คนเราเกิดมา โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่เกิน 100 ปี มันช่างเป็นเรื่องแสนยาก แล้วจะทำเพื่อหาเงินให้ได้เป็นหมื่นล้าน แสนล้าน จากสารพัดวิธี ทำไปเพื่ออะไรกัน
ก็อยากมีเงินเพิ่มไปเรื่อย ๆ แหละ อยากมีจนไม่มีปัญญากลับบ้านก็ยังอยากมีอยู่ อยากมีจน ต้อง เอาเขมรมายิงหัวคนไทย ก็ยังอยากมีอยู่
ธรรมชาติของคนรวย มีความสุขที่เห็นสมบัติเพิ่มขึ้น ถ้ามีเหตุให้พร่องไป ถือเป็นความอัปยศ ซื้อปลาทูยังต่อ
ไม่มีซีพี ก็ไม่มีงานทำ คนตกงานเป็นหมื่น จะเอาที่ใหนกิน สมมติคนไทย1คน มาทำไร่ทำสวนกันหมด จะเอาพื้นที่ใหนไว้ให้ป่า พื้นที่ใหนไว้ให้น้ำ สังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว จะอยุ่แบบเก่าเป็นไปไม่ได้ ใครใคร่ทำแบบพอเพียงก็ทำ ใครใคร่ทำแบบอุตสาหกรรมก็ทำ ถึงจะอยู่ร่วมกันได้่ ถ้าซีพีไม่ทำตรงนี้ คนอื่นก็ทำอยุ่ดี ต่างชาติก็ทำ Aec ก็ทำ
ในอดีตผมเคยเพาะเห็ดนางฟ้า นางรม หูหนูขาย(ประมาณ 20 ปีมาแล้ว อิ...อิ...เป็นเจ้าแรกของอำเภอ) ผมต้องลุกขึ้นเก็บประมาณตีหนึ่ง เพื่อจะได้ส่งตลาดประมาณ ตี 3 ช่วงนั้นจะมีชาวบ้านเอาผักมาวางแบกะดินขายตามถนนทางเข้าตลาดสด บางส่วนก็ขายส่งให้แม่ค้าในตลาดสด ผมสังเกตุดูพวกเมียเถ้าแก่ในตลาดจะออกมาซื้อผักจากชาวบ้าน ผมเห็นมีการต่อรองราคาประจำ ทั้งที่ชาวบ้านก็ขายถูกอยู่แล้ว แต่ถ้าของที่ขายในร้านเถ้าแก่ ผมเห็นบวกราคากันเพลินแถมต่อรองไม่ค่อยได้ อ้างว่าได้กำไรแค่นิดหน่อย แต่ผมรู้ว่าของบางชิ้นกำไรเกือบเท่าตัว หรืออย่างน้อยก็ 50% มิน่าช่องว่างระหว่างคนรวยกะคนจน นับวันยิ่งถ่างกว้างออกไปเรื่อยๆ
คุณรู้จักคำว่าแบ่งปันไหมครับ ในยูทูปคุณหาดูได้ตลอด ปราชญ์ชาวบ้าน ปราชญ์ท้องถิ่น สะสมภูมิความรู้ ลองผิดลองถูก บางคนเหนื่อยยากมาค่อนชีวิต กว่าจะได้ความรู้มา ต้องอดทนทดลองมาเป็นสิบๆปี แต่เมื่อประสบความสำเร็จ เขากลับยอมแบ่งปันให้คนอื่นแบบฟรีๆ คนเราเกิดมาแล้วก็ตาย เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้สักอย่าง ทำไมต้องโลภโมโทสันให้มันเกินตัว รู้จักแบ่งปันให้คนอื่นไม่ดีกว่าหรือ คุณเคยได้ยินคำนี้ไหม "ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้"
ถ้างั้นก็เลิกบ่นเรื่องคนจนนะครับ แล้วถ้าวันไหนซีพีใช้เครื่องจักรทั้งหมด ก็อย่าไปด่าเขาละ มันเป็นเรื่องธรรมดา
ข้อคิดดีๆ ----------------------------------------------------------------- ⛄“ถ้าจะอยู่ในโลกนี้อย่างมีสุข อย่าประยุกต์สิ่งทั้งผอง เป็นของฉัน” (พุทธทาสภิกขุ) ⛄“โลกคารวะผู้ให้ แต่บอดใบ้ต่อผู้กอบโกยและโกงกิน" (ว.วชิระเมธี) http://www.oknation.net/blog/redribbons07/2016/02/22/entry-2
ถ้าทุกคนมุ่งแต่กอบโกย คิดกันบ้างไหมว่า คนรุ่นหลังๆจะเจอสภาพสังคมแบบไหน -------------------------------------------------------------------------------------------------------- "เราก็เหมือนพ่อแม่ทุกคนที่อยากให้ลูกเติบโตขึ้นในโลกที่ดีกว่าเราอยู่ในปัจจุบัน" มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของเฟซบุ๊ค และพริสซิลล่า ชาน ภรรยา ได้รับขวัญ "แม็กซ์" ลูกสาวของพวกเขา ด้วยการประกาศบริจาคหุ้น 99 เปอร์เซ็นต์ ในเฟซบุ๊ค มูลค่าราว 45,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงโลกให้น่าอยู่ขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป "เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ในส่วนเล็กๆ ของเรา ที่จะช่วยสร้างโลกใบนี้สำหรับเด็กทุกคน เราจะมอบหุ้น 99 เปอร์เซ็นต์ ของเราในเฟซบุ๊ค ที่มีมูลค่าในปัจจุบัน 45,000 ล้านดอลล่าร์ ในช่วงชีวิตของเราที่จะเข้าร่วมกับคนอื่นๆ อีกจำนวนมาก เพื่อปรับปรุงโลกนี้สำหรับรุ่นต่อไป ขอขอบคุณทุกคนในชุมชนแห่งนี้ สำหรับทุกความรักและการสนับสนุนของพวกคุณในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณทำพวกเรามีความหวังว่าเราสามารถร่วมมือกันสร้างโลกนี้สำหรับแม็กซ์และเด็กทุกคน" ซัคเคอร์เบิร์กวัย 31 ปี และภรรยาวัย 30 ปี ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของเมื่อวันอังคาร ส่วนการบริจาคหุ้นในเฟซบุ๊คเป็นการดำเนินการภายใต้องค์กรการกุศล "ชาน ซัคเคอร์เบิร์ก อินนิทิเอทีฟ" ซึ่ง หลังจากบริจาคหุ้นเพื่อการกุศลแล้ว ซัคเคอร์เบิร์กก็ยังคงมีทรัพย์สินเหลือ 450 ล้านดอลล่าร์ สำหรับตัวเองและครอบครัว โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าในปัจจุบันของเฟซบุ๊ค บวกทรัพย์สินส่วนตัวอื่นๆ ของเขาและภรรยา http://www.oknation.net/blog/inter/2015/12/02/entry-1