่หลายมาตรฐานดีเนอะ ซาอุ ประเทศนี้สมบูรณาของแท้ แถมสิทธิสตรีก็ด้อยสุดๆ แต่อเมริกาก็คบค้าสมาคมแทบจะดูดปากกัน แบบนี้น่ะหรือรักประชาธิปไตยเสรีนิยมทุนนิยมสิทธิมนุษยชนนิยมโดยแท้? ไม่รวมกรณีแทรกแซงยูเครน ที่คนยูเครนจะฆ่ากันตาย เพียงเพื่อเอาชนะรัสเซีย? ทำกันแบบนี้เดี๋ยวสงครามเย็นก็ได้เกิดอีกรอบ
รัฐบาลไร้ธรรมาภิบาล ย่อมชื่นชมและชื่นชอบคบหากับรัฐบาลไร้ธรรมาภิบาลเหมือนกัน ตอนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ประเทศไอ้กัน บริษัทของไอ้กัน พลเมืองของไอ้กัน เที่ยวพูดกล่าวหาโจมตี+ตำหนิประเทศในอาเซียนและอเมริกาใต้ที่ได้รับผลวิกฤตว่าเป็นเพราะ รัฐบาลและภาคเอกชนขาดธรรมาภิบาล แล้วใช้กองทุน IMF เที่ยวไปวางกรอบการเงิน+เศรษฐกิจให้ประเทศลูกหนี้ แต่เป้าหมายหลักกลับเป็นการกอบโกยผลประโยชน์กลับไปประเทศมัน แต่ผ่านไปไม่กี่ปี ไอ้องค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่าง ไพร์วอเตอร์เฮ้าส์ ที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน+ผู้ตรวจสอบบัญชี+ที่ปรึกษาการลงทุนยักษ์ใหญ่ กลับถูกดำเนินคดีข้อหา บิดเบือนตกแต่งข้อมูลทางบัญชีและงบการเงินทั้งของตนเองและของลูกค้า เป็นข่าวเหม็นเน่าฉาวโฉ่ไปทั่วโลก และยังมีบริษัทของไอ้กันที่มีพฤติกรรมแบบนี้อีกเป็นสิบเป็นร้อย ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจซับไพร์มและแฮมเบเกอร์ พฤติกรรม+วิธีการแก้ปัญหาของรัฐบาลไอ้กัน มันกลับทำสิ่งที่เคยประณามประเทศอื่น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปอุ้มสถาบันการเงิน (ทั้งที่เคยพล่ามบอกชาวโลกว่าควรปล่อยให้ล้มไป) พิมพ์แบงก์อัดฉีดเม็ดเงินเข้าอุด แล้วน่าแปลกใจมากคือ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล สภาสูง สภาล่าง แบงก์ชาติของไอ้กัน ล้วนประสานเสียงร้องคีย์เดียวกันเป๊ะ โดยเอาหลักธรรมาภิบาลที่เคยพล่ามทฤษฎีสอนใครต่อใครเก็บเข้าลิ้นชักไม่ต้องคำนึงถึงเลย แล้วตอนนี้รัฐบาลไอ้กันก็ใช้ มาตรการชั่ว (ที่เคยทำมาหลายครั้งแล้ว) ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของมันก็คือ การใช้สงครามกระตุ้นเศรษฐกิจ แปลงอาวุธเก่า+ขายอาวุธใหม่ให้เป็นทุน ที่จริงพรรคเดโมแครตเคยหยิบเรื่องนี้มาโจมตีพรรครีพับรีกัน ทุกทั้งที่มีการ ดีเบทและหาเสียง แต่ตอนนี้รัฐบาลไอ้มืดกลับไปเลียน้ำลายที่มันถ่มทิ้งไปแล้วกลับเข้าปากใหม่ สรุปสั้น ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ พวกชั่วก็ชื่นชอบพวกชั่วด้วยกันนั่นแหละ
อเมริกานี่ บทบาทหลักของเขาคือ ผู้นำโลกเสรี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาแสดงออกมานั้น คือบทบาทหลักของเขาทั้งนั้น ส่วนมันจะได้ผลหรือไม่ได้ผล หรือมีเรื่องอื่นเจือปนเข้ามาด้วย คือสิ่งที่เราอาจจะต้องมองว่าความจริงแล้วมันเป็นอย่างไรแน่ ผมมองว่า สิ่งที่มันค้ำจุนบทบาทหลักในการเป็นผู้นำโลกเสรีของอเมริกาได้ทุกวันนี้คือ กองทัพของอเมริกานั่นแหละ อเมริกาจึงต้องทุ่มเทกับงบทางทหารของเขาอย่างมากมายมหาศาล ชนิดที่เรียกได้ว่า เอางบทางทหารของ จีน ไทย และทุกประเทศในอาเซียนมารวมกัน ยังไม่ติดฝุ่นกับงบทางทหารของอเมริกันเลยมั้ง อเมริกาก็น่าจะเหมือนไทยตรงที่มีทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงของประเทศ ฝ่ายความมั่นคงของอเมริกาดูเหมือนจะไม่มีบทบาทหรือมีปากมีเสียงอะไรในการบริหารประเทศ เหมือนประเทศเรา นั่นอาจเป็นเพราะวัฒนธรรมทางการเมืองเขาเป็นอย่างนั้น คือ นักการเมืองของเขาถูกตรวจสอบได้ ติดคุกได้ ทำลายตัวเองได้ถ้ารู้ตัวว่าผิด ซึ่งตรงนี้ต่างกับประเทศเราแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะฉะนั้นฝ่ายความมั่นคง หรือฝ่ายทหารของเขาจึงไม่มีบทบาทอะไรเกี่ยวกับเรื่องการบริหารภายในประเทศ แต่ถ้าเป็นเรื่องทางการทหารระหว่างประเทศ ฝ่ายการเมืองของเขา อาจต้องพึ่งพา และปรึกษาหารือกับทางทหารของเขาอยู่ คงไปสั่งอะไรซี้ซั้วไม่ได้เหมือนกัน การที่อเมริกาเข้ามาแสดงบทบาทผู้นำโลกเสรีกับไทย เมื่อตอนยึดอำนาจใหม่ ๆ นายโอบาม่า และนาย แครีี่ รัฐมนตรีต่างประเทศ ก็จะพูดแค่เพียงว่าขอให้ประเทศไทยเดินไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว หรือขอให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งโดยเร็ว เท่านั้น แต่จู่ ๆ ก็ปรากฎว่ามีนายรัสเซล โผล่เข้ามา มาพูดในลักษณะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งตรงนี้น่าจะมีสิ่งเจือปนเข้ามาด้วย คือถูกล็อบบี้ให้มาพูด เพราะเมื่อเราตอบโต้ไป ปรากฎว่า ทั้งโอบาม่า และนายแครี่ หายหัวไปเลย ปล่อยให้นาง ซากี ออกมาแก้ตัวแทน จึงอาจเป็นไปได้ว่านี่เป็นการเล่นการเมืองระหว่างประเทศของกระทรวงต่างประเทศของอเมริกาโดยถูกนักล็อบบียีสต์ สั่ง แต่คงไม่ได้มาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อะไรกับไทยหรอก อาจเป็นแค่ว่า ถ้าพูดอย่างนี้แล้ว จะช่วยสนับสนุนเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ซึ่งมันเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองภายในของเขา แต่ไอ้คนที่ไปวิ่งเต้นจ้างนั้น คงเสียเงินแน่นอน และมันก็น่าจะจ้างเฉพาะกิจแค่นี้เท่านั้น คงไม่มีปัญญาไปจ้างให้ทำอะไรได้มากมายหรอก เมริกามีกฎหมายห้ามสนับสนุนทางทหารในบางเรื่องกับประเทศที่อเมริกามองว่าไปเป็นประชาธิปไตย แต่ทำไม่ยังดิ้นรนส่งทหารเข้ามาร่วมฝึกคอบบร้าโกลด์กับไทย ทั้ง ๆ ที่สื่ออเมริกาเองก็กระแนะกระแหนว่า ไหนว่าลดความช่วยเหลือทางทหารไง ส่งทหารไปร่วมฝึกลดแค่ไม่กี่ร้อยคนเองหรือ ไอ้กฎหมายฉบับนี้ ใครจะไปรู้ว่าฝ่ายทหารของอเมริกาคิดอย่างไร อาจหงุดหงิดกับกฎหมายฉบับนี้ก็ได้ ถ้าเขาคำนึงถึงยุทธศาสตร์ทางทหารเขาเป็นหลัก เขาก็อาจมองว่าพันธมิตรทางทหารที่มีมายาวนานระหว่างไทยกับอเมริกา อาจมีปัญหาเพราะกฎหมายฉบับนี้ และการเล่นการเมืองของกระทรวงต่างประเทศอเมริกาก็ได้ มันมีสื่อสายทหารของอเมริกาลงข่าวทำนองว่า การพูดของนายรัสเซลเหมือนกับเป็นการผลักดันให้ไทยเหินห่างกับอเมริกาไปใกล้ชิดจีนมากขึ้น ตรงนี้มันบ่งบอกอะไรได้บ้าง มันน่าจะบอกได้ว่าทางทหารของอเมริกาก็น่าจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของนายรัสเซล และถ้าเรามาดูที่นางซากี พูดหลังสุด ที่จับเอาคำพูดบางตอนของ พล อ ประยุทธ มาแสดงความกังวล โดยไม่สนว่าเขาพูดอะไรทั้งบริบทแล้ว มันเหมือนกับว่าพยายามแก้ตัวจากคำครหา แต่ที่มันน่าสนใจก็คือ เธอ พูดตอนท้ายว่าจะตรวจสอบดูว่ามีหน่วยงานไหนบ้างที่กังวลเหมือนเธอ ถ้าสังเกตุดูคำพูดแล้ว เธอใช้คำว่า "หน่วยงาน" มันหมายถึงใคร มันน่าจะหมายถึงหน่วยงานในประเทศคุณเองหรือเปล่า หรือคุณกำลังจะบอกหน่วยงานทหาร หน่วยงานความมั่นคง ของคุณว่า ที่มาว่าฉันน่ะ แล้วเขาพูดแบบนี้มันน่ากังวลไหมล่ะ
แหลมคม ถูกต้อง เข้าเป้าทุกประการ เรื่องไอ้เหลี่ยมกับคุณพ่ออเมริกาของมันก็มีเพียงเท่านี้จริงๆครับ แถม... เงินเป็นพันๆล้านบาทที่มันเอาไปรองตีนพวกนักการเมืองขี้ครอกในอเมริกานั้น ก็เป็นเงินของพวกเราที่โดนมันโกงชาติไปใส่พานให้นักการเมืองต่างชาตินั่นแหละ
